สวัสดี ครับท่านผู้อ่านทุกท่าน สิ่งที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ ที่ผมเรียกได้ว่าเป็นการเจอช้างเผือก ในสถานที่อันไม่น่าจะพบเห็นมากที่สุดครับ มันเป็นความบังเอิญ ที่ผมไม่มีวันลืม กับความอร่อยที่สุดในชีวิตก็ว่าได้
เพราะความหิว บวกกับความไม่คุ้นเคยทาง ผมต้องเดินทางมาจังหวัดร้อยเอ็ดกับครอบครัว ระหว่างทางจากบ้านไผ่ ผ่าน อ พล มาร้อยเอ็ด ผมไม่แวะกินอะไรเลย เพราะเพื่อนพ่อบอกว่าได้เตรียมอาหารไว้ให้แล้ว แต่ปรากฏว่า ผมไม่สามารถกินอาหารเหล่านั้นได้ จะว่าผมเป็นคนดัดจริตก็ยอม แต่ผมกินไม่เป็นจริงๆ
ผมกับแม่ออกตระเวนหาร้านอาหารกิน
ผมนั่งรถออกมาจากเมืองร้อยเอ็ด ตาม ถ เทวาภิบาล เจอแยก ไปมหาสารคาม ผมเลี้ยวขวาเข้าบายพาส กะตระเวนหาร้านรอบเมืองร้อยเอ็ด เจอร้านแพดินดำ หลังเลี้ยวขวาได้ประมาณ 200 เมตร
"แพดินดำ"
บรรยากาศร้านเงียบสงบอย่างแรง ไม่มีรถจอดสักคัน เวลานั้นประมาณ 16.00 ฝนตกปรอยปรอย แม่ผมบอกว่า ไม่ไหวแล้ว กินก่อนเถอะลูก ไปมหาสารคาม ถึงจะรู้จักร้านก็ไกล เอามันร้านนี้แหละ
ครับ ลูกที่ดีต้องเชื่อแม่
ผมจอดรถทันที จอดอยู่คันเดียวนั่นแหละ ผมลงจากรถ มีมหาตัวบักควายวิ่งมาต้อนรับผมด้วยท่าทางแจ่มใส เสมือนไม่เคยเห็นคนมาหลายชั่วโมง มันมากระโดดดุ๊กดิ๊ก เป็นมิตรน่ารักดี ผมเข้าไปในร้าน ต้องบอกว่า ร้านนี้ ตกแต่งใช้ได้เลยทีเดียว ดูสะอาดตา ใช้เครื่องไม้เป็นเฟอร์นิเจอร์หลัก แต่ช่างเถอะ ผมหิวมาก
สักพักเด็กเสิร์ฟรีบกุลีกุจรเอาเมนูมาให้ผม ผมบรรจงสั่งกุ้งเผา จิ้มจุ่มรวม ข้าวผัดจานกลางมาซัลโวกับหม่ามี้ทันที
ระหว่างรออาหาร หมาน้อยวิ่งมาเล่นด้วยตลอด ก็ลูบหัว ลูบตัวมันไป ในใจจะกินมันแทนข้างอยู่แล้ว
สักพักจิ้มจุ่มก็มา ดูภาพลักษณ์ก็ไม่แตกต่างจากที่อื่น แต่พอได้ทาน เสมือนขึ้นสวรรค์
เนื้อที่นี่หมักด้วยอะไรไม่ไม่รู้ แต่นุ่มมาก ทว่าทีเด็ดมหากาฬอยู่ที่น้ำซุปจิ้มจุ่ม เพราะมันทำจากน้ำมะพร้าว และมีเนื้อมะพร้าวอยู่ภายใน ผสมด้วยเครื่องเทศแบบลาว จิ้มจิ่มที่นี่ไม่เปลี้ยวออกหวาน หอมกลิ่นแบบอีสาน สุโค่ยยยยยยยยยยยยย มาก
ยิ่งเวลาได้ซดน้ำ ต้องบอกว่านี่คือนิยามของคำว่า
"กลมกล่อม"
คือมันไม่ใช่เปรี้ยวๆ หวานๆ แบบที่เราเคยกิน แต่มันจะหวานๆ มันๆ และลงตัวมาก ขณะที่ผมกำลังโจ๊ะพรึมกับจิ้มจุ่ม ปรากฏว่ากุ้งก็มา
