แรงบันดาลใจกระฉูดหลังจากอ่านกระทู้ของคุณ The Travelerz เราเลยตัดสินใจเก็บกระเป๋า ตะลุยเดี่ยวมุ่งหน้าสู่ภูทับเบิก ไม่พูดพร่ำทำเพลง ขอเริ่มบันทึกการเดินทาง ณ บัดนี้
เช้าของวันพุธ ที่ 16 กรกฏาคม 2557 เราไปขึ้นรถที่อาเขตเชียงใหม่ ใช้บริการของ อีสานทัวร์ เส้นทาง เชียงใหม่-หล่มสัก ลิ่วล้อหมุนออกจากอาเขต หกโมงเป๊ะ นั่งรถนานมาก นานจริงๆ นั่งเป็นเวลาแปดชั่วโมงกว่า คุณพระถึงแล้วหล่มสัก ตอนแรกเรากะจะลงแยกภูทับเบิก แต่ดูเวลาแล้วคงจะไม่ใช่เวลาที่ดีเท่าไหร่ในการโบกรถขึ้นไป เลยตัดสินใจมาลงหล่มสักตามลายแทงในตั๋ว ห้าๆๆๆ ถึงแล้วหล่มสัก เราเลยไปถามน้าคนขายขนมในสถานีว่าที่พักแถวนี้มีที่ไหนบ้าง คุณน้าก็เลยแนะนำให้เราเดินไปแถวตลาดผักไปเรื่อยๆจนสุดทางจะมีป้ายบอกที่พัก เจอแล้วคืนนี้เราจะพักที่นี่ ชัยพรรณ รีสอร์ท
ที่พักของเรา มีทั้งแบบหลังและแบบห้อง เราเลือกแบบห้อง คืนละ350 บาท มีแอร์ ไวไฟ เคเบิล น้ำอุ่น ครบค่ะ ปล.ลุงเจ้าของใจดีมาก ขับรถไปส่งเราที่บิ๊กซีด้วย
เอาล่ะ คืนนี้นอนเก็บแรง พรุ่งนี้ตื่นเช้าทำภารกิจโบกรถหน้าตลาดผัก ฝันดีค่ะ
เช้าวันที่17 กรกรฏาคม 2557 เวลาเริ่มต้นที่ตีสี่ครึ่ง เราตื่น ทำธุระส่วนตัวแล้วเตรียมออกไปโบกรถ
ออกไปที่ตลาด เรื่องราวกลับตาลปัตรผันผวนยิ่งกว่าตลาดหุ้น เอาล่ะสิ ปัญหาบังเกิด ไม่มีรถม้งลงมาเลยค่ะ ถามป้าๆลุงแถวนั้นก็บอกว่าเมื่อคืนฝนตกหนัก จริง มันตกหนักจริงๆค่ะ ม้งคงไม่ลงมา คงลงมาสายๆละขึ้นไปตอนบ่ายๆ เอาล่ะหว่า หรือแผนเราจะล่ม ลุงป้าแถวนั้นก็ลุ้นเอาใจช่วยเรา พาเราเข้าไปที่เขาลงผัก พยายามหารถให้ใจดีมากๆ เวลาก็ล่วงเลยมายาวนานดูแล้วไม่มีทีท่าว่าจะได้ขึ้นไป จากตอนแรกเริงร่า ตอนนี้ห่อเหี่ยว ยิ่งป้าแถวนั้นรู้ว่าเราจะขึ้นไปคนเดียวก็ยิ่งเป็นห่วง บอกอย่าขึ้นไปเลยคนเดียวอ่ะ มันอันตราย ลุงกับป้าที่พาเรามาหารถก็เอาเบอร์โทรให้เรา ย้ำกำชับเราว่าหากมีอะไรโทรมานะ เป็นห่วงอย่าไปคนเดียวเลย ในปัญหาก็ยังมีความรู้สึกดีๆพอหล่อเลี้ยงกำลังใจ เวลาเลยมาเกือบๆจะแปดโมง เราเริ่มถอดใจเริ่มไหว้ลาลุงๆป้าที่เป็นธุระหารถม้งให้ เราตัดสินใจไม่ไปแล้วภูทับเบิก ไปเที่ยวชมบ้านแถวหล่มเก่าแทน ความหวังดับสิ้น ณ จุดนี้ เราเดินกลับไปที่พักไปจองเพิ่มอีกคืนเพราะยังไงคงไม่ได้ขึ้นไปที่ภูทับเบิกแล้ว แต่แล้วความหวังก็บังเกิดขึ้นอีกครั้ง ลุงเจ้าของที่พักบอกว่า มีรถไปนะ มีสิ อย่าหมดหวัง ไม่งั้นก็ไปให้ตำรวจฝากขึ้นให้หรือไปขึ้นที่หล่มเก่า เอาล่ะ เรารีบเดินออกจากทีพักอีกครั้ง แล้วก็ไปหยุดที่ศาลาที่คนมาลงผักมานั่งพัก เราเลยลองถามพี่เขาว่า รถม้งลงมาส่งกระหล่ำมั้ยคะ พี่เค้าก็บอกมีสิ แต่รอก่อนคงลงมาสายๆ เราเลยตัดสินใจไม่รอ เดินไปที่ป้อมตำรวจตรงใกล้แยกพ่อขุน พอไปถึงด้อมๆมองๆตรงประตูไม่เห็นมีใคร เลยมานั่งพักคิดหาทางไปภูทับเบิก คิดไปคิดมา เอาว้ะ เสี่ยงดู เลยเคาะประตูป้อมตำรวจแล้วเดินเข้าไป ว้ายยย++ พี่ตำรวจกำลังอาบน้ำเสร็จใส่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว กำลังทาโรลออน เอาล่ะได้เวลาขอความช่วยเหลือขอให้พี่ตำรวจฝากขึ้นรถไปกับม้ง แต่คำตอบเหมือนสายฟ้าฟาดมากลางหน้าผาก โอ้ไม่ได้ๆ คนละเรื่องเลย นั่งรถไปลงหล่มเก่าแล้วหาเอา ฝากให้ไม่ได้ ความหวังหดลงอีกแล้วค่ะ เราเลยขอบคุณเค้าแล้วตัดสินใจโบกรถไปหล่มเก่า ถึงหล่มเก่าเราขอให้ลุงที่ขับรถสามล้อเครื่องพาเราไปหารถม้ง ลุงก็พาไปที่วัดอะไรสักอย่าง ถามรถคันแล้วคันเล่าก็ไม่มีใครขึ้น สุดท้ายเราเลยถอดใจอีกครั้งบอกให้ลุงพากลับมาที่ท่ารถหล่มเก่าเราจะกลับที่พักที่หล่มสัก แต่ยังไงไม่รู้ลุงเขาคงเห็นว่าเราอยากไปมากเลยแนะนำให้เรานั่งรถลุงเขาไปที่แยกทับเบิกแล้วลุงเขาจะโบกให้ ลุงคิดราคา 130บาท เอาว้ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้วต้องขึ้นไปให้ได้
วิวระหว่างทางไปโบกรถขึ้นภูทับเบิก
ถึงแล้วทางโบกขึ้นไปภูทับเบิก และลุงรถสามล้อเครื่องที่พาเรามาโบกรถ ลุงโบกรถให้ด้วยนะใจดีมาก
และแล้วเราก้ได้รถขึ้นไปภูทับเบิก เฮ้อ++ โล่งใจได้ขึ้นแล้ว ขอบคุณลุงที่โบกรถให้และพี่ที่พาขึ้นไปนะคะ
ต่อจากนี้จะเป็นวิวระหว่างทางขึ้นนะคะ เจอทั้งหมอก ฝนปรอยๆ แดด สลับกันไป บางรูปไม่สามารถถ่ายเจาะเข้าไปได้
