ดุ..ยังกับ....

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2557 ผมได้ไปเจาะเลือดเพื่อตรวจไขมันตามที่หมอนัดที่ "รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์" เหตุการณ์ก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติที่มีแต่ความแออัดของผู้ป่วย แล้วก็สลับด้วยเสียงเรียกของผู้ช่วยพยาบาลให้คนไข้ไปรอที่ห้องตรวจ (ก็ไม่เข้าใจว่า เมื่อไหร่จะเปลี่ยนเป็นการใช้เครื่องขยายเสียง เพราะที่นั่งของหน้าห้องมักจะเต็ม ก็ต้องไปหาที่นั่งกระจายทั่ว ๆ ไป ห้ามหลับ หรือเผลอเด็ดขาด เพราะอาจจะไม่ได้ยินเสียงเรียก เดี๋ยวจะหนาวววว ทั้ง ๆ ที่ผมเคยไปที่ รพ.เกษมราษฎร์ สาขาประชาชื่น ซึ่งเป็นเครือเดียวกัน การเรียกคนไข้ที่นั่นจะใช้การใช้เครื่องกระจายเสียง ไปนั่งอยู่ตรงไหนก็ได้ ไปห้องน้ำยังได้ยินเลย) จนผมได้ตรวจเลือดเรียบร้อย และรอรับยาที่หน้าห้องยา ก็ได้ยินเสียงคล้าย ๆ เสียงแม่มดไม้กวาดหาย ดุดัน แหลม ลึกไปถึงไส้ติ่ง ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงนั้นได้ยินกันทุกคน ทุกคนหันกันไปยังต้นเสียงแบบไม่ต้องนัดหมายกันเลย
...ทำไมป้าเอาเอกสาร (ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าอะไร) ออกมาแบบนี้ (เสียงสูง และดังด้วย) ทำอย่างนี้ได้ยังงัย
...เอาออกมาแบบนี้ พยาบาลเค้าจะรู้ได้ยังงัย
...คราวหลังป้าอย่าทำแบบนี้อีกนะ (สะบัดหน้าอย่างนางอิจฉาไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น)
     ถ้าท่านอ่านข้างต้น 3 ประโยค คงมองว่าก็เฉย ๆ นี่นะไม่เห็นมีอะไร แต่ขอให้ท่านมโนฯ ไปถึงละครช่อง 7 เวลาที่แม่นางอิจฉาตวาดคนใช้ในเรื่อง ท่านจะได้ซึมซับบรรยากาศในขณะนั้น ห้องโถงแห่งนั้นเงียบกริบ เสียงคุยของคนไข้หายไปหมด มีเสียงคุณผู้ช่วยพยาบาลคนนั้นแผดดังอยู่เพียงคนเดียวอย่างโดดเด่นเป็นอัปลักษณ์อย่างยิ่ง
     ผมนึกถึงเมื่อเดือนที่แล้วก่อนที่ผมจะมาตรวจ ผมรอพบแพทย์ที่ทำนัดหมายการตรวจครั้งนี้ให้ผมอยู่หน้าห้องฉีดยา อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเห่า เอ๊ย พูดอันดังว่า
...คนไหนที่ต้องการใบรับรองแพทย์
...เมื้อกี๊อยู่ในห้องทำไม่ไม่บอกหมอ ไม่รู้เรื่อง!!!!
เห็นมั๊ยครับ ถ้าอ่านก็เหมือนไม่น่าจะมีอะไร ก็ขอให้มโนฯ ไปถึงบทแม่นางอิจฉาอีกครั้ง ...
     ถ้าเป็นการทำ cg จะมีภาพซ้อนทั้งสองเหตุการณ์เข้ามาเทียบกัน..มายก๊อต..คนเดียวกันเลย..
