ลักษณะธุรกิจ
ดำเนินธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน ได้แก่ สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ สถานีวิทยุกระจายเสียง และสำนักข่าวไทย โดยบริษัทย่อยเป็นผู้ผลิตรายการ สารคดีโทรทัศน์ และประกอบกิจการด้านบันเทิงทุกประเภท นอกจากนั้นบริษัทยังร่วมดำเนินกิจการกับผู้ประกอบการเอกชนในรูปของสัญญาร่วมดำเนินกิจการ ได้แก่ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีสี ช่อง 3 และกลุ่มบริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิก True Visions
ราคา Par
เนื่องจาก Mcot มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็นจำนวน 3,435,496,050 บาท
ราคา Par ที่ตราไว้คือ 5 บาท
ดังนั้น จำนวนหุ้นทั้งหมด = 3,435,496,050 / 5 = 687,099,210 หุ้น
เพราะฉะนั้น ถ้า MCOT มีกำไรเท่าไหร่ให้นำจำนวนหุ้น 687,099,210 หุ้น ไปหารก็จะได้กำไรต่อหุ้นออกมานะครับ (EPS)
ด้านผู้ถือหุ้นรายใหญ่
จะเห็นว่า
อันดับ 1 ถือโดยกระทรวงการคลัง 65.80% และ อันดับ 2. ถือโดยธนาคารออมสิน 11.48%
และเมื่อน้องสี่ไปค้นข้อมูลสัดส่วนการถือหุ้นย้อนหลัง ได้ข้อมูลมาดังนี้ครับ
จะเห็นว่าในปี 2004 กระทรวงการคลังถือหุ้น 77.28%
และในปี 2014 (ปัจจุบัน) กระทรวงการคลังถือหุ้นลดลงเหลือ 65.80%
แต่จริงๆ แล้วกระทรวงการคลังยังถือหุ้นเท่าเดิม แค่แบ่งสัดส่วนการถือหุ้นไปให้ออมสิน 11.48% ครับ
ดังนั้น สรุปการถือหุ้นโดยรวมของทางกระทรวงการคลัง ก็ยังคงถือหุ้นในสัดส่วนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงครับผม
ในด้านของงบการเงิน
1. รายได้และกำไรของ MCOT ลดลดใน Q1 ค่อนข้างมีนัยสำคัญ คือลดลงไปประมาณ 50%
ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้น น้องสี่ไปหาสาเหตุที่มาได้ดังนี้ครับ
ดังนั้นจากสาเหตุหลักๆ เบื้องต้นที่รายได้ลดลงส่วนใหญ่มาจากการชะลอตัวของภาคการโฆษณาในภาคเอกชนและภาครัฐบาล
และในช่วงนั้นเกิดสถานการณ์ไม่ค่อยสงบในประเทศ ซึ่งทำให้การบริโภคในส่วนนี้ลดลงครับ
เพราะฉะนั้นแล้ว
หากมองในส่วนของรายได้และกำไรของ MCOT ในไตรมาสที่ 1 และที่ 2 อาจจะออกมาไม่ดีนัก เนื่องจากเหตุผลข้างต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองถึงในสถานการณ์ปัจจุบัน ปีนี้ก็อาจจะเป็นเป็นปีที่อุตสาหกรรมสื่อและสิ่งพิมพ์อาจเติบโตได้ไม่ดีนัก
แต่น้องสี่คิดว่า ในอนาคตหลังจากเหตุการณ์ในประเทศเริ่มค่อยๆ คลี่คลาย ธุรกิจโฆษณาเหล่านี้ก็น่าจะมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวบ้าง
เพราะถ้าในในปีหน้า 2558 ในไตรมาสที่ 1 และ ไตรมาสที่ 2 ไม่มีปัญหาทางการเมืองแล้ว
น้องสี่คิดว่า กำไรใน Q1 + Q2 ของ 2558 น่าจะดีกว่ากำไรใน Q1 + Q2 ของ 2557 ก็อาจจะเป็นไปได้
และเมื่อถึงวันจริงๆ ราคาก็อาจจะกลับมาสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงอีกครั้งก็เป็นได้ครับ
2. RoA , RoE ค่อนข้างดีครับ (แต่ในช่วง 1 - 2 ปีทีผ่านมานี้ค่อนข้างอ่อนตัวลงครับ)
3. Net Profit Margin ก็ถือว่าทำได้ในอัตราส่วนที่สูงอยู่นะครับประมาณ 25% ครับ
