สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิพนะครับ
พอดีว่า ผมเพิ่งกลับจากการเดินทาง เส้นทางท่องเที่ยว ขอนแก่น - ภูทับเบิก ก็เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ดีๆ ที่ได้จากการเดินทางบ้าง เพื่อแบ่งปันประสบการณ์กันนะครับ
การเดินทางของผม เป็นการเดินทางโดยอาศัยรถประจำทาง และการอาศัยความช่วยเหลือจากเพื่อนนักเดินทาง ตลอดทั้งสายนะครับ ทริปนี้ ไม่มีรถส่วนตัว แผนการเดินทางของผม ได้มีการเขียนขึ้นมาคร่าวๆ โดยเรามีข้อจำกัดหลายๆอย่าง เช่นเรื่องของเวลา งบประมาณ และความสะดวกสะบายในการเดินทาง ดังนั้นแล้ว ตลอดทั้งการเดินทางของเรา หาข้อมูลมาจาก การรีวิวจากกระทู้ในพันทิพ รายการโทรทัศน์ที่มีพิธีกรเป็นสาวสอง ข้อมูลจากเว็บไซต์ และการโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่อุทยาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่ได้จากการเดินทาง มันก็ค่อนข้างที่จะแตกต่างจากรีวิวไปซักเล็กน้อย
เพื่อไม่เป็นการยืดเยื้อ ผมว่าเรามาเริ่มการเดินทางเลยดีกว่า
04:30 น. ผมออกเดินทางจากที่พัก เพื่อที่จะไปขึ้นรถประจำทางที่ บขส(เก่า) ในเมืองขอนแก่น ในส่วนนี้ นั่งแท็กซี่ไปนะครับ สามารถโทรเรียกได้ตลอด เว็บไซต์แท็กซี่ขอนแก่น www.khonkaenlink.info/taxi เบอร์โทร Call Center 043-465777 08-7722-2490 ,08-7722-2493 มีบริการ 24 ชม. มิเตอร์เริ่มที่ 40 บาท ค่าบริการเรียก Taxi 20 บาทครับ
05:00 น. ผมเดินทางมาถึงสถานีขนส่ง และเลือกเดินทางกับรถประจำทางของ อีสานทัวร์นะครับ ในตอนแรก เราได้มีการมาสอบถามข้อมูลการเดินรถอยู่ก่อนหน้าแล้ว ซึ่งได้ข้อมูลว่า มีรถประจำทาง ขอนแก่น - หล่มสักอยู่สองสาย รอบการเดินรถเริ่มที่เวลาตีห้าของทุกๆวัน รถออกทุกชั่วโมง สายแรกเป็นรถสายยาว ขอนแก่น-เชียงใหม่ ซึ่งสายนี้จะเข้าจอดรถที่ บขส หล่มสัก แต่อีกสาย รถจะเข้าไปจอดที่ตลาดในตัวอำเภอหล่มสัก ในตอนแรก ผมก็ตัดสินใจ ที่จะไปลงตลาดในตัวอำเภอหล่มสักเลย เพื่อตามรอยรีวิว กระทู้แนะนำกระทู้หนึ่งในพันทิพ
http://ppantip.com/topic/32316702 เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกอะเนอะ ก็ไม่อยากให้มันหลุดออกไปจากแผน แต่ว่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา พอไปถึงที่ซื้อตั๋ว คนขายตั๋วบอกว่า รถที่จะเข้าไปจอดในตลาด เค้าเลื่อนรอบรถไปเป็น เจ็ดโมงเช้า เพราะคนไม่ค่อยมี อ้าว กำละ รู้สึกไม่อยากรอ ก็เลยเลือกที่จะขึ้นรถสายยาว ขอนแก่น-เชียงใหม่ แต่เราลงที่หล่มสัก ที่จอดที่ บขส ก็เอาวะ เด๋วค่อยไปงมหาทางเอาต่อก็ได้
รถประจำทาง อีสานทัวร์ สายขอนแก่น-หล่มสัก (ปลายทางเชียงใหม่) รอบ 05:00 เดินทาง ประมาณ 4 ชั่วโมง ถึงบขส หล่มสัก ............ (มาถึงจุดนี้) ............. ขึ้นรถปุ๊บ หลับปั๊บ แต่หลับมาได้ซักพัก แดดก็ส่องเข้ามา เลยตื่น.... พอลืมตาตื่นขึ้นมาเท่านั้นแหละ อื้อหืออออออ เราถึงไหนละเนี่ย วิวข้างทางสวยมากกก จากนั้นก็หลับไม่ลงเลยครับ ดูวิวเพลินไปตลอด เพราะเส้นทางนี้เป็นเส้นทาง ขอนแก่น-ชุมแพ-น้ำหนาว-หล่มสัก ช่วงที่ขึ้นเขาแถวน้ำหนาวนี่คือแบบ บรรยากาศดีอย่างน่าเหลือเชื่อ มีหมอกระเรื่อ เหมือนในนิยาย แต่เวลาของความเพลิดเพลิน ก็สิ้นสุดลง เพราะว่า.... อยู่ดีๆ รถประจำทางก็จอด ผมก็งงว่า เอ๊ะ จอดทำไม นี่บนเขานะ ใครลง!! ตอบมาเดี๋ยวนี้นะคนขับรถ(คิดในใจ) ผิดคาด ด้วยความมีน้ำใจของคนขับรถ พี่แกจอดรับผู้โดยสารใหม่จำนวนหนึ่ง เป็นผู้โดยสารที่กลับมาจากการหาเก็บของป่า เห็ดป่า อู้วว น่าตื่นเต้นดีจัง(คิดในใจอีกรอบ) ไอ้เราก็อยากจะเห็นว่าเค้าหาอะไรมาได้บ้าง ส่องๆ ชะเง้อๆ ก็เจอ เห็ด เห็ดอะไรไม่รู้ เต็มตะกร้าเลยยยย ก็อื้มมม มีกลิ่นดินนิดหน่อย ไม่เป็นไรเราทนได้ แต่ว่าาาาาาาาาาาาาาา พวกพี่ขึ้นมา พี่เกรงใจผมบ้างได้มั้ยคร้าบบบบบบบบบบบบบ เสียงดังกันอย่างกับทัวร์จีนเลย ตลอดทาง โอ้ยยยยยย นึกว่ามาทัวร์คุณหมิงที่จีนหรือนี่กระไร คุยกันไม่หยุด จ้อกันภาษาอะไรก็ไม่รู้ (คิดว่าคงเป็นภาษาถิ่น หรือภาษาม้ง ไม่แน่ใจ) แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ผ่านไปได้ด้วยดี เมื่อเรามาถึงกันที่ บขส หล่มสัก เย่!!