     ผมไม่เข้าใจว่า การที่คนไข้ ซึ่งมีการศึกษาไม่เท่ากัน ญาติโกโหติกาของเขาก็ไม่ได้ทำงานที่โรงพยาบาลนี้ เขาคงไม่ตรัสรู้ไปได้หรอกว่าขั้นตอนแต่ละอย่าง มีข้อต้องปฏิบัติอย่างไร เอกสารไหนต้องถือไว้ เอกสารไหนต้องเอาวางไว้ หรือการขอใบรับรองแพทย์ต้องบอกหมอคนเดียวเท่านั้น
ทำไมหรือครับ จะมาโรงพยาบาลแบบคนป่วย ต้องไปศึกษาขั้นตอนระเบียบภายในของโรงพยาบาลให้ดีก่อนหรืองัย
     ภาพที่ผมเห็นวันนั้นเมื่อเดือนก่อน กับเมื่อวันที่ 29 เหมือนกันเลยครับ คนนึงมีความสะใจที่ได้ทำตัวเหมือนเป็นแม่ของคนไข้ คอยตวาดแว๊ด ๆ ส่วนอีกคนหนึ่งผมมองเห็นตัวเธอหดเหลือเท่ามด ยืนกุมมือแล้วได้แต่ตอบว่า ค่ะ ค่ะ
     เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับผมน่ะหรือครับ ไม่เกี่ยวหรอก แต่ผมรับไม่ได้ ใจผมอยากให้คนที่โดนตวาด ผมขอยืนยันนะครับ ว่า เป็นเสียงตวาด ใกล้เคียงกับเสียงเห่าน่ะแหละ ดังหรือไม่ดัง ทั้งห้องหันไปดูกันหมด..ใจผมอยากให้เป็นญาติของผม หรือเป็นแม่ของผมที่โดนตวาดจริง ๆ รับรองได้ !!!!เธอได้ฝันร้ายแน่แม่ผู้ช่วยพยาบาลผู้ใจจืด!!!!!! ผมไม่ทราบว่าเธอมีความสุขกับการที่ทำให้คนไข้ต้องอับอายหรืออย่างไร การที่ทั้งคู่ ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นรุ่นแม่ของหล่อนทำผิดเพราะความไม่รู้ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เข้าไปบอก หรือเตือนกันแบบเงียบ ๆ ก็ทำได้ แต่ดูหล่อนมีความสุขกับการที่ทำตัวให้เหมือนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ และมีความสุขกับการได้ประจานคนให้คนทั้งห้องรู้ว่าคนไข้ทั้ง 2 คนโง่ คนไข้ไม่ได้โง่หรอกครับ แต่เขาไม่รู้ แต่หล่อนน่ะโง่ ที่แสดงออกมาแบบนั้น การที่เป็นเพียงแค่ตำแหน่ง "ผู้ช่วยพยาบาล" มันก็มีความสำคัญนะครับ เพราะเป็นคนที่ต้องคุยกับคนไข้ก่อนหมอด้วยซ้ำ คุณจะมาทำหน้าที่อะไรก็แล้วแต่ในโรงพยาบาล ผมว่าสำคัญทุกตำแหน่งน่ะแหละ แม้กระทั่งคนทำความสะอาด เพราะโรงพยาบาลมีเชื้อโรคมากมาย หากขาดคนทำความสะอาด ไม่ว่า หมอ พยาบาล กล้าที่จะไปกวาดพื้นเอง ล้างส้วมเองหรือไม่ครับ..
     ผมเคยเห็นคนกวาดถนนที่กำลังกวาดพื้นอย่างเอาเป็นเอาตาย กลางแดดเปรี้ยง แล้วมีคนมักง่ายฝากทิ้งขยะด้วยการโยนใส่ตะกร้าที่เธอลากมา แต่ไม่ลงตะกร้า ผมยังเห็นเธอก้มหน้าลงไปหยิบเอามาใส่ตะกร้าโดนไม่บ่นสักคำ ทั้ง ๆ ที่น่าจะด่าไอ้คนทิ้งด้วยซ้ำ มักง่าย เพราะอะไรหรือครับ เพราะเธอมีจิตสำนึกในหน้าที่ของเธองัยครับ ถ้าเธอเอาแต่บ่น แล้วไม่เก็บ สุดท้ายเธอก็ต้องเก็บอยู่ดี เพราะถ้ามีขยะตกหล่นไว้ก็เป็นความบกพร่องของเธอจนได้
     ขอใช้คำว่า "สำเหนียก" นะครับ เงินเดือนที่ท่านผู้ช่วยพยาบาลอันทรงเกียรติระบือไกลมีกินมีใช้อยู่ในแผนกประกันสังคมอันต้อยต่ำน่ะ ส่วนนึงมันก็มาจากที่เงินสมทบของคนไข้ที่หล่อนคิดว่าพวกเขาโง่ ไม่มีการศึกษา มารักษาแต่ละครั้งมันก็มีค่าใช้จ่ายกลับไปยังประกันสังคมให้คนอย่างหล่อนได้มีเงินไปซื้อก๋วยเตี๋ยวใส่พริกเยอะ ๆ ให้ปากร้อน ๆ ด่าเป็นไฟได้อย่างทุกวันนี้
     ผมขอยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องของผม ไม่ใช่ญาติผมที่โดนหล่อนตวาด แต่ในใจอยากให้เป็นญาติผม..จะได้สวมบทไล่ปีศาจได้อย่างเต็มตัว..แต่งานนี้ผมขอใช้คำว่า "ยิ้ม" หน่อยเถอะครับ รับไม่ได้จริง ๆ ผมไม่บอกชื่อ นามสกุล ของนาง ทั้ง ๆ ที่ผมก็ไปเสาะหาจนรู้แล้ว รูปของนางผมก็ถ่ายไว้แล้ว..แต่เรื่องนี้ผมขอส่งรายละเอียดไปให้ท่านผู้อำนวยการของโรงพยาบาลจะดีกว่า แล้วผมทำแน่ ๆ อ้อ...ผมไปสอบถามเพื่อนร่วมงานของหล่อนบางคน..ได้คำตอบว่า..อ๋อ.."บ่อยไป"..เฮ้อ..เซ็งทั้งเป็ด เซ็งทั้งห่านเลยงานนี้ ไม่รู้ว่าโรงพยาบาลจะเก็บคนแบบนี้ไว้ทำไม คนไข้ซึ่งป่วยอยู่แล้วหวังมาพึ่งโรงพยาบาลให้หายป่วย หรือทุเลา ถ้ามาพบกับนางฟ้าที่คอยต้อนรับ กลับมาเจอทรามวัยใจปีศาจ..พาลจะป่วยเข้า ICU ไปซะงั้น..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่