จขกท ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังค่ะ มีสิทธิประกันสังคมค่ะ แต่ตอนนี้เป็นนิสิต ป โท ที่จุฬาอะคะ ซึ่งสามารถสมัครบัตรทองกับ รพ จุฬาได้ค่ะ
จขกท หาหมอเป็นประจำทุกเดือนที่ รพ จุฬาค่ะ หาหลายปี ตั้งแต่เรียนปี 4 ที่จุฬา เดิมเบิกอะไรไม่ได้เลย มหาวิทยาลัยยังไม่เอาโครงการนี้เข้ามา แล้วทำเรื่องในตอนนั้นก็นานมาก เลยจ่ายเอง ตอนนั้นไม่เยอะ เพราะเป็นไม่หนัก หลังจากทำงานก็เบิกของ ประกันสุขภาพกลุ่มของบริษัท ก็เบิกได้ค่ะ
อาการป่วยเริ่มหนัก จึงลาออกเราก็เลยใช้ประกันสังคมแทน ไปจ่ายต่อเอง ซึ่งเคยนอนโรงพยาบาล ก็เบิกได้โรงพยาบาล ต้นสังกัดของ จขกท เป็น ร.พ. รัฐแถวบ้าน ซึ่งการไปทำจดหมายส่งตัวเนี่ยกินเวลาเกือบทั้งวันเลยค่ะ แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังพูดจาดีกับเรานะคะ อันนี้แนะนำให้เลือก ร.พ. รัฐด้วยกันนะคะ ใครทำ จดหมายส่งตัว จขกท เคยเลือกเป็น รพ เอกชน มากก่อน ขอบอกว่าเคี่ยวมากกก ไม่ทำจดหมายให้ง่ายๆ บอก จขกท ว่าถ้าทาง รพ รักษาได้จะต้องไปจ่ายให้ รพ อื่นรักษาทำไม = =" เราเข้าใจค่ะ แต่เราจำเป็น หา รพ จุฬามา 3 ปีแล้ว เลยย้าย รพ เลยค่ะ
ล่าสุด เดิม จขกท อยู่โครงการวิจัยของโรคนี้อะคะ ได้รับการสนับสนุน ยา และค่าเดินทางจากโครงการมาตลอด ซึ่งเป็นยานอกบัญชีค่ะ การหาหมอก็เร็ว เพราะไม่ได้อยู่ใน ระบบของ รพ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านการรักษาตามแผนของโครงการเริ่มไม่ได้ผลกับ จขกท ทำให้คุณหมอต้องถอน จขกท ออกจากโครงการวิจัย ค่ายาจึงต้องจ่ายเอง ซึ่งไม่รู้ราคามาก่อนรู้แต่ว่าแพงเพราะเป็นยานอกบัญชี พอเราเห็นค่ายา 1 เดือนของ เป็นตัวเลข 1x,xxx บาท คิดในใจแพงมาก T T ถึงคราวจ่ายเองล่ะ แต่ก็ไม่น่าเชื่อ จดหมายส่งตัวและประกันสังคมที่ทำมา เบิกได้ค่ะ ทำให้ จขกท คิดถึงเรื่องสิทธิมากขึ้นเลยมีคำถาม
คำถาม ?
