และวันที่แสนเจ็บปวดในชีวิตก็มาถึง...

ขอบอกไว้ก่อนนะคะ เราไม่ได้ต้องการหรือหวังสิ่งใดจากการตั้งกระทู้นี้ แค่รู้สึกอยากระบายและอยากแชร์ให้กับเพื่อนๆที่อาจจะได้เจอเหตการณ์คล้ายๆกับเรา...
เราเป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ ไม่ได้สวย หรือน่ารักอะไรมาก พอเราเข้ามหาวิทยาลัย เราก็เจอคนมากมาย และเราก็เจอเพื่อนที่ดีๆหลายคนค่ะ รวมถึงแฟนเก่าเรา (ขอใช้ชื่อว่า เอ นะคะ) เรากับเอ ไม่ได้สนิทอะไรกันมาก แค่อยู่ภาควิชาเดียวกัน แต่เราก็เห็นนะว่าว่าเอไม่มีใครแต่ค่อนข้างหวั่นไหวค่ะ เอพยายามจีบ เพื่อนผญ หลายคน แต่ออกแนวแค่อยากเทแคร์ดูแล ไม่ได้รุก จนน่าเกลียดเหมือนผู้ชายเจ้าชู้ทั่วไป แต่ที่แน่ๆในฐานะเพื่อน เอเป็นที่รักมากค่ะ เราขอเล่าแบบไม่ละเอียดมากนะคะ พอขึ้นปีสอง ช่วงนั้นเพื่อนในภาคติวกันหนักมากค่ะ จึงทำให้ยิ่งสนิทกันมากขึ้น โดยเฉพาะ เราที่อยู่ก็ชอบเอขึ้นมา ตอนไหนก็ไม่รู้ แล้วเป็นมั้ยคะ ว่าเรามักจะคิดไปเองว่า คนคนนั้นก็สนใจเราค่ะ แต่... เปล่าเลย เอกำลังแอบชอบเพื่อนเราอยู่ต่างหากค่ะ แต่เป็นเพื่อนคนละกลุ่ม พอเรารู้ เราก็อึ้งปนเสียใจเล็กน้อยค่ะ อารมณ์ประมาณว่ากินแห้ว ...เราใช้เวลาทำใจเร็วมาก แค่คืนเดียว คืนเดียวเท่านั้น รุ่งเช้าเราก็ไปมหาวิทยาลัยปกติค่ะ แต่ยังไม่ถึงเวลาเรียน เราก็เลยโทรไปหาเอ บอกความในใจที่เรามีให้เอฟัง
"เอ เรารู้สึกดีกับเธอนะ แต่เราเพิ่งรู้มาว่าเธอชอบ จอย(นามสมมติ) เราก็เลยตัดใจได้แล้วล่ะ 55"
แต่เอตอบกลับมาว่า "งั้นเอ ยังโทรหาได้อยู่ใช่มั้ย..?"
เราก็ต้บตกลงไปค่ะ คือแค่คิดว่าอื้มดีเลยได้เพื่อนซี้เพิ่มมาอีกคน แต่หลังจากนั้นค่ะ เอไม่ได้แค่โทรมาคุยธรรมดา แต่เราคุยกันนานค่ะ จนคราวนี้เราเริ่มมั่นใจว่า อื้ม เค้าเป็นฝ่ายมาชอบเราแล้วจริงๆ..