ลมแรง และรถขับเร็วมาก เกรงว่ากล้องจะอันตรธานกระเด็นไป ห้าๆๆๆ เลยได้มาเท่านี้
ระหว่างทางสวยมาก สวยจริงๆ
และแล้วก็มาถึงภูทับเบิก พี่เขาจอดให้เราตรงทางขึ้นไปวิสาหากิจชุมชน เราได้ทำการขอบคุณพี่เขา
น้ำใจสุดยอดมาก ขอบคุณค่ะ แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปพี่เขาไว้
เริ่มเลยนะคะสำหรับวิวภูทับเบิก แต่เราไม่ได้ไปทั่วนะคะ เพราะเรามีเวลาไม่เยอะและไม่ได้พักที่ภูทับเบิก อย่างที่บอกตอนแรกเราคิดว่าเราคงไม่ได้ขึ้นมาแล้วเลยจองที่ัพักที่หล่มสักเพิ่มอีกคืน เสียดายจริงๆ คิดไวไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าตามเที่ยวกันค่ะ
ทางขึ้นไปวิสาหกิจชุมชน มีบ้าน มีที่กางเต้นท์ มีจุดสูงสุด แต่เราเดินไม่ถึง ไม่ไหว ห้าๆๆ
ตรงเพิงขายของใกล้กับคานาอันรีสอร์ท
ทางเดินลงจากคานาอัน สวยมาก ลมแรงมากกกกกก
ต้นไม้ ใบไม้ เต้นระบำไปกับแรงเหวี่ยงของสายลม
ปล่อยกาย ปล่อยใจ เดินตามทางแห่งสายวายุที่กำลังขับร้องอย่างอลังการ
เป้าหมายคือการไปยืนอยู่บนสิ่งปลูกสร้างสีขาวนั้น คงงดงามน่าดู
พอไปถึงกลับงดงามยิ่งกว่า ซาบซึ้งกับความรักที่ยาวนานและงดงาม ลุงกับป้าและพุดเดิ้ล น่ารักมาก
มุมจากข้างบนนี้
เดินไปเรื่อยๆ เดินไปกับสายลม พร้อมชื่นชมความเป็นไปของธรรมชาติ
ต้นไม้ ใบหญ้า ขุนเขา และม่านเมฆ ขับกล่อมให้อารมณ์สุนทรีย์
กะหล่ำสัญลักษณ์แห่งที่นี่ ถูกตัดเพื่อไปเติมเต็มสารอาหารให้กับเพื่อนมนุษย์
มวลม่านหมอกม่านเมฆ ที่กำลังวาดลวดลายบนเวหา
สิ่งปลูกสร้างอันล้ำค่าท่ามกลางอ้อมกอดของม่านเมฆและสายหมอก
เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้สักพัก นั่งมองอะไรเพลินๆตรงเนินหญ้าที่คานาอันรีสอร์ท แล้วเราก็ได้รูปมุมนี้ เราชอบมาก
และรูปนี้ เราจำไม่ได้ว่าถ่ายตรงไหน แต่มันได้ มันได้ มันได้บรรยากาศจริงๆ ห้าๆๆ
แบตกล้องเริ่มเตือน ถ่านอ่อน ถ่านอ่อน สุดท้ายเราเลยไปขอชาร์ตพอที่จะถ่ายรูปทางระหว่างกลับที่ คานาอันรีสอร์ท และตัดสินใจ
โบกรถกลับเข้าหล่มสักที่นี่เลย พี่เจ้าของคานาอันก็ใจดี ช่วยโบกช่วยพูดให้ ขอบคุณจริงๆค่ะ ได้เวลากลับแล้ว ยังไม่อยากลงเลย ยัง
เที่ยวไม่ครบเลย เดี๋ยวมีโอกาสจะกลับมาแก้ตัวใหม่ เอาล่ะ ได้เวลากลับ ได้รถที่จะไปส่งแล้วเป็นพี่ผู้ชายกับพี่ผู้หญิง ใจดีมาก เราขอบคุณ
และกระโดดขึ้นกระบะ และนี่คือวิวระหว่างกลับค่ะ
ชอบรูปนี้มาก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
สุดท้ายจบที่รูปนี้ แบตหมดเกลี้ยงเลย
พี่เขามาส่งเราที่แยกใกล้ป้อมตำรวจตรงพ่อขุน แล้วเราก็เดินกลับที่พักที่ชัยพรรณ นอนพักผ่อน
เหนื่อยเหลือเกิน แต่โคตรประทับใจ
สรุปค่าใช้จ่าย(เดินทางคนเดียว)
1.ค่ารถทั้งไปทั้งกลับ 706บาท เราขึ้นของอีสานทัวร์ เป็นรถ ป.2 ไม่มีห้องน้ำนะคะ เส้นทางเชียงใหม่-หล่มสัก
ปล.รถเที่ยวแรกที่ออกจากเชียงใหม่ คือ เวลา06.00 น. ส่วนเที่ยวแรกที่ออกจากหล่มสัก-เชียงใหม่ คือ เวลา08.30น.(รถชั้นหนึ่งนะคะ ราคาสี่รอ้ยกว่าบาท)
และอีกเวลาคือ 09.30น. ราคา353บาท
2.ค่าที่พักสองคืน(700บาท) ที่ชัยพรรณรีสอร์ทใกล้กับตลาด คืนละ350บาท(แบบห้อง) คืนละ400บาท(แบบหลัง เหมาะสำหรับมาหลายคน)
หมายเหตุ ค่าใช้จ่ายนี้ไม่รวมค่ากินนะคะ เพราะจำไม่ได้ กินเยอะเกิน ห้าๆๆ แต่รวมแล้วไม่เกิน2000 บาทค่ะ สำหรับคนเดียว
::ทริปนี้ต้องขอขอบคุณ::
1.คุณเจ้าของกระทู้ The Travelerz ผู้เป็นแรงบันดาลใจในการเที่ยวครั้งนี้ของเรา
2.ลุงเจ้าของชัยพรรณรีสอร์ท ที่ใจดีมาก ไปส่งเราทำธุระที่บิ๊กซีและไม่ทำให้เราหมดหวังสำหรับการขึ้นไปภูทับเบิก
3.ลุงๆป้าที่ตลาดที่คอยช่วยคอยเป็นห่วงให้คำปรึกษา พอเรากลับก็ยังโทรมาอวยพร รักเราเหมือนลูกเหมือนหลาน ซาบซึ้งใจมาก
4.ลุงสามล้อเครื่อง ลุงขับรถหล่มสัก หล่มเก่า ตำรวจ ที่ให้คำปรึกษา ประสานหารถ โบกรถให้ ขอบคุณมากจริงๆ
5.พี่ๆชาวม้งที่ใจดีให้เราได้ขึ้นรถไปยลโฉมภูทับเบิก ทั้งขาขึ้นและขาลง ขอบคุณพวกพี่ๆมากๆ มากจริงๆ
ุ6.น้าที่ขายของขายขนมอยู่ที่สถานีหล่มสัก ที่แนะนำที่พักให้เรา ขอบคุณมาก
สุดท้ายรูปจากบนรถทัวร์ระหว่างกลับเชียงใหม่ และราดหน้ามื้อเช้าระหว่างรอรถกลับที่สถานีหล่มสัก ห้าๆๆ
ลาก่อน หล่มสัก ภูทับเบิก ......