กุ้งมาแล้วววววววววววววววววววววว
จะกุ้งที่ไหน รสชาติก็เหมือนกันหมด แต่ที่นี่มีของดีระดับโอท่อป 5 ดาวคือน้ำจิ้ม เพราะมันมาด้วยรสชาติเผ็ดจิ๊ด เปรี้ยวจ๊าดดดดดดดดดดดดดด เมื่อมาผสมกับกุ้งเค็ม ปรากฏว่ามัน "ใช่เลย" ผมกับแม่ซัดกุ้งไปจนหมดจาน น้ำจิ้มต้องเดิมอีก 2 ครั้ง
ส่วนข้าวผัดกินไม่หมด เพราะอิ่มแล้ว รสชาติดี ใช้ได้ ไม่ผิดหวัง
ผมจ่ายค่าเจ็บตัวไปประมาณ 500 บาท เจ้าของร้านมาเก็บตังค์
เจ้าของร้านชื่อคุณโดม (หน้าหยั่งโจร) แต่ใจดีนะครับ
ผมถามว่าทำไมคนน้อยจังครับ แบบนี้อยู่ได้หรอ เขาเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนก็คนเยอะกว่านี้ แต่เด๋วนี้คนน้อย ผมถามว่า พี่ทำมานานยัง ทำไมไม่เห็นมีคนรู้จักเลย (จิงๆ คนในจังหวัดอาจจะรู้จักนะ แต่พอดีผมไม่รู้จักไง 555)
เขาบอกว่า ทำมานานแล้ว ร้านเขาเป็นร้านกุ้งเผาเจ้าแรกในจังหวัดร้อยเอ็ดเลย เมื่อก่อนขายที่บ้านดินดำ ตรงน้ำชี (ตรงไหนหว่า ???) คนมาเยอะมาก คนร้อยเอ็ดรู้จักทุกคน (เขาว่านะ) แต่พอดีช่วงปี 45 เจอน้ำท่วม ทำเอาแพแต่เดิมที่เคยรุ่งเรืองต้องปิดกิจการไป เพราะโดนน้ำซัด กระชังแตก แพล่ม เขาก็เลยเอาเงินเก็บไปทำอย่างอื่น เพราะทำร้านอาหารมันเหนื่อย ทั้งเปิดอู่ ทำปั๊ม แต่ว่าไปไม่รอด สุดท้ายช่วงปี 53 ก็เลยกลับมาเปิดอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ มันก็ไม่เฟื่องฟูเหมือนเดิมแล้ว เพราะมีคู่แข่ง ซึ่งได้ทำเลในเมือง ส่วนเขาต้องอยู่นอกเมือง (ขับออกจากเมือง 15 นาที เขาเรียกว่านอกเมืองแล้ว โอ้วววว)
ผมเชื่อในสิ่งที่เขาพูด โดยเฉพาะที่บอกว่าเขาเป็นเจ้าแรกของร้อยเอ็ด เพราะในร้านมีภาพสมัยร้านเขายังรุ่งเรืองเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ต้องบอกว่าในภาพแพดินดำ มีดารา นักการเมือง ชื่อดังในยุคนั้น อัดกันอยู่เพียบ แสดงว่าเคยเกรียงไกรจริงๆ ยิ่งกว่านั้น ความเก๋าของร้านยังได้รับการพิสูจน์ผ่านรสชาติ
ผมว่านี่แหละร้านกุ้งเผาของจริง ดูเหมือนว่า ทุกอย่างจะขับเน้นรสชาติของกุ้งให้อร่อยมากยิ่งขึ้น และไม่สามารถหาลิ้มลองได้ที่ไหนอีก
บอกกันตามตรง ด้วยราคาแบบนี้ มันไม่แพงเลยที่จะลอง
"แพดินดำ" โคตรประทับใจ อั้ยย่ะ
เบอร์ของร้าน 0828557980
