สวัสดีครับ กระทู้นี้ผมแตกมาจากบ้านผีสิ่งทางสามแพร่งนะครับ
http://ppantip.com/topic/32012078 เพราะเรื่องในบ้านผีสิ่งมานจบไปนานแล้วละ ลากยาวมาจนเล่าเรื่องผีและ ในกระทู้นี้ผมจะมาเล่าเรื่องที่ผมไปเจอมาจริงๆ และ เรื่องที่ผมได้ยินเขาเล่ามา นะครับ เพื่อนๆ สามรถมาเล่ามาแชร์เรื่องของตัวเองได้เลยนะครับแต่มีกฏอยู่นิสนึงว่า ให้ใส่คำนำหน้าเรื่องด้วยว่าเจอมากับตัว หรือ ฟังเขามานะครับผม มาๆๆ ล้อมวง ผมมีเรื่องเล่าเพียบเลย อ๋ออย่าลืมเข้าไปคุยกันใน FP ผมนะครับ
https://www.facebook.com/ibateerak มาคุยกันเยอะๆนา
(เจอกับตัว)เรื่องแรก ผีเด็กสาวที่จอดรถ
พอจบจากมหาลัย ปุปผมก็โชคดีได้งานเป็น sale ขายเครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อหนึ่ง แต่ผมต้องวิ่งปริมลฑน ซะส่วนมาก มีงานนึ่งผมไปเสนอที่โรงงานผลิตเม็ดโฟม แถวสมุทรปราการ พอขับรถเข้าไปที่ จอดรถก็จะมีเส้นสีขาวตีเป็นช่องจอดรถอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่มีอยู่ช่องนึงมันเตะตาผมมาก เพราะตรงปูนที่กันล้อเขาเอาสีแดงมาทา แค่ช่องเดียว จากที่จอดรถ 20 คัน ผมไม่ลังเลที่จะพุ่งเข้าไปจอดช่องนั้น (ตอนนั้นที่จอดรถว่างทุกช่อง) ด้วยความที่ผมไปสายและขี้เกลียดเลือกช่องบวกกับสีแดงนั้นมันเตะตาผมจริงๆ พอผมจอดรถเสร็จผมยังไม่ดับเครื่องเพราะผมยังไม่ได้ผูกเน็คไท ระหว่างที่ผมผูกเน็คไทอยู่นั้น สายตาผมก็มองหายาม เพราะผมมั่นใจว่าต้องมียามมาไล่ผมไปจอดที่อื่นแน่ๆ เพราะมันมีสีแดงอยู่ช่องเดียวคงแบบที่จอดนายห้ามจอดไรงี้ แล้วผมก็ได้ยินเสียงเคาะกระจกรถจากทางซ้ายมือผม 2 ที ก๊อกๆ ผมรีบหันไปดูพร้อมพูดว่า ขอผูกแปปเดียวย้ายให้ แต่ผมไม่เห็นไครเลย ผมมองหารอบรถก็ไม่เจอ (ที่จอดรถนั้นเป็นลานกว้างมากต้องวิ่งไวมากๆถึงจะหลบสายตาผมทัน) แต่ผมยังไม่คิดอะไรสงสัยหูฝาด ผมก็มองกระจกหลังผูกเน็คไทต่อ แล้วก็มีเสียงเคาะกระจกจาก กระจกหลัง 2ที ก๊อกๆ ซึงผมกำลังมองกระจกหลังเพื่อผูกเน็คไทอยู่และผมไม่เห็นไครเลยอยู่ข้างหลัง ผมเริ่มเอะใจ แต่เอ๊ะ หรือเสียงวิทยุ ผมเลยปิดวิทยุแล้วก็นั่งรอตั้งใจฟัง (เน็คไทช่างมันลูกค้าช่างมันก่อนแล้วตอนนี้) ทุกอย่างเงียบ สงบ และก็มีเสียงเคาะ . . . ก๊อก ที่กระจกทางขวาฝั่งคนขับที่ผมนั่งอยู่ ผมรีบหันไปอย่างรวดเร็วก็ไม่เจอไคร ผมชะโงกหน้าไปดูข้างๆ รถ ไม่แน่ๆ อาจนั่งอยู่ข้างๆรถ ก็ไม่มี ครั้งนี้ผมมั่นใจและ โดนแล้วกุ แต่เอาวะเพื่อความชัว มันมารอบคันและเหลือแต่กระจกหน้า ผมตั้งหน้าตั้งตามองไปที่กระจกหน้าแบบไม่กระพริบตา และแล้วมันก็เกิดขึ้น . . . . ก๊อกๆ ที่กระจกหน้า ที่ผมตั้งตาเฝ้าดูอยู่ แบบคาหูคาตา ผมก็ถอนหายใจ โอเค กุมั่นใจและ แต่ว่า ผมนัดลูกค้าไว้ขอผูกไทให้เสร็จก่อนนะ ผมก็ผูกต่อจนเสร็จโดยที่ไม่มีเสียงรบกวน (สงสัยจะคุยกันรู้เรื่อง) แล้วผมก็ออกจากรถไป เข้าประชุม พอประชุมเสร็จผมก็ถามผู้จัดการว่า ทำไมที่จอดรถตรงนั้นถึงเป็นสีแดง ผู้จัดการก็บอกว่าผมก็ไม่ทราบมันเป็นมานานแล้ว ผมก็เล่าทุกอย่างให้ผู้จัดการฟัง ผู้จัดไม่เชื่อครับ 55 ผมบอกเขาอีกว่าถ้าให้ผมเดาผมรู้สึกได้ว่าเป็นเด็กผู้หญิง อายุประมาณ 8 ขวบ แล้วผมก็ ลาเขากลับ ขึ้นรถแล้วก็ขับรถออกไป ขณะที่รถออกจากประตูโรงงาน รถผมก็ ขย่ม แบบที่เรียกว่าขึ้นสุดลงสุดทั้งๆที่ถนนก็ไม่มีหลุมตอนขามาก็ไม่ขย่มเลย ผมรีบจอดรถ แต่ . . . รถก็ยังขย่มอยู่ มันขย่มแรงมากเหมือนมีไครไปยืนกระโดดอยู่บนหลังคา ด้วยความที่รถผมเพิ่งซื้อและมันโยกแรงเหมือนรถจะพัง ผมตะโกนไปสุดเสีย เมิงจะขย่มทำเฮีย อะไรเดียวรถกุพัง ลงไปเดียวนี้ไม่งั้นกุแช่งเลย (ผมกลัว . . รถผมพังจริงๆ) สิ้นเสียงมันก็หยุด ผมก็ขับต่อ แต่ก็ยังโมโหอยู่บ่นตลอดทาง ถ้ารถกุพังนะๆ ไม่ถึงครึ่งชม ผู้จัดการคนนั้นโทรมาหาผม ด้วยเสียงตื่นเต้น ผมลองถามคนเก่าคนแก่แล้วเรื่องที่คุณ บอก เขาบอกว่า ตรงนั้น ประมาณตี 5 มีลูกคนงาน ไปเล่นแถวนั้นแล้วเจอรถสิบล้อขนของทับตายคาที่เพราะคนขับมองไม่เห็น และก็จะมีคนเห็นวิญญานน้องเขาเล่นอยู่ตรงนั้นประจำเลยทาสีแดงไว้ ผมก็บอกผู้จัดการไปว่า ผมเจอน้องเขาแล้วครับเล่นเอารถเกือบพัง เหอะๆ แต่น้องเขาไม่ผิดหลอกครับ ผมผิดเอง ที่ไปจอดตรงนั้น แล้วผมก็ผิดเองที่ไปเล่นกับน้องเขา ตอนน้องเขาเคาะกระจกแล้วผมมองหาผมเดาว่าเขาเล่นกับผมเล่นซ่อนหาละมั้ง ไม่ก็เล่น จ๊ะ . . . เอ๋ พอผมขับรถออก คงงอแง ไม่ยอมให้ผมกลับเลย ขย่มรถซะ - - ผมก็ด่าไปซะเยอะคงจ๋อยไปสักพักแหละครับ
(เจอกับตัว)เรื่องที่สอง นางตานีมีจริงๆนะครับ