เป็นการเดินทางที่ประทับใจ ได้พบมิตรภาพ น้ำใจและอะไรหลายๆอย่าง ขอบคุณอุปสรรคที่นำพาความซาบซึ้ง และ มิตรภาพ ที่จะไม่มีวันลางเลือนหายไป
ขอบคุณจริงๆ แล้วเจอกันใหม่ เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก ถ้าหากผิดพลาดตรงไหน ต้องของอภัยด้วยนะคะ
สวัสดี
สายลมสีดำ:: 19/07/2557 12:07
[CR] ตะลุยเดี่ยว โบกรถ สะท้านลม ที่ภูทับเบิก
เช้าของวันพุธ ที่ 16 กรกฏาคม 2557 เราไปขึ้นรถที่อาเขตเชียงใหม่ ใช้บริการของ อีสานทัวร์ เส้นทาง เชียงใหม่-หล่มสัก ลิ่วล้อหมุนออกจากอาเขต หกโมงเป๊ะ นั่งรถนานมาก นานจริงๆ นั่งเป็นเวลาแปดชั่วโมงกว่า คุณพระถึงแล้วหล่มสัก ตอนแรกเรากะจะลงแยกภูทับเบิก แต่ดูเวลาแล้วคงจะไม่ใช่เวลาที่ดีเท่าไหร่ในการโบกรถขึ้นไป เลยตัดสินใจมาลงหล่มสักตามลายแทงในตั๋ว ห้าๆๆๆ ถึงแล้วหล่มสัก เราเลยไปถามน้าคนขายขนมในสถานีว่าที่พักแถวนี้มีที่ไหนบ้าง คุณน้าก็เลยแนะนำให้เราเดินไปแถวตลาดผักไปเรื่อยๆจนสุดทางจะมีป้ายบอกที่พัก เจอแล้วคืนนี้เราจะพักที่นี่ ชัยพรรณ รีสอร์ท
ที่พักของเรา มีทั้งแบบหลังและแบบห้อง เราเลือกแบบห้อง คืนละ350 บาท มีแอร์ ไวไฟ เคเบิล น้ำอุ่น ครบค่ะ ปล.ลุงเจ้าของใจดีมาก ขับรถไปส่งเราที่บิ๊กซีด้วย
เอาล่ะ คืนนี้นอนเก็บแรง พรุ่งนี้ตื่นเช้าทำภารกิจโบกรถหน้าตลาดผัก ฝันดีค่ะ
เช้าวันที่17 กรกรฏาคม 2557 เวลาเริ่มต้นที่ตีสี่ครึ่ง เราตื่น ทำธุระส่วนตัวแล้วเตรียมออกไปโบกรถ
ออกไปที่ตลาด เรื่องราวกลับตาลปัตรผันผวนยิ่งกว่าตลาดหุ้น เอาล่ะสิ ปัญหาบังเกิด ไม่มีรถม้งลงมาเลยค่ะ ถามป้าๆลุงแถวนั้นก็บอกว่าเมื่อคืนฝนตกหนัก จริง มันตกหนักจริงๆค่ะ ม้งคงไม่ลงมา คงลงมาสายๆละขึ้นไปตอนบ่ายๆ เอาล่ะหว่า หรือแผนเราจะล่ม ลุงป้าแถวนั้นก็ลุ้นเอาใจช่วยเรา พาเราเข้าไปที่เขาลงผัก พยายามหารถให้ใจดีมากๆ เวลาก็ล่วงเลยมายาวนานดูแล้วไม่มีทีท่าว่าจะได้ขึ้นไป จากตอนแรกเริงร่า ตอนนี้ห่อเหี่ยว ยิ่งป้าแถวนั้นรู้ว่าเราจะขึ้นไปคนเดียวก็ยิ่งเป็นห่วง บอกอย่าขึ้นไปเลยคนเดียวอ่ะ มันอันตราย ลุงกับป้าที่พาเรามาหารถก็เอาเบอร์โทรให้เรา ย้ำกำชับเราว่าหากมีอะไรโทรมานะ เป็นห่วงอย่าไปคนเดียวเลย ในปัญหาก็ยังมีความรู้สึกดีๆพอหล่อเลี้ยงกำลังใจ เวลาเลยมาเกือบๆจะแปดโมง