(ในปี 2557 นี้ คาดการณ์ว่า Net Profit Margin น่าจะทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรครับ ซึ่งมาจากภาวะในประเทศในช่วงครึ่งปีแรกครับ)
4. P/E , P/BV ค่อนข้างกลางๆ ครับ แต่หลักๆ ถ้ากำไรปีนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จะทำให้ P/E ปรับตัวสูงขึ้นครับ
(แต่น้องสี่คิดว่า กำไรในปี 2557 ไม่ดีนั้น น่าจะเป็นกำไรที่ลดลงชั่วคราวนะครับ หลักๆ ต้องติดตามในเรื่องของ
TV Digital ด้วยครับ เพราะเริ่มมีหลายช่องทางการรับชมมากขึ้น ดังนั้น รายได้ของ MCOT อาจโดนแบ่งไปทางช่องอื่นได้เช่นกันครับ)
5. Dividend Yield ในช่วงที่ผ่านมานั้น ค่อนข้างจ่ายในอัตราที่สูงนะครับ ประมาณ 4% - 7% ก็ถือว่าใช้ได้ครับ
(เว้นแต่ในปีนี้ และปีถัดๆ ไปให้ประเมินดูผลกระทบจาก TV Digital นะครับ ว่าจะเป็นผล + หรือ ผล - ต่อ MCOT ครับผม)
6. การจ่ายเงินปันผลที่ผ่านมาของ MCOT จ่ายปันผลปีละ 2 ครั้งครับ
ถัดมานะครับ
น้องสี่คิดว่าเพื่อนๆ ต้องแอบสงสัยกันแน่เลยนะครับว่า ทำไมสินทรัพย์รวม กับ หนี้สินรวม เพิ่มขึ้นประมาณ 3000 ล้านบาท
น้องสี่เลยไปเจาะงบการเงิน และนำตัวเลขที่ไปที่มา นำมาให้เพื่อนๆ ดูกันนะครับ
สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นในส่วนของ สินทรัพย์ไม่มีตัวตนครับ จากการประมูลใบอนุญาต TV Digital ครับผม
ส่วนหนี้สิน เพิ่มขึ้นในส่วนของหนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น อันเนื่องมาจากการประมูลใบอนุญาต TV Digital เช่นกันครับผม
จากหัวข้อข่าวของ MCOT เบื้องต้นจะพบว่า มีการลาออกจากกรรมการ + มีเลือกตั้งกรรมการเข้ามาใหม่
ซึ่งในส่วนนี้ น้องสี่ไม่ทราบเหมือนกันว่า จะส่งผล + หรือส่งผล - ต่อ MCOT นะครับ
หลักๆ น้องสี่ให้สถานะในส่วนนี้เป็นกลางๆ (=) ครับผม
ประเมินด้านกราฟนะครับ
กราฟ Day
กราฟ Week
กราฟ Month
หากมองในภาพใหญ่ก่อนนะครับ จะพบว่า MCOT ในภาพ Month
ยังคงเป็นขาลงอยู่ครับ ซึ่งราคาของ MCOT เคยขึ้นสูงไปถึงประมาณ 50 บาทนะครับ และในปัจจุบันเหลือประมาณ 25 บาท
แปลว่า ราคาหุ้นค่อนข้าง Discount ลงมาพอสมควรเลยครับ หากคิดเป็น % ก็ราวๆ 50% ครับ
จากนั้น หากมองในภาพ Week
MCOT ก็ยังคงเป็นขาลงอยู่นะครับ เพราะราคาอยู่ใต้เส้น Moving Average ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีเท่าที่ควรครับ
แต่อย่างไรก็ตาม หากสังเกตทึ่
"ราคาหุ้น กับ MacD" จะพบว่า ราคาลง แต่ MacD เริ่มยกตัวขึ้น
ประกอบกับ RSI เริ่มยกตัวขึ้นในช่วงเดือนมกราคม เทียบกับเดือนปัจจุบัน + Volume ในภาพ Week เริ่มมีปริมาณมากขึ้น
ซึ่งในจุดนี้เองอาจมองได้ว่า เสมือนมีคนกำลังทยอยเก็บหุ้นอยู่ ไม่อยากในหลุดในแนวรับในบริเวณนี้ก็เป็นไปได้ครับ
ซึ่งถ้าไปดูในแนวรับ แนวต้านหลักๆ แล้ว น้องสี่คิดว่า ถ้าราคา MCOT ไม่หลุดที่ 25.50 บาท หรือแถวๆ 24.20 บาท
MCOT ก็อาจจะเป็นหุ้นที่เริ่มน่าสนใจในทางกราฟเทคนิคได้นะครับ
ส่วนแนวต้านหลักๆ น้องสี่มองที่ 27.50 บาท ครับ
