CB ตอบเรื่อง " ลดความอ้วน " อีกซักหน่อยนะครัช
อุปสรรคของการพัฒนารูปร่าง การลดความอ้วน
มาจาก " การทานอาหาร " ซะเป็นส่วนใหญ่
หลายคนมักทานอาหาร " มื้อเย็น " เยอะมาก
เยอะในที่นี้คือ แคลอรี่เยอะเกินความต้องการ
แคลอรี่เยอะไปทางแป้ง กับ ไขมัน
สิ่งที่ขาดไปคือ
ผัก , ผลไม้ ( หวานน้อย )
มื้อเย็นของหลายคนทานอาหาร เช่น
- ข้าวหมูแดงหมูกรอบ
- ข้าวมันไก่ทอด
- ผัดไท
- หอยทอด
มากกว่า 1 จาน...เพราะไม่อิ่ม
★แคลอรี่ของอาหารอ้วน 1 จาน★
พอๆ กับ
★แคลอรี่ของอาหารสุขภาพ 2 จานรวมกัน★
แถมคุณค่าน้อยกว่าด้วย
แล้วไหนจะน้ำหวานต่างๆ อีก
นับรวมๆ กัน มื้อเย็นมื้อนั้น
แค่มื้อเดียว 1,000 - 1,500 Cal
___________________________________
ในทิศทางตรงกันข้าม
บางคนก็คุมอาหารเหลือเกิน
ประมาณว่า พออยากผอมต้องทำแบบนี้
กลายเป็น Trend
คือ ทานน้อย แล้วก็ไม่อิ่ม
อดทน... อดใจ...
หวังว่าทานน้อยๆ แล้วจะผอม
( อยากหุ่นนางแบบ , นายแบบ )
บางทีไปอ่านเจอนางแบบเขาทำกัน
คือ ทานน้อยๆ ก่อนไปถ่ายแบบ
ก็เลยเอาบ้าง
แต่ก็ทำไปแค่ช่วงสั้นๆ
แล้วก็กลับมาอ้วนอีก
" ชีวิตจริง... ไม่ใช่การถ่ายแบบนะ "
พอ อ้วน !
เอ้า... ลด
แล้วกลับมาอ้วนใหม่
เอ้า... อดทนทานน้อยๆ อีก
___________________________________
" สุดโต่งทั้งคู่ "
ไม่มีการจูนตนเองมาหาเส้นทางทีดีเลย
" แต่อยากหุ่นดี "
เราควรนำ
" หลักโภชนาการ "
เข้ามาใช้เป็นประโยชน์ในชีวิต
เพราะเรื่องดูแลตัวเอง
" เราก็ควรทำทั้งชีวิต "
แล้วทำอย่างไรให้สบายใจ ?
ก็ต้องจัดอาหารให้เป็นสิ
" โดยเฉพาะมื้อเย็นหน่ะ "
ทานให้อิ่ม " แต่ไม่ใช่อิ่มแปล้ "
คัดเลือกว่าเราจะทำอะไรทาน ?
หรือจะสั่งอะไรทาน ?
ดูแคลอรี่
ดูประโยชน์
ดูสารอาหารด้วยครับ
__________________________________
ปล.
อย่าไปห่วงโปรแกรมออกกำลังกายมาก
ห่วงเรื่องดูแลคุณค่าทางอาหาร
มาเป็นอันดับแรกนะครัช
ไม่เอาแบบ
วิ่ง 10 กิโลเมตร
แต่ทานระดับ 20 กิโลเมตร
รวมทั้งแบบ
วิ่ง 10 กิโลเมตร
แต่ทานแค่ 5 กิโลเมตร
แบบนี้ก็ไม่เอานะ !
ทำไปเรื่อยๆ ระวังเถอะครับ
ร่างกายปรับมาเป็นโหมดประหยัดพลังงาน
" Eco Car "
เติมน้ำมันเพียง 1 ลิตร
วิ่งไป 20 ก.ม.
ยังใช้น้ำมันไม่หมด
ให้เราพิจารณาด้วย เหตุ & ผล
ไม่ใช่ " ฝืนทำ " ด้วยแรงฮึด
แบบที่ไม่สมเหตุสมผลนะครับ
ทำไมลดน้ำหนักไม่สำเร็จ ?