การเดินทางตลอด 4 ชม. จากขอนแก่น ปลายทาง บขสหล่มสัก สวย และเสียงดังมาก แต่พอมาถึง ตอนนั้นเวลา 09:20 เราก็ต้องดิ้นรนทางไปกันต่อ และจากข้อมูลที่ได้หามาจากเว็บไซต์ เราก็รู้มาว่า เราต้องนั่งรถสองแถว จากบขส เข้าไปที่ตลาดหล่มสัก เพื่อไปขึ้นรถต่อ เราก็เดินๆวนหากันอยู่พักหนึ่ง และถามคนแถวนั้น คนแรกบอกว่า "รออยู่ในบขสนี่แหละ เดี๋ยวรถสองแถวก็วนเข้ามา" โอเค เราก็รอ รอได้ซักพัก สองแถวมา พอไปถามเค้าก็บอกว่า "รถสองแถวที่จะเข้าตลาดอะ ไม่ได้เข้ามาในบขส ให้ไปขึ้นตรงป้อมตำรวจ อีกฟากหนึ่งของถนน" โอเค ก็เดินข้ามถนนหน้าบขสไปรอที่ป้อมตำรวจ รอรถสองแถว ก็ไปคุยๆเล่นกับคุณตำรวจ สอบถามนู่นนี่นั่นไปเรื่อยเปื่อย (สานสัมพันธ์ไว้เผื่อมีปัญหา) รอซักแปป รถสองแถวก็มา เป็นรถสีส้มๆ หน้ารถเขียนว่า เพชรบูรณ์-หล่มสัก ค่าบริการคนละ 10 บาท พอมาถึง ในตัวอำเภอหล่มสัก ไอ้เราก็ไม่รู้ว่า ตลาดมันอยู่ตรงไหน พอเค้าลง ไอ้เราก็ลงตามเค้า อ้าววววว ที่นี่มันที่ไหน ไหนตลาด!!
ใจจริง กะอยากจะตามรอยรีวิว คือ มาถึงตลาดหล่มสัก ถ้าหารถเข้าหล่มเก่าไม่ได้ หรือไม่โอเค ก็โบกรถม้งขายกะหล่ำขึ้นไปเอา (คือแฟนอยากนั่งรถม้ง)
แต่สุดท้าย ไปไม่ถึงตลาด แต่ได้มาลงตรงท่ารถใกล้ๆกับตลาดพอดี ถามคนแถวๆนั้น เค้าก็บอกว่า "นี่เลย ขึ้นสองแถวตรงนี้เลย"ร้องไห้บริเวณนี้ จะเป็นที่เค้านั่งรอรถ เป็นคิวรถ มีคิวรถเพชรประเสริฐจอดตรงนี้ด้วย) ก็อะ ตัดสินใจ หารถสองแถวไปหล่มเก่า ก็เจอ สองแถวสีส้มอ่อน หน้ารถเขียน หล่มสัก-หล่มเก่า ก็โอเค ขึ้น ค่าบริการคนละ 20 บาท
ถึงหล่มเก่า ก็อีกตามเคย ไม่รู้ว่าจะลงตรงไหน ก็นั่งไปจนสุดคิวรถ ตรงนี้ จะมีสามล้อบริการเยอะ ถึงเยอะมากๆ ก็ตามสไตล์สามล้อ เหมือนกันทุกที่ คือ พอเราลงรถปุ๊บ ก็เข้ามารุมเราปั๊บ แต่ด้วยความที่อ่านรีวิวมาไง ก็ไม่อยากเสียค่าเหมาสามล้อ อยากขึ้นรถม้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เข้าใจม้ายย แต่ฝันก็สลาย เพราะถ้าจะเดินไปโบกรถม้ง นี่ก็ไกลอยู่พอสมควร สุดท้าย ก็ต้องใช้บริการสามล้อ เอาวะ เสียก็เสีย สามล้อ ให้บริการจากตัวอ.หล่มเก่า มาจนถึงแยกทางขึ้นภูทับเบิก ค่าบริการเหมาคัน 150 บาท มาถึงจุดนี้ ถามว่าคุ้มมั้ย ก็คุ้มอยู่นะ เพราะจากอ.หล่มเก่า ไปทางขึ้นภูทับเบิก มันไกลอยู่มากกกกกกกกก พอสมควร ก็เลย ให้ๆลุงแกไป
มาถึงทางขึ้นภูทับเบิก (ใกล้แล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) ก็จะมี เซเว่น สามล้อจะมาจอดส่งเราตรงนี้แหละ ผมก็ แวะซื้อของกิน เพราะจากรีวิว มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างบอกมาว่า ข้างบนของแพงมาก เราก็น้อมปฏิบัติตามทุกประการ คือตุนของกิน ของใช้ น้ำเปล่า บลาๆๆๆ ซื้อเสร็จ ก็ต้องแบกอีกซิครับ ถือกันถุงเบ้อเริ่ม แล้วก็ออกมาถ่ายรูปชิกๆ กันหน้าเซเว่น ยังกะว่าตัวเองเป็นฮิปสะเต้อ ถ่ายรูปแชะ สองแชะ พอสมใจอยาก ก็ต้องโบกรถขึ้นภูกันจริงๆแล้วทีนี้ โบกคันแรก รถม้งมา ดีใจมากกกกกก ไม่จอด รถม้งคันสองมา โบกอีก ไม่จอด รถคันสามมา ไม่ใช่รถม้งแฮะ แต่เป็นรถกระบะ น่าจะมาเที่ยว เราก็โบกกกกกก ทีนี้พี่เค้าจอด เราก็ขอติดรถขึ้นไปไปบนภูด้วย พี่เค้าก็ใจดีให้เราขึ้น เย่!! ภารกิจโบกรถต่อแรก สำเร็จ ระหว่างทาง ใครที่เคยไปจะรู้ ถึงความสาหัสของทางขึ้นภูทับเบิก ทั้งคด ทั้งเคี้ยว ทั้งชัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของถนนสายนี้ คือ ความสวยงาม สวยมากจริงๆ อากาศก็ดีสุดๆ ในวันที่ไปนั้น เป็นช่วงที่มีเมฆหนา ดังนั้น หมอกลงจัดแน่นอนคับ มีลมพัดตลอดเวลา ทำให้ได้เห็นสายหมอก ที่ไหลไปตามกระแสของอากาศ สุดจะบรรยายเลยคับ
อาศัยรถโบก มาได้ซักพัก พี่ใจดีเค้าก็จอดแวะพัก ตรงจุดชมวิวจุดแรก เป็นทางแยกไปอุทยานภูหินร่องกล้า ทางซ้ายมือ แต่ทางขวามือ จะเข้าไปภูทับเบิก หลังจากถ่ายภาพเสร็จ พี่เค้าก็อาสาไปส่งเราที่ ที่พักนะคับ ขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูทับเบิกนะคับ ผมจะแบ่งภูทับเบิก เป็นสี่โซนง่ายๆนะคับ โซนแรก หลังจากที่เราเลี้ยวมาจากแยกจุดชมวิวแล้ว ก็จะมีร้านค้า และรีสอร์ทตามรายทางเลยคับ โซนนี้ จะเป็นจุด วิสาหกิขชุมชนภูทับเบิกคับ เป็นจุดยอดนิยมสำหรับการกางเต้น และการภ่ายภาพวิว 360 องศาคับ โซนที่สอง เป็นโซนหลักของรีสอร์ท เลยคับ ตรงโซนนี้ จุดสังเกตุง่ายสุดน่าจะเป็น โรงเตี๊ยมนะครับ ใครที่พักในโซนนี้ ก็จะสะดวกหน่อย เนื่องจาก แหล่งร้านค้าต่างๆ ร้านอาหาร จะอยู่กันส่วนมากในบริเวณนี้ แถมยังมีเฮฟเว่นฮิล ที่มีสัญลักษณ์ เป็นไม้กางเขนขนาดใหญ่อยู่ด้วย เหมาะแก่การถ่ายรูปมากๆเลยยย โซนที่สาม โซนนี้จะห่างไกลออกมาอีก เป็นโซนค่อนข้างจะส่วนตัวมาก เพราะมีรีสอร์ท ไม่มากนัก ประมาณ 5-6 แห่งเท่านั้นเอง และยังมีบริเวณเป็นเวิ้งหุบเขา ที่ลาดลงไปเป็นไร่กะหล่ำ สวยมากคับ เป็นมุมที่มีพระอาทิตย์ขึ้นด้วย และโซนสุดท้าย เป็นโซนหมู่บ้านคับ เป็นหมู่บ้านชาวม้ง ในส่วนนี้ จะมีที่พักแค่ที่สองที่เท่านั้นครับ เพราะคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยไปพัก เนื่องจากอยู่ไกลจากจุดชมวิว และใกล้หมู่บ้านจนเกินไป แต่ก็พอจะมีจุดกางเต้นท์อยู่บ้างใกล้ๆกับโรงเรียน และมีตลาดสุดคลาสสิกกลางหมู่บ้าน เป็นตลาดชุมชนที่จะมีผลิตภัณฑ์ของชุมชนขายเช่น เสื้อผ้าชาวม้ง ผัก ผลไม้ตามฤดูกาล แต่ส่วนที่เป็นสถานที่สำคัญที่ห้ามพลาดเลยก็คือ วัดภูทับเบิก ที่อยู่ปลายสุดของหมู่บ้าน เป็นวัดที่สวยมากครับ หากใครคิดที่จะไปปฏิบัติธรรมนะครับ แนะนำเลย สงบ ร่มรื่น สวยงาม ทั้งยังมีเจดีย์ที่ตั้งตะหง่าน สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เนื่องจากอยู่บนยอดเขาอีกด้วย คร่าวๆ ของสถานที่ต่างๆบนภูทับเบิกก็มีประมาณนี้แหละคับ
