แค่สงสัยค่ะ ว่ามันเป็นเรื่องที่ดีหรอคะ

สงสัยค่ะ คือ เราเรียนภาษาไทยบทที่1คือมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
สงสัยว่าสิ่งที่พระเวสสันดรทำ คือการให้ทุกสิ่งทุกอย่าง มันคือสิ่งที่ได้บุญมากจริงๆหรอคะ
บริจาคช้างแต่ช้างเป็นของเมือง? คนในเมืองเดือดร้อน?
บริจาคลูกตน แต่ลูกเป็นของนางมัทรีและตนเอง พอบริจาคไม่ถามนางมัทรีเลย? นางมัทรีเดือดร้อน[วิ่งวนรอบภูเขา]?
บริจาคนางมัทรี ? นางมัทรีก็เป็นมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งของนะคะ

ตั้งแต่หนูเกิดมาเขาบอกว่า ถ้าจะช่วยเหลือใครอย่าทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
แต่สิ่งที่พระเวสสันดรทำนี่ เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ก็จริง แต่ก็สร้างความเดือดร้อนเช่นกัน
ถึงแม้คนอื่นบอกว่าหลังจากนั้นทุกคนเข้าใจเพราะว่า การบำเพ็ญทานบารมีของพระเวสสันดรนั้นยิ่งใหญ่
แต่ก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดีว่า จริงๆแล้วเรื่องของพระเวสสันดร จะให้ข้อคิดในเรื่องการให้คือการทำดี
หรือจะแอบแฝงข้อคิดอื่นๆรึป่าว

ปล.คุณครูหนูย้ำแต่ว่า พระองค์ประเสริฐมากให้ได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งชีวิตตนชีวิตลูกตน
ปล2. หนูไม่ได้อยากคิดไม่ดีนะคะ แต่มันย้อนแย้งมากจนสงสัย

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
ถ้าสงสัยใคร่รู้จริงๆไม่มีอะไรแอบแฝงไม่เป็นไร  ความสงสัยทำให้เราฉลาด

ปัญหาข้อนี้เคยมีคนใหญ่คนโตในประเทศเคยสงสัยและเข้าใจผิดมานานแล้ว  อาจเพราะศึกษาไม่พอ  เอาทางโลกมาเทียบทางธรรม

เอาพระโพธิสัตว์ไปเทียบกับคนธรรมดาทั่วไป  ก่อนอื่นเราต้องไม่นำท่านมาเทียบกับพวกเรา  ถึงจะเข้าใจทุกอย่างได้ง่ายขึ้น

ก่อนหน้าเป็นพระเวสสันดรท่านเคยอธิษฐานขอให้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตต่อหน้าพระทีปังกรพุทธเจ้า  

และพระทีปังกรพุทธเจ้าก็พยากรณ์ทำนายยืนยันว่าจะเป็นจริง   ท่านเคยสั่งสมบารมีอื่นๆมาก่อนเพื่อหวังโพธิญาณคือการเป็นพระพุทธเจ้า

ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างเราๆอยู่ดีๆลุกมาบริจาคลูกเมีย หนีไปไม่รับผิดชอบ

คือฐานะของท่าน  เจตนาของท่านกับคนทั่วไปต่างกันมาก   คนทั่วไปไม่มีพื้นฐานบารมีการอธิษฐานสั่งสมบุญมาก่อน

ทำตามไม่ได้เพราะยังยึดติดในทรัพย์สมบัติลูกเมีย  ไม่ได้มีความปรารถนาเหมือนท่านและเจตนาต่างกัน  พระเวสสันดรท่านทำเพื่อคนอื่น

ในชาตินั้นก็สงเคราะห์คนไปเรื่อย   ยังไม่พอท่านยังหวังว่าเมื่อบรรลุจุดประสงค์ได้เป็นพระพุทธเจ้า  อนาคตจะได้ช่วยคนพ้นวัฏสงสาร

แล้วมาดูคนทั่วไป   ทำไม่ได้แน่นอน  ขนาดทำบุญผ้าป่ากฐินแค่  100  บาท ยังคิดแล้วคิดอีก  บ่นแล้วบ่นอีก

ไม่ต้องพูดถึงเยอะกว่านั้นไปจนถึงขั้นการให้ลูกเมีย

หรือบางคนบริจาคเยอะจริง  แต่ทำเพื่อเลี่ยงภาษี   บริจาคลูกเมีย(สมมุติ)เพื่อหาเมียใหม่สวยกว่า  หรือทิ้งไม่อยากรับภาระ

ตรงนี้แหละถึงว่าคนธรรมดาทำตามท่านไม่ได้   เจตนาไม่บริสุทธิ์เหมือนท่าน

ทำแล้วก็ไม่ได้ผลตอบแทนเหมือนท่านเพราะไม่ได้สั่งสมบารมีมาก่อน

ตอบคำถาม

1  ทานบารมีบริจาคช้างแต่ช้างเป็นของเมือง? คนในเมืองเดือดร้อน?

