วิเคราะห์ตามประสาคนสนใจเรื่องลงทุน ด้วยความรู้ด้านบริหารอันน้อยนิดและ(ยัง)ไม่มีเงินพอเข้าตลาดเงินตลาดทุนตลาดอสังหาฯนอกเกมส์ ^^
เคยเล่นเวอร์ชั่นแบงค์กระดาษตอนเด็กๆ นานมากจนลืมแล้ว กลับมาเล่นช่วงแรกๆ ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเกมส์แข่งสนุกๆ เห็นเพื่อนๆ เค้าเล่นกัน รู้แค่ว่า...
# Net รายเดือนหมดเร็วมาก สำหรับ 3G Limited เท่ากับใช้ทั้งเดือนช่วงที่ไม่ได้เล่น
# ช่วยกำจัดเวลาว่างได้ดีมาก นัดไว้แล้วมาช้าก็ไม่เป็นไร เราจะสร้าง Landmark รอ รอเรียกคิวนานก็ไม่เป็นไร เราจะเที่ยวรอบโลกไปพลางๆ ^^
# แต่ถ้าคนที่นัดไว้ไม่มาซะที ล้มละลายติดกันจนใบไม้หมดก็ยังไม่โผล่ละก็ .... บางคนต้องโดนเกาะร้างนอกเกมส์แน่
# ได้ความสนใจจาก Friend ในไลน์ที่ไม่ค่อยคุยกัน หลังจากนั้นอาจได้สัมพันธ์กลับมา หรือไม่ก็โดน Block ไปเลย
# Timeline เต็มไปด้วยข้อความจากเกมส์ จนกลบเรื่องน่าสนใจอื่นๆ สุดท้ายก็จะขี้เกียจกดเข้าไปดู
# รูป Profile สวยๆ หล่อๆ จะได้เพื่อนในเกมส์เพิ่มมากมาย แต่ถ้าไม่ ต่อเปิดห้องรอจนแห้งก็ไม่มีคนมาเล่นด้วย
...แต่จริงๆ แล้วพอได้เล่นตอนโตเปลี่ยนจากกระดาษเป็น ถ้ามองลึกลงไป เป็นเกมส์ที่สอนให้รู้การออม การใช้เงิน การลงทุน การซื้อขาย ภาษีและเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
1. High Risk - High Return ความเสี่ยงต่ำ รายได้น้อย แต่มั่นคงกว่า เช่นการซื้อเกาะรายได้น้อยกว่าแต่ไม่โดนยึด หรือการเล่น Level First-Class ได้ผลตอบแทนสูงแต่เสียเงินมากกว่า
2. การเลือกไพ่ว่าใครจะได้ทอยเต๋าก่อนแสดงว่าถ้าเริ่มลงทุนก่อน ออมก่อนย่อมได้เปรียบกว่า
3. เพื่อนที่เจอในเกมส์เป็นคนในวงการธุรกิจ เป็นได้ทั้งคู้ค้า(เล่นทีม) และคู่แข่ง สามารถเลือกให้เหมาะกับสถานการณ์ เพื่อผลประโยชน์สูงสุด
4. ไม่จำเป็นว่าลงเมืองไหนซื้อเมืองนั้นทุกเมืองที่เดินทางไปลง บางทีอาจทำให้ใช้ตังก์หมดก่อนและพลาดโอกาสการลงทุนดีๆ ในอนาคต
5. ไม่จำเป็นว่าเสียตังก์ตอนลงเมืองคนอื่นแล้วต้องซื้อกลับมาเพราะคิดว่าจะเสียดุล จนไม่ได้วางแผนเงินที่เหลืออยู่ หรือผิดแผนที่วางไว้ ควรซื้อตามแผนหรือซื้อเมื่อได้ Return คุ้มค่าจริงๆ
6. ซื้อบ้าน 3 หลังติดทันที จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการถูกยืดเป็น Landmark ต้องวิเคราะห์พื้นที่ที่จะซื้อเทียบกับกำลังซื้อของคู่แข่งด้วย
7. คนที่ล้มละลายบ่อยๆ ก่อนเกมส์จบ คือซื้อจนเงินไม่เหลือ ไม่มีการออม เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่น ภาษี หรือลงเมืองคนอื่น ดังนั้นให้มีออมไว้ด้วย ยังไงถือเงินสดเยอะก็ได้เปรียบกว่า