กลับมาต่อเรื่องที่พัก พอดีว่าผมได้ทำการเฟ้นหาข้อมูลเรื่องที่พักอยู่พอสมควร ใครรีวิวว่าดี ว่าเด็ด ผมตามเข้าไปดูในทุกเว็ป โทรไปเช็คอยู่หลายๆรีสอร์ท สุดท้าย จุดมุ่งหมายของผม ก็ไปหยุดอยู่ที่ "กอดภูทับเบิก" จากรีวิวร้อยแปด จากการโทรไปสอบถาม ค้นหาภาพจากอากู๋ เปิดกูเกิ้ลเอิร์ท ก็เลือกเอาที่นี่แหละ บ้านเป็นหลัง ราคาเหมาะสม หน้าบ้านมีทะเลหมอก พร้อมสวนกะหล่ำด้านล้าง ครบตามที่ต้องการ ผมจองล่วงหน้า 1 เดือน ราคาที่พักช่วงนี้อยู่ที่ 1500 ต่อคืน (ช่วงนี้วอร์คอินไปก็ได้ เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น) และทำการเลือกระบุห้อง อยากได้บ้านหลังสีม่วงริมสุด เพราะค่อนข้างเป็นส่วนตัวที่สุด และอีกเหตุผลที่เลือกที่นี่ เพราะถามเค้าดูแล้วว่า มีรถมอไซต์ให้เช่าเที่ยวด้วยรึเปล่า เค้าบอกว่ามีคับ เป็นของรีสอร์ทใกล้ๆกันนี่แหละ ก็เลยตัดสินใจเลือกเลย *กอดภูทับเบิกอยู่ในโซนที่สามนะคับ ค่อนไปทางไปหมู่บ้าน **เบอร์โทรที่พัก 084-778-7076
จากการเดินทางของผม ที่พี่ใจดีเค้าขับมาส่ง ต่อจากจุดชมวิวนั้น ก็ได้มีการสอบถามกันซักเล็กน้อยว่า พี่เค้าเป็นใครมาจากไหน เพราะดูจากทักษะการขับรถขึ้นภูทับเบิกแล้ว ขั้นเทพมาก สรุป พี่เค้าเป็นชาวเพชรบูรณ์คับ พี่เค้าแค่อยากจะพาครอบครัวขึ้นมาเที่ยวบนภูทับเบิก มาไหว้พระที่วัด แล้วก็จะกลับ เห็นเราโบกรถกันอยู่ก็เลยให้อาศัยขึ้นมาด้วย ช่วยๆกัน พี่เค้าใจดีมากเลยนะคับ พาผมมาส่งถึงหน้าทางเข้าที่พักเลย จากนั้นก็เดินเข้าที่พักคับ ตรงนี้จะมีที่ติดกันสองที่ คือ กอดภูทับเบิก และทับเบิกฮิล แต่เราจองกอดภูทับเบิกไว้แล้ว เราก็ตรงเข้าไปทันที เมื่อเข้าที่พัก เราก็ทำการเช็คอิน เก็บกระเป๋าสัมภาระต่างๆ เดินแวะชมนกชมไม้ในรีสอร์ทซักครู่ จากนั้นเราก็ไปสอบถามเรื่องเช่ามอไซต์ ก็ได้ความว่า ให้ไปคุยตกลงราคากับเจ้าของรถได้เลย ที่ทับเบิกฮิลที่อยู่ติดกัน เราก็เดินไปทับเบิกฮิล ก็ได้เจอกับคนดูแลรีสอร์ท เค้าเป็นคนอัธยาศัยดีมากครับ ชวนคุยนั่นคุยนี่ พาไปดูรีสอร์ทของเค้า ซึ่ง ก็เป็นอีกที่ที่น่าสนใจนะคับ อันนี้ผมก็แนะนำเหมือนกัน ดูรีสอร์ทเสร็จ ก็มาตกลงราคาเช้ารถ ปกติเค้าคิดราคา ชม.ละ 150 แต่ว่าช่วงนี้ไม่มีคน เค้าเลยลดราคาให้ เหลือ 300 บาท สามชั่วโมง ขาดเกินได้ ไม่ว่ากัน ผมก็เอ้าาาา ตกลง เพราะตอนแรกเตรียมสำหรับค่ารถเช่าไว้อย่างต่ำห้าร้อยแล้ว ตามรอยรีวิวนั่นแหละ พอได้รถราคานี้ เราก็โอเค รถก็เป็นรถมอเตอร์ไซต์(เกียร์) สภาพใช้งานได้ปกติ ขึ้นเขา ลงเขาได้โอเค พอได้รถเรียบร้อย เราก็วางแพลนกันว่าในสามสี่ชั่วโมงนี้ เราจะไปไหน ทำอะไรกันดี และแล้วเราก็ได้สถานที่ไปเป็นที่เรียบร้อย...