ตอนสมัยม.ต้นผมชอบไปบ้านเพื่อนเอามากๆ (คุณคงรู้นะว่าทำไมผมไม่ค่อยชอบอยู่บ้าน) และมีเพื่อนสนิดผมคนนึงชวนผมไปบ้านเค้า บ้านเค้าอยู่ซอยอมรพัน ซ.เท่าไหรไม่บอก เดินไปตามถนนหลักแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะเจอซอยบ้านเพื่อนผมที่อยู่สุดซอย และตรงกำแพงสุดซอยนั้นจะปลูกต้นกล้วยไว้1แถวประมาน 5 ต้น ผมก็เดินไปกับมันและเพื่อนๆอีก 3 คน ตัวผมอะเห็นแต่ไกลแล้วแต่ไม่แน่ใจ (ผมเป็นคนทำไรต้องชั่วๆไม่มั่วนิ่ม) พอเดินไปถึงบ้านเพื่อนที่อยู่สุดซอย ผมก็บอกเพื่อนผมว่า เห้ยต้นกล้วยต้นนี้ (ผมชี้ไปต้นที่ 2 จากขวามือ) มีของนะ เมิงเอาของมากราบไหว้บูชาเขาดีๆซะแล้วจะรวย เพื่อนผมทุกคนหยุดนิ่ง จากที่คุยเสียงดังกันมาตลอดทาง แต่เพื่อนผมที่เป็นเจ้าของบ้านหน้าซีดเลย มันถามว่าของอะของอะไร ผมบอกว่า นางตานี มั้งกุก็ไม่รู้วะ มันถามอีกว่า เมิงมั่นใจไหม ผมบอกว่ามั่นใจไม่มั่นใจไม่รู้แต่ ยืนลมพัดผมปลิวสลวย อยู่ข้างหน้ากุเนีย ใส่สไบสีเขียว หน้าตาสะสวยอยู่ (ระหว่างที่ผมอธิบายเข้าก็มองผมแล้วก็ยิ้มสงสัยเพราะผมชมว่าสวย) เพื่อนผมหน้าซีดหนักกว่าเดิมอีกบอกเมิงรู้ได้ไง เพื่อนบ้านมาบอกหลายคนแล้วว่าเจอ เงา ตะคุมคล้ายคนอยู่ที่ต้นนี้ ผมก็บอกไปอีกครั้ง ต้องให้กุอธิบายอะไรเพิ่มเติมใหม่ มันบอกไม่ต้องแล้วทุกคนก็เดินเข้าบ้านเพื่อนผมก็นอย่างเป็นระเบียบ แถมนิสนึงบ้านเพื่อนผมคนนี้ผมไปเที่ยวบ่อยมากมีวันนึงปู่เขาที่อยู่ที่บ้านเสีย ไปได้ สามวันพอดี พวกผมก็ไปร่วมตัวเล่นที่ห้องเพื่อนผมปกติ แต่แล้วอยู่ๆแอร์ก็ดัง ตี๊ด แล้วก็ดับไป พวกผม4-5คนก็หารีโหมดกันใหญ่ไครปิดแอร์วะ ร้อนจะตายห่า ผมบอกรีโหมดก็อยู่ตรงที่แขวนใต้แอร์ไงแสดดด เพื่อนๆผมก็อ้าวแล้วมันปิดเองได้ไงวะรึว่า... พวกมันก็ไปกอดกันกลมที่พื้นห้องผมบอก ห่านเมิงกลัวไรกัน เครื่องใช้ไฟฟ้าก็งี้มันก็มีรวนบ้างอะไรบ้าง ผมก็ลุกไปที่รีโหมด แล้วด้วยความปากเสียและนึกขึ้นได้ว่าปู้เขาเสียเป็นวันที่ 3 ผมบอก รึว่าปู่มาแล้วแกกลัวเปลืองไฟวะ วันที่ 3 พอดีด้วยเมิง เพื่อนผมก็บอกว่าห่านเมิงจะพูดทำไมพวกกุอุสาไม่คิด ผมก็บอกว่า ปู่เมิงเองเมิงจะกลัวทำไม เอางี้ ผมพูดเสียงดังพร้อมมองไปที่รีโหมด "ถ้าปู่มาจริงนะให้เปิดแอร์ให้ดูหน่อย" ทุกอย่างเงียบสนิดเพื่อเปิดทางให้เสียงแอร์ดัง แต่ก็ไม่มี ผมก็บอกห่านกุบอกแล้วว่าเครื่องใช้ไฟฟ้ามานก็มีโอ . . . . ตี๊ด เสียงแอร์เปิด . . . . ภาพต่อไปคือ กลุ่มก้อนของเด็กผู้ชายม.ต้น4-5คน กอดกันกลมอยู่อีกห้องนึง คือผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าวิ่งออกมาเมื่อไหร เพราะตัวมันไปก่อนสมอง ครับ ฮาๆ