ถ้าสามารถผ่านตรงนี้ไปได้ก็อาจจะเริ่มมีมุมมองเชิงบวกต่อ MCOT เพิ่มมากยิ่งขึ้นครับ
หากมองในภาพ Day
จะเห็นว่า ราคาค่อนข้าง Side Way อยู่ในกรอบแคบๆ ครับ แต่จากรูป หากสังเกตตรง Volume (ตรงที่น้องสี่วงกลมไว้นะครับ)
พบว่า ในช่วงวันที่ 9/07/2014 มี Volume เข้าค่อนข้างแรงครับ ซึ่งจุดนี้เองอาจเป็นไปได้ว่า
1. เจ้าเรียกแขก
2. เจ้าปล่อยของ
ซึ่งในส่วนนี้เอง เวลาน่าจะเป็นคำตอบได้ดีที่สุดครับว่า จะเป็นข้อ 1 หรือข้อ 2 นะครับ
โดยรวมแล้วน้องสี่มองงว่า หุ้น MCOT ก็เป็นหุ้นที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่งที่น่าจับตามมองเหมือนกันนะครับ ในจุดที่ว่า
1. กำไรในปี 2557 จะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน?
2. แล้วกำไรในปี 2558 จะฟื้นไหม?
3. TV Digital จะกระทบต่อ MCOT อย่างไร?
4. MCOT จะปรับตัวอย่างไรกับสภาวะการณ์ในช่วงนี้และในอนาคต?
พอเราตั้งคำถาม + ประเมินดูแล้ว ก็เป็นสิ่งที่ค่อนข้างท้าทายหรือ (Challenge) ต่อ MCOT พอสมควรเลยนะครับ
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนและนักลงทุนควรหาความรู้และตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุนนะครับ
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : "ฅนเล่นหุ้น" นะครับ
https://www.facebook.com/StockTrader.Club
Time : 20.00 น.
14. วิเคราะห์หุ้น MCOT : บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
ลักษณะธุรกิจ
ดำเนินธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน ได้แก่ สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ สถานีวิทยุกระจายเสียง และสำนักข่าวไทย โดยบริษัทย่อยเป็นผู้ผลิตรายการ สารคดีโทรทัศน์ และประกอบกิจการด้านบันเทิงทุกประเภท นอกจากนั้นบริษัทยังร่วมดำเนินกิจการกับผู้ประกอบการเอกชนในรูปของสัญญาร่วมดำเนินกิจการ ได้แก่ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีสี ช่อง 3 และกลุ่มบริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิก True Visions
ราคา Par
เนื่องจาก Mcot มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็นจำนวน 3,435,496,050 บาท
ราคา Par ที่ตราไว้คือ 5 บาท
ดังนั้น จำนวนหุ้นทั้งหมด = 3,435,496,050 / 5 = 687,099,210 หุ้น
เพราะฉะนั้น ถ้า MCOT มีกำไรเท่าไหร่ให้นำจำนวนหุ้น 687,099,210 หุ้น ไปหารก็จะได้กำไรต่อหุ้นออกมานะครับ (EPS)
ด้านผู้ถือหุ้นรายใหญ่
จะเห็นว่า
อันดับ 1 ถือโดยกระทรวงการคลัง 65.80% และ อันดับ 2. ถือโดยธนาคารออมสิน 11.48%
และเมื่อน้องสี่ไปค้นข้อมูลสัดส่วนการถือหุ้นย้อนหลัง ได้ข้อมูลมาดังนี้ครับ
จะเห็นว่าในปี 2004 กระทรวงการคลังถือหุ้น 77.28%
และในปี 2014 (ปัจจุบัน) กระทรวงการคลังถือหุ้นลดลงเหลือ 65.80%
แต่จริงๆ แล้วกระทรวงการคลังยังถือหุ้นเท่าเดิม แค่แบ่งสัดส่วนการถือหุ้นไปให้ออมสิน 11.48% ครับ
ดังนั้น สรุปการถือหุ้นโดยรวมของทางกระทรวงการคลัง ก็ยังคงถือหุ้นในสัดส่วนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงครับผม
ในด้านของงบการเงิน