เราเริ่มถอดใจเริ่มไหว้ลาลุงๆป้าที่เป็นธุระหารถม้งให้ เราตัดสินใจไม่ไปแล้วภูทับเบิก ไปเที่ยวชมบ้านแถวหล่มเก่าแทน ความหวังดับสิ้น ณ จุดนี้ เราเดินกลับไปที่พักไปจองเพิ่มอีกคืนเพราะยังไงคงไม่ได้ขึ้นไปที่ภูทับเบิกแล้ว แต่แล้วความหวังก็บังเกิดขึ้นอีกครั้ง ลุงเจ้าของที่พักบอกว่า มีรถไปนะ มีสิ อย่าหมดหวัง ไม่งั้นก็ไปให้ตำรวจฝากขึ้นให้หรือไปขึ้นที่หล่มเก่า เอาล่ะ เรารีบเดินออกจากทีพักอีกครั้ง แล้วก็ไปหยุดที่ศาลาที่คนมาลงผักมานั่งพัก เราเลยลองถามพี่เขาว่า รถม้งลงมาส่งกระหล่ำมั้ยคะ พี่เค้าก็บอกมีสิ แต่รอก่อนคงลงมาสายๆ เราเลยตัดสินใจไม่รอ เดินไปที่ป้อมตำรวจตรงใกล้แยกพ่อขุน พอไปถึงด้อมๆมองๆตรงประตูไม่เห็นมีใคร เลยมานั่งพักคิดหาทางไปภูทับเบิก คิดไปคิดมา เอาว้ะ เสี่ยงดู เลยเคาะประตูป้อมตำรวจแล้วเดินเข้าไป ว้ายยย++ พี่ตำรวจกำลังอาบน้ำเสร็จใส่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว กำลังทาโรลออน เอาล่ะได้เวลาขอความช่วยเหลือขอให้พี่ตำรวจฝากขึ้นรถไปกับม้ง แต่คำตอบเหมือนสายฟ้าฟาดมากลางหน้าผาก โอ้ไม่ได้ๆ คนละเรื่องเลย นั่งรถไปลงหล่มเก่าแล้วหาเอา ฝากให้ไม่ได้ ความหวังหดลงอีกแล้วค่ะ เราเลยขอบคุณเค้าแล้วตัดสินใจโบกรถไปหล่มเก่า ถึงหล่มเก่าเราขอให้ลุงที่ขับรถสามล้อเครื่องพาเราไปหารถม้ง ลุงก็พาไปที่วัดอะไรสักอย่าง ถามรถคันแล้วคันเล่าก็ไม่มีใครขึ้น สุดท้ายเราเลยถอดใจอีกครั้งบอกให้ลุงพากลับมาที่ท่ารถหล่มเก่าเราจะกลับที่พักที่หล่มสัก แต่ยังไงไม่รู้ลุงเขาคงเห็นว่าเราอยากไปมากเลยแนะนำให้เรานั่งรถลุงเขาไปที่แยกทับเบิกแล้วลุงเขาจะโบกให้ ลุงคิดราคา 130บาท เอาว้ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้วต้องขึ้นไปให้ได้
วิวระหว่างทางไปโบกรถขึ้นภูทับเบิก
ถึงแล้วทางโบกขึ้นไปภูทับเบิก และลุงรถสามล้อเครื่องที่พาเรามาโบกรถ ลุงโบกรถให้ด้วยนะใจดีมาก
และแล้วเราก้ได้รถขึ้นไปภูทับเบิก เฮ้อ++ โล่งใจได้ขึ้นแล้ว ขอบคุณลุงที่โบกรถให้และพี่ที่พาขึ้นไปนะคะ
ต่อจากนี้จะเป็นวิวระหว่างทางขึ้นนะคะ เจอทั้งหมอก ฝนปรอยๆ แดด สลับกันไป บางรูปไม่สามารถถ่ายเจาะเข้าไปได้
ลมแรง และรถขับเร็วมาก เกรงว่ากล้องจะอันตรธานกระเด็นไป ห้าๆๆๆ เลยได้มาเท่านี้