เล่าประสบการผีๆที่เคยเจอหรือเคยได้ยินมา
(เจอกับตัว)เรื่องแรก ผีเด็กสาวที่จอดรถ
พอจบจากมหาลัย ปุปผมก็โชคดีได้งานเป็น sale ขายเครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อหนึ่ง แต่ผมต้องวิ่งปริมลฑน ซะส่วนมาก มีงานนึ่งผมไปเสนอที่โรงงานผลิตเม็ดโฟม แถวสมุทรปราการ พอขับรถเข้าไปที่ จอดรถก็จะมีเส้นสีขาวตีเป็นช่องจอดรถอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่มีอยู่ช่องนึงมันเตะตาผมมาก เพราะตรงปูนที่กันล้อเขาเอาสีแดงมาทา แค่ช่องเดียว จากที่จอดรถ 20 คัน ผมไม่ลังเลที่จะพุ่งเข้าไปจอดช่องนั้น (ตอนนั้นที่จอดรถว่างทุกช่อง) ด้วยความที่ผมไปสายและขี้เกลียดเลือกช่องบวกกับสีแดงนั้นมันเตะตาผมจริงๆ พอผมจอดรถเสร็จผมยังไม่ดับเครื่องเพราะผมยังไม่ได้ผูกเน็คไท ระหว่างที่ผมผูกเน็คไทอยู่นั้น สายตาผมก็มองหายาม เพราะผมมั่นใจว่าต้องมียามมาไล่ผมไปจอดที่อื่นแน่ๆ เพราะมันมีสีแดงอยู่ช่องเดียวคงแบบที่จอดนายห้ามจอดไรงี้ แล้วผมก็ได้ยินเสียงเคาะกระจกรถจากทางซ้ายมือผม 2 ที ก๊อกๆ ผมรีบหันไปดูพร้อมพูดว่า ขอผูกแปปเดียวย้ายให้ แต่ผมไม่เห็นไครเลย ผมมองหารอบรถก็ไม่เจอ (ที่จอดรถนั้นเป็นลานกว้างมากต้องวิ่งไวมากๆถึงจะหลบสายตาผมทัน) แต่ผมยังไม่คิดอะไรสงสัยหูฝาด ผมก็มองกระจกหลังผูกเน็คไทต่อ แล้วก็มีเสียงเคาะกระจกจาก กระจกหลัง 2ที ก๊อกๆ ซึงผมกำลังมองกระจกหลังเพื่อผูกเน็คไทอยู่และผมไม่เห็นไครเลยอยู่ข้างหลัง ผมเริ่มเอะใจ แต่เอ๊ะ หรือเสียงวิทยุ ผมเลยปิดวิทยุแล้วก็นั่งรอตั้งใจฟัง (เน็คไทช่างมันลูกค้าช่างมันก่อนแล้วตอนนี้) ทุกอย่างเงียบ สงบ และก็มีเสียงเคาะ . . . ก๊อก ที่กระจกทางขวาฝั่งคนขับที่ผมนั่งอยู่ ผมรีบหันไปอย่างรวดเร็วก็ไม่เจอไคร ผมชะโงกหน้าไปดูข้างๆ รถ ไม่แน่ๆ อาจนั่งอยู่ข้างๆรถ ก็ไม่มี ครั้งนี้ผมมั่นใจและ โดนแล้วกุ แต่เอาวะเพื่อความชัว มันมารอบคันและเหลือแต่กระจกหน้า ผมตั้งหน้าตั้งตามองไปที่กระจกหน้าแบบไม่กระพริบตา และแล้วมันก็เกิดขึ้น . . . . ก๊อกๆ ที่กระจกหน้า ที่ผมตั้งตาเฝ้าดูอยู่ แบบคาหูคาตา ผมก็ถอนหายใจ โอเค กุมั่นใจและ แต่ว่า ผมนัดลูกค้าไว้ขอผูกไทให้เสร็จก่อนนะ ผมก็ผูกต่อจนเสร็จโดยที่ไม่มีเสียงรบกวน (สงสัยจะคุยกันรู้เรื่อง) แล้วผมก็ออกจากรถไป เข้าประชุม พอประชุมเสร็จผมก็ถามผู้จัดการว่า ทำไมที่จอดรถตรงนั้นถึงเป็นสีแดง ผู้จัดการก็บอกว่าผมก็ไม่ทราบมันเป็นมานานแล้ว ผมก็เล่าทุกอย่างให้ผู้จัดการฟัง ผู้จัดไม่เชื่อครับ 55 ผมบอกเขาอีกว่าถ้าให้ผมเดาผมรู้สึกได้ว่าเป็นเด็กผู้หญิง อายุประมาณ 8 ขวบ แล้วผมก็ ลาเขากลับ ขึ้นรถแล้วก็ขับรถออกไป ขณะที่รถออกจากประตูโรงงาน รถผมก็ ขย่ม แบบที่เรียกว่าขึ้นสุดลงสุดทั้งๆที่ถนนก็ไม่มีหลุมตอนขามาก็ไม่ขย่มเลย ผมรีบจอดรถ แต่ . . . รถก็ยังขย่มอยู่ มันขย่มแรงมากเหมือนมีไครไปยืนกระโดดอยู่บนหลังคา ด้วยความที่รถผมเพิ่งซื้อและมันโยกแรงเหมือนรถจะพัง ผมตะโกนไปสุดเสีย เมิงจะขย่มทำเฮีย อะไรเดียวรถกุพัง ลงไปเดียวนี้ไม่งั้นกุแช่งเลย (ผมกลัว . . รถผมพังจริงๆ) สิ้นเสียงมันก็หยุด ผมก็ขับต่อ แต่ก็ยังโมโหอยู่บ่นตลอดทาง ถ้ารถกุพังนะๆ ไม่ถึงครึ่งชม ผู้จัดการคนนั้นโทรมาหาผม ด้วยเสียงตื่นเต้น ผมลองถามคนเก่าคนแก่แล้วเรื่องที่คุณ บอก เขาบอกว่า ตรงนั้น ประมาณตี 5 มีลูกคนงาน ไปเล่นแถวนั้นแล้วเจอรถสิบล้อขนของทับตายคาที่เพราะคนขับมองไม่เห็น และก็จะมีคนเห็นวิญญานน้องเขาเล่นอยู่ตรงนั้นประจำเลยทาสีแดงไว้ ผมก็บอกผู้จัดการไปว่า ผมเจอน้องเขาแล้วครับเล่นเอารถเกือบพัง เหอะๆ แต่น้องเขาไม่ผิดหลอกครับ ผมผิดเอง ที่ไปจอดตรงนั้น แล้วผมก็ผิดเองที่ไปเล่นกับน้องเขา ตอนน้องเขาเคาะกระจกแล้วผมมองหาผมเดาว่าเขาเล่นกับผมเล่นซ่อนหาละมั้ง ไม่ก็เล่น จ๊ะ . . . เอ๋ พอผมขับรถออก คงงอแง ไม่ยอมให้ผมกลับเลย ขย่มรถซะ - - ผมก็ด่าไปซะเยอะคงจ๋อยไปสักพักแหละครับ
(เจอกับตัว)เรื่องที่สอง นางตานีมีจริงๆนะครับ
ตอนสมัยม.ต้นผมชอบไปบ้านเพื่อนเอามากๆ (คุณคงรู้นะว่าทำไมผมไม่ค่อยชอบอยู่บ้าน) และมีเพื่อนสนิดผมคนนึงชวนผมไปบ้านเค้า บ้านเค้าอยู่ซอยอมรพัน ซ.