สืบเนื่องมาจากซีรี่ย์ดังฮอร์โมนซีซั่น2 ตอน ธีร์ เเล้วนึกถึงเรื่องราวของตัวเองที่พอมองย้อนกลับไปบางเรื่องก็น่าจดจำเเละบางเรื่องก็เเอบเจ็บปวดเบาๆ ขอใช้นามสมมุตินะครับเกรงใจคนในเหตุการณ์
EP.1 Freshmen (รักแบบแอบรัก)
หลังจากจบชีวิตเด็กมัธยมปลายต่างจังหวัด เราก็ได้ก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัยรัฐบาลเเห่งหนึ่งเเถบชานเมืองของกรุงเทพฯ การได้เข้ามาศึกษาที่สถาบันเเห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้พบกับเขาคนนั้น เราได้ทำการเช่าหอพักเเห่งหนึ่งเนื่องจากไม่มีที่พักอยู่ที่กรุงเทพฯเลย เรามาตัวคนเดียวค่อยข้างจะลำบากมาก ไม่รู้จักใครเลย
เมื่อได้หอพักเรียบร้อยเเล้วผมก็นั่งเล่นอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยๆรอปิดเทอม คอยติดตามข่าวสารจากทางสถาบัน ด้วยความที่เป็นคนกลัวผีมากต้องเปืดไฟนอนทุกวันเลยคิดว่าควรจะมีรูมเมท พอดีเลื่อนดูในเว็บมีคนยังไม่ได้หอพักเลยติดต่อไป เขาก็มาดู เเต่พอเห็นทางเข้าเท่านั้นเเหละ เขาก็บ๊าย บาย
หลังจาเหตุการณ์นั้นผ่านไป ผมก็ทำใจไว้เเล้วว่าจะต้องอยู่คนเดียวเเละจะปิดไฟนอนให้ได้ ต่อมาไม่นานในกรุ๊ปเฟสบุ๊คห้อง(คนในคณะเยอะเขาเลยแบ่งเป็นห้อง)มีคนกำลังหาหอพักพอดีเนื่องจากบ้านไกลเดินทางไม่สะดวก เราก็ลองชวนดูเล่นๆไม่ได้คาดหวัง หลังจากคุยMSNกันก็ตกลง มาเป็นรูมเมท วันเเรกที่เจอกันพ่อเเม่เขามาส่ง โอ้วววพระเจ้า เวลายิ้มเขาน่ารักมาก ตาเศร้าๆดูมีอะไร ไม่ได้หล่อมาก แต่cuteมาก เราจะเเสดงอาการมากไม่ได้ เคยแชทกัน เคยโทรคุยกันก่อนหน้านี้ คือแบบเค้าคุยสนุกมาก แต่พอเจอตัวจริง เราเกร็งจนตัวเขียวเลย ไม่กล้ามองหน้าเขาด้วยแหละ
วันเเรกรับน้องเลยเขาต้องนอนพื้นเพราะที่นอนไม่พร้อมจริงๆ(เจ้าของหอยังไม่ยกเตียงมาเข้าให้)แอบสงสารอยู่ ต้องนอนบนเตียงแบบรู้สึกผิดลึกๆ เขาชื่อต๊อบ เราเรียนอยู่ภาควิชาเดียว(ยังไม่แบ่งสาขาย่อย)กันห้องเดียวกัน ดังนั้น เราสองคนต้องไปเรียนพร้อมกัน เขาทำให้คนที่ไม่ค่อยกินข้าวเช้าเพราะตื่นมาก็สายเเล้วอย่างเรา ได้กินข้าวเช้าทุกวัน ถึงจะขี้เกียจแต่เขาชวนก็ต้องไปป่ะ ช่วงแรกปรับตัวยังไม่ได้ชีวิตเยินมากต้องตื่นมาทำตัวfreshลากสังขารไปกินข้าวหน้าปากซอยที่ต๊อบบอกว่าอร่อยด้วยกันทุกวัน