เดี๋ยวมาเขียนต่อนะครับ ว่าหลังจากได้รถแล้ว เราไปไหนกันต่อบ้าง
นี่เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรก ถ้าพิมพ์ผิด หรือขาดตกบกพร่องตรงไหน ผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยไว้ด้วย
[CR] One night trip ขึ้นภูทับเบิก ก่อนฝนจะมา
พอดีว่า ผมเพิ่งกลับจากการเดินทาง เส้นทางท่องเที่ยว ขอนแก่น - ภูทับเบิก ก็เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ดีๆ ที่ได้จากการเดินทางบ้าง เพื่อแบ่งปันประสบการณ์กันนะครับ
การเดินทางของผม เป็นการเดินทางโดยอาศัยรถประจำทาง และการอาศัยความช่วยเหลือจากเพื่อนนักเดินทาง ตลอดทั้งสายนะครับ ทริปนี้ ไม่มีรถส่วนตัว แผนการเดินทางของผม ได้มีการเขียนขึ้นมาคร่าวๆ โดยเรามีข้อจำกัดหลายๆอย่าง เช่นเรื่องของเวลา งบประมาณ และความสะดวกสะบายในการเดินทาง ดังนั้นแล้ว ตลอดทั้งการเดินทางของเรา หาข้อมูลมาจาก การรีวิวจากกระทู้ในพันทิพ รายการโทรทัศน์ที่มีพิธีกรเป็นสาวสอง ข้อมูลจากเว็บไซต์ และการโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่อุทยาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่ได้จากการเดินทาง มันก็ค่อนข้างที่จะแตกต่างจากรีวิวไปซักเล็กน้อย
เพื่อไม่เป็นการยืดเยื้อ ผมว่าเรามาเริ่มการเดินทางเลยดีกว่า
04:30 น. ผมออกเดินทางจากที่พัก เพื่อที่จะไปขึ้นรถประจำทางที่ บขส(เก่า) ในเมืองขอนแก่น ในส่วนนี้ นั่งแท็กซี่ไปนะครับ สามารถโทรเรียกได้ตลอด เว็บไซต์แท็กซี่ขอนแก่น www.khonkaenlink.info/taxi เบอร์โทร Call Center 043-465777 08-7722-2490 ,08-7722-2493 มีบริการ 24 ชม. มิเตอร์เริ่มที่ 40 บาท ค่าบริการเรียก Taxi 20 บาทครับ
05:00 น. ผมเดินทางมาถึงสถานีขนส่ง และเลือกเดินทางกับรถประจำทางของ อีสานทัวร์นะครับ ในตอนแรก เราได้มีการมาสอบถามข้อมูลการเดินรถอยู่ก่อนหน้าแล้ว ซึ่งได้ข้อมูลว่า มีรถประจำทาง ขอนแก่น - หล่มสักอยู่สองสาย รอบการเดินรถเริ่มที่เวลาตีห้าของทุกๆวัน รถออกทุกชั่วโมง สายแรกเป็นรถสายยาว ขอนแก่น-เชียงใหม่ ซึ่งสายนี้จะเข้าจอดรถที่ บขส หล่มสัก แต่อีกสาย รถจะเข้าไปจอดที่ตลาดในตัวอำเภอหล่มสัก ในตอนแรก ผมก็ตัดสินใจ ที่จะไปลงตลาดในตัวอำเภอหล่มสักเลย เพื่อตามรอยรีวิว กระทู้แนะนำกระทู้หนึ่งในพันทิพ http://ppantip.com/topic/32316702 เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกอะเนอะ ก็ไม่อยากให้มันหลุดออกไปจากแผน แต่ว่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา พอไปถึงที่ซื้อตั๋ว คนขายตั๋วบอกว่า รถที่จะเข้าไปจอดในตลาด เค้าเลื่อนรอบรถไปเป็น เจ็ดโมงเช้า เพราะคนไม่ค่อยมี อ้าว กำละ รู้สึกไม่อยากรอ ก็เลยเลือกที่จะขึ้นรถสายยาว ขอนแก่น-เชียงใหม่ แต่เราลงที่หล่มสัก ที่จอดที่ บขส ก็เอาวะ เด๋วค่อยไปงมหาทางเอาต่อก็ได้
รถประจำทาง อีสานทัวร์ สายขอนแก่น-หล่มสัก (ปลายทางเชียงใหม่) รอบ 05:00 เดินทาง ประมาณ 4 ชั่วโมง ถึงบขส หล่มสัก ............ (มาถึงจุดนี้) ............. ขึ้นรถปุ๊บ หลับปั๊บ แต่หลับมาได้ซักพัก แดดก็ส่องเข้ามา เลยตื่น.... พอลืมตาตื่นขึ้นมาเท่านั้นแหละ อื้อหืออออออ เราถึงไหนละเนี่ย วิวข้างทางสวยมากกก จากนั้นก็หลับไม่ลงเลยครับ ดูวิวเพลินไปตลอด เพราะเส้นทางนี้เป็นเส้นทาง ขอนแก่น-ชุมแพ-น้ำหนาว-หล่มสัก ช่วงที่ขึ้นเขาแถวน้ำหนาวนี่คือแบบ บรรยากาศดีอย่างน่าเหลือเชื่อ มีหมอกระเรื่อ เหมือนในนิยาย แต่เวลาของความเพลิดเพลิน ก็สิ้นสุดลง เพราะว่า.... อยู่ดีๆ รถประจำทางก็จอด ผมก็งงว่า เอ๊ะ จอดทำไม นี่บนเขานะ ใครลง!! ตอบมาเดี๋ยวนี้นะคนขับรถ(คิดในใจ) ผิดคาด ด้วยความมีน้ำใจของคนขับรถ พี่แกจอดรับผู้โดยสารใหม่จำนวนหนึ่ง เป็นผู้โดยสารที่กลับมาจากการหาเก็บของป่า เห็ดป่า อู้วว น่าตื่นเต้นดีจัง(คิดในใจอีกรอบ) ไอ้เราก็อยากจะเห็นว่าเค้าหาอะไรมาได้บ้าง ส่องๆ ชะเง้อๆ ก็เจอ เห็ด เห็ดอะไรไม่รู้ เต็มตะกร้าเลยยยย ก็อื้มมม มีกลิ่นดินนิดหน่อย ไม่เป็นไรเราทนได้ แต่ว่าาาาาาาาาาาาาาา พวกพี่ขึ้นมา พี่เกรงใจผมบ้างได้มั้ยคร้าบบบบบบบบบบบบบ เสียงดังกันอย่างกับทัวร์จีนเลย ตลอดทาง โอ้ยยยยยย นึกว่ามาทัวร์คุณหมิงที่จีนหรือนี่กระไร คุยกันไม่หยุด จ้อกันภาษาอะไรก็ไม่รู้ (คิดว่าคงเป็นภาษาถิ่น หรือภาษาม้ง ไม่แน่ใจ) แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ผ่านไปได้ด้วยดี เมื่อเรามาถึงกันที่ บขส หล่มสัก เย่!!