     ชีวิตเราสองคนก็ดำเนินไปตามปกติเหมือนคู่รักวัยใสๆทั่วไปค่ะ เราเข้ากันได้ดีมาก ช่วงปีแรก เราขี้หึงสุดๆค่ะ เพราะเอ เป็นคนที่เฟรนด์ลี่มากกก คือถ้าตอนนั้นเราเป็นเอ เราคงเลิกกันไปแล้วล่ะค่ะ คือ เยอะเกินไปจริงๆ เออดทนกับเรามาก แล้วตอนนั้นเราก็มีปัญหาบ้างกับเพื่อนในกลุ่ม ก็มีแต่เอที่อยู่เคียงข้างเรา ถ้าวันไหนเอไปกะเพื่อน เราจะรู้สึกไม่ดีถึงขั้นโกรธ ว่าเราไม่มีใครยังไปกับเพื่อนได้เหรอ เราสองคนและเพื่อนคนอื่นๆก็เลยค่อนข้างไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด อ้อ! เราจะคุยกันไว้ค่ะว่าถ้าทะเลาะกันเมื่อไหร่ อย่าพูดว่าเลิก เพราะเรารู้ค่ะ เห็นคู่อื่นที่พูดก็เพราะอารมณ์พาไปทั้งนั้น เสร็จแล้วก็มานั่งเสียใจ
    แต่พอผ่านช่วงปีแรกไปค่ะ เราเริ่มคิดได้ ว่าดีแล้วที่เอเป็นแบบนี้ ไอ้ความเฟรนด์ลี่ จึงทำให้เพื่อนๆรัก และคอยช่วยเหลือเอมาตลอด รวมถึงเราเองก็ได้เจอเพื่อนกลุ่มนึงที่รักกันมาก เราจึงไม่เคยมีช่องว่างให้เหงาค่ะ ทำให้ความขี้หึงทั้งหลาย หายไปจนหมด ถึงขั้นคิดเล่นๆว่า ต่อให้เอไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นเราก็ไม่โกรธเลย ไปเที่ยวกลางคืน หรือจะไปไหนกับแก๊งค์ ผู้ชาย เราก็ไม่มีความคิดที่จะห้าม ถ้าเค้าอยากจะไป เพราะเราเชื่อใจเอมากค่ะ และเอก็ไม่เคยออกนอกลู่นอกทางจริงๆ รักง่าย แต่ถ้ารักใครแล้ว รักเดียวใจเดียวจริงๆค่ะ ทำให้เรารู้ตัวเลยว่า ถ้าอนาคต เราได้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ เราจะไม่มีวันเสียใจไปตลอดชีวิต... และแอบคิดว่าแล้วเราดีพอแล้วเหรอ เอน่าจะได้เจอคนที่เพรียบพร้อมทั้งหน้าตาและนิสัยใจคอกว่านี้หรือเปล่า
    ผ่านไปอีกสองปีเราทั้งคู่เรียนจบค่ะ เรากลับมาทำงานใกล้บ้านที่ต่างจังหวัด ส่วนเอก็ทำงานในกรุงเทพฯ เพราะเหตุนี้ค่ะสิ่งที่เรากลัวจึงเกิดขึ้น เรากลัวใจตัวเองที่สุดค่ะ กลัวจะเลิกรักเอ ซึ่งที่ทำงานเราได้มาเจอรุ่นพี่ อายุห่างกับเราประมาณ 8 ปี (ไม่อยากจะพูดถึงเลย ) ขอเรียกว่าพี่บีนะคะ เค้าบอกกับเราสารพัดค่ะว่า เค้าเลิกกับแฟนมาได้ 3 ปีแล้วเพราะโดนทิ้งไป จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครค่ะ มันทำให้เราคิดว่า เค้าครองโสดมา 3 ปี แต่มาปิ้งเราเนี่ยนะ หัวใจเด็กน้อยพองโตสิคะ รู้สึกหัวใจเต้นแรง เราจึงสนิทกัน แต่ในใจเราคิดเสมอว่า ยังไงเราก็รักเอ และเลือกเอคนเดียว เวลาผ่านไปค่ะ เราเหมือนจะทำตามหัวใจมากไปหน่อยไม่คิดถึงความถูกต้อง เราเริ่มคุยกับเอน้อยลงและไม่ยอมไปเจอเอ อ้างว่าไม่มีเวลา จนเราแพ้ใจตัวเองค่ะ บวกกับเห็นใจเอที่ต้องเป็นฝ่ายรอเราตลอด ถ้าเราปล่อยเอ ชีวิตของเอน่าจะดีขึ้น เราจึงตัดสินใจโทรไปบอกเลิกกับเอค่ะ ตอนนั้นเอแค่ถามว่าแน่ใจแล้วใช่มั้ย น้ำเสียงเอหนักแน่นมาก เอไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ใครห็นค่ะ แต่วันนั้นกลับเป็นเราที่พอพูดคำว่าเลิกออกไปปุ๊บ น้ำตาไหลเป็นทางเลยค่ะ รู้สึกใจหาย..