การเรียนเขาเก่งอยู่แล้วความจำเขาดีมาก เขาเป็นคนที่ลากเราไปกะกลุ่มเพื่อนที่เรียนsectionเดียวกัน กลับพร้อมกัน กินข้าวเย็นพร้อมกัน เราเป็นอย่างนี้ทุกวันมาได้ระยะนึงซึ่งยอมรับว่าแอบชอบต๊อบมากแต่เขาไม่ได้ชอบเราป่ะ เขาชอบผู้หญิง เวทนาตัวเองมากเพิ่งเคยมีความรัก ตอนนั้นมีความสุขมากเวลาได้อยู่กับเขา ไม่กล้าบอกได้เเต่เก็บเอาไว้เพราะรู้ดีเเก่ใจว่ายังไงซะเขาก็ไม่ชอบเราหรอก เราเคยดูหนังเรื่องสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก มันมีช๊อตที่พระเอกเอาหนังสือเฟรนชิปที่มีรูปแอบถ่ายนางเองตอนเผลอๆ มาให้นางเองในวันที่เขาเรียนจบ ใช่เลย ในเมื่อเราบอกตอนนี้ไม่ได้ว่าเราชอบต๊อบแต่เราจะบอกเขตอนที่เรียนจบแบบในหนัง เราต้องแอบเนียนถ่ายเขาตอนเผลอๆให้ได้กะว่าจะเอาไปทำสมุดรวมภาพเเล้วเขียนสารภาพความรู้สึกทุกอย่างลงไปเเล้วจะมอบให้เขาในวันที่เรียนจบไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะยอรับทุกอย่าง(จำมาจากหนัง )
ต๊อบเคยมีเเฟนเเล้วเลิกกันไปเขาเล่าให้เราฟังบ่อยมากเราก็นึกว่าต๊อบอยากปรึกษา เลยไปเล่าให้พ่อเเม่เขาฟัง พ่อเเม่เขาตกใจเพิ่งรู้ว่าลูกเขาเลิกกับเเฟนแล้ว เราก็เเอบแปลกใจว่าต๊อบไม่ได้บอกเหรอ แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ ผ่านไปต๊อบก็บ่นว่าพ่อเเม่ถามเขาเรื่องที่เลิกกับเเฟน ด้วยความที่ซื่อๆเลยบอกไปว่าเราบอกเองเเหละ(ซื่อจนโง่มันเป็นแบบนี้แหละ) หลังจากนั้นเขาก็ก่อดรามาเรื่องครอบครัวกะเราเลยเลย คือกรุผิดใช่ไหมเนี่ย(ยังไม่รู้สึกตัวอีก) ที่บ้านเราปรึกษากันได้ทุกเรื่องไงเลยคิดว่าครอบครัวอื่นจะเป็นเเบบนี้ หลังจากนั้นต๊อบก็ไม่ไว้ใจเล่าอะไรให้เราฟังอีกเลย(ผิดก็ได้วะ)
เรามีกลุ่มเพื่อนที่เราไปกะเขานะกลุ่มที่ต๊อบลากเราไปด้วยแหละ(เเต่เราได้เเค่เดินตามกลุ่มเขาต้อยๆ) เหมือนไม่มีตัวตน เราโลกส่วนตัวสูงชอบกลับห้อง เเต่ต๊อบจะพยายามดันให้เราไปเดินตามเขาในกลุ่มทำโน่นทำนี่นั่งคุยเล่นจนได้ เพื่อต๊อบเราก้ต้องไป เผื่อมีโอกาสแอบเก็บภาพน่ารักๆของต๊อบไว้ได้ เขาคงหวังดีอยากให้เรามีเพื่อนบ้างแหละ เราก็ยังดำเนินชีวิตกันปกติ วันหนึ่งต๊อบเป็นไข้เเล้วเพ้อ มากอดเราหายใจรดกกหูเลย ในใจนี่เเบบฟินมากเเต่ตอนนั้นนอนตัวเเข็งทื่อเลยไม่กล้าขยับตัว พยายามซึมซับความรู้สึกดีๆในโมเมนต์นี้ให้มากที่สุด มันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมาก อยากจะหยุดเวลาไว้แค่นี้
ไม่นานนักเพื่อนสมัยมัธยมทักมาเป็นภาษาอังกฤษ Hi,How are you? ด้วยความที่กลวงมาก คิดว่าเพื่อนคงอยากเตรียมตัวเข้าAECแหละ โอ้วพระเจ้า มันคือไวรัสเฟซบุ๊ค ตอนนั้เฟซบุ๊คเราติดไวรัสจนเข้าไม่ได้ระยะนึง ต๊อบก็เเก้ไขให้จนได้เเม้จะบ่นๆบ้างว่าเราไปกดดูอะไรมั่วๆ(มั่วที่ไหนเพื่อนทักมา) เเละนั่นทำให้เราผูกพันกับต๊อบมาก เราก็แอบคิดนะว่าเขาอาจจะรู้ว่าเราชอบเขาก็ได้เเต่เขาก็ไม่พูด เพราะเราเก็บอาการไม่ค่อยเนียนบางที่เพื่อนเเซวก็ต้องทำนิ่งไม่รู้ไม่ชี้ แต่หน้านี่แดงมากเลย แถไปว่าอากาศร้อนเนอะ