1. รายได้และกำไรของ MCOT ลดลดใน Q1 ค่อนข้างมีนัยสำคัญ คือลดลงไปประมาณ 50%
ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้น น้องสี่ไปหาสาเหตุที่มาได้ดังนี้ครับ
ดังนั้นจากสาเหตุหลักๆ เบื้องต้นที่รายได้ลดลงส่วนใหญ่มาจากการชะลอตัวของภาคการโฆษณาในภาคเอกชนและภาครัฐบาล
และในช่วงนั้นเกิดสถานการณ์ไม่ค่อยสงบในประเทศ ซึ่งทำให้การบริโภคในส่วนนี้ลดลงครับ
เพราะฉะนั้นแล้ว
หากมองในส่วนของรายได้และกำไรของ MCOT ในไตรมาสที่ 1 และที่ 2 อาจจะออกมาไม่ดีนัก เนื่องจากเหตุผลข้างต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองถึงในสถานการณ์ปัจจุบัน ปีนี้ก็อาจจะเป็นเป็นปีที่อุตสาหกรรมสื่อและสิ่งพิมพ์อาจเติบโตได้ไม่ดีนัก
แต่น้องสี่คิดว่า ในอนาคตหลังจากเหตุการณ์ในประเทศเริ่มค่อยๆ คลี่คลาย ธุรกิจโฆษณาเหล่านี้ก็น่าจะมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวบ้าง
เพราะถ้าในในปีหน้า 2558 ในไตรมาสที่ 1 และ ไตรมาสที่ 2 ไม่มีปัญหาทางการเมืองแล้ว
น้องสี่คิดว่า กำไรใน Q1 + Q2 ของ 2558 น่าจะดีกว่ากำไรใน Q1 + Q2 ของ 2557 ก็อาจจะเป็นไปได้
และเมื่อถึงวันจริงๆ ราคาก็อาจจะกลับมาสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงอีกครั้งก็เป็นได้ครับ
2. RoA , RoE ค่อนข้างดีครับ (แต่ในช่วง 1 - 2 ปีทีผ่านมานี้ค่อนข้างอ่อนตัวลงครับ)
3. Net Profit Margin ก็ถือว่าทำได้ในอัตราส่วนที่สูงอยู่นะครับประมาณ 25% ครับ
(ในปี 2557 นี้ คาดการณ์ว่า Net Profit Margin น่าจะทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรครับ ซึ่งมาจากภาวะในประเทศในช่วงครึ่งปีแรกครับ)
4. P/E , P/BV ค่อนข้างกลางๆ ครับ แต่หลักๆ ถ้ากำไรปีนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จะทำให้ P/E ปรับตัวสูงขึ้นครับ
(แต่น้องสี่คิดว่า กำไรในปี 2557 ไม่ดีนั้น น่าจะเป็นกำไรที่ลดลงชั่วคราวนะครับ หลักๆ ต้องติดตามในเรื่องของ
TV Digital ด้วยครับ เพราะเริ่มมีหลายช่องทางการรับชมมากขึ้น ดังนั้น รายได้ของ MCOT อาจโดนแบ่งไปทางช่องอื่นได้เช่นกันครับ)
5. Dividend Yield ในช่วงที่ผ่านมานั้น ค่อนข้างจ่ายในอัตราที่สูงนะครับ ประมาณ 4% - 7% ก็ถือว่าใช้ได้ครับ
(เว้นแต่ในปีนี้ และปีถัดๆ ไปให้ประเมินดูผลกระทบจาก TV Digital นะครับ ว่าจะเป็นผล + หรือ ผล - ต่อ MCOT ครับผม)
6. การจ่ายเงินปันผลที่ผ่านมาของ MCOT จ่ายปันผลปีละ 2 ครั้งครับ
ถัดมานะครับ
น้องสี่คิดว่าเพื่อนๆ ต้องแอบสงสัยกันแน่เลยนะครับว่า ทำไมสินทรัพย์รวม กับ หนี้สินรวม เพิ่มขึ้นประมาณ 3000 ล้านบาท
น้องสี่เลยไปเจาะงบการเงิน และนำตัวเลขที่ไปที่มา นำมาให้เพื่อนๆ ดูกันนะครับ
สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นในส่วนของ สินทรัพย์ไม่มีตัวตนครับ จากการประมูลใบอนุญาต TV Digital ครับผม
ส่วนหนี้สิน เพิ่มขึ้นในส่วนของหนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น อันเนื่องมาจากการประมูลใบอนุญาต TV Digital เช่นกันครับผม