การเดินทางตลอด 4 ชม. จากขอนแก่น ปลายทาง บขสหล่มสัก สวย และเสียงดังมาก แต่พอมาถึง ตอนนั้นเวลา 09:20 เราก็ต้องดิ้นรนทางไปกันต่อ และจากข้อมูลที่ได้หามาจากเว็บไซต์ เราก็รู้มาว่า เราต้องนั่งรถสองแถว จากบขส เข้าไปที่ตลาดหล่มสัก เพื่อไปขึ้นรถต่อ เราก็เดินๆวนหากันอยู่พักหนึ่ง และถามคนแถวนั้น คนแรกบอกว่า "รออยู่ในบขสนี่แหละ เดี๋ยวรถสองแถวก็วนเข้ามา" โอเค เราก็รอ รอได้ซักพัก สองแถวมา พอไปถามเค้าก็บอกว่า "รถสองแถวที่จะเข้าตลาดอะ ไม่ได้เข้ามาในบขส ให้ไปขึ้นตรงป้อมตำรวจ อีกฟากหนึ่งของถนน" โอเค ก็เดินข้ามถนนหน้าบขสไปรอที่ป้อมตำรวจ รอรถสองแถว ก็ไปคุยๆเล่นกับคุณตำรวจ สอบถามนู่นนี่นั่นไปเรื่อยเปื่อย (สานสัมพันธ์ไว้เผื่อมีปัญหา) รอซักแปป รถสองแถวก็มา เป็นรถสีส้มๆ หน้ารถเขียนว่า เพชรบูรณ์-หล่มสัก ค่าบริการคนละ 10 บาท พอมาถึง ในตัวอำเภอหล่มสัก ไอ้เราก็ไม่รู้ว่า ตลาดมันอยู่ตรงไหน พอเค้าลง ไอ้เราก็ลงตามเค้า อ้าววววว ที่นี่มันที่ไหน ไหนตลาด!!
ใจจริง กะอยากจะตามรอยรีวิว คือ มาถึงตลาดหล่มสัก ถ้าหารถเข้าหล่มเก่าไม่ได้ หรือไม่โอเค ก็โบกรถม้งขายกะหล่ำขึ้นไปเอา (คือแฟนอยากนั่งรถม้ง)
แต่สุดท้าย ไปไม่ถึงตลาด แต่ได้มาลงตรงท่ารถใกล้ๆกับตลาดพอดี ถามคนแถวๆนั้น เค้าก็บอกว่า "นี่เลย ขึ้นสองแถวตรงนี้เลย"ร้องไห้บริเวณนี้ จะเป็นที่เค้านั่งรอรถ เป็นคิวรถ มีคิวรถเพชรประเสริฐจอดตรงนี้ด้วย) ก็อะ ตัดสินใจ หารถสองแถวไปหล่มเก่า ก็เจอ สองแถวสีส้มอ่อน หน้ารถเขียน หล่มสัก-หล่มเก่า ก็โอเค ขึ้น ค่าบริการคนละ 20 บาท
ถึงหล่มเก่า ก็อีกตามเคย ไม่รู้ว่าจะลงตรงไหน ก็นั่งไปจนสุดคิวรถ ตรงนี้ จะมีสามล้อบริการเยอะ ถึงเยอะมากๆ ก็ตามสไตล์สามล้อ เหมือนกันทุกที่ คือ พอเราลงรถปุ๊บ ก็เข้ามารุมเราปั๊บ แต่ด้วยความที่อ่านรีวิวมาไง ก็ไม่อยากเสียค่าเหมาสามล้อ อยากขึ้นรถม้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เข้าใจม้ายย แต่ฝันก็สลาย เพราะถ้าจะเดินไปโบกรถม้ง นี่ก็ไกลอยู่พอสมควร สุดท้าย ก็ต้องใช้บริการสามล้อ เอาวะ เสียก็เสีย สามล้อ ให้บริการจากตัวอ.หล่มเก่า มาจนถึงแยกทางขึ้นภูทับเบิก ค่าบริการเหมาคัน 150 บาท มาถึงจุดนี้ ถามว่าคุ้มมั้ย ก็คุ้มอยู่นะ เพราะจากอ.หล่มเก่า ไปทางขึ้นภูทับเบิก มันไกลอยู่มากกกกกกกกก พอสมควร ก็เลย ให้ๆลุงแกไป
มาถึงทางขึ้นภูทับเบิก (ใกล้แล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) ก็จะมี เซเว่น สามล้อจะมาจอดส่งเราตรงนี้แหละ ผมก็ แวะซื้อของกิน เพราะจากรีวิว มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างบอกมาว่า ข้างบนของแพงมาก เราก็น้อมปฏิบัติตามทุกประการ คือตุนของกิน ของใช้ น้ำเปล่า บลาๆๆๆ ซื้อเสร็จ ก็ต้องแบกอีกซิครับ ถือกันถุงเบ้อเริ่ม แล้วก็ออกมาถ่ายรูปชิกๆ กันหน้าเซเว่น ยังกะว่าตัวเองเป็นฮิปสะเต้อ ถ่ายรูปแชะ สองแชะ พอสมใจอยาก