ในกลุ่มเพื่อนนั้นมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อน๊อต เราไม่ได้สนิทอะไรกับน๊อตมากทั้งที่อยู่กลุ่มเดียวกัน น๊อตเรียนเก่ง บ้านรวย มีรถขับมาเรียน แต่เพื่อนไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เราก็แอบสงสารน๊อตนะคือเข้าใจอารมณ์คนที่ไม่ค่อยมีเพื่อนเลย เราก็เป็นแต่ไม่สนิทกันเลไม่ค่อยได้คุยอะไรกันเท่าไหร่รับรู้แค่ว่าอยู่กลุ่มเดียวกัน มีวันนึงที่ ช่วงบ่ายว่างเเล้วรอเรียนเย็น เพื่อนคนอื่นไปเล่นเกมส์ที่ร้าน เลยเหลือเรากับน๊อตที่ไม่ได้ไปเลยไปอ่านหนังสือกันสองคน คุยกันคำสองคำ(เราจนไงเลยแอบเจียมตัวเบาๆไม่เคยมีเพื่อนรวย)
เวลาผ่านไปถึงเวลาที่ต้องสอบกันเเล้วเราก็มีติวกันเป็นกลุ่ม ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ในกลุ่มเป็นไปด้วยดี เรากับต๊อบไปค้างห้องเพื่อนบ้างเพราะติวกันดึกดื่น บางที่ก็เเอบกลับก่อนต๊อบก็มีงอนบ้าง เรายิ่งแอบมโนไปไกลคนเดียว ที่บ้านเขามีของมาฝากไว้ให้กินบ้าง ช่วงหน้าฝนเรามีร่มคันเดียวต๊อบกางให้เเล้วให้เราหอบกระเป๋าเขาไม่ให้โดนฝน เราวิ่งกลับห้องด้วยกัน เป็นอีกโมเมนต์นึงที่ทำให้คนขี้มโนอย่างเราเริ่มกู่ไม่กลับเเล้ว เลยต้องเเชร์กับกลุ่มเพื่อนสมัยมัธยมซะหน่อย เราก็ตั้งกลุ่มในเฟซบุ๊คเเล้วก็พร่ำเพ้อความมโนของตัวเองลงไปบันทึกโมเมนต์ดีที่น่าจดจำที่มีด้วยกันลงไป(อารมณ์ประมาณหนังเรื่องไทม์ไลน์) บางทีรูปที่เเอบถ่ายเก็บไว้มาลง บางทีก็ไปเพ้อหน้าวอลล์ตัวเองต๊อบก็มาคอมเมนต์กวนๆเราเลยเเจ้งสเเปมซะ(ไม่รู้ด้วยนะว่าแจ้งสแปมคืออะไรมีผลยังไง)
หลังจากนั้นเราก็ไม่เคยเคยเจอเขาในเฟซบุ๊คอีกเลยด้วยความโง่เทคโนโลยีไม่รู้ว่าตัวเองโดนต๊อบบล๊อคซะเเล้ว ปลายเทอมเเรกนั้นเรารู้สึกว่าเฟซบุ๊คลืมล๊อคเอ้าท์หรือป่าวเพราะเหมือนเฟซบุ๊คเรามันเเปลกๆไป เเต่ไม่ได้สนใจ จนวันนึงเรากลับจากบ้านลุงตอนเช้าไม่เห็นต๊อบนั่งเล่นคอมเหมือนเดิมเเละต๊อบไม่ได้อยู่ที่ห้อง เราไปเปิดคอมดูปรากฎว่าคอมเสีย เลยทำการโทรไปหาต๊อบ ได้ความว่าต๊อบไปนอนห้องเพื่อนเมื่อคืนนี้เราเลยโวยเรื่องทำคอมเราพังเเล้วหนีไปห้องเพื่อนเฉยเลย เเต่ต๊อบก็ยังตีหน้าตายบอกว่าไม่ได้ทำ เราก็เออเชื่อก็ได้เเต่ อีกใจมันก็เเปลกๆนะอะไรมันจะเหมาะพอดีขนาดนั้น เลยยอมโง่รอบสองเชื่อ