ระหว่างทางสวยมาก สวยจริงๆ
และแล้วก็มาถึงภูทับเบิก พี่เขาจอดให้เราตรงทางขึ้นไปวิสาหากิจชุมชน เราได้ทำการขอบคุณพี่เขา
น้ำใจสุดยอดมาก ขอบคุณค่ะ แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปพี่เขาไว้
เริ่มเลยนะคะสำหรับวิวภูทับเบิก แต่เราไม่ได้ไปทั่วนะคะ เพราะเรามีเวลาไม่เยอะและไม่ได้พักที่ภูทับเบิก อย่างที่บอกตอนแรกเราคิดว่าเราคงไม่ได้ขึ้นมาแล้วเลยจองที่ัพักที่หล่มสักเพิ่มอีกคืน เสียดายจริงๆ คิดไวไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าตามเที่ยวกันค่ะ
ทางขึ้นไปวิสาหกิจชุมชน มีบ้าน มีที่กางเต้นท์ มีจุดสูงสุด แต่เราเดินไม่ถึง ไม่ไหว ห้าๆๆ
ตรงเพิงขายของใกล้กับคานาอันรีสอร์ท
ทางเดินลงจากคานาอัน สวยมาก ลมแรงมากกกกกก
ต้นไม้ ใบไม้ เต้นระบำไปกับแรงเหวี่ยงของสายลม
ปล่อยกาย ปล่อยใจ เดินตามทางแห่งสายวายุที่กำลังขับร้องอย่างอลังการ
เป้าหมายคือการไปยืนอยู่บนสิ่งปลูกสร้างสีขาวนั้น คงงดงามน่าดู
พอไปถึงกลับงดงามยิ่งกว่า ซาบซึ้งกับความรักที่ยาวนานและงดงาม ลุงกับป้าและพุดเดิ้ล น่ารักมาก
มุมจากข้างบนนี้
เดินไปเรื่อยๆ เดินไปกับสายลม พร้อมชื่นชมความเป็นไปของธรรมชาติ
ต้นไม้ ใบหญ้า ขุนเขา และม่านเมฆ ขับกล่อมให้อารมณ์สุนทรีย์
กะหล่ำสัญลักษณ์แห่งที่นี่ ถูกตัดเพื่อไปเติมเต็มสารอาหารให้กับเพื่อนมนุษย์
มวลม่านหมอกม่านเมฆ ที่กำลังวาดลวดลายบนเวหา
สิ่งปลูกสร้างอันล้ำค่าท่ามกลางอ้อมกอดของม่านเมฆและสายหมอก
เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้สักพัก นั่งมองอะไรเพลินๆตรงเนินหญ้าที่คานาอันรีสอร์ท แล้วเราก็ได้รูปมุมนี้ เราชอบมาก
และรูปนี้ เราจำไม่ได้ว่าถ่ายตรงไหน แต่มันได้ มันได้ มันได้บรรยากาศจริงๆ ห้าๆๆ
แบตกล้องเริ่มเตือน ถ่านอ่อน ถ่านอ่อน สุดท้ายเราเลยไปขอชาร์ตพอที่จะถ่ายรูปทางระหว่างกลับที่ คานาอันรีสอร์ท และตัดสินใจ
โบกรถกลับเข้าหล่มสักที่นี่เลย พี่เจ้าของคานาอันก็ใจดี ช่วยโบกช่วยพูดให้ ขอบคุณจริงๆค่ะ ได้เวลากลับแล้ว ยังไม่อยากลงเลย ยัง
เที่ยวไม่ครบเลย เดี๋ยวมีโอกาสจะกลับมาแก้ตัวใหม่ เอาล่ะ ได้เวลากลับ ได้รถที่จะไปส่งแล้วเป็นพี่ผู้ชายกับพี่ผู้หญิง ใจดีมาก เราขอบคุณ
และกระโดดขึ้นกระบะ และนี่คือวิวระหว่างกลับค่ะ