CB ตอบเรื่อง " ลดความอ้วน " อีกซักหน่อยนะครัช
อุปสรรคของการพัฒนารูปร่าง การลดความอ้วน
มาจาก " การทานอาหาร " ซะเป็นส่วนใหญ่
หลายคนมักทานอาหาร " มื้อเย็น " เยอะมาก
เยอะในที่นี้คือ แคลอรี่เยอะเกินความต้องการ
แคลอรี่เยอะไปทางแป้ง กับ ไขมัน
สิ่งที่ขาดไปคือ
ผัก , ผลไม้ ( หวานน้อย )
มื้อเย็นของหลายคนทานอาหาร เช่น
- ข้าวหมูแดงหมูกรอบ
- ข้าวมันไก่ทอด
- ผัดไท
- หอยทอด
มากกว่า 1 จาน...เพราะไม่อิ่ม
★แคลอรี่ของอาหารอ้วน 1 จาน★
พอๆ กับ
★แคลอรี่ของอาหารสุขภาพ 2 จานรวมกัน★
แถมคุณค่าน้อยกว่าด้วย
แล้วไหนจะน้ำหวานต่างๆ อีก
นับรวมๆ กัน มื้อเย็นมื้อนั้น
แค่มื้อเดียว 1,000 - 1,500 Cal
___________________________________
ในทิศทางตรงกันข้าม
บางคนก็คุมอาหารเหลือเกิน
ประมาณว่า พออยากผอมต้องทำแบบนี้
กลายเป็น Trend
คือ ทานน้อย แล้วก็ไม่อิ่ม
อดทน... อดใจ...
หวังว่าทานน้อยๆ แล้วจะผอม
( อยากหุ่นนางแบบ , นายแบบ )
บางทีไปอ่านเจอนางแบบเขาทำกัน
คือ ทานน้อยๆ ก่อนไปถ่ายแบบ
ก็เลยเอาบ้าง
แต่ก็ทำไปแค่ช่วงสั้นๆ
แล้วก็กลับมาอ้วนอีก
" ชีวิตจริง... ไม่ใช่การถ่ายแบบนะ "
พอ อ้วน !
เอ้า... ลด
แล้วกลับมาอ้วนใหม่
เอ้า... อดทนทานน้อยๆ อีก
___________________________________
" สุดโต่งทั้งคู่ "
ไม่มีการจูนตนเองมาหาเส้นทางทีดีเลย
" แต่อยากหุ่นดี "
เราควรนำ
" หลักโภชนาการ "
เข้ามาใช้เป็นประโยชน์ในชีวิต
เพราะเรื่องดูแลตัวเอง
" เราก็ควรทำทั้งชีวิต "
แล้วทำอย่างไรให้สบายใจ ?
ก็ต้องจัดอาหารให้เป็นสิ
" โดยเฉพาะมื้อเย็นหน่ะ "
ทานให้อิ่ม " แต่ไม่ใช่อิ่มแปล้ "
คัดเลือกว่าเราจะทำอะไรทาน ?
หรือจะสั่งอะไรทาน ?
ดูแคลอรี่
ดูประโยชน์
ดูสารอาหารด้วยครับ
__________________________________
ปล.
อย่าไปห่วงโปรแกรมออกกำลังกายมาก
ห่วงเรื่องดูแลคุณค่าทางอาหาร
มาเป็นอันดับแรกนะครัช
ไม่เอาแบบ
วิ่ง 10 กิโลเมตร
แต่ทานระดับ 20 กิโลเมตร
รวมทั้งแบบ
วิ่ง 10 กิโลเมตร
แต่ทานแค่ 5 กิโลเมตร
แบบนี้ก็ไม่เอานะ !
ทำไปเรื่อยๆ ระวังเถอะครับ
ร่างกายปรับมาเป็นโหมดประหยัดพลังงาน
" Eco Car "
เติมน้ำมันเพียง 1 ลิตร
วิ่งไป 20 ก.ม.
ยังใช้น้ำมันไม่หมด
ให้เราพิจารณาด้วย เหตุ & ผล
ไม่ใช่ " ฝืนทำ " ด้วยแรงฮึด
แบบที่ไม่สมเหตุสมผลนะครับ