เท่าไหรไม่บอก เดินไปตามถนนหลักแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะเจอซอยบ้านเพื่อนผมที่อยู่สุดซอย และตรงกำแพงสุดซอยนั้นจะปลูกต้นกล้วยไว้1แถวประมาน 5 ต้น ผมก็เดินไปกับมันและเพื่อนๆอีก 3 คน ตัวผมอะเห็นแต่ไกลแล้วแต่ไม่แน่ใจ (ผมเป็นคนทำไรต้องชั่วๆไม่มั่วนิ่ม) พอเดินไปถึงบ้านเพื่อนที่อยู่สุดซอย ผมก็บอกเพื่อนผมว่า เห้ยต้นกล้วยต้นนี้ (ผมชี้ไปต้นที่ 2 จากขวามือ) มีของนะ เมิงเอาของมากราบไหว้บูชาเขาดีๆซะแล้วจะรวย เพื่อนผมทุกคนหยุดนิ่ง จากที่คุยเสียงดังกันมาตลอดทาง แต่เพื่อนผมที่เป็นเจ้าของบ้านหน้าซีดเลย มันถามว่าของอะของอะไร ผมบอกว่า นางตานี มั้งกุก็ไม่รู้วะ มันถามอีกว่า เมิงมั่นใจไหม ผมบอกว่ามั่นใจไม่มั่นใจไม่รู้แต่ ยืนลมพัดผมปลิวสลวย อยู่ข้างหน้ากุเนีย ใส่สไบสีเขียว หน้าตาสะสวยอยู่ (ระหว่างที่ผมอธิบายเข้าก็มองผมแล้วก็ยิ้มสงสัยเพราะผมชมว่าสวย) เพื่อนผมหน้าซีดหนักกว่าเดิมอีกบอกเมิงรู้ได้ไง เพื่อนบ้านมาบอกหลายคนแล้วว่าเจอ เงา ตะคุมคล้ายคนอยู่ที่ต้นนี้ ผมก็บอกไปอีกครั้ง ต้องให้กุอธิบายอะไรเพิ่มเติมใหม่ มันบอกไม่ต้องแล้วทุกคนก็เดินเข้าบ้านเพื่อนผมก็นอย่างเป็นระเบียบ แถมนิสนึงบ้านเพื่อนผมคนนี้ผมไปเที่ยวบ่อยมากมีวันนึงปู่เขาที่อยู่ที่บ้านเสีย ไปได้ สามวันพอดี พวกผมก็ไปร่วมตัวเล่นที่ห้องเพื่อนผมปกติ แต่แล้วอยู่ๆแอร์ก็ดัง ตี๊ด แล้วก็ดับไป พวกผม4-5คนก็หารีโหมดกันใหญ่ไครปิดแอร์วะ ร้อนจะตายห่า ผมบอกรีโหมดก็อยู่ตรงที่แขวนใต้แอร์ไงแสดดด เพื่อนๆผมก็อ้าวแล้วมันปิดเองได้ไงวะรึว่า... พวกมันก็ไปกอดกันกลมที่พื้นห้องผมบอก ห่านเมิงกลัวไรกัน เครื่องใช้ไฟฟ้าก็งี้มันก็มีรวนบ้างอะไรบ้าง ผมก็ลุกไปที่รีโหมด แล้วด้วยความปากเสียและนึกขึ้นได้ว่าปู้เขาเสียเป็นวันที่ 3 ผมบอก รึว่าปู่มาแล้วแกกลัวเปลืองไฟวะ วันที่ 3 พอดีด้วยเมิง เพื่อนผมก็บอกว่าห่านเมิงจะพูดทำไมพวกกุอุสาไม่คิด ผมก็บอกว่า ปู่เมิงเองเมิงจะกลัวทำไม เอางี้ ผมพูดเสียงดังพร้อมมองไปที่รีโหมด "ถ้าปู่มาจริงนะให้เปิดแอร์ให้ดูหน่อย" ทุกอย่างเงียบสนิดเพื่อเปิดทางให้เสียงแอร์ดัง แต่ก็ไม่มี ผมก็บอกห่านกุบอกแล้วว่าเครื่องใช้ไฟฟ้ามานก็มีโอ . . . . ตี๊ด เสียงแอร์เปิด . . . . ภาพต่อไปคือ กลุ่มก้อนของเด็กผู้ชายม.ต้น4-5คน กอดกันกลมอยู่อีกห้องนึง คือผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าวิ่งออกมาเมื่อไหร เพราะตัวมันไปก่อนสมอง ครับ ฮาๆ