เรื่องของ...บุญจากการให้ทาน...ในทรรศนะของข้าพเจ้า...(ตอนที่ 2)
...มีคำกล่าวว่า.....
...ทำทานกับสัตว์ 100 ครั้ง ได้บุญไม่เท่ากับทำบุญกับคน 1 ครั้ง
...บางคนเลยท้อแท้ว่า อะไรกันฉันทำทานกับสัตว์มากมาย แต่ไม่เท่ากับทำบุญกับคนไม่มีศีลแค่ครั้งเดียว แล้วนี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่
...การทำบุญกับสัตว์ไม่ไช่ว่า ไม่ดี เพียงแต่เราต้องเข้าใจเป้าหมายสูงสุดในคำสอนของพุทธศาสนา
...พุทธศาสนา สอนเรื่องการปล่อยวาง ..ความยึดมั่นถือมั่นในในอัตตาตัวตน...ที่มีอยู่ในกายในใจ
...บุญจึงเกิดมาจากจิตที่ มีความจางคลายของความยึดมั่นถือมั่นในกายในใจ ไม่ได้อยู่ที่รูปแบบภายนอก
.... ในขณะที่สร้างทาน จิตที่จะสามารถคลายความยึอมั่นมี สองฝ่าย คือ ผู้ให้ทาน กับ ผู้รับทาน
...ดังนั้น การทำบุญของเราจึงไม่ได้ทำเพื่อต้องการจะเอาอะไร แต่ทำเพื่อให้จิตคลายความยึดมั่น ซึ่งสิ่งที่สามารถทำได้ง่ายที่สุดก็คือ การทำทานด้วยทรัพสินย์เงินทอง เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของนอกกาย
...เช่นนั้นการที่คุณช่วยเหลือสัตว์ คุณคือผู้ให้ คุณเสียสละเงินทอง เป็นการคลายความถือมั่น ในสิ่งที่คุณได้หามา บุญจึงเกิดเฉพาะกับคุณที่ได้ช่วยเหลือเขา ทำให้จิตคุณมีแต่ความเมตตาต่อสรรพสัตว์ มันเป็นพื้นฐานที่ดีในการ คลายความยึดถือ ในสิ่งที่สูงกว่าต่อไป
...ซึ่งในส่วนของผู้รับ อย่างไรเสียสัตว์ก็ไม่สามารถจะคลายความถือมั่นได้ในจิตของเขาได้
...แต่หากเราทำทานกับคน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่มีศีล แต่ใครจะรู้ได้ว่า การทำทานของเราในครั้งนั้น อาจทำให้เขาคิดได้ หรือในอนาคตเขาอาจจะกลับตัวเป็นคนดีได้ อาจจะบวชศึกษาปฏิบัติจนสำเร็จเป็นพระอรหันก็เป็นได้
...การทำทานกับคนไม่มีศีล กับคนปกติ กับคนมีศีล กับคนที่เป็นพระอริยะ ก็มีอานิสงค์ไม่เท่ากัน
...เพราะศีลที่ควบคุมกายใจผู้ปฏิบัติธรรม เช่น กับ ผู้บวชชีพราหม แม่ชี หรือ พระสงฆ์จึง มีอานิสงค์มากกว่าคนไม่มีศีล
...แต่บุญที่เกิดจากทานด้านวัตถุที่มากที่สุด คือ ทำทานกับ พระอริยะเจ้า
...ในบทสังฆคุณ สงฆ์สาวกของผู้มีพระภาคเจ้า คือ คู่แห่งบุรุษสี่คู่นับเรียงตัวบุรุษได้แปดบุรุษ (โสดาปัตติมรรค -อรหันตผล)นั่นแหล่ะสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
...การทำบุญกับพระอริยะ จึงใด้รับอานิสงค์สูง เพราะท่านคลายความยึดมั่นถือมั่นได้แล้วตามลำดับการรู้ธรรม
...พระอริยะ จะไม่มีทางที่จะทำเพื่อตัวเอง แต่จะมุ่งเน้นการกระทำเพื่อส่วนรวมโดยผ่ายเดียว
...ซึ่งการการกระทำอาจมีรูปแบบที่ต่างกัน บางท่านก็เปิดสำนักสอน บางท่านก็เขียนหนังสือ ฯลฯ ตามกำลังที่มีอยู่ของท่าน
...ทานที่ท่านนร่วมกันสร้างสถานปฏิบัติธรรม หรือที่ท่านได้ถวายกับพระอริยะ จึงมีอานิสงค์สูงสุด
...เพราะทานที่ท่านได้กระทำ แล้วสามารถนำไปสู่ การปล่อยวาง การคลายควมมยึดมั่นถือมั่น ของคนได้ ท่านเหล่านั้นก็จะสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม และประเทศชาติ ได้มหาศาล อย่างไม่มีจำกัด ต่อไป
บทความโดย : วิถีแห่งสายลม
(หากท่านเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ท่านสามารถแชร์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตครับ)
ของเก่าเล่าใหม่ พ.ค. 57
...มีคำกล่าวว่า.....