8. เมืองที่ติดๆ กันหรือเมืองที่จัดงาน จะทำให้ค่าที่ดินเพิ่มเป็น 2X-3X เหมือนที่ดินหรือบ้านที่ซื้อไว้ก่อนที่เมืองจะเจริญถือเป็นการเก็งกำไร
9. วงการธุรกิจจะขับเคลื่อนเพียงคนเดียวไปตลอดไม่ได้ เพราะงั้นทอยเลขเบิ้ล 3 ครั้งต้องไปติดเกาะ ให้คนอื่นซื้อขายกันบ้าง
10. เริ่มต้นมีเงินคนละเท่าๆ กัน แต่เราเพิ่มทรัพย์สินและเงินเราได้โดย 1) เงินเดือนจากการเดินครบรอบเหมือนการทำงาน 2) เก็บค่าเช่า 3) ซื้อมาขายไป 4) ซื้อถูกขายแพงหลังพัฒนาพื้นที่อสังหาฯ 5) ทอยเหรียญ
11. การเลือกซื้อต้องดูทุกๆ เมืองในภาพรวม ไม่ใช่มองแต่เมืองแพงๆ หรือเมือง 2X อาจทำให้แพ้โดยไม่รู้ตัว ต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจรอบตัวอยู่ตลอดเวลา
12. คนที่ชนะเกมส์ไม่ใช่คนที่ได้เมืองแถวสีแดงเยอะๆ หรือมี Landmark เยอะๆ หรือถือเงินเยอะๆ เสมอไป แต่ที่แน่ๆ คือผู้ชนะเป็นคนที่บริหารการลงทุนได้ดีที่สุด
13. บางครั้งดวงก็สำคัญ ^^ เราเลยต้องทำบุญโดยการบริจาคเมืองบ้าง หรือช่วยเหลือคนจนบ้าง เพื่อผลบุญจะส่งผลให้ธุรกิจเจริญก้าวหน้า
14. เมื่อเริ่มเล่นจะมี Level สำหรับผู้เริ่มต้น ซึ่งคู่แข่งที่ Level ไม่สูง และลงทุนไม่มาก ความเสี่ยงต่ำ ฝึกปรือหาประสบการณ์ลงทุนก่อน มือใหม่อย่าพึ่งทุ่มทุน
15. เล่นเป็นทีมโอกาสแพ้น้อยกว่าเล่นเดี่ยว แต่ผลตอบแทนอาจน้อยกว่า ทำธุรกิจควรมีคู้ค้าทางธุรกิจ
16. เกมส์จะสนุกคือเมื่อผู้เล่นแต่ละคนโยนเหรียญได้มากๆ ทำให้มีเงินมาซื้อขายได้เพิ่มขึ้น เหมือนการอัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้นการซื้อขาย
17. แรกๆ จะไม่ค่อยมีคนอยากติดเกาะร้าง แต่เมื่อเล่นไปจนเรามี Landmark ระดับนึง และคู่แข่งมีเมืองกระจายในเส้นทางมากจนเสี่ยงสูงที่จะเดินไปตก ทำให้อยากติดเกาะเพื่อรับผลตอบแทนคงที่และความเสี่ยงต่ำลง
18. การทอยเหรียญในเกมส์ไม่เสียเงิน มีแต่ได้กับเสมอตัว แต่ชีวิตจริงไม่ใช่ การพนันเป็นสิ่งไม่ดี คนที่รวยคือคนจัดแข่งเวิลด์คัพ ไม่ใช่คนพนันบอล ^^
รู้สึกว่าเป็นเกมส์ที่น่าให้เด็กๆ เล่นและสอน มากกว่า Cookie Run เป็นไหนๆ
"เรียนรู้อะไรหลังจากการเล่นเกมเศรษฐีมาได้ 1 สัปดาห์" เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปจากแผ่นกระดาษเป็นดิจิตอลทัชสกรีน
เคยเล่นเวอร์ชั่นแบงค์กระดาษตอนเด็กๆ นานมากจนลืมแล้ว กลับมาเล่นช่วงแรกๆ ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเกมส์แข่งสนุกๆ เห็นเพื่อนๆ เค้าเล่นกัน รู้แค่ว่า...
