โดย ทีมข่าวหน้า 1 20 ก.ค. 2557 06:12
ลิ้งค์ข่าว
https://www.thairath.co.th/content/437527
หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ แถลงตั้งข้อสังเกตการพิจารณาคดีโครงการรับจำนำข้าวของ ป.ป.ช. เป็นสองมาตรฐาน ไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหา ล่าสุดนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. ออกมาตอบโต้พร้อมยืนยันว่าดูหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
“ปานเทพ” โต้ข้อหารวบรัดปิดคดี
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ป.ป.ช.ไม่ให้ความเป็นธรรม เร่งรีบรวบรัดลงมติชี้มูลความผิดโครงการรับจำนำข้าว ว่า ยืนยันว่า ป.ป.ช.พิจารณาตัดสินคดีตามพยานหลักฐานที่มีอยู่อย่างครบถ้วน ใช้เวลาพิจารณานานพอสมควร ไม่ได้เร่งรีบรวบรัด หรือสองมาตรฐานตามข้อสังเกตของอดีตนายกฯ ส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า ป.ป.ช.ฟังความข้างเดียว ไม่รับฟังพยานของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหานั้น เหตุผลที่ ป.ป.ช.ตัดพยานบางส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากเห็นเป็นพยานที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นที่ ป.ป.ช.ไต่สวน ยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่แล้ว
ย้ำ 2 สัปดาห์สำนวนถึงมือ อสส.
นายปานเทพกล่าวอีกว่า คาดว่าอีก 2 สัปดาห์จะส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่าจะมีความเห็นส่งฟ้องหรือไม่ หากอัยการสูงสุดมีความเห็นแย้ง กับ ป.ป.ช. คงต้องตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุดกับ ป.ป.ช. ขึ้นมาพิจารณาสำนวนร่วมกัน แต่จะไม่ประสานกับอัยการสูงสุดเพื่อร้องขอไม่ให้
น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางออกนอกประเทศ เพราะไม่ใช่ หน้าที่ของ ป.ป.ช. แต่เป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุดที่จะพิจารณา ขณะนี้การทำงานของ ป.ป.ช.ถือว่าหมดหน้าที่แล้ว
ขอมติ ป.ป.ช.ออกหนังสือโต้แย้ง
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ป.ป.ช. ไม่ให้ความเป็นธรรมในคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า ยังไม่สามารถชี้แจงอะไรได้ เกรงจะเป็นการตอบโต้กัน สร้างความแตกแยก กลายเป็นการขัดคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ผ่านมา ป.ป.ช. เคยชี้แจงสิ่งที่อดีตนายกฯตั้งข้อสังเกตไปแล้วหลายรอบ ดังนั้นครั้งนี้จะทำหนังสือเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. วันที่ 22 ก.ค. ให้ทราบถึงเนื้อหา ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์โต้แย้งการตัดสินคดีรับจำนำข้าวของ ป.ป.ช.ทั้ง 7 ข้อ ให้ที่ประชุม ป.ป.ช.ออกเป็นเอกสารข่าวชี้แจง เพื่อทำความเข้าใจต่อสาธารณชนต่อไป
“จุรินทร์” ตามแห่ไม่แก้ข้อเท็จจริง
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าคำแถลงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำให้สังคมเห็นเสมือนว่าถูกกลั่นแกล้ง แต่ ไม่ได้แถลงปฏิเสธถึงเหตุแห่งการชี้มูล 6 ข้อของ ป.ป.ช. ว่าไม่จริง อย่างไร ความจริงหาก ป.ป.ช.ทำคดีล่าช้าย่อมถูกตำหนิได้ แต่ถ้าดำเนินคดีได้รวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อพบการกระทำความผิดแล้ว จะให้ถ่วงเวลาจัดการกับการทุจริตและคนที่สร้างความเสียหายมหาศาลกับประเทศไปทำไม ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์มั่นใจว่าตัวเอง ไม่ผิดก็จะเป็นหนทางให้ได้รีบพิสูจน์ตัวเอง กรณีนี้เชื่อว่าคนทั้งประเทศเขารู้กันหมด ว่าทำประเทศชาติเสียหายขนาดไหน สัญญาขายข้าวทุกฉบับที่ไม่ยอมเปิดเผยก็เพราะโกง
จับตาตอนจบกระบวนการยุติธรรม
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะอ้างไม่รู้ไม่ได้ เพราะพูดกันทั้งในสภาฯ นอกสภาฯ คน ไทยได้ยินกันทั้งประเทศ จะอ้างว่าไม่รู้อยู่คนเดียวได้หรือ ป.ป.ช.จึงมีมติว่าการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ยอมระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ปล่อยให้โกงให้กินกันจนประเทศเสียหายยับเยิน คือการละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่ในฐานะนายกฯ ผู้เป็นทั้งเจ้าของนโยบายและ ผู้มีอำนาจสูงสุด ที่จะสั่งระงับความเสียหายได้แต่กลับไม่ทำ จึงเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 157 และกฎหมาย ป.ป.ช. เชื่อว่าเรื่องนี้คนทั้งประเทศจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า สุดท้ายกระบวนการยุติธรรมจะช่วยเยียวยาความเสียหายให้กับประเทศอย่างไร
**ไม่มีผิด ปชป.ก็ต้องเสนอหน้าออกมาพูด ออกมาแจม ตามระเบียบ **
โต้เป็นธรรมแล้ว ปปช.แจง เปล่าเร่งรวบรัด
ลิ้งค์ข่าว https://www.thairath.co.th/content/437527
หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ แถลงตั้งข้อสังเกตการพิจารณาคดีโครงการรับจำนำข้าวของ ป.ป.ช. เป็นสองมาตรฐาน ไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหา ล่าสุดนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. ออกมาตอบโต้พร้อมยืนยันว่าดูหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
“ปานเทพ” โต้ข้อหารวบรัดปิดคดี
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ป.ป.ช.ไม่ให้ความเป็นธรรม เร่งรีบรวบรัดลงมติชี้มูลความผิดโครงการรับจำนำข้าว ว่า ยืนยันว่า ป.ป.ช.พิจารณาตัดสินคดีตามพยานหลักฐานที่มีอยู่อย่างครบถ้วน ใช้เวลาพิจารณานานพอสมควร ไม่ได้เร่งรีบรวบรัด หรือสองมาตรฐานตามข้อสังเกตของอดีตนายกฯ ส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า ป.ป.ช.ฟังความข้างเดียว ไม่รับฟังพยานของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหานั้น เหตุผลที่ ป.ป.ช.ตัดพยานบางส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากเห็นเป็นพยานที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นที่ ป.ป.ช.ไต่สวน ยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่แล้ว
ย้ำ 2 สัปดาห์สำนวนถึงมือ อสส.