วันสุดท้ายของการสอบต๊อบไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนเราไม่ได้ไปด้วยเพราะไม่รู้เรื่องไม่มีใครในกลุ่มชวน มารู้ตอนหลังที่เพื่อนอีกกลุ่มถามว่าไม่ไปเที่ยวกับเขาเหรอ เราก็หน้าชาเบาๆ แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก(เค้าคงคิดว่าเราไม่อยากไปแหละ)
ช่วงปิดเทอมอาคอมไปซ่อมที่ร้าน เสร็จเเล้วเราก็จะเปิดเข้าเฟซบุ๊คเเต่พระเจ้าช่วยเว็บบลาวเซอร์ขึ้นเเถบให้คืนค่าเลยอยากรู้กดดู เฟซบุ๊คต๊อบนี่นายังไม่ล๊อคเอาท์ด้วย เริ่มรู้ว่าต๊อบทำคอมเราเสียวันนั้นเเน่ๆเจ็บนิดเเต่ที่พีคกว่านั้น เฟซบุ๊คที่ยังไม่ล๊อคเอาท์(ปกติต๊อบจะเล่นคอมเรา เราก้ไม่ค่อยได้เล่นหรอกแต่ไม่อยากพูดมากเดี๋ยวมีประเด็น) เราก็ใสๆจะปิดให้เเต่หางตาเหลือบไปเห็นกลุ่มในเฟซบุ๊คของต๊อบทำให้เรา เอะใจเข้าไปดู กลุ่มนั้นมีเพื่อนในกลุ่มเดียวกันทุกคนยกเว้นเรา เราก็กระจ่างเลยว่าเฟซบุ๊คเราลืมล๊อคเอาท์จริงๆด้วย เเละต๊อบต้องเข้าไปอ่าน เเต่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เราค่อยๆเลื่อนอ่านข้อความที่เพื่อนๆในกลุ่มเเละต๊อบเขียนว่าเราต่างๆนาๆ หัวเราะเยาะกับการที่เราไม่มีรสนิยมทางเพศไม่ปกติ เขามองเราเป็นตัวตลกตัวหนึ่ง เหยียดหยามสารพัด ด่าว่าเราเป็นคนโรคจิตชอบแอบถ่ายรูปเขา(เห้ย เราทำตามในหนังอ่ามันดูโรคจิตขนาดนั้นเลยหรอ) เราอ่านไปน้ำตาไหลไปเจ็บจนจุกพูดไม่ออก ทุกคนในกลุ่มรู้หมด เเต่ทุกคนทำตัวปกติได้เนียนมาก ยิ่งอ่านไปยิ่งสะอึก นอกจากนั้นเรายังไปอ่านข้อความที่เขาเเชทกันกับเพื่อนคนอื่น ยิ่งเจ็บ เจ็บมากจนไม่คดว่าจะไปสู้หน้ากลุ่มเพื่อนได้ยังไง เราเข้าไปร้องไห้ในตู้เสื้อผ้าจนหมดเเรงได้เเต่ภาวนาว่าให้ตื่นมาเเล้วให้มันเป็นเเค่ฝันไปเถอะ หรือไม่ก็ให้หายไปจากตรงนี้เลย ร้องไห้ไปเรื่อยๆจนเหนื่อยเเล้วหลับไปตื่นมายังร้องไห้อีก จนคิดได้ว่าถึงเวลาต้องออกไปสู้ความจริงเเล้ว
เราลบกลุ่มเฟซบุ๊คที่เรามโนเพ้อเจ้อถึงเขาออก เเละหยุดเนียนเเอบถ่ายเขา เราดูหนังมากจนทำอะไรลงไป(เริ่มสำนึกได้) เรื่องที่เกิดขึ้นมันเเก้ไขอะไรไม่ได้ เลยเเกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องกลุ่มเฟซุ๊คที่เขียนด่าเราไป ปิดเทอมนี้น้ำท่วมกรุงเทพฯครั้งใหญ่ทำให้เลื่อนการเปิดเทอมออกไปเกือบๆปลายปี เราเลยมีเวลาคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาและมีเวลาคิดหาทางออกมากหน่อย