# Net รายเดือนหมดเร็วมาก สำหรับ 3G Limited เท่ากับใช้ทั้งเดือนช่วงที่ไม่ได้เล่น
# ช่วยกำจัดเวลาว่างได้ดีมาก นัดไว้แล้วมาช้าก็ไม่เป็นไร เราจะสร้าง Landmark รอ รอเรียกคิวนานก็ไม่เป็นไร เราจะเที่ยวรอบโลกไปพลางๆ ^^
# แต่ถ้าคนที่นัดไว้ไม่มาซะที ล้มละลายติดกันจนใบไม้หมดก็ยังไม่โผล่ละก็ .... บางคนต้องโดนเกาะร้างนอกเกมส์แน่
# ได้ความสนใจจาก Friend ในไลน์ที่ไม่ค่อยคุยกัน หลังจากนั้นอาจได้สัมพันธ์กลับมา หรือไม่ก็โดน Block ไปเลย
# Timeline เต็มไปด้วยข้อความจากเกมส์ จนกลบเรื่องน่าสนใจอื่นๆ สุดท้ายก็จะขี้เกียจกดเข้าไปดู
# รูป Profile สวยๆ หล่อๆ จะได้เพื่อนในเกมส์เพิ่มมากมาย แต่ถ้าไม่ ต่อเปิดห้องรอจนแห้งก็ไม่มีคนมาเล่นด้วย
...แต่จริงๆ แล้วพอได้เล่นตอนโตเปลี่ยนจากกระดาษเป็น ถ้ามองลึกลงไป เป็นเกมส์ที่สอนให้รู้การออม การใช้เงิน การลงทุน การซื้อขาย ภาษีและเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
1. High Risk - High Return ความเสี่ยงต่ำ รายได้น้อย แต่มั่นคงกว่า เช่นการซื้อเกาะรายได้น้อยกว่าแต่ไม่โดนยึด หรือการเล่น Level First-Class ได้ผลตอบแทนสูงแต่เสียเงินมากกว่า
2. การเลือกไพ่ว่าใครจะได้ทอยเต๋าก่อนแสดงว่าถ้าเริ่มลงทุนก่อน ออมก่อนย่อมได้เปรียบกว่า
3. เพื่อนที่เจอในเกมส์เป็นคนในวงการธุรกิจ เป็นได้ทั้งคู้ค้า(เล่นทีม) และคู่แข่ง สามารถเลือกให้เหมาะกับสถานการณ์ เพื่อผลประโยชน์สูงสุด
4. ไม่จำเป็นว่าลงเมืองไหนซื้อเมืองนั้นทุกเมืองที่เดินทางไปลง บางทีอาจทำให้ใช้ตังก์หมดก่อนและพลาดโอกาสการลงทุนดีๆ ในอนาคต
5. ไม่จำเป็นว่าเสียตังก์ตอนลงเมืองคนอื่นแล้วต้องซื้อกลับมาเพราะคิดว่าจะเสียดุล จนไม่ได้วางแผนเงินที่เหลืออยู่ หรือผิดแผนที่วางไว้ ควรซื้อตามแผนหรือซื้อเมื่อได้ Return คุ้มค่าจริงๆ
6. ซื้อบ้าน 3 หลังติดทันที จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการถูกยืดเป็น Landmark ต้องวิเคราะห์พื้นที่ที่จะซื้อเทียบกับกำลังซื้อของคู่แข่งด้วย
7. คนที่ล้มละลายบ่อยๆ ก่อนเกมส์จบ คือซื้อจนเงินไม่เหลือ ไม่มีการออม เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่น ภาษี หรือลงเมืองคนอื่น ดังนั้นให้มีออมไว้ด้วย ยังไงถือเงินสดเยอะก็ได้เปรียบกว่า
