เครียด จะลาออกจากงาน แล้วจะเริ่มต้นอนาคตใหม่ อยากได้คนช่วยคิด

..................ก่อนอื่นขอเล่าถึงสาเหตุที่เราจะลาออกจากงานก่อน ใครไม่อยากอ่านก็ข้ามส่วนนี้ไปได้....................
ตอนนี้เราทำงานประจำ แต่รู้สึกเบื่องาน จึงวางแผนไว้ว่าอีก 2 เดือนจะลาออก แต่ดันเกิดเหตุการณ์ใหม่ขึ้นเสียก่อน
คือเราดันไปมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย แค่เถียงกันนิดหน่อยเรื่องงาน(อยากรู้รายละเอียดโปรดทักหลังไมค์)
หลังจากเถียงกันจบ เพื่อนคนนั้นก็ไม่พูดกับเราอีก เราก็ไม่พูดกับเขาเหมือนกัน เพราะเราถือว่าเราไม่ได้เป็นคนเริ่มเรื่องก่อน
ตอนเถียงกันมีแค่เรากับเขา คนอื่นๆไม่เห็น และเราก็ไม่ได้เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คนอื่นๆในแผนกฟัง แต่เพื่อนคนนั้นเอาไปเล่า
แล้วปัญหาที่ตามมาคือ เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆในแผนก ก็ไม่ค่อยยอมคุยกับเราด้วย ไม่เห็นเรามีตัวตน ทุกคนปฏิบัติต่อเราไม่เหมือนเดิม
เหมือนเราเป็นแกะดำตัวเดียวในฝูงแกะขาว ส่วนเราปกติก็เป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว แต่เมื่อก่อนยังมีเฮฮากับคนอื่นๆบ้าง
แต่พอมาตอนนี้ เราแทบไม่คุยกับใครในแผนกเลยถ้าไม่จำเป็น นอกจากนี้เรายังอารมณ์ไม่ดี ความเครียดสะสม
จากงานที่น่าเบื่ออยู่แล้วก็ยิ่งน่าเบื่อมากขึ้นอีก เราไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดปัญหาแบบนี้กับเรา เราอุตส่าห์ตั้งใจทำงาน
พยายามที่จะไม่มีปัญหากับใครทั้งสิ้น (โดยเฉพาะกับเพื่อนคนนั้นที่เราไปเถียงด้วย เมื่อก่อนเราเข้ากันได้ดีมาก)
เมื่อวานเราเผลอไปแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวกับคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง แล้วพอกลับมาถึงบ้านก็นั่งร้องไห้อยู่คนเดียว รู้สึกแย่มาก
ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปย่อมไม่ดีแน่ๆ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจจะลาออกจากงานในเร็วๆนี้ บางทีอาจเร็วกว่าที่วางแผนไว้


......................มาถึงตอนนี้แหละที่สำคัญ ที่เราต้องการคนช่วยคิด ขอร้องช่วยอ่านหน่อย..................
คือเรื่องอนาคตของเราหลังจากที่ลาออกจากงานไปแล้ว ลึกๆในใจเรารู้ว่าไม่ควรถามใครนอกจากตัวเอง เพราะมันคือชีวิตของเราเอง
แต่เราอยากได้แรงสนับสนุน เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เราคิดไว้นั้นถูกต้อง หรือถ้ามันไม่ถูกต้อง เราก็ยังอยากได้คำแนะนำที่มีประโยชน์
ตอนนี้เราวางแผนอนาคตของเราออกเป็น 2 ทาง ทางที่ 1 คือ หางานประจำใหม่ที่ดีกว่าเดิม และทางที่ 2 คือ เริ่มทำธุรกิจของตัวเอง
ส่วนใจเราค่อนข้างเอนเอียงไปทางที่ 2 มากกว่า เพราะเราไม่อยากเป็นลูกจ้างใครอีกแล้ว มันไม่อิสระ และไม่มีอะไรที่เป็นของเราเองเลย
เราเป็นลูกจ้างมาได้ปีกว่าๆ ทำงานมามากกว่า 1 แห่ง และก็เคยฝึกงานมามากกว่า 1 แห่ง ประสบการณ์เราอาจไม่มาก
แต่เราอยากทำตามใจตัวเองดูบ้าง เราอยากเปิดธุรกิจขายของกินเล็กๆน้อยๆ แบบไปรับจากที่อื่นมาขายต่อ ขายตามประสาชาวบ้าน
เมื่อก่อนแม่เราเคยลองขาย แต่พอไม่มีคนช่วย(เราทำงานประจำ ช่วยได้แค่นิดหน่อย) พอขายไปได้สักพักก็เลิก
แต่ตอนนี้ถ้าเราลาออกจากงาน คงมีเวลาขายมากขึ้น สถานที่ขายก็คือหน้าบ้านของเราเอง ไม่มีค่าเช่า
ทำเลก็พอใช้ได้ เพราะแถวบ้านเรามีทั้งร้านโชห่วย ร้านอาหาร ขายน้ำชากาแฟ เสื้อผ้า ห้างสรรพสินค้า
แต่จุดอ่อนก็มี คือ แถวบ้านเรามีคนมุสลิมเยอะ แต่เราเป็นคนพุทธ ขายพวกของกิน มุสลิมกินไม่ได้ ก็ต้องขายคนพุทธด้วยกัน
แต่จากที่เคยลองขายมาก่อน ก็พบว่ายังพอขายได้อยู่ เราก็จะลองขายดูอีกครั้ง และถ้าไปได้สวย เราก็จะไปหาทำเลใหม่ที่ดีกว่า
และนอกจากจะขายของเองแล้ว หากมีเวลาว่างๆ เราก็จะศึกษาเรื่องการลงทุน ลองเล่นหุ้น เป็นการหารายได้อีกทางหนึ่ง

แต่แม่เราไม่เห็นด้วย แม่บอกว่าอายุเรายังน้อย และอุตส่าห์เรียนจบถึง ป.ตรี มาทำงานค้าขายซึ่งมันไม่มั่นคง
แม่อยากให้ไปหาประสบการณ์จากบริษัทต่างๆให้มากๆก่อน อยากให้เราได้มีโอกาสก้าวหน้าในชีวิต อยากให้เราดูดีในสายตาคนอื่น
แต่สำหรับเรา ต่อให้ทำงานบริษัทใหญ่โตแค่ไหน แต่ก็ยังคงเป็นลูกจ้าง และเราก็เบื่อชีวิตการเป็นลูกจ้างเต็มที
ความก้าวหน้าและภาพพจน์ที่ดูดี ไม่ใช่สิ่งที่เราให้ความสำคัญมากนัก เราให้ความสำคัญกับปริมาณรายได้ และความสุขของตัวเองมากกว่า
และเราก็มีคนรู้จักที่เขาทำธุรกิจส่วนตัว แล้วเขาก็มีรายได้ดี ดูมีความสุข เราก็อยากเป็นแบบนั้น

เราก็เลยต้องมาถามความคิดของคนในบอร์ดว่า ที่เราคิดไว้นั้นถูกต้องไหม เราควรลุยไปตามความฝันของเราไหม หรือว่าเราคิดแคบเกินไปไหม ใครมีคำแนะนำอะไรก็บอกเราด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่