อ่าว เคยออกทีวีด้วย สงสัยร้านจะมีชื่อ แต่ผมไม่รู้จัก
http://www.youtube.com/watch?v=Ep2keQI1Eec&wide
[CR] แพดินดำ ร้านอาหารอร่อยต้องแนะนำ จังหวัดหวัดร้อยเอ็ด
เพราะความหิว บวกกับความไม่คุ้นเคยทาง ผมต้องเดินทางมาจังหวัดร้อยเอ็ดกับครอบครัว ระหว่างทางจากบ้านไผ่ ผ่าน อ พล มาร้อยเอ็ด ผมไม่แวะกินอะไรเลย เพราะเพื่อนพ่อบอกว่าได้เตรียมอาหารไว้ให้แล้ว แต่ปรากฏว่า ผมไม่สามารถกินอาหารเหล่านั้นได้ จะว่าผมเป็นคนดัดจริตก็ยอม แต่ผมกินไม่เป็นจริงๆ
ผมกับแม่ออกตระเวนหาร้านอาหารกิน
ผมนั่งรถออกมาจากเมืองร้อยเอ็ด ตาม ถ เทวาภิบาล เจอแยก ไปมหาสารคาม ผมเลี้ยวขวาเข้าบายพาส กะตระเวนหาร้านรอบเมืองร้อยเอ็ด เจอร้านแพดินดำ หลังเลี้ยวขวาได้ประมาณ 200 เมตร
"แพดินดำ"
บรรยากาศร้านเงียบสงบอย่างแรง ไม่มีรถจอดสักคัน เวลานั้นประมาณ 16.00 ฝนตกปรอยปรอย แม่ผมบอกว่า ไม่ไหวแล้ว กินก่อนเถอะลูก ไปมหาสารคาม ถึงจะรู้จักร้านก็ไกล เอามันร้านนี้แหละ
ครับ ลูกที่ดีต้องเชื่อแม่
ผมจอดรถทันที จอดอยู่คันเดียวนั่นแหละ ผมลงจากรถ มีมหาตัวบักควายวิ่งมาต้อนรับผมด้วยท่าทางแจ่มใส เสมือนไม่เคยเห็นคนมาหลายชั่วโมง มันมากระโดดดุ๊กดิ๊ก เป็นมิตรน่ารักดี ผมเข้าไปในร้าน ต้องบอกว่า ร้านนี้ ตกแต่งใช้ได้เลยทีเดียว ดูสะอาดตา ใช้เครื่องไม้เป็นเฟอร์นิเจอร์หลัก แต่ช่างเถอะ ผมหิวมาก
สักพักเด็กเสิร์ฟรีบกุลีกุจรเอาเมนูมาให้ผม ผมบรรจงสั่งกุ้งเผา จิ้มจุ่มรวม ข้าวผัดจานกลางมาซัลโวกับหม่ามี้ทันที
ระหว่างรออาหาร หมาน้อยวิ่งมาเล่นด้วยตลอด ก็ลูบหัว ลูบตัวมันไป ในใจจะกินมันแทนข้างอยู่แล้ว
สักพักจิ้มจุ่มก็มา ดูภาพลักษณ์ก็ไม่แตกต่างจากที่อื่น แต่พอได้ทาน เสมือนขึ้นสวรรค์
เนื้อที่นี่หมักด้วยอะไรไม่ไม่รู้ แต่นุ่มมาก ทว่าทีเด็ดมหากาฬอยู่ที่น้ำซุปจิ้มจุ่ม เพราะมันทำจากน้ำมะพร้าว และมีเนื้อมะพร้าวอยู่ภายใน ผสมด้วยเครื่องเทศแบบลาว จิ้มจิ่มที่นี่ไม่เปลี้ยวออกหวาน หอมกลิ่นแบบอีสาน สุโค่ยยยยยยยยยยยยย มาก
ยิ่งเวลาได้ซดน้ำ ต้องบอกว่านี่คือนิยามของคำว่า
"กลมกล่อม"
คือมันไม่ใช่เปรี้ยวๆ หวานๆ แบบที่เราเคยกิน แต่มันจะหวานๆ มันๆ และลงตัวมาก ขณะที่ผมกำลังโจ๊ะพรึมกับจิ้มจุ่ม ปรากฏว่ากุ้งก็มา
กุ้งมาแล้วววววววววววววววววววววว