**************************************************************************************************
มีต่อครับพิมพ์ไม่พอ
อยากเเบ่งปันเรื่องความรักวัยฮอร์โมนของตัวเอง[กระทู้วาย]
EP.1 Freshmen (รักแบบแอบรัก)
หลังจากจบชีวิตเด็กมัธยมปลายต่างจังหวัด เราก็ได้ก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัยรัฐบาลเเห่งหนึ่งเเถบชานเมืองของกรุงเทพฯ การได้เข้ามาศึกษาที่สถาบันเเห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้พบกับเขาคนนั้น เราได้ทำการเช่าหอพักเเห่งหนึ่งเนื่องจากไม่มีที่พักอยู่ที่กรุงเทพฯเลย เรามาตัวคนเดียวค่อยข้างจะลำบากมาก ไม่รู้จักใครเลย
เมื่อได้หอพักเรียบร้อยเเล้วผมก็นั่งเล่นอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยๆรอปิดเทอม คอยติดตามข่าวสารจากทางสถาบัน ด้วยความที่เป็นคนกลัวผีมากต้องเปืดไฟนอนทุกวันเลยคิดว่าควรจะมีรูมเมท พอดีเลื่อนดูในเว็บมีคนยังไม่ได้หอพักเลยติดต่อไป เขาก็มาดู เเต่พอเห็นทางเข้าเท่านั้นเเหละ เขาก็บ๊าย บาย
หลังจาเหตุการณ์นั้นผ่านไป ผมก็ทำใจไว้เเล้วว่าจะต้องอยู่คนเดียวเเละจะปิดไฟนอนให้ได้ ต่อมาไม่นานในกรุ๊ปเฟสบุ๊คห้อง(คนในคณะเยอะเขาเลยแบ่งเป็นห้อง)มีคนกำลังหาหอพักพอดีเนื่องจากบ้านไกลเดินทางไม่สะดวก เราก็ลองชวนดูเล่นๆไม่ได้คาดหวัง หลังจากคุยMSNกันก็ตกลง มาเป็นรูมเมท วันเเรกที่เจอกันพ่อเเม่เขามาส่ง โอ้วววพระเจ้า เวลายิ้มเขาน่ารักมาก ตาเศร้าๆดูมีอะไร ไม่ได้หล่อมาก แต่cuteมาก เราจะเเสดงอาการมากไม่ได้ เคยแชทกัน เคยโทรคุยกันก่อนหน้านี้ คือแบบเค้าคุยสนุกมาก แต่พอเจอตัวจริง เราเกร็งจนตัวเขียวเลย ไม่กล้ามองหน้าเขาด้วยแหละ
วันเเรกรับน้องเลยเขาต้องนอนพื้นเพราะที่นอนไม่พร้อมจริงๆ(เจ้าของหอยังไม่ยกเตียงมาเข้าให้)แอบสงสารอยู่ ต้องนอนบนเตียงแบบรู้สึกผิดลึกๆ เขาชื่อต๊อบ เราเรียนอยู่ภาควิชาเดียว(ยังไม่แบ่งสาขาย่อย)กันห้องเดียวกัน ดังนั้น เราสองคนต้องไปเรียนพร้อมกัน เขาทำให้คนที่ไม่ค่อยกินข้าวเช้าเพราะตื่นมาก็สายเเล้วอย่างเรา ได้กินข้าวเช้าทุกวัน ถึงจะขี้เกียจแต่เขาชวนก็ต้องไปป่ะ ช่วงแรกปรับตัวยังไม่ได้ชีวิตเยินมากต้องตื่นมาทำตัวfreshลากสังขารไปกินข้าวหน้าปากซอยที่ต๊อบบอกว่าอร่อยด้วยกันทุกวัน