ก็ต้องโบกรถขึ้นภูกันจริงๆแล้วทีนี้ โบกคันแรก รถม้งมา ดีใจมากกกกกก ไม่จอด รถม้งคันสองมา โบกอีก ไม่จอด รถคันสามมา ไม่ใช่รถม้งแฮะ แต่เป็นรถกระบะ น่าจะมาเที่ยว เราก็โบกกกกกก ทีนี้พี่เค้าจอด เราก็ขอติดรถขึ้นไปไปบนภูด้วย พี่เค้าก็ใจดีให้เราขึ้น เย่!! ภารกิจโบกรถต่อแรก สำเร็จ ระหว่างทาง ใครที่เคยไปจะรู้ ถึงความสาหัสของทางขึ้นภูทับเบิก ทั้งคด ทั้งเคี้ยว ทั้งชัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของถนนสายนี้ คือ ความสวยงาม สวยมากจริงๆ อากาศก็ดีสุดๆ ในวันที่ไปนั้น เป็นช่วงที่มีเมฆหนา ดังนั้น หมอกลงจัดแน่นอนคับ มีลมพัดตลอดเวลา ทำให้ได้เห็นสายหมอก ที่ไหลไปตามกระแสของอากาศ สุดจะบรรยายเลยคับ
อาศัยรถโบก มาได้ซักพัก พี่ใจดีเค้าก็จอดแวะพัก ตรงจุดชมวิวจุดแรก เป็นทางแยกไปอุทยานภูหินร่องกล้า ทางซ้ายมือ แต่ทางขวามือ จะเข้าไปภูทับเบิก หลังจากถ่ายภาพเสร็จ พี่เค้าก็อาสาไปส่งเราที่ ที่พักนะคับ ขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูทับเบิกนะคับ ผมจะแบ่งภูทับเบิก เป็นสี่โซนง่ายๆนะคับ โซนแรก หลังจากที่เราเลี้ยวมาจากแยกจุดชมวิวแล้ว ก็จะมีร้านค้า และรีสอร์ทตามรายทางเลยคับ โซนนี้ จะเป็นจุด วิสาหกิขชุมชนภูทับเบิกคับ เป็นจุดยอดนิยมสำหรับการกางเต้น และการภ่ายภาพวิว 360 องศาคับ โซนที่สอง เป็นโซนหลักของรีสอร์ท เลยคับ ตรงโซนนี้ จุดสังเกตุง่ายสุดน่าจะเป็น โรงเตี๊ยมนะครับ ใครที่พักในโซนนี้ ก็จะสะดวกหน่อย เนื่องจาก แหล่งร้านค้าต่างๆ ร้านอาหาร จะอยู่กันส่วนมากในบริเวณนี้ แถมยังมีเฮฟเว่นฮิล ที่มีสัญลักษณ์ เป็นไม้กางเขนขนาดใหญ่อยู่ด้วย เหมาะแก่การถ่ายรูปมากๆเลยยย โซนที่สาม โซนนี้จะห่างไกลออกมาอีก เป็นโซนค่อนข้างจะส่วนตัวมาก เพราะมีรีสอร์ท ไม่มากนัก ประมาณ 5-6 แห่งเท่านั้นเอง และยังมีบริเวณเป็นเวิ้งหุบเขา ที่ลาดลงไปเป็นไร่กะหล่ำ สวยมากคับ เป็นมุมที่มีพระอาทิตย์ขึ้นด้วย และโซนสุดท้าย เป็นโซนหมู่บ้านคับ เป็นหมู่บ้านชาวม้ง ในส่วนนี้ จะมีที่พักแค่ที่สองที่เท่านั้นครับ เพราะคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยไปพัก เนื่องจากอยู่ไกลจากจุดชมวิว และใกล้หมู่บ้านจนเกินไป แต่ก็พอจะมีจุดกางเต้นท์อยู่บ้างใกล้ๆกับโรงเรียน และมีตลาดสุดคลาสสิกกลางหมู่บ้าน เป็นตลาดชุมชนที่จะมีผลิตภัณฑ์ของชุมชนขายเช่น เสื้อผ้าชาวม้ง ผัก ผลไม้ตามฤดูกาล แต่ส่วนที่เป็นสถานที่สำคัญที่ห้ามพลาดเลยก็คือ วัดภูทับเบิก ที่อยู่ปลายสุดของหมู่บ้าน เป็นวัดที่สวยมากครับ หากใครคิดที่จะไปปฏิบัติธรรมนะครับ แนะนำเลย สงบ ร่มรื่น สวยงาม ทั้งยังมีเจดีย์ที่ตั้งตะหง่าน สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เนื่องจากอยู่บนยอดเขาอีกด้วย คร่าวๆ ของสถานที่ต่างๆบนภูทับเบิกก็มีประมาณนี้แหละคับ