ชอบรูปนี้มาก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
สุดท้ายจบที่รูปนี้ แบตหมดเกลี้ยงเลย
พี่เขามาส่งเราที่แยกใกล้ป้อมตำรวจตรงพ่อขุน แล้วเราก็เดินกลับที่พักที่ชัยพรรณ นอนพักผ่อน
เหนื่อยเหลือเกิน แต่โคตรประทับใจ
สรุปค่าใช้จ่าย(เดินทางคนเดียว)
1.ค่ารถทั้งไปทั้งกลับ 706บาท เราขึ้นของอีสานทัวร์ เป็นรถ ป.2 ไม่มีห้องน้ำนะคะ เส้นทางเชียงใหม่-หล่มสัก
ปล.รถเที่ยวแรกที่ออกจากเชียงใหม่ คือ เวลา06.00 น. ส่วนเที่ยวแรกที่ออกจากหล่มสัก-เชียงใหม่ คือ เวลา08.30น.(รถชั้นหนึ่งนะคะ ราคาสี่รอ้ยกว่าบาท)
และอีกเวลาคือ 09.30น. ราคา353บาท
2.ค่าที่พักสองคืน(700บาท) ที่ชัยพรรณรีสอร์ทใกล้กับตลาด คืนละ350บาท(แบบห้อง) คืนละ400บาท(แบบหลัง เหมาะสำหรับมาหลายคน)
หมายเหตุ ค่าใช้จ่ายนี้ไม่รวมค่ากินนะคะ เพราะจำไม่ได้ กินเยอะเกิน ห้าๆๆ แต่รวมแล้วไม่เกิน2000 บาทค่ะ สำหรับคนเดียว
::ทริปนี้ต้องขอขอบคุณ::
1.คุณเจ้าของกระทู้ The Travelerz ผู้เป็นแรงบันดาลใจในการเที่ยวครั้งนี้ของเรา
2.ลุงเจ้าของชัยพรรณรีสอร์ท ที่ใจดีมาก ไปส่งเราทำธุระที่บิ๊กซีและไม่ทำให้เราหมดหวังสำหรับการขึ้นไปภูทับเบิก
3.ลุงๆป้าที่ตลาดที่คอยช่วยคอยเป็นห่วงให้คำปรึกษา พอเรากลับก็ยังโทรมาอวยพร รักเราเหมือนลูกเหมือนหลาน ซาบซึ้งใจมาก
4.ลุงสามล้อเครื่อง ลุงขับรถหล่มสัก หล่มเก่า ตำรวจ ที่ให้คำปรึกษา ประสานหารถ โบกรถให้ ขอบคุณมากจริงๆ
5.พี่ๆชาวม้งที่ใจดีให้เราได้ขึ้นรถไปยลโฉมภูทับเบิก ทั้งขาขึ้นและขาลง ขอบคุณพวกพี่ๆมากๆ มากจริงๆ
ุ6.น้าที่ขายของขายขนมอยู่ที่สถานีหล่มสัก ที่แนะนำที่พักให้เรา ขอบคุณมาก
สุดท้ายรูปจากบนรถทัวร์ระหว่างกลับเชียงใหม่ และราดหน้ามื้อเช้าระหว่างรอรถกลับที่สถานีหล่มสัก ห้าๆๆ
ลาก่อน หล่มสัก ภูทับเบิก ......
เป็นการเดินทางที่ประทับใจ ได้พบมิตรภาพ น้ำใจและอะไรหลายๆอย่าง ขอบคุณอุปสรรคที่นำพาความซาบซึ้ง และ มิตรภาพ ที่จะไม่มีวันลางเลือนหายไป
ขอบคุณจริงๆ แล้วเจอกันใหม่ เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก ถ้าหากผิดพลาดตรงไหน ต้องของอภัยด้วยนะคะ
สวัสดี
สายลมสีดำ:: 19/07/2557 12:07
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น