การเรียนเขาเก่งอยู่แล้วความจำเขาดีมาก เขาเป็นคนที่ลากเราไปกะกลุ่มเพื่อนที่เรียนsectionเดียวกัน กลับพร้อมกัน กินข้าวเย็นพร้อมกัน เราเป็นอย่างนี้ทุกวันมาได้ระยะนึงซึ่งยอมรับว่าแอบชอบต๊อบมากแต่เขาไม่ได้ชอบเราป่ะ เขาชอบผู้หญิง เวทนาตัวเองมากเพิ่งเคยมีความรัก ตอนนั้นมีความสุขมากเวลาได้อยู่กับเขา ไม่กล้าบอกได้เเต่เก็บเอาไว้เพราะรู้ดีเเก่ใจว่ายังไงซะเขาก็ไม่ชอบเราหรอก เราเคยดูหนังเรื่องสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก มันมีช๊อตที่พระเอกเอาหนังสือเฟรนชิปที่มีรูปแอบถ่ายนางเองตอนเผลอๆ มาให้นางเองในวันที่เขาเรียนจบ ใช่เลย ในเมื่อเราบอกตอนนี้ไม่ได้ว่าเราชอบต๊อบแต่เราจะบอกเขตอนที่เรียนจบแบบในหนัง เราต้องแอบเนียนถ่ายเขาตอนเผลอๆให้ได้กะว่าจะเอาไปทำสมุดรวมภาพเเล้วเขียนสารภาพความรู้สึกทุกอย่างลงไปเเล้วจะมอบให้เขาในวันที่เรียนจบไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะยอรับทุกอย่าง(จำมาจากหนัง )
ต๊อบเคยมีเเฟนเเล้วเลิกกันไปเขาเล่าให้เราฟังบ่อยมากเราก็นึกว่าต๊อบอยากปรึกษา เลยไปเล่าให้พ่อเเม่เขาฟัง พ่อเเม่เขาตกใจเพิ่งรู้ว่าลูกเขาเลิกกับเเฟนแล้ว เราก็เเอบแปลกใจว่าต๊อบไม่ได้บอกเหรอ แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ ผ่านไปต๊อบก็บ่นว่าพ่อเเม่ถามเขาเรื่องที่เลิกกับเเฟน ด้วยความที่ซื่อๆเลยบอกไปว่าเราบอกเองเเหละ(ซื่อจนโง่มันเป็นแบบนี้แหละ) หลังจากนั้นเขาก็ก่อดรามาเรื่องครอบครัวกะเราเลยเลย คือกรุผิดใช่ไหมเนี่ย(ยังไม่รู้สึกตัวอีก) ที่บ้านเราปรึกษากันได้ทุกเรื่องไงเลยคิดว่าครอบครัวอื่นจะเป็นเเบบนี้ หลังจากนั้นต๊อบก็ไม่ไว้ใจเล่าอะไรให้เราฟังอีกเลย(ผิดก็ได้วะ)
เรามีกลุ่มเพื่อนที่เราไปกะเขานะกลุ่มที่ต๊อบลากเราไปด้วยแหละ(เเต่เราได้เเค่เดินตามกลุ่มเขาต้อยๆ) เหมือนไม่มีตัวตน เราโลกส่วนตัวสูงชอบกลับห้อง เเต่ต๊อบจะพยายามดันให้เราไปเดินตามเขาในกลุ่มทำโน่นทำนี่นั่งคุยเล่นจนได้ เพื่อต๊อบเราก้ต้องไป เผื่อมีโอกาสแอบเก็บภาพน่ารักๆของต๊อบไว้ได้ เขาคงหวังดีอยากให้เรามีเพื่อนบ้างแหละ เราก็ยังดำเนินชีวิตกันปกติ วันหนึ่งต๊อบเป็นไข้เเล้วเพ้อ มากอดเราหายใจรดกกหูเลย ในใจนี่เเบบฟินมากเเต่ตอนนั้นนอนตัวเเข็งทื่อเลยไม่กล้าขยับตัว พยายามซึมซับความรู้สึกดีๆในโมเมนต์นี้ให้มากที่สุด มันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมาก อยากจะหยุดเวลาไว้แค่นี้
ไม่นานนักเพื่อนสมัยมัธยมทักมาเป็นภาษาอังกฤษ Hi,How are you? ด้วยความที่กลวงมาก คิดว่าเพื่อนคงอยากเตรียมตัวเข้าAECแหละ โอ้วพระเจ้า มันคือไวรัสเฟซบุ๊ค ตอนนั้เฟซบุ๊คเราติดไวรัสจนเข้าไม่ได้ระยะนึง ต๊อบก็เเก้ไขให้จนได้เเม้จะบ่นๆบ้างว่าเราไปกดดูอะไรมั่วๆ(มั่วที่ไหนเพื่อนทักมา) เเละนั่นทำให้เราผูกพันกับต๊อบมาก เราก็แอบคิดนะว่าเขาอาจจะรู้ว่าเราชอบเขาก็ได้เเต่เขาก็ไม่พูด เพราะเราเก็บอาการไม่ค่อยเนียนบางที่เพื่อนเเซวก็ต้องทำนิ่งไม่รู้ไม่ชี้ แต่หน้านี่แดงมากเลย แถไปว่าอากาศร้อนเนอะ
ในกลุ่มเพื่อนนั้นมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อน๊อต เราไม่ได้สนิทอะไรกับน๊อตมากทั้งที่อยู่กลุ่มเดียวกัน น๊อตเรียนเก่ง บ้านรวย มีรถขับมาเรียน แต่เพื่อนไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เราก็แอบสงสารน๊อตนะคือเข้าใจอารมณ์คนที่ไม่ค่อยมีเพื่อนเลย เราก็เป็นแต่ไม่สนิทกันเลไม่ค่อยได้คุยอะไรกันเท่าไหร่รับรู้แค่ว่าอยู่กลุ่มเดียวกัน มีวันนึงที่ ช่วงบ่ายว่างเเล้วรอเรียนเย็น เพื่อนคนอื่นไปเล่นเกมส์ที่ร้าน เลยเหลือเรากับน๊อตที่ไม่ได้ไปเลยไปอ่านหนังสือกันสองคน คุยกันคำสองคำ(เราจนไงเลยแอบเจียมตัวเบาๆไม่เคยมีเพื่อนรวย)
เวลาผ่านไปถึงเวลาที่ต้องสอบกันเเล้วเราก็มีติวกันเป็นกลุ่ม ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ในกลุ่มเป็นไปด้วยดี เรากับต๊อบไปค้างห้องเพื่อนบ้างเพราะติวกันดึกดื่น บางที่ก็เเอบกลับก่อนต๊อบก็มีงอนบ้าง เรายิ่งแอบมโนไปไกลคนเดียว ที่บ้านเขามีของมาฝากไว้ให้กินบ้าง ช่วงหน้าฝนเรามีร่มคันเดียวต๊อบกางให้เเล้วให้เราหอบกระเป๋าเขาไม่ให้โดนฝน เราวิ่งกลับห้องด้วยกัน เป็นอีกโมเมนต์นึงที่ทำให้คนขี้มโนอย่างเราเริ่มกู่ไม่กลับเเล้ว เลยต้องเเชร์กับกลุ่มเพื่อนสมัยมัธยมซะหน่อย เราก็ตั้งกลุ่มในเฟซบุ๊คเเล้วก็พร่ำเพ้อความมโนของตัวเองลงไปบันทึกโมเมนต์ดีที่น่าจดจำที่มีด้วยกันลงไป(อารมณ์ประมาณหนังเรื่องไทม์ไลน์) บางทีรูปที่เเอบถ่ายเก็บไว้มาลง บางทีก็ไปเพ้อหน้าวอลล์ตัวเองต๊อบก็มาคอมเมนต์กวนๆเราเลยเเจ้งสเเปมซะ(ไม่รู้ด้วยนะว่าแจ้งสแปมคืออะไรมีผลยังไง)
หลังจากนั้นเราก็ไม่เคยเคยเจอเขาในเฟซบุ๊คอีกเลยด้วยความโง่เทคโนโลยีไม่รู้ว่าตัวเองโดนต๊อบบล๊อคซะเเล้ว ปลายเทอมเเรกนั้นเรารู้สึกว่าเฟซบุ๊คลืมล๊อคเอ้าท์หรือป่าวเพราะเหมือนเฟซบุ๊คเรามันเเปลกๆไป เเต่ไม่ได้สนใจ จนวันนึงเรากลับจากบ้านลุงตอนเช้าไม่เห็นต๊อบนั่งเล่นคอมเหมือนเดิมเเละต๊อบไม่ได้อยู่ที่ห้อง เราไปเปิดคอมดูปรากฎว่าคอมเสีย เลยทำการโทรไปหาต๊อบ ได้ความว่าต๊อบไปนอนห้องเพื่อนเมื่อคืนนี้เราเลยโวยเรื่องทำคอมเราพังเเล้วหนีไปห้องเพื่อนเฉยเลย เเต่ต๊อบก็ยังตีหน้าตายบอกว่าไม่ได้ทำ เราก็เออเชื่อก็ได้เเต่ อีกใจมันก็เเปลกๆนะอะไรมันจะเหมาะพอดีขนาดนั้น เลยยอมโง่รอบสองเชื่อ
