คุณเจ้าของกระทู้เข้าใจผิดหลักนะครับ
พรหมวิหาร๔ ใช้กับสถานการณ์ที่แตกต่างกันนะครับ
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความละเอียดอย่างที่ว่า

ใช้กับสถานการณ์ยังไง ก็ตามความหมาย
เมตตา ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข
กรุณา ความปราถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
มุทิตา ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี
อุเบกขา การรู้จักวางเฉย

ยกตัวอย่าง ถ้าเห็นผู้อื่นเป็นทุกข์  คุณก็ใช้อารมณ์กรุณา
               จะใช้มุทิตาจิตเมื่อเห็นคนอื่นทุกข์ไม่ได้
               แต่ถ้าช่วยเหลือเขาไม่ได้จริงๆ ก็จึงวางอารมณ์อุเบกขา เป็นต้น
ตอบกลับ
0 0  
อารตีวิรตีปาปา


............

พรหมวิหาร4 เครื่องอยู่ของพรหม  มีอยู่ในรูปเเบบ พระสูตร จริง
เเต่จะเป็นลักษณะของ การเจริญ การแผ่เมตตา ความระเอียดเป็นสมาธิ
จะไม่เป็นการ นำไปใช้ ด้วยการหยิบไปตามสถานการณ์อย่างที่เข้าใจอย่างนั่น
ต้องเข้าใจเจตนา ของคำว่า พรหมวิหาร4 ให้มัน ตรงตามพระไตรปิฏก
คุณเห็นคนตกยาก ลำบาก คุณไปยืนอุเบกขา สำคัญอุเบกขา ว่านิ่งอย่างพรหม
ไออุเบกอย่างนั่นคุณจะไปนรกไม่ใช่ไปพรหม อุเบกขาพรหมจริงๆคุณทรงไว้ คุณรู้เเจ้งจริงๆ คุณไปเกิด เวหัปปละ โน้น  มันไม่ใช่เรื่องขี้หมาขี้เเมวนะ เรื่องนี้
คุณต้องเริ่มทำความเข้าใจให้ถูก
นะ
คนที่เค้าทรง อุเบกขาเจโตวิมุตติ  ไม่ใช่เกิดจากการปรุงจาก  ด้วย กาม(เห็นหมา เห็นเเมวขาขาด) หรือ กิเลสตัวไหนที่มัน บ่นๆ บริกรรม อะไรเลย ไม่ใช่สักนิดเดียว
เเต่เป็นความละเอียดของจิตที่มัน  ลึกลงไปถึง อุเบกขา จากเมตตาเจโตวิมุตติ