จากหัวข้อข่าวของ MCOT เบื้องต้นจะพบว่า มีการลาออกจากกรรมการ + มีเลือกตั้งกรรมการเข้ามาใหม่
ซึ่งในส่วนนี้ น้องสี่ไม่ทราบเหมือนกันว่า จะส่งผล + หรือส่งผล - ต่อ MCOT นะครับ
หลักๆ น้องสี่ให้สถานะในส่วนนี้เป็นกลางๆ (=) ครับผม
ประเมินด้านกราฟนะครับ
กราฟ Day
กราฟ Week
กราฟ Month
หากมองในภาพใหญ่ก่อนนะครับ จะพบว่า MCOT ในภาพ Month
ยังคงเป็นขาลงอยู่ครับ ซึ่งราคาของ MCOT เคยขึ้นสูงไปถึงประมาณ 50 บาทนะครับ และในปัจจุบันเหลือประมาณ 25 บาท
แปลว่า ราคาหุ้นค่อนข้าง Discount ลงมาพอสมควรเลยครับ หากคิดเป็น % ก็ราวๆ 50% ครับ
จากนั้น หากมองในภาพ Week
MCOT ก็ยังคงเป็นขาลงอยู่นะครับ เพราะราคาอยู่ใต้เส้น Moving Average ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีเท่าที่ควรครับ
แต่อย่างไรก็ตาม หากสังเกตทึ่ "ราคาหุ้น กับ MacD" จะพบว่า ราคาลง แต่ MacD เริ่มยกตัวขึ้น
ประกอบกับ RSI เริ่มยกตัวขึ้นในช่วงเดือนมกราคม เทียบกับเดือนปัจจุบัน + Volume ในภาพ Week เริ่มมีปริมาณมากขึ้น
ซึ่งในจุดนี้เองอาจมองได้ว่า เสมือนมีคนกำลังทยอยเก็บหุ้นอยู่ ไม่อยากในหลุดในแนวรับในบริเวณนี้ก็เป็นไปได้ครับ
ซึ่งถ้าไปดูในแนวรับ แนวต้านหลักๆ แล้ว น้องสี่คิดว่า ถ้าราคา MCOT ไม่หลุดที่ 25.50 บาท หรือแถวๆ 24.20 บาท
MCOT ก็อาจจะเป็นหุ้นที่เริ่มน่าสนใจในทางกราฟเทคนิคได้นะครับ
ส่วนแนวต้านหลักๆ น้องสี่มองที่ 27.50 บาท ครับ
ถ้าสามารถผ่านตรงนี้ไปได้ก็อาจจะเริ่มมีมุมมองเชิงบวกต่อ MCOT เพิ่มมากยิ่งขึ้นครับ
หากมองในภาพ Day
จะเห็นว่า ราคาค่อนข้าง Side Way อยู่ในกรอบแคบๆ ครับ แต่จากรูป หากสังเกตตรง Volume (ตรงที่น้องสี่วงกลมไว้นะครับ)
พบว่า ในช่วงวันที่ 9/07/2014 มี Volume เข้าค่อนข้างแรงครับ ซึ่งจุดนี้เองอาจเป็นไปได้ว่า
1. เจ้าเรียกแขก
2. เจ้าปล่อยของ
ซึ่งในส่วนนี้เอง เวลาน่าจะเป็นคำตอบได้ดีที่สุดครับว่า จะเป็นข้อ 1 หรือข้อ 2 นะครับ
โดยรวมแล้วน้องสี่มองงว่า หุ้น MCOT ก็เป็นหุ้นที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่งที่น่าจับตามมองเหมือนกันนะครับ ในจุดที่ว่า
1. กำไรในปี 2557 จะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน?
2. แล้วกำไรในปี 2558 จะฟื้นไหม?
3. TV Digital จะกระทบต่อ MCOT อย่างไร?
4. MCOT จะปรับตัวอย่างไรกับสภาวะการณ์ในช่วงนี้และในอนาคต?
พอเราตั้งคำถาม + ประเมินดูแล้ว ก็เป็นสิ่งที่ค่อนข้างท้าทายหรือ (Challenge) ต่อ MCOT พอสมควรเลยนะครับ
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนและนักลงทุนควรหาความรู้และตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุนนะครับ
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : "ฅนเล่นหุ้น" นะครับ
https://www.facebook.com/StockTrader.Club
Date : 19 July 2014
Time : 20.00 น.
บทวิเคราะห์ที่น้องสี่ได้วิเคราะห์ไว้นะครับ Season 1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทวิเคราะห์ที่น้องสี่ได้วิเคราะห์ไว้นะครับ Season 2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้