สมบัติทัวร์ จากนี้เราคงต้องจบกัน

สืบเนื่องจากวันที่ 29/07/57 ดิฉันได้ไปส่งแฟนที่หมอชิต เดินทางจาก กรุงเทพฯ.ปลายทางกำแพงเพชร โดยใช้บริการของสมบัติทัวร์รอบ 13.00 น.  มีสัมภาระคือกระเป๋าเป้ 1 ใบ และกล่องทีวี 1 กล่อง หลังจากที่ซื้อตั๋วแล้วเราก็เดินเพื่อจะไปขึ้นรถเที่ยว 13.00น. ที่ชานชาลา 38 หมายเลข ม1พ 18-198 ตามที่ พ.ขายตั๋วแจ้งไว้  พอถึงรถก็เข้าไปถามความถูกต้องของเที่ยว พ.ต้อนรับชาย ได้แจ้งว่าใช่รถคันนี้แต่คุณจะต้องเสียค่าระวางทีวี 200 บาท นี่คือบริษัทเก็บนะ พนักงานไม่ได้เก็บเอง ดิฉันก็ถามว่าทำไมต้องเสียในเมื่อมีผู้โดยมีผู้โดยสารไปด้วย พ.ต้อนรับตอบว่าต้องเสียเพราะเป็นทีวี ดิฉันก็เลยเก็บความสงสัยไว้จนมีพ.หญิงเดินมาเช็คความเรียบร้อย แฟนดิฉันจึงถามว่าเสียค่าระวางต้องทำอย่างไร พ.หญิงยืนนิ่งสักพักแล้วตะโกนถาม พ.ต้อนรับว่าออกใบเสร็จอย่างไร ต้องใช้อะไรบ้าง หลังจากนั้นพ.ทั้งสองปรึกษากันประมาณ5นาทีแล้ว พ.หญิงก็เดินเข้าไปที่อาคารผู้โดยสาร ดิฉันสอบถาม พขร. ว่าจำเป็นต้องเก็บมั๊ยปกติ เค้าก็พยายามบอกเราว่าเอาของขึ้นก่อนแล้วขึ้นไปนั่งได้เลย ดิฉันเลยบอกพขร.ว่าพ.ต้อนรับไม่ยอมให้ขึ้นจนกว่าจะจ่ายค่าระวาง พขร.ก็เลยส่ายหน้า ผ่านไป 10 นาที พ.หญิงคนเดิมเดินออกมาจากอาคารผู้โดยสารพร้อมกับพ.หญิงอีกคนหนึ่งเพื่อมาออกใบเสร็จ ดิฉันก็ถามว่าใบระวางคือใบรับประกันที่เวลาของชำรุดเสียหายทางบริษัทจะเป็นผู้รับผิดชอบใช่หรือไม่ พ.หญิงตอบว่าไม่ใช่ ดิฉันถามต่อว่าแล้วดิฉันต้องจ่ายค่าระวางเพื่ออะไร พ.หญิงตอบว่าเพราะมันเป็นทีวี ดิฉันถามว่าแล้วคิดยังไง เค้าก็บอกว่าคิดนิ้วละ 10 บาท ทีวี 32 นิ้วก็คิดไป 320 บาท ดิฉันถามว่าทำไมไม่แจ้งหลังตัว แล้วอย่างนี้ผู้โดยสารจะทราบได้อย่างไรว่าต้องจ่ายหากนำสิ่งของประเภทนี้มาด้วย พ.หญิงตอบว่าเพราะตอนซื้อตัว พ.ขายตั๋วเค้ามองไม่เห็นทีวีที่คุณวางไว้เลยไม่ได้แจ้งเงื่อนไขทราบ ดิฉันเลยถามว่างั้นจะคืนตั๋วได้มั๊ย พ.หญิงบอกว่ารถใกล้จะออกแล้ว(ซึ่งมันควรจะออกตั้งแต่ 13.00 แล้ว ดิฉันและแฟนไปถึงชานชาลาเวลา 13.45 เวลาผ่านไปจนรถรอบต่อไปต้องมาจอดรอ) คุณจะฝากของมั๊ยหรือจะเอาของกลับ แฟนดิฉันก็คงกังวลเรื่องที่ดิฉันต้องยกทีวีกลับและเรื่องราวเริ่มบานปลายก็เลยบอกว่าจ่าย ๆ เค้าไปเถอะ ดิฉันเลยจำเป็นต้องจ่ายทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้รับคำตอบที่กระจ่าง จากนั้นพ.หญิงก็เรียกพ.ต้อนรับมาเพื่ออธิบายว่าต้องลงอย่างไร ในระหว่างที่เค้ากำลังทำใบเสร็จอยู่ดิฉันก็ถามเรื่อยๆว่าเป็นกฎของบริษัทหรือเปล่า เก็บทุกคนหรือเปล่า เค้าก็ตอบว่าทุกบริษัทก็ทำแบบนี้ เค้าเก็บกันมานานแล้ว ซึ่งดูเหมือนจะเป็นดิฉันคนเดียวที่ไม่เคยรู้มาก่อนทั้ง ๆ ที่ใช้บริการของสมบัติทัวร์มาสิบกว่าปีแล้ว ของอย่างอื่นน้ำหนักยี่สิบสามสิบโลก็เคยขนขึ้นแต่ทีวีจอแบนแค่ 8 โล รวมกับเป้ใบย่อม น้ำหนักไม่น่าจะถึง 18 โลด้วยซ้ำกลับต้องเสียค่าระวางเกือบเท่าราคาตั๋ว ดิฉันก็ชี้ข้างหลังตั๋วแล้วถามว่าทำไมเค้าถึงไม่ระบุในเงื่อนไขเป็นลายลักษณ์อักษรซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นดิฉันสามารถเข้าใจได้และพร้อมที่จะทำตามกฎ  พ.หญิงได้แต่ตอบว่าทีวีต้องคิดแยกก็เลยถามอีกรอบว่าว่าจะรับผิดชอบอะไรหรือไม่หากได้รับความเสียหายก็ตอบว่าไม่รับผิดชอบ แล้วคุณจะเก็บค่าระวางเพื่อให้ทราบว่ารถโดยสารคันนี้ได้บรรทุกโทรทัศน์สี 32 นิ้วมาด้วยอย่างนั้นหรือ...