ควรเลือกสิทธิอะไรได้ค่ะ ระหว่าง
ประกันสังคม รพ รัฐ โดย จขกท เสียเวลา(ซึ่งก็ยอมค่ะ)ไปทำ จดหมายส่งตัว ส่งมาที่ รพ จุฬา แล้วก็รักษาแบบที่ทำอยู่
หรือ สมัครบัตรทองของ รพ จุฬา ไปเลยค่ะ ทั้งสองอย่างก็ต้องเสียเวามาต่อคิวที่ รพ จุฬาอยู่ดี
เงื่อนไขของจขกท
ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง หาหมอทุกเดือน มีค่ายานอกบัญชี 1x,xxx บาท ต่อ เดือน อาจจะมีนอน รพ บ้างค่ะ รบกวนผู้รู้ชี้แจงด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า
ประกันสังคมกับ 30 บาท สิทธิอันไหนดีกว่ากันค่ะ ป่วยเป็นโรคเรื้อรังค่ะ
จขกท หาหมอเป็นประจำทุกเดือนที่ รพ จุฬาค่ะ หาหลายปี ตั้งแต่เรียนปี 4 ที่จุฬา เดิมเบิกอะไรไม่ได้เลย มหาวิทยาลัยยังไม่เอาโครงการนี้เข้ามา แล้วทำเรื่องในตอนนั้นก็นานมาก เลยจ่ายเอง ตอนนั้นไม่เยอะ เพราะเป็นไม่หนัก หลังจากทำงานก็เบิกของ ประกันสุขภาพกลุ่มของบริษัท ก็เบิกได้ค่ะ
อาการป่วยเริ่มหนัก จึงลาออกเราก็เลยใช้ประกันสังคมแทน ไปจ่ายต่อเอง ซึ่งเคยนอนโรงพยาบาล ก็เบิกได้โรงพยาบาล ต้นสังกัดของ จขกท เป็น ร.พ. รัฐแถวบ้าน ซึ่งการไปทำจดหมายส่งตัวเนี่ยกินเวลาเกือบทั้งวันเลยค่ะ แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังพูดจาดีกับเรานะคะ อันนี้แนะนำให้เลือก ร.พ. รัฐด้วยกันนะคะ ใครทำ จดหมายส่งตัว จขกท เคยเลือกเป็น รพ เอกชน มากก่อน ขอบอกว่าเคี่ยวมากกก ไม่ทำจดหมายให้ง่ายๆ บอก จขกท ว่าถ้าทาง รพ รักษาได้จะต้องไปจ่ายให้ รพ อื่นรักษาทำไม = =" เราเข้าใจค่ะ แต่เราจำเป็น หา รพ จุฬามา 3 ปีแล้ว เลยย้าย รพ เลยค่ะ
ล่าสุด เดิม จขกท อยู่โครงการวิจัยของโรคนี้อะคะ ได้รับการสนับสนุน ยา และค่าเดินทางจากโครงการมาตลอด ซึ่งเป็นยานอกบัญชีค่ะ การหาหมอก็เร็ว เพราะไม่ได้อยู่ใน ระบบของ รพ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านการรักษาตามแผนของโครงการเริ่มไม่ได้ผลกับ จขกท ทำให้คุณหมอต้องถอน จขกท ออกจากโครงการวิจัย ค่ายาจึงต้องจ่ายเอง ซึ่งไม่รู้ราคามาก่อนรู้แต่ว่าแพงเพราะเป็นยานอกบัญชี พอเราเห็นค่ายา 1 เดือนของ เป็นตัวเลข 1x,xxx บาท คิดในใจแพงมาก T T ถึงคราวจ่ายเองล่ะ แต่ก็ไม่น่าเชื่อ จดหมายส่งตัวและประกันสังคมที่ทำมา เบิกได้ค่ะ ทำให้ จขกท คิดถึงเรื่องสิทธิมากขึ้นเลยมีคำถาม
คำถาม ?
ควรเลือกสิทธิอะไรได้ค่ะ ระหว่าง
ประกันสังคม รพ รัฐ โดย จขกท เสียเวลา(ซึ่งก็ยอมค่ะ)ไปทำ จดหมายส่งตัว ส่งมาที่ รพ จุฬา แล้วก็รักษาแบบที่ทำอยู่
หรือ สมัครบัตรทองของ รพ จุฬา ไปเลยค่ะ ทั้งสองอย่างก็ต้องเสียเวามาต่อคิวที่ รพ จุฬาอยู่ดี
เงื่อนไขของจขกท
ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง หาหมอทุกเดือน มีค่ายานอกบัญชี 1x,xxx บาท ต่อ เดือน อาจจะมีนอน รพ บ้างค่ะ รบกวนผู้รู้ชี้แจงด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า