ชวนศึกษา โครงสร้าง กระบวนการยกร่างรธน. และสาระสำคัญของ ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557

โครงสร้างองค์กรตามรัฐธรรมนูญ






กระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญ







ตารางเปรียบเทียบหลักการและสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ และธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๓๔













สรุปสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗



๑. พระมหากษัตริย์

- บทบัญญัติของหมวด ๒ พระมหากษัตริย์ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ยังคงใช้บังคับอยู่ต่อไป

- ทรงใช้อำนาจอธิปไตยทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี และศาล

- ทรงมีพระราชอำนาจในการแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ

- ทรงมีพระราชอำนาจในการยับยั้งร่างกฎหมายและร่างรัฐธรรมนูญ

- ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการตราพระราชกำหนดและพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ ทำหนังสือสัญญากับนานาประเทศ และแต่งตั้งข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ

- ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการอื่นตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

๒. คณะองคมนตรี

- เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในหมวด ๒ พระมหากษัตริย์ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ซึ่งยังคงใช้บังคับอยู่ต่อไป

๓. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

- สมาชิกจำนวนไม่เกิน ๒๒๐ คน

- หัวหน้า คสช. คัดเลือกจากบุคคลภาคส่วนต่างๆ แล้วนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงแต่งตั้ง

- สมาชิกต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิดและมีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปี รวมทั้งต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนด เช่น ต้องไม่ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองภายในเวลาสามปีก่อนวันที่ได้รับการแต่งตั้ง

- จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หรือสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติในขณะเดียวกันไม่ได้

- สมาชิก สนช. ไม่น้อยกว่า ๒๕ คน มีสิทธิเสนอร่างพระราชบัญญัติ

๔. คณะรัฐมนตรี

- ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีหนึ่งคน และรัฐมนตรีอื่นอีกจำนวนไม่เกิน ๓๕ คน

- พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามมติของ สนช. แต่งตั้งรัฐมนตรีตามคำแนะนำของนายกรัฐมนตรี

- คณะรัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ก่อนเข้ารับหน้าที่

- นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งตามมติของ สนช. ที่เสนอโดย คสช.

- นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิด มีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปี และสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า รวมทั้งต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนด เช่น ต้องไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองหรือดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองภายในเวลาสามปีก่อนวันที่ได้รับการแต่งตั้ง

- นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต้องไม่เป็นสมาชิก สนช. สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กรรมาธิการ
ยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น

๕. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

- ประกอบด้วยบุคคลตามประกาศ คสช. ฉบับที่ ๖/๒๕๕๗

- ในกรณีจำเป็น สามารถเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมผู้ดำรงตำแหน่งใน คสช. ได้ แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน ๑๕ คน และสามารถกำหนดให้หน่วยงานใดทำหน้าที่หน่วยธุรการของ คสช. ได้ตามที่เห็นสมควร

- สามารถแจ้งให้ ครม. ทราบ เพื่อดำเนินการใดๆ ที่เห็นสมควรได้

- ก่อนที่ ครม. จะเข้ารับหน้าที่ อำนาจของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเป็นของหัวหน้า คสช.

- ในกรณีจำเป็น เช่น เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูป เพื่อความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคง หัวหน้า คสช. โดยความเห็นชอบของ คสช. มีอำนาจสั่งการ ระงับยับยั้ง หรือกระทำการใดๆ ได้ และให้ถือว่าการนั้นชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ และเป็นที่สุด แต่ให้รายงานให้ประธาน สนช. และนายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว

๖. สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)

- ประกอบด้วยสมาชิก จำนวนไม่เกิน ๒๕๐ คน ซึ่ง คสช. คัดเลือกจากรายชื่อที่คณะกรรมการ
สรรหาเสนอ โดยในจำนวนนี้ให้คัดเลือกจากบุคคลที่คณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัดเสนอ จังหวัดละหนึ่งคน

- สมาชิกต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิดและมีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปี รวมทั้งต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนด เช่น ต้องไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

- ให้มีคณะกรรมการสรรหาบุคคลด้านต่าง ๆ ๑๑ คณะ และให้มีคณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัด ๆ ละ ๑ คณะ เพื่อสรรหาจากบุคคลซึ่งมีภูมิลำเนาในจังหวัดนั้น ๆ

- รายละเอียดกระบวนการสรรหาและคัดเลือกเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา

- อำนาจหน้าที่ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ

(๑) จัดทำแนวทางและข้อเสนอการปฏิรูปประเทศในด้านต่าง ๆ เพื่อเสนอ สนช. ครม. คสช. หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง และถ้าเห็นว่าจำเป็นต้องตรากฎหมาย ก็เสนอร่างกฎหมายนั้นต่อ สนช. หรือ ครม. ได้ด้วย

(๒) เสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ

(๓) พิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
จัดทำขึ้น

- ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการในรัฐธรรมนูญฉบับถาวร

๗. คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ

- ประกอบด้วยกรรมาธิการ จำนวน ๓๖ คน ดังนี้

(๑) ประธานกรรมาธิการตามที่ คสช. เสนอ

(๒) กรรมาธิการ จำนวน ๒๐ คน ตามที่สภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ

(๓) กรรมาธิการตามที่ สนช. ครม. และ คสช. เสนอฝ่ายละ ๕ คน

- ต้องไม่เป็นสมาชิกและไม่ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองภายในเวลาสามปีก่อนวันที่ได้รับ
การแต่งตั้ง

- ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติต้องแต่งตั้งกรรมาธิการฯ ให้แล้วเสร็จภายใน ๑๕ วันนับแต่วันที่มีการเรียกประชุมสภาปฏิรูปฯ เป็นครั้งแรก

- ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองภายในสองปีนับแต่วันที่พ้นจากการเป็นกรรมาธิการยกร่างฯ

- ต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน ๑๒๐ วัน ถ้าทำไม่เสร็จต้องพ้นจากตำแหน่งและ
จะกลับมาเป็นอีกไม่ได้

๘. กระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญ

- ให้สภาปฏิรูปฯ ส่งความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการยกร่างฯ ภายใน ๖๐ วัน
นับแต่วันที่มีการเรียกประชุมสภาปฏิรูปฯ เป็นครั้งแรก

- คณะกรรมาธิการยกร่างฯ ต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน ๑๒๐ วันนับแต่วันที่ได้รับความเห็นหรือข้อเสนอแนะของสภาปฏิรูปฯ

- คณะกรรมาธิการยกร่างฯ ต้องส่งร่างรัฐธรรมนูญที่จัดทำเสร็จแล้วให้สภาปฏิรูปฯ ครม. และ คสช.

- สภาปฏิรูปฯ มีเวลาพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ๑๐ วัน แล้วมีเวลายื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมภายใน ๓๐ วัน  ครม. หรือ คสช. ก็สามารถเสนอความเห็นหรือยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมได้ภายใน ๓๐ วัน

- คณะกรรมาธิการยกร่างฯ ต้องพิจารณาคำขอแก้ไขเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน

- สภาปฏิรูปฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับภายใน ๑๕ วัน

- กรณีเห็นชอบ ให้ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาตินำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย และเมื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและใช้บังคับได้

- รวมระยะเวลาทั้งสิ้น ประมาณ ๑๐ เดือน นับแต่วันที่สภาปฏิรูปฯ เริ่มประชุมครั้งแรก

- กรณีสภาปฏิรูปฯ ไม่เห็นชอบหรือพิจารณาไม่แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนด หรือพระมหากษัตริย์ไม่เห็นชอบด้วย ร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นอันตกไป และต้องแต่งตั้งสภาปฏิรูปฯ และคณะกรรมาธิการฯ ชุดใหม่ขึ้นมาแทน โดยที่คนเดิมจะกลับมาเป็นอีกไม่ได้

- กรณีคณะกรรมาธิการฯ ยกร่างไม่แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด ให้แต่งตั้งกรรมาธิการชุดใหม่ขึ้นมาแทนภายใน ๑๕ วัน โดยที่คนเดิมจะกลับมาเป็นอีกไม่ได้

๙. อื่นๆ

- ครม. และ คสช. สามารถร่วมกันเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) นี้ ต่อ สนช. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิก สนช. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่

- ให้บรรดาประกาศและคำสั่ง คสช. ที่มีระหว่างวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ จนถึงวันที่ ครม. เข้ารับหน้าที่ รวมทั้งการกระทำตามประกาศและคำสั่งดังกล่าว ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ และเป็นที่สุด และให้บรรดาประกาศและคำสั่ง คสช. ที่ยังใช้บังคับอยู่มีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิก

- นิรโทษกรรมให้แก่บรรดาการกระทำทั้งหลายของหัวหน้าและ คสช. รวมทั้งบุคคลต่าง ๆ ซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน ไม่ว่าจะกระทำในวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ก่อนวันนั้น หรือหลังจากวันนั้น ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง

ที่มา เพจ Thailand Newswire
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่