จะกุ้งที่ไหน รสชาติก็เหมือนกันหมด แต่ที่นี่มีของดีระดับโอท่อป 5 ดาวคือน้ำจิ้ม เพราะมันมาด้วยรสชาติเผ็ดจิ๊ด เปรี้ยวจ๊าดดดดดดดดดดดดดด เมื่อมาผสมกับกุ้งเค็ม ปรากฏว่ามัน "ใช่เลย" ผมกับแม่ซัดกุ้งไปจนหมดจาน น้ำจิ้มต้องเดิมอีก 2 ครั้ง
ส่วนข้าวผัดกินไม่หมด เพราะอิ่มแล้ว รสชาติดี ใช้ได้ ไม่ผิดหวัง
ผมจ่ายค่าเจ็บตัวไปประมาณ 500 บาท เจ้าของร้านมาเก็บตังค์
เจ้าของร้านชื่อคุณโดม (หน้าหยั่งโจร) แต่ใจดีนะครับ
ผมถามว่าทำไมคนน้อยจังครับ แบบนี้อยู่ได้หรอ เขาเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนก็คนเยอะกว่านี้ แต่เด๋วนี้คนน้อย ผมถามว่า พี่ทำมานานยัง ทำไมไม่เห็นมีคนรู้จักเลย (จิงๆ คนในจังหวัดอาจจะรู้จักนะ แต่พอดีผมไม่รู้จักไง 555)
เขาบอกว่า ทำมานานแล้ว ร้านเขาเป็นร้านกุ้งเผาเจ้าแรกในจังหวัดร้อยเอ็ดเลย เมื่อก่อนขายที่บ้านดินดำ ตรงน้ำชี (ตรงไหนหว่า ???) คนมาเยอะมาก คนร้อยเอ็ดรู้จักทุกคน (เขาว่านะ) แต่พอดีช่วงปี 45 เจอน้ำท่วม ทำเอาแพแต่เดิมที่เคยรุ่งเรืองต้องปิดกิจการไป เพราะโดนน้ำซัด กระชังแตก แพล่ม เขาก็เลยเอาเงินเก็บไปทำอย่างอื่น เพราะทำร้านอาหารมันเหนื่อย ทั้งเปิดอู่ ทำปั๊ม แต่ว่าไปไม่รอด สุดท้ายช่วงปี 53 ก็เลยกลับมาเปิดอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ มันก็ไม่เฟื่องฟูเหมือนเดิมแล้ว เพราะมีคู่แข่ง ซึ่งได้ทำเลในเมือง ส่วนเขาต้องอยู่นอกเมือง (ขับออกจากเมือง 15 นาที เขาเรียกว่านอกเมืองแล้ว โอ้วววว)
ผมเชื่อในสิ่งที่เขาพูด โดยเฉพาะที่บอกว่าเขาเป็นเจ้าแรกของร้อยเอ็ด เพราะในร้านมีภาพสมัยร้านเขายังรุ่งเรืองเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ต้องบอกว่าในภาพแพดินดำ มีดารา นักการเมือง ชื่อดังในยุคนั้น อัดกันอยู่เพียบ แสดงว่าเคยเกรียงไกรจริงๆ ยิ่งกว่านั้น ความเก๋าของร้านยังได้รับการพิสูจน์ผ่านรสชาติ
ผมว่านี่แหละร้านกุ้งเผาของจริง ดูเหมือนว่า ทุกอย่างจะขับเน้นรสชาติของกุ้งให้อร่อยมากยิ่งขึ้น และไม่สามารถหาลิ้มลองได้ที่ไหนอีก
บอกกันตามตรง ด้วยราคาแบบนี้ มันไม่แพงเลยที่จะลอง
"แพดินดำ" โคตรประทับใจ อั้ยย่ะ
เบอร์ของร้าน 0828557980
อ่าว เคยออกทีวีด้วย สงสัยร้านจะมีชื่อ แต่ผมไม่รู้จัก
http://www.youtube.com/watch?v=Ep2keQI1Eec&wide