   หลังจากนนั้นค่ะ เราก็คบกับพี่บี แต่มีรุ่นพี่ที่เคยเรียนภาควิชาเดียวกันเข้ามาทำงานค่ะ เราสงสัยเล็กๆในความสัมพันธ์ของนางกับพี่บี ซึ่งเราก็เจอข้อความจนได้ค่ะ ช็อคและเสียใจมาก ตัดสินใจจะเลิกเด็ดขาด แต่พี่บีดันบอกว่าเค้าเลือกเรา พอเราหายชาจึงให้อภัยเค้าค่ะ ต่อมามีพี่ที่ทำงานรู้และไม่พอใจว่าทำไมต้องแอบคบกัน เราจึงต้องออกจากงาน ตอนนั่นทำงานที่นั่นได้ 11 เดือนค่ะ และได้งานใหม่ที่อื่นไว้แล้วค่ะ ที่ทำงานใหม่เวลาวันหยุดไม่ค่อยตรงกับพี่บีค่ะ จึงทำให้ความหวาดระแวงเพิ่มขึ้นๆ จนทะเลาะกันรุนแรง และสุดท้ายมานั่งคุยกันค่ะ ในใจตอนนั้นเรากำลังจะกลับไปหาเอ คือจะขับรถเข้ากรุงเทพฯ แต่พี่บีดันมาขอให้เราคบกันต่อค่ะ
   ตอนหลังเราย้ายงานมาที่ๆ3 ในใจเรารักงานที่ที่2มากค่ะ แต่ปล่อยให้เรื่องส่วนตัวมามีบทบาทมากไปหน่อย คราวนี้เวลาตรงกันตลอดค่ะ จนเกิดเหตุที่ว่าจับได้ว่าพี่บี มีอะไรกับรุ่นพี่เรามาตลอด เค้าสองคนไม่เคยเลิกคบกัน...
   เสียใจค่ะ เสียใจมาก แต่แค่สามอาทิตย์เราก็หาย หายสนิท รู้สึกเหมือนตื่นจากฝันร้าย โชคดีมากที่เลิกกับพี่บีมาได้ ในใจตอนนั้นจะกลับไปหาเอ อีกครั้ง แต่ไม่กล้าค่ะ ไม่แน่ใจตัวเอง ถ้ากลับไปจะทำให้เอเสียใจอีกรึเปล่า ซึ่งในขณะที่เราลังเลค่ะ เราก็ได้รูว่า...เอมีแฟนใหม่ไปแล้ว ใช่สินะใครเค้าจะรอเราล่ะ แต่แฟนใหม่ไม่ใช่ใครค่ะ เป็นเพื่อนในภาคเราเอง (อีกแล้ว)....
   เราก็ยินดีนะคะ เพราะเพื่อนคนนั้นขอใช้ชื่อว่าเบลค่ะ เบลเป็นคนน่ารัก อ่อนหวาน แต่เราก็ไม่ได้สนิทกับเบลมากสมัยเรียน แต่ในใจค่ะ แอบเศร้า แต่ก็ไม่ได้คิดจะไปแย่งเค้ากลับคืนมาแต่อย่างใด แค่อยากจะคุยกับเอบ้าง ถามสารทุกข์ สุขดิบทั่วๆไป แต่เอกลับไม่อยากคุยกับเราอีกแล้วค่ะ คงเป็นเพราะกลัวเบลคิดมากด้วย เห็นมั้ยคะว่าเอ เป็นผู้ชายที่ดีขนาดไหน อีกอย่างนะคะที่เราประทับใจเอ คือเอเป็นคนที่รักแม่ รักครอบครัวมาก ถ้าเอรักใครคคนนั้นไม่มีวันเสียใจแน่ๆค่ะ  เราก็ได้แต่สมน้ำหน้าตัวเองค่ะ ได้รับบทเรียนราคาแพงไปเรียบร้อย...
     ถึงวินาทีนี้ค่ะ ก่อนที่เราจะตัดสินในมาเขียนกระทู้ เราได้รับข่าวว่า เอกับเบล...กำลังจะแต่งงานกัน  ความรู้สึกเรามันบอกไม่ถูกค่ะ ในใจคิดมาเสมอว่ายังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง พราะเราก็อยู่ในวัยที่แต่งงานมีครอบครัวได้แล้ว ใกล้ 30 เพื่อนๆก็ทยอยแต่งไปบ้างแล้วค่ะ แต่เพื่อนๆคงนึกออก ความรู้สึกที่รับรู้ข่าวนี้ เรากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริงๆ เราเสียใจกับการกระทำของตัวเอง เราหยุดร้องไห้ไม่ได้เลยค่ะ ถึงมันจะผ่านมานานแล้ว ทำให้เรารู้ว่า เรายังไม่เคยลืมผู้ชายคนนี้ได้เลย... แต่ถึงวันนี้เค้าห่างเราไปไกลแสนไกลแล้ว สุดท้ายเราขอแสดงความยินดีจากใจจริงต่อเค้าทั้งคู่ค่ะ ขอให้มีความสุขตลอดไป..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่