ตอบ  ช้างของเมือง  ใช่  แต่ช้างปัจจัยนาเคนทร์นี้เกิดมาคู่บารมีพระองค์  คือนางช้างวิเศษเหาะมาตกลูกในวังวันพระเวสสันดรประสูติพอดี

เหมือนกับพระองค์เป็นเจ้าของด้วย    ช้างนี้สามารถทำให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล   พราหมณ์เมืองกลิงครัฐที่ฝนแล้งจึงมาขอ

ตอนมาขอช้าง  บ้านเมืองท่านสงบสุขอยู่   ท่านจึงให้ไปเพื่อทำความปรารถนาพระโพธิญาณให้เต็ม

เพราะอยากช่วยคนอื่นให้พ้นทุกข์ถึงกับต้องลำบากเองยอมโดนเนรเทศไปอยู่ในป่า  ภายหลังพราหมณ์เหล่านั้นก็นำช้างมาคืนเหมือนเดิม  

หลังจากผจญอุปสรรค    ท่านได้โพธิญาณ  ได้ช้างกลับมา  แฮปปี้เอนดิ้ง   ทานบารมีทำได้ยากแบบนี้  

ต้องรับโทษลำบากเองแลกกับความสุขของคนอื่น  ใครจะทำได้บ้าง  ถ้าเป็นคนสามัญก็คงหวงช้างไม่ให้ใคร  

บารมีก็ไม่เกิด   ยังเวียนว่ายเกิดเป็นมนุษย์ธรรมดาต่อไป

2   บริจาคลูกตน แต่ลูกเป็นของนางมัทรีและตนเอง พอบริจาคไม่ถามนางมัทรีเลย? นางมัทรีเดือดร้อน[วิ่งวนรอบภูเขา]?

บริจาคนางมัทรี ? นางมัทรีก็เป็นมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งของนะคะ

ตอบ  พระนางมัทรีไม่ได้วิ่งวนภูเขา   ตอนชูชกมาขอกัณหาชาลี   พระนางมัทรีออกไปหาผลไม้ยังไม่กลับ   พระเวสสันดรจึงไม่ได้ถามพระชายา

ถึงถามตอนพระนางอยู่  พระนางก็ไม่ให้กัณหาชาลีแน่   ทานบารมีบริจาคลูกก็จะไม่สำเร็จ   เวลาที่ชูชกมาขอกัณหาชาลีนับว่าเหมาะ

พอพระนางกลับมา  พระเวสสันดรกลัวว่ามาเหนื่อยๆรู้ว่าลูกไม่อยู่แล้วอาจทำให้ตายได้

จึงแกล้งว่าไปมีชู้กับฤาษีชีไพรเปลี่ยนเรื่อง แล้วเฉลยว่าให้ทานลูกไป  พระนางเป็นลมสลบ  ฟื้นมาร้องไห้สุดท้ายทำใจได้อนุโมทนา

ตรงบริจาคลูกเมียนี่แหละเป็นสุดยอดการให้ เป็นไฮไลท์  ถ้าไม่มีตรงนี้ความปรารถนาก็ไม่สำเร็จ  เพราะลูกเมียเป็นสุดยอดของรักของมนุษย์

พระเวสสันดร  พระนางมัทรี  กัณหาชาลีเคยเกิดเป็นพ่อแม่ลูกกันมาหลายชาติหลายภพ  บางชาติเคยเสียสละชีวิตให้กันและกัน

ความรักเคารพผูกพันกันเสียสละของครอบครัวท่านไม่เหมือนครอบครัวคนอื่น   หลายคู่ส่วนมากเป็นคู่เวรคู่กรรม

คู่ทุกข์คู่ยากหรือสูงสุดเป็นคู่สร้างคู่สม  แต่พระองค์กับพระนางมัทรีเป็นคู่บุญคู่บารมีกัน  แตกต่างจากคนธรรมดา

ตอนบริจาคลูกเมียมีรายละเอียดบอกอยู่ว่าลูกเมียอนุโมทนา

ไม่ได้บังคับเคี่ยวเข็ญ    จขกท.คงอ่านไม่ละเอียด    กัณหาชาลีลงไปหลบในสระบัว  

ถอยหลังลงสระทำรอยเท้าว่ามีแต่คนขึ้นไม่มีคนลงหลอกตา  แต่พระเวสสันดรรู้และไม่ต้องลงไปตามเอง

แค่พูดว่า ขอให้เห็นแก่ความปรารถนาของพ่อ  มีขัตติยมานะ(อดทนอดกลั้นอย่างเจ้า)  

อย่าให้ชูชกมาดูถูกดูหมิ่นเราได้  แค่นี้ลูกทั้งสองก็ยอมและอนุโมทนา

ส่วนพระนางมัทรี  ดีหน่อยพระอินทร์มาช่วย  แปลงเป็นพราหมณ์มาขอแล้วถวายคืน  ถ้าคนอื่นมาขออาจยุ่งยากกว่านี้

พระนางมัทรีรู้ว่าสวามีปรารถนาโพธิญาณและอนุโมทนายินดีไปกับพราหมณ์(ปลอม)  คือต่างช่วยเหลือกันให้สมปรารถนา

ถ้าลูกเมียไม่ช่วย  พระเวสสันดรก็จะไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า  เมื่อไม่ได้เป็นก็จะไม่ได้ช่วยคนมหาศาลให้พ้นทุกข์

ลูกเมียที่จะกลับชาติมาเกิดเป็นพระนางพิมพา(มัทรี) ราหุล(ชาลี)  อุบลวรรณาเถรี(กัณหา) ช้าง(พระโมคคัลลานะเถระ)ก็จะเสียประโยชน์ไปด้วย  

คือไม่ได้บรรลุอรหันต์  เพราะไม่มีพระพุทธเจ้ามาโปรด

อีกมุมหนึ่งก็เหมือนลูกเมียทำเพื่อประโยชน์ตัวเองด้วย  แต่ตอนนั้นยังไม่รู้อนาคต

อาจารย์สอนตามโรงเรียนหากไม่แตกฉานเรื่องศาสนาจะอธิบายไม่แจ่มแจ้ง ทำให้นักเรียนสงสัยเข้าใจผิด

สรุป   ต้องศึกษาให้ลึกซึ้ง  อย่าเอาท่านไปเทียบคนสามัญซึ่งแตกต่างกันในทุกด้าน  เพราะจะเป็นกำแพงกั้นให้เข้าใจผิดเข้าใจยาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่