วันสุดท้ายของการสอบต๊อบไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนเราไม่ได้ไปด้วยเพราะไม่รู้เรื่องไม่มีใครในกลุ่มชวน มารู้ตอนหลังที่เพื่อนอีกกลุ่มถามว่าไม่ไปเที่ยวกับเขาเหรอ เราก็หน้าชาเบาๆ แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก(เค้าคงคิดว่าเราไม่อยากไปแหละ)
ช่วงปิดเทอมอาคอมไปซ่อมที่ร้าน เสร็จเเล้วเราก็จะเปิดเข้าเฟซบุ๊คเเต่พระเจ้าช่วยเว็บบลาวเซอร์ขึ้นเเถบให้คืนค่าเลยอยากรู้กดดู เฟซบุ๊คต๊อบนี่นายังไม่ล๊อคเอาท์ด้วย เริ่มรู้ว่าต๊อบทำคอมเราเสียวันนั้นเเน่ๆเจ็บนิดเเต่ที่พีคกว่านั้น เฟซบุ๊คที่ยังไม่ล๊อคเอาท์(ปกติต๊อบจะเล่นคอมเรา เราก้ไม่ค่อยได้เล่นหรอกแต่ไม่อยากพูดมากเดี๋ยวมีประเด็น) เราก็ใสๆจะปิดให้เเต่หางตาเหลือบไปเห็นกลุ่มในเฟซบุ๊คของต๊อบทำให้เรา เอะใจเข้าไปดู กลุ่มนั้นมีเพื่อนในกลุ่มเดียวกันทุกคนยกเว้นเรา เราก็กระจ่างเลยว่าเฟซบุ๊คเราลืมล๊อคเอาท์จริงๆด้วย เเละต๊อบต้องเข้าไปอ่าน เเต่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เราค่อยๆเลื่อนอ่านข้อความที่เพื่อนๆในกลุ่มเเละต๊อบเขียนว่าเราต่างๆนาๆ หัวเราะเยาะกับการที่เราไม่มีรสนิยมทางเพศไม่ปกติ เขามองเราเป็นตัวตลกตัวหนึ่ง เหยียดหยามสารพัด ด่าว่าเราเป็นคนโรคจิตชอบแอบถ่ายรูปเขา(เห้ย เราทำตามในหนังอ่ามันดูโรคจิตขนาดนั้นเลยหรอ) เราอ่านไปน้ำตาไหลไปเจ็บจนจุกพูดไม่ออก ทุกคนในกลุ่มรู้หมด เเต่ทุกคนทำตัวปกติได้เนียนมาก ยิ่งอ่านไปยิ่งสะอึก นอกจากนั้นเรายังไปอ่านข้อความที่เขาเเชทกันกับเพื่อนคนอื่น ยิ่งเจ็บ เจ็บมากจนไม่คดว่าจะไปสู้หน้ากลุ่มเพื่อนได้ยังไง เราเข้าไปร้องไห้ในตู้เสื้อผ้าจนหมดเเรงได้เเต่ภาวนาว่าให้ตื่นมาเเล้วให้มันเป็นเเค่ฝันไปเถอะ หรือไม่ก็ให้หายไปจากตรงนี้เลย ร้องไห้ไปเรื่อยๆจนเหนื่อยเเล้วหลับไปตื่นมายังร้องไห้อีก จนคิดได้ว่าถึงเวลาต้องออกไปสู้ความจริงเเล้ว
เราลบกลุ่มเฟซบุ๊คที่เรามโนเพ้อเจ้อถึงเขาออก เเละหยุดเนียนเเอบถ่ายเขา เราดูหนังมากจนทำอะไรลงไป(เริ่มสำนึกได้) เรื่องที่เกิดขึ้นมันเเก้ไขอะไรไม่ได้ เลยเเกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องกลุ่มเฟซุ๊คที่เขียนด่าเราไป ปิดเทอมนี้น้ำท่วมกรุงเทพฯครั้งใหญ่ทำให้เลื่อนการเปิดเทอมออกไปเกือบๆปลายปี เราเลยมีเวลาคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาและมีเวลาคิดหาทางออกมากหน่อย
**************************************************************************************************
มีต่อครับพิมพ์ไม่พอ