หลังจากที่ได้รับใบเสร็จมาดิฉันก็อ่านรายละเอียดและมาสะดุดหลายที่เช่นเป็นบิลรับฝากของไว้สำหรับฝากส่ง ไม่ได้ระบุขนาดหรือน้ำหนัก ปลายทางที่ของจะลงและชื่อผู้รับ ปรากฏว่าเป็นชื่อของแฟนดิฉันและปลายทางคือเชียงใหม่ ซึ่งในตั๋วระบุว่าลงกำแพงเพชร ดิฉันเองก็ได้แจ้งหลายรอบแล้วว่าลงกำแพงเพชร แล้วทำไมถึงยังเขียนว่าลงที่เชียงใหม่? อีกทั้งไม่มีการแจ้งให้แฟนดิฉันเซ็นต์ในใบเสร็จ ดังนั้นดิฉันจึงได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับให้แฟนบันทึกวิดิโอไว้ เนื่องจากดิฉันรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล รวมถึงความไม่พร้อมของพนักงาน และรู้สึกว่ากำลังถูกเอาเปรียบจากพนักงานสมบัติทัวร์และถูกเรียกเก็บเงินจากบริษัทอย่างไม่เป็นธรรม
วันนี้ดิฉันได้โทรไปสอบถามกับ CALL CENTERของสมบัติทัวร์ พนักงานแจ้งให้ดิฉันติดต่อไปทางหน่วยงานพัสดุ หน่วยงานพัสดุไม่รับสาย ดังนั้นดิฉันจึงต้องขอรับคำปรึกษาจาก 1584 ศูนย์ร้องเรียนการให้บริการ รถโดยสารสาธารณะ และทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี
จากเหตุการณ์ที่เกิดนี้ดิฉันขอร้องเรียนบริษัทสมบัติทัวร์และขอสอบถามไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
1.    เหตุใดจึงไม่มีการแจ้งหรือระบุเงื่อนไขให้ลูกค้าทราบเป็นลายลักษณ์อักษรที่หลังตั๋วโดยสารเพื่อนสร้างความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างลูกค้ากับผู้ให้บริการ
2.     หากมีการเรียกเก็บเงินสำหรับของประเภทต่าง ๆ ที่มากับสัมภาระเช่นอุปกรณ์สื่อสาร เครื่องใช้ไฟฟ้าทำไมพนักงานจึงไม่มีการแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนซื้อตั๋ว
3.    หากลูกค้าจองตั๋วผ่านช่องทางอื่นเช่นทางออนไลน์ จ่ายเงินที่ตู้ ATM  ทางบริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบทางไหน หรือมาเก็บที่หน้างานทีเดียว ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็หมายถึงบริษัทกำลังหากินกับลุกค้าอย่างไม่สุจริต
4.    หากดิฉันนำเสื้อผ้าหรือผลไม้ใส่ในกล่องทีวี จะต้องเสียค่าระวางทีวีหรือไม่แล้วทางบริษัทจะทราบได้อย่างไรว่าไม่ใช่ทีวี
5.    หากดิฉันจ่ายเงินค่าตั๋วอีก 1 ใบแล้วนำทีวีขึ้นไปวางบนที่นั่งจะทำได้หรือไม่เนื่องจากราคาระวางกับราคาตั๋วที่ดิฉันซื้อถูกกว่ากันแค่ 24 บาท
6.    ทางสมบัติทัวร์จะไขข้อสงสัยของดิฉันและดำเนินการหลังจากได้รับคำร้องเรียนนี้อย่างไร
7.    พนักงานของสมบัติทัวร์ได้รับการอบรมในเรื่องนี้ทั่วทุกคนและนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องตามที่ได้รับการอบรมมาหรือไม่ หรือใช้เป็นช่องทางในการหาประโยชน์จากความไม่รู้ของผู้โดยสาร
8.    ทางบริษัทมีส่วนรู้เห็นกับพฤติกรรมของพนักงานหรือไม่ เนื่องจากพนักงานอ้างว่าบริษัทเป็นผู้เรียกเก็บ
ดิฉันใช้บริการของบริษัทสมบัติทัวร์มาเป็นเวลาประมาณ 12 ปี รู้สึกประทับใจในการให้บริการของบริษัท และได้แนะนำแก่ญาติและ คนรุ้จักให้ใช้บริการของบริษัทนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งมาเจอเหตุการณ์กับตัวเองเมื่อวานเลยรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก แต่ก็คิดว่าดีที่เจอกับตัวเองถึงแม้จะไม่ได้โดยสารเองเพราะไม่อย่างนั้นคงจะแก้ตัวแทนบริษัทเป็นแน่
ดิฉันขอขอบคุณ เจ้าหน้าศูนย์ร้องเรียนการให้บริการ รถโดยสารสาธารณะสำหรับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และหวังว่าจะได้รับคำตอบจากทางบริษัทสมบัติทัวร์โดยเร็วเพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับผู้โดยสารท่านอื่นเพื่อประกอบในการเลือกใช้บริการรถทัวร์สาธารณะ โดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ให้บริการ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่