นายปานเทพกล่าวอีกว่า คาดว่าอีก 2 สัปดาห์จะส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่าจะมีความเห็นส่งฟ้องหรือไม่ หากอัยการสูงสุดมีความเห็นแย้ง กับ ป.ป.ช. คงต้องตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุดกับ ป.ป.ช. ขึ้นมาพิจารณาสำนวนร่วมกัน แต่จะไม่ประสานกับอัยการสูงสุดเพื่อร้องขอไม่ให้
น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางออกนอกประเทศ เพราะไม่ใช่ หน้าที่ของ ป.ป.ช. แต่เป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุดที่จะพิจารณา ขณะนี้การทำงานของ ป.ป.ช.ถือว่าหมดหน้าที่แล้ว
ขอมติ ป.ป.ช.ออกหนังสือโต้แย้ง
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ป.ป.ช. ไม่ให้ความเป็นธรรมในคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า ยังไม่สามารถชี้แจงอะไรได้ เกรงจะเป็นการตอบโต้กัน สร้างความแตกแยก กลายเป็นการขัดคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ผ่านมา ป.ป.ช. เคยชี้แจงสิ่งที่อดีตนายกฯตั้งข้อสังเกตไปแล้วหลายรอบ ดังนั้นครั้งนี้จะทำหนังสือเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. วันที่ 22 ก.ค. ให้ทราบถึงเนื้อหา ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์โต้แย้งการตัดสินคดีรับจำนำข้าวของ ป.ป.ช.ทั้ง 7 ข้อ ให้ที่ประชุม ป.ป.ช.ออกเป็นเอกสารข่าวชี้แจง เพื่อทำความเข้าใจต่อสาธารณชนต่อไป
“จุรินทร์” ตามแห่ไม่แก้ข้อเท็จจริง
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าคำแถลงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำให้สังคมเห็นเสมือนว่าถูกกลั่นแกล้ง แต่ ไม่ได้แถลงปฏิเสธถึงเหตุแห่งการชี้มูล 6 ข้อของ ป.ป.ช. ว่าไม่จริง อย่างไร ความจริงหาก ป.ป.ช.ทำคดีล่าช้าย่อมถูกตำหนิได้ แต่ถ้าดำเนินคดีได้รวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อพบการกระทำความผิดแล้ว จะให้ถ่วงเวลาจัดการกับการทุจริตและคนที่สร้างความเสียหายมหาศาลกับประเทศไปทำไม ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์มั่นใจว่าตัวเอง ไม่ผิดก็จะเป็นหนทางให้ได้รีบพิสูจน์ตัวเอง กรณีนี้เชื่อว่าคนทั้งประเทศเขารู้กันหมด ว่าทำประเทศชาติเสียหายขนาดไหน สัญญาขายข้าวทุกฉบับที่ไม่ยอมเปิดเผยก็เพราะโกง
จับตาตอนจบกระบวนการยุติธรรม
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะอ้างไม่รู้ไม่ได้ เพราะพูดกันทั้งในสภาฯ นอกสภาฯ คน ไทยได้ยินกันทั้งประเทศ จะอ้างว่าไม่รู้อยู่คนเดียวได้หรือ ป.ป.ช.จึงมีมติว่าการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ยอมระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ปล่อยให้โกงให้กินกันจนประเทศเสียหายยับเยิน คือการละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่ในฐานะนายกฯ ผู้เป็นทั้งเจ้าของนโยบายและ ผู้มีอำนาจสูงสุด ที่จะสั่งระงับความเสียหายได้แต่กลับไม่ทำ จึงเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 157 และกฎหมาย ป.ป.ช. เชื่อว่าเรื่องนี้คนทั้งประเทศจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า สุดท้ายกระบวนการยุติธรรมจะช่วยเยียวยาความเสียหายให้กับประเทศอย่างไร
**ไม่มีผิด ปชป.ก็ต้องเสนอหน้าออกมาพูด ออกมาแจม ตามระเบียบ **