กลับมาต่อเรื่องที่พัก พอดีว่าผมได้ทำการเฟ้นหาข้อมูลเรื่องที่พักอยู่พอสมควร ใครรีวิวว่าดี ว่าเด็ด ผมตามเข้าไปดูในทุกเว็ป โทรไปเช็คอยู่หลายๆรีสอร์ท สุดท้าย จุดมุ่งหมายของผม ก็ไปหยุดอยู่ที่ "กอดภูทับเบิก" จากรีวิวร้อยแปด จากการโทรไปสอบถาม ค้นหาภาพจากอากู๋ เปิดกูเกิ้ลเอิร์ท ก็เลือกเอาที่นี่แหละ บ้านเป็นหลัง ราคาเหมาะสม หน้าบ้านมีทะเลหมอก พร้อมสวนกะหล่ำด้านล้าง ครบตามที่ต้องการ ผมจองล่วงหน้า 1 เดือน ราคาที่พักช่วงนี้อยู่ที่ 1500 ต่อคืน (ช่วงนี้วอร์คอินไปก็ได้ เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น) และทำการเลือกระบุห้อง อยากได้บ้านหลังสีม่วงริมสุด เพราะค่อนข้างเป็นส่วนตัวที่สุด และอีกเหตุผลที่เลือกที่นี่ เพราะถามเค้าดูแล้วว่า มีรถมอไซต์ให้เช่าเที่ยวด้วยรึเปล่า เค้าบอกว่ามีคับ เป็นของรีสอร์ทใกล้ๆกันนี่แหละ ก็เลยตัดสินใจเลือกเลย *กอดภูทับเบิกอยู่ในโซนที่สามนะคับ ค่อนไปทางไปหมู่บ้าน **เบอร์โทรที่พัก 084-778-7076
จากการเดินทางของผม ที่พี่ใจดีเค้าขับมาส่ง ต่อจากจุดชมวิวนั้น ก็ได้มีการสอบถามกันซักเล็กน้อยว่า พี่เค้าเป็นใครมาจากไหน เพราะดูจากทักษะการขับรถขึ้นภูทับเบิกแล้ว ขั้นเทพมาก สรุป พี่เค้าเป็นชาวเพชรบูรณ์คับ พี่เค้าแค่อยากจะพาครอบครัวขึ้นมาเที่ยวบนภูทับเบิก มาไหว้พระที่วัด แล้วก็จะกลับ เห็นเราโบกรถกันอยู่ก็เลยให้อาศัยขึ้นมาด้วย ช่วยๆกัน พี่เค้าใจดีมากเลยนะคับ พาผมมาส่งถึงหน้าทางเข้าที่พักเลย จากนั้นก็เดินเข้าที่พักคับ ตรงนี้จะมีที่ติดกันสองที่ คือ กอดภูทับเบิก และทับเบิกฮิล แต่เราจองกอดภูทับเบิกไว้แล้ว เราก็ตรงเข้าไปทันที เมื่อเข้าที่พัก เราก็ทำการเช็คอิน เก็บกระเป๋าสัมภาระต่างๆ เดินแวะชมนกชมไม้ในรีสอร์ทซักครู่ จากนั้นเราก็ไปสอบถามเรื่องเช่ามอไซต์ ก็ได้ความว่า ให้ไปคุยตกลงราคากับเจ้าของรถได้เลย ที่ทับเบิกฮิลที่อยู่ติดกัน เราก็เดินไปทับเบิกฮิล ก็ได้เจอกับคนดูแลรีสอร์ท เค้าเป็นคนอัธยาศัยดีมากครับ ชวนคุยนั่นคุยนี่ พาไปดูรีสอร์ทของเค้า ซึ่ง ก็เป็นอีกที่ที่น่าสนใจนะคับ อันนี้ผมก็แนะนำเหมือนกัน ดูรีสอร์ทเสร็จ ก็มาตกลงราคาเช้ารถ ปกติเค้าคิดราคา ชม.ละ 150 แต่ว่าช่วงนี้ไม่มีคน เค้าเลยลดราคาให้ เหลือ 300 บาท สามชั่วโมง ขาดเกินได้ ไม่ว่ากัน ผมก็เอ้าาาา ตกลง เพราะตอนแรกเตรียมสำหรับค่ารถเช่าไว้อย่างต่ำห้าร้อยแล้ว ตามรอยรีวิวนั่นแหละ พอได้รถราคานี้ เราก็โอเค รถก็เป็นรถมอเตอร์ไซต์(เกียร์) สภาพใช้งานได้ปกติ ขึ้นเขา ลงเขาได้โอเค พอได้รถเรียบร้อย เราก็วางแพลนกันว่าในสามสี่ชั่วโมงนี้ เราจะไปไหน ทำอะไรกันดี และแล้วเราก็ได้สถานที่ไปเป็นที่เรียบร้อย...
เดี๋ยวมาเขียนต่อนะครับ ว่าหลังจากได้รถแล้ว เราไปไหนกันต่อบ้าง
นี่เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรก ถ้าพิมพ์ผิด หรือขาดตกบกพร่องตรงไหน ผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยไว้ด้วย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น