8. เมืองที่ติดๆ กันหรือเมืองที่จัดงาน จะทำให้ค่าที่ดินเพิ่มเป็น 2X-3X เหมือนที่ดินหรือบ้านที่ซื้อไว้ก่อนที่เมืองจะเจริญถือเป็นการเก็งกำไร
9. วงการธุรกิจจะขับเคลื่อนเพียงคนเดียวไปตลอดไม่ได้ เพราะงั้นทอยเลขเบิ้ล 3 ครั้งต้องไปติดเกาะ ให้คนอื่นซื้อขายกันบ้าง
10. เริ่มต้นมีเงินคนละเท่าๆ กัน แต่เราเพิ่มทรัพย์สินและเงินเราได้โดย 1) เงินเดือนจากการเดินครบรอบเหมือนการทำงาน 2) เก็บค่าเช่า 3) ซื้อมาขายไป 4) ซื้อถูกขายแพงหลังพัฒนาพื้นที่อสังหาฯ 5) ทอยเหรียญ
11. การเลือกซื้อต้องดูทุกๆ เมืองในภาพรวม ไม่ใช่มองแต่เมืองแพงๆ หรือเมือง 2X อาจทำให้แพ้โดยไม่รู้ตัว ต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจรอบตัวอยู่ตลอดเวลา
12. คนที่ชนะเกมส์ไม่ใช่คนที่ได้เมืองแถวสีแดงเยอะๆ หรือมี Landmark เยอะๆ หรือถือเงินเยอะๆ เสมอไป แต่ที่แน่ๆ คือผู้ชนะเป็นคนที่บริหารการลงทุนได้ดีที่สุด
13. บางครั้งดวงก็สำคัญ ^^ เราเลยต้องทำบุญโดยการบริจาคเมืองบ้าง หรือช่วยเหลือคนจนบ้าง เพื่อผลบุญจะส่งผลให้ธุรกิจเจริญก้าวหน้า
14. เมื่อเริ่มเล่นจะมี Level สำหรับผู้เริ่มต้น ซึ่งคู่แข่งที่ Level ไม่สูง และลงทุนไม่มาก ความเสี่ยงต่ำ ฝึกปรือหาประสบการณ์ลงทุนก่อน มือใหม่อย่าพึ่งทุ่มทุน
15. เล่นเป็นทีมโอกาสแพ้น้อยกว่าเล่นเดี่ยว แต่ผลตอบแทนอาจน้อยกว่า ทำธุรกิจควรมีคู้ค้าทางธุรกิจ
16. เกมส์จะสนุกคือเมื่อผู้เล่นแต่ละคนโยนเหรียญได้มากๆ ทำให้มีเงินมาซื้อขายได้เพิ่มขึ้น เหมือนการอัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้นการซื้อขาย
17. แรกๆ จะไม่ค่อยมีคนอยากติดเกาะร้าง แต่เมื่อเล่นไปจนเรามี Landmark ระดับนึง และคู่แข่งมีเมืองกระจายในเส้นทางมากจนเสี่ยงสูงที่จะเดินไปตก ทำให้อยากติดเกาะเพื่อรับผลตอบแทนคงที่และความเสี่ยงต่ำลง
18. การทอยเหรียญในเกมส์ไม่เสียเงิน มีแต่ได้กับเสมอตัว แต่ชีวิตจริงไม่ใช่ การพนันเป็นสิ่งไม่ดี คนที่รวยคือคนจัดแข่งเวิลด์คัพ ไม่ใช่คนพนันบอล ^^
รู้สึกว่าเป็นเกมส์ที่น่าให้เด็กๆ เล่นและสอน มากกว่า Cookie Run เป็นไหนๆ