...ทำทานกับสัตว์ 100 ครั้ง ได้บุญไม่เท่ากับทำบุญกับคน 1 ครั้ง
...บางคนเลยท้อแท้ว่า อะไรกันฉันทำทานกับสัตว์มากมาย แต่ไม่เท่ากับทำบุญกับคนไม่มีศีลแค่ครั้งเดียว แล้วนี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่
...การทำบุญกับสัตว์ไม่ไช่ว่า ไม่ดี เพียงแต่เราต้องเข้าใจเป้าหมายสูงสุดในคำสอนของพุทธศาสนา
...พุทธศาสนา สอนเรื่องการปล่อยวาง ..ความยึดมั่นถือมั่นในในอัตตาตัวตน...ที่มีอยู่ในกายในใจ
...บุญจึงเกิดมาจากจิตที่ มีความจางคลายของความยึดมั่นถือมั่นในกายในใจ ไม่ได้อยู่ที่รูปแบบภายนอก
.... ในขณะที่สร้างทาน จิตที่จะสามารถคลายความยึอมั่นมี สองฝ่าย คือ ผู้ให้ทาน กับ ผู้รับทาน
...ดังนั้น การทำบุญของเราจึงไม่ได้ทำเพื่อต้องการจะเอาอะไร แต่ทำเพื่อให้จิตคลายความยึดมั่น ซึ่งสิ่งที่สามารถทำได้ง่ายที่สุดก็คือ การทำทานด้วยทรัพสินย์เงินทอง เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของนอกกาย
...เช่นนั้นการที่คุณช่วยเหลือสัตว์ คุณคือผู้ให้ คุณเสียสละเงินทอง เป็นการคลายความถือมั่น ในสิ่งที่คุณได้หามา บุญจึงเกิดเฉพาะกับคุณที่ได้ช่วยเหลือเขา ทำให้จิตคุณมีแต่ความเมตตาต่อสรรพสัตว์ มันเป็นพื้นฐานที่ดีในการ คลายความยึดถือ ในสิ่งที่สูงกว่าต่อไป
...ซึ่งในส่วนของผู้รับ อย่างไรเสียสัตว์ก็ไม่สามารถจะคลายความถือมั่นได้ในจิตของเขาได้
...แต่หากเราทำทานกับคน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่มีศีล แต่ใครจะรู้ได้ว่า การทำทานของเราในครั้งนั้น อาจทำให้เขาคิดได้ หรือในอนาคตเขาอาจจะกลับตัวเป็นคนดีได้ อาจจะบวชศึกษาปฏิบัติจนสำเร็จเป็นพระอรหันก็เป็นได้
...การทำทานกับคนไม่มีศีล กับคนปกติ กับคนมีศีล กับคนที่เป็นพระอริยะ ก็มีอานิสงค์ไม่เท่ากัน
...เพราะศีลที่ควบคุมกายใจผู้ปฏิบัติธรรม เช่น กับ ผู้บวชชีพราหม แม่ชี หรือ พระสงฆ์จึง มีอานิสงค์มากกว่าคนไม่มีศีล
...แต่บุญที่เกิดจากทานด้านวัตถุที่มากที่สุด คือ ทำทานกับ พระอริยะเจ้า
...ในบทสังฆคุณ สงฆ์สาวกของผู้มีพระภาคเจ้า คือ คู่แห่งบุรุษสี่คู่นับเรียงตัวบุรุษได้แปดบุรุษ (โสดาปัตติมรรค -อรหันตผล)นั่นแหล่ะสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
...การทำบุญกับพระอริยะ จึงใด้รับอานิสงค์สูง เพราะท่านคลายความยึดมั่นถือมั่นได้แล้วตามลำดับการรู้ธรรม
...พระอริยะ จะไม่มีทางที่จะทำเพื่อตัวเอง แต่จะมุ่งเน้นการกระทำเพื่อส่วนรวมโดยผ่ายเดียว
...ซึ่งการการกระทำอาจมีรูปแบบที่ต่างกัน บางท่านก็เปิดสำนักสอน บางท่านก็เขียนหนังสือ ฯลฯ ตามกำลังที่มีอยู่ของท่าน
...ทานที่ท่านนร่วมกันสร้างสถานปฏิบัติธรรม หรือที่ท่านได้ถวายกับพระอริยะ จึงมีอานิสงค์สูงสุด
...เพราะทานที่ท่านได้กระทำ แล้วสามารถนำไปสู่ การปล่อยวาง การคลายควมมยึดมั่นถือมั่น ของคนได้ ท่านเหล่านั้นก็จะสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม และประเทศชาติ ได้มหาศาล อย่างไม่มีจำกัด ต่อไป
บทความโดย : วิถีแห่งสายลม
(หากท่านเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ท่านสามารถแชร์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตครับ)