ตอนที่ ๙
http://ppantip.com/topic/32328060/comment1
เสียงเคาะประตูดังรัวถี่ยิบ พรีมรีบวิ่งออกจากห้องน้ำ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร กริ่งมีก็ไม่รู้จักใช้ พรีมคิดอย่างหงุดหงิด
“มีอะไรคะ เคาะสองสามครั้งก็พอ” พรีมดุ
“ทีวีผมเสีย ขอดูทีวีที่บ้านคุณนะครับ”
พรีมยืนนิ่ง จ้องหน้าคนขอตาไม่กระพริบ เกิดมาเพิ่งเคยเจอ ขอดูทีวีบ้านคนอื่นดื้อๆ รพีพัฒน์อาศัยจังหวะที่เธอยืนงง แทรกตัวเข้าไปในห้อง พรีมได้แต่อ้าปากค้าง หันมามองผู้บุกรุกจับจองโซฟาหน้าจอทีวี หญิงสาวปิดประตูห้องเสียงดัง
“คุณก็ไปดูบ้านเพื่อนคุณสิ หรือไม่ก็ร้านอาหาร” พรีมพูดกระแทกเสียง
“วันนี้ศึกวันแดงเดือด พวกเพื่อนผมเชียร์ทีมฝั่งตรงข้าม ไม่อยากทะเลาะด้วย ส่วนร้านอาหารคนก็เยอะ ดูที่บ้านสบายกว่า”
พรีมยืนงงกับคำว่า
ศึกวันแดงเดือด อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกออกว่าหมายถึงอะไร เธอไม่ชอบดูฟุตบอล เคยพยายามดูเหมือนกัน คนยี่สิบกว่าคนวิ่งวุ่นกันอยู่ในสนามเพราะลูกบอลลูกเดียวสนุกตรงไหนกัน ตอนเรียนหนังสือที่เยอรมันพวกเพื่อนๆ ทั้งหญิงและชายชื่นชอบกีฬาชนิดนี้มาก
รพีพัฒน์ลุกไปเปิดสวิทช์โทรทัศน์ หยิบรีโมทคอนโทรลจากตะกร้ารูปไก่บนโต๊ะกาแฟ ชายหนุ่มเหลือบไปมองเจ้าของห้องเห็นเธอยืนหน้าหงิก ก็นึกอยากลุกไปหยิกแก้มทั้งสองข้างนัก
“อีกครึ่งชั่วโมงกว่าบอลจะมา สั่งอาหารมาทานกันดีกว่า พิซซ่าดีไหมครับ” รพีพัฒน์เสนอ
พรีมจ้องหน้าชายหนุ่ม เธอกำลังคิดหาวิธีลากตัวเขาออกจากห้อง แต่คะเนดูจากรูปร่างของเขาเปรียบเทียบกับตัวเธอ คงยาก จะไปบอกให้เพื่อนบ้านมาช่วยก็กระไรอยู่ แจ้งตำรวจก็ดูจะเว่อร์ไปนิด
“ฉันไม่ชอบพิซซ่า”
“คุณก็ทานอย่างอื่นสิ บ้านคุณมีโบว์ชัวร์ของทางร้านหรือเปล่า”
“ไม่มีค่ะ”
ชายหนุ่มหยิบไอแพดที่ถือติดมือมาด้วยพร้อมกับหูฟัง เปิดเว็บไซต์ร้านพิซซ่าเพื่อสั่งอาหาร นิ้วเรียวงามสัมผัสหน้าจอคล่องแคล่ว
“ผมสั่งสปาเก็ตตี้ ซีซาร์สลัด แล้วก็ไก่ทอดให้คุณ” ชายหนุ่มยิ้มประจบหญิงสาว สิ่งที่ได้รับกลับมาคือใบหน้าเฉยเมย
พรีมถอนหายใจ วันนี้เธอไปพบผู้ใหญ่ในแวดวงธุรกิจกับคู่หมั้นเรื่องงานแต่งงานมาทั้งวัน กลับมาบ้านก็อยากอาบน้ำเข้านอนเร็วๆ ต้องมานั่งร่วมบ้านกับแขกไม่ได้รับเชิญ หญิงสาวไม่มีอารมณ์ทำงานหรืออ่านจดหมายจึงเล่นเกมฆ่าเวลา
วันนี้เลิกงานปุ๊บเขาก็ปฏิเสธคำชวนของเพื่อน รีบกลับมาบ้านเพราะอยากชวนเพื่อนบ้านไปดูหนังที่เพิ่งเข้าโรง หลังจากจอดรถเรียบร้อย สายตาบังเอิญไปเห็นรถหรูจากยุโรป จึงเดินไปดูใกล้ๆ มีผู้ชายเดินลงมาเปิดประตูให้พรีม เขาเห็นหน้าไม่ชัด ทั้งคู่คุยกันไม่นาน พรีมรอจนรถออกไปแล้วจึงกลับเข้าตึก รพีพัฒน์ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง เหตุใดเขาจึงหงุดหงิดด้วยนะ ผู้ชายที่มาส่งคงจะเป็นคู่หมั้นของเธอ เขารู้แค่ตัวเองไม่ชอบใจ
เสียงกริ่งดัง พรีมกำลังลุกไปเปิดประตูตามความเคยชิน แต่ช้ากว่ารพีพัฒน์ หญิงสาวจึงเดินเข้าครัว หยิบจานกับช้อนส้อมมาวางหน้าโต๊ะดูทีวี
“คุณมีน้ำแข็งหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มถามพลางยกขวดน้ำอัดลมให้เธอ
“มีค่ะ” พูดจบเธอก็เดินไปเปิดตู้เย็น หยิบกล่องใส่น้ำแข็งออกมา ใช้คีมคีบน้ำแข็งใส่แก้วสองใบ รพีพัฒน์เทอาหารใส่จาน พรีมวางแก้วลงบนโต๊ะ หญิงสาวนั่งลงที่โซฟามุมหนึ่ง เว้นระยะห่างจากชายหนุ่มเล็กน้อย รพีพัฒน์วางจานสปาเก็ตตี้ตรงหน้าหญิงสาว พร้อมวางสลัดและไก่ทอดบนฝั่งของเธอ ชายหนุ่มเปิดขวดน้ำอัดลม รินน้ำใส่แก้วทั้งสองใบ พรีมใช้ส้อมม้วนสปาเก็ตตี้ สายตาหญิงสาวมองหน้าจอโทรทัศน์
“ไหนคุณว่าจะมาดูบอลไงคะ” น้ำเสียงหญิงสาวเหมือนคนหาเรื่อง
“เดี๋ยวบอลก็มาแล้วครับ” รพีพัฒน์ตอบเสียงเรียบ ชายหนุ่มกัดพิซซ่าคำโต ถ้าเขาไม่เคืองเธอคงลืมไปแล้วว่าวันนี้มีศึกวันแดงเดือด
พรีมนั่งทานอาหารไม่พูดไม่จา เพิ่งรู้ตัวว่าหิวมากก็ตอนตักอาหารเข้าปากนี่แหละ รพีพัฒน์นั่งมองเธอ ส่วนปากก็เคี้ยวอาหาร ชายหนุ่มคิดในใจว่า “สงสัยจะหิวจัด นั่งกินไม่พูดไม่จา” สายตาของชายหนุ่มหันกลับมาที่หน้าจอโทรทัศน์ บอลเริ่มถ่ายทอดสดแล้ว
เจ้าของบ้านทานสปาเก็ตตี้หมดแล้ว ก็ต่อด้วยสลัด ส่วนรพีพัฒน์ก็จัดการพิซซ่าคนเดียวทั้งถาด พรีมมองพิซซ่าที่ลดจำนวนลงเรื่อยๆ “กินเข้าไปได้ยังไงคนเดียวตั้งหกชิ้น” พรีมคิดพลางสั่นศีรษะ หญิงสาวมองจานอาหารตรงหน้าที่ว่างเปล่า นี่เธอทานสปาเก็ตตี้ สลัด และไก่ทอดคนเดียวหมดหรือนี่ พรีมเก็บจานเปล่าไปไว้ในอ่างล้างจาน รพีพัฒน์เก็บกล่องพิซซ่าและกล่องใส่อาหารลงในถุง เขาจะลุกไปช่วยเธอในครัวก็ถูกห้าม
“ฉันทำเองค่ะ คุณเป็น
แขก” หญิงสาวเน้นคำหลังด้วยน้ำเสียง-ดัน ชายหนุ่มชำเลืองค้อนเธอ
หญิงสาวล้างจาน เช็ดโต๊ะ แล้วจึงเข้าห้องเพื่อไปอาบน้ำ แล้วจึงมานั่งทำงานต่อ จากมุมที่เธอนั่งมองเห็นหน้าจอโทรทัศน์ชัดเจน รพีพัฒน์ได้กลิ่นหอมเหมือนแอปเปิลลอยมาจึงหันไปมองด้านหลัง เห็นพรีมสวมหูฟังสายตาจับจ้องคอมพิวเตอร์ตรงหน้า
“คุณถอดหูฟังออกเถอะครับ ผมเอาหูฟังมาด้วย” รพีพัฒน์พูดเสียงดังกว่าปกติเล็กน้อย
“คะ” พรีมดึงหูฟังออก
“คุณไม่ต้องใส่หรอก ผมเอาหูฟังมาด้วย” พูดจบก็ชูหูฟังสีเหลืองสดให้เธอเห็น
พรีมพยักหน้ารับรู้ รพีพัฒน์เสียบหูฟังเข้ากับเต้าเสียบ หญิงสาวนั่งอ่านบทความกฎหมายของต่างประเทศ พอรู้สึกอยากพักสายตาก็หยิบหนังสือมาอ่าน เธอรู้สึกคอแห้งจึงเดินเข้าครัว รินน้ำผลไม้ใส่แก้วสองใบ รพีพัฒน์พูดขอบคุณโดยไม่มีเสียงตอนเธอวางน้ำผลไม้ลงบนโต๊ะกาแฟ
พรีมนั่งเล่นเกม เธอนั่งหาวสองสามครั้งก็ฟุบหลับลงบนโต๊ะ รพีพัฒน์ดูฟุตบอลจบก็ปิดโทรทัศน์ เขาถอดหูฟังออก ชายหนุ่มรู้สึกปวดหูเล็กน้อย หันไปเห็นเจ้าของบ้านฟุบหลับบนโต๊ะก็อมยิ้ม ตอนแรกเขาคิดจะปลุกเธอ แล้วก็เปลี่ยนใจ มือชายหนุ่มเผลอไปโดนเม้าส์ ภาพหน้าจอปรากฏเป็นเกมทำฟาร์ม ฟาร์มในเกมของหญิงสาวอุดมสมบูรณ์
“ทำไร่ทำสวนเลี้ยงสัตว์ในเกมมันจะสนุกเหมือนของจริงได้ยังไง สักวันผมจะพาคุณไปสัมผัสของจริง” ชายหนุ่มปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ค่อยๆ ประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืน แล้วจึงอุ้มเธอเข้าไปในห้องนอน
“เพิ่งดื่มน้ำผลไม้แล้วก็หลับเลย ตื่นมาต้องเจ็บคอแน่ๆ” พูดจบเขาก็เข้าครัวเปิดตู้เย็น รินน้ำใส่แก้ว ชายหนุ่มมองหาหลอด เขาเห็นมันวางอยู่บนตู้เย็นในขวดโหลปิดสนิท จึงหยิบหลอดมาใส่แก้ว
เขาประคองศีรษะของเธอขึ้นมา ยื่นแก้วให้หลอดพอดีกับปาก พลางกระซิบข้างหูว่า
“ดื่มน้ำก่อน แล้วค่อยนอน” พรีมทำตามอย่างว่าง่าย พอเธอดื่มจนพอแล้ว เขาจึงค่อยๆ วางศีรษะของเธอลงบนหมอนอย่างนุ่มนวล
รพีพัฒน์ห่มผ้าให้พรีม ปิดไฟในห้อง แล้วกลับเข้าห้องของตัวเอง
***********************************************
หนามหัวใจ โดย กัณฐมาศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพลิงสุมทรวง โดย กัณฐมาศ ตีพิมพ์แล้วกับสำนักพิมพ์ทัช
หนามหัวใจ ตอนที่ ๑๐
เสียงเคาะประตูดังรัวถี่ยิบ พรีมรีบวิ่งออกจากห้องน้ำ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร กริ่งมีก็ไม่รู้จักใช้ พรีมคิดอย่างหงุดหงิด
“มีอะไรคะ เคาะสองสามครั้งก็พอ” พรีมดุ
“ทีวีผมเสีย ขอดูทีวีที่บ้านคุณนะครับ”
พรีมยืนนิ่ง จ้องหน้าคนขอตาไม่กระพริบ เกิดมาเพิ่งเคยเจอ ขอดูทีวีบ้านคนอื่นดื้อๆ รพีพัฒน์อาศัยจังหวะที่เธอยืนงง แทรกตัวเข้าไปในห้อง พรีมได้แต่อ้าปากค้าง หันมามองผู้บุกรุกจับจองโซฟาหน้าจอทีวี หญิงสาวปิดประตูห้องเสียงดัง
“คุณก็ไปดูบ้านเพื่อนคุณสิ หรือไม่ก็ร้านอาหาร” พรีมพูดกระแทกเสียง
“วันนี้ศึกวันแดงเดือด พวกเพื่อนผมเชียร์ทีมฝั่งตรงข้าม ไม่อยากทะเลาะด้วย ส่วนร้านอาหารคนก็เยอะ ดูที่บ้านสบายกว่า”
พรีมยืนงงกับคำว่า ศึกวันแดงเดือด อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกออกว่าหมายถึงอะไร เธอไม่ชอบดูฟุตบอล เคยพยายามดูเหมือนกัน คนยี่สิบกว่าคนวิ่งวุ่นกันอยู่ในสนามเพราะลูกบอลลูกเดียวสนุกตรงไหนกัน ตอนเรียนหนังสือที่เยอรมันพวกเพื่อนๆ ทั้งหญิงและชายชื่นชอบกีฬาชนิดนี้มาก
รพีพัฒน์ลุกไปเปิดสวิทช์โทรทัศน์ หยิบรีโมทคอนโทรลจากตะกร้ารูปไก่บนโต๊ะกาแฟ ชายหนุ่มเหลือบไปมองเจ้าของห้องเห็นเธอยืนหน้าหงิก ก็นึกอยากลุกไปหยิกแก้มทั้งสองข้างนัก
“อีกครึ่งชั่วโมงกว่าบอลจะมา สั่งอาหารมาทานกันดีกว่า พิซซ่าดีไหมครับ” รพีพัฒน์เสนอ
พรีมจ้องหน้าชายหนุ่ม เธอกำลังคิดหาวิธีลากตัวเขาออกจากห้อง แต่คะเนดูจากรูปร่างของเขาเปรียบเทียบกับตัวเธอ คงยาก จะไปบอกให้เพื่อนบ้านมาช่วยก็กระไรอยู่ แจ้งตำรวจก็ดูจะเว่อร์ไปนิด
“ฉันไม่ชอบพิซซ่า”
“คุณก็ทานอย่างอื่นสิ บ้านคุณมีโบว์ชัวร์ของทางร้านหรือเปล่า”
“ไม่มีค่ะ”
ชายหนุ่มหยิบไอแพดที่ถือติดมือมาด้วยพร้อมกับหูฟัง เปิดเว็บไซต์ร้านพิซซ่าเพื่อสั่งอาหาร นิ้วเรียวงามสัมผัสหน้าจอคล่องแคล่ว
“ผมสั่งสปาเก็ตตี้ ซีซาร์สลัด แล้วก็ไก่ทอดให้คุณ” ชายหนุ่มยิ้มประจบหญิงสาว สิ่งที่ได้รับกลับมาคือใบหน้าเฉยเมย
พรีมถอนหายใจ วันนี้เธอไปพบผู้ใหญ่ในแวดวงธุรกิจกับคู่หมั้นเรื่องงานแต่งงานมาทั้งวัน กลับมาบ้านก็อยากอาบน้ำเข้านอนเร็วๆ ต้องมานั่งร่วมบ้านกับแขกไม่ได้รับเชิญ หญิงสาวไม่มีอารมณ์ทำงานหรืออ่านจดหมายจึงเล่นเกมฆ่าเวลา
วันนี้เลิกงานปุ๊บเขาก็ปฏิเสธคำชวนของเพื่อน รีบกลับมาบ้านเพราะอยากชวนเพื่อนบ้านไปดูหนังที่เพิ่งเข้าโรง หลังจากจอดรถเรียบร้อย สายตาบังเอิญไปเห็นรถหรูจากยุโรป จึงเดินไปดูใกล้ๆ มีผู้ชายเดินลงมาเปิดประตูให้พรีม เขาเห็นหน้าไม่ชัด ทั้งคู่คุยกันไม่นาน พรีมรอจนรถออกไปแล้วจึงกลับเข้าตึก รพีพัฒน์ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง เหตุใดเขาจึงหงุดหงิดด้วยนะ ผู้ชายที่มาส่งคงจะเป็นคู่หมั้นของเธอ เขารู้แค่ตัวเองไม่ชอบใจ
เสียงกริ่งดัง พรีมกำลังลุกไปเปิดประตูตามความเคยชิน แต่ช้ากว่ารพีพัฒน์ หญิงสาวจึงเดินเข้าครัว หยิบจานกับช้อนส้อมมาวางหน้าโต๊ะดูทีวี
“คุณมีน้ำแข็งหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มถามพลางยกขวดน้ำอัดลมให้เธอ
“มีค่ะ” พูดจบเธอก็เดินไปเปิดตู้เย็น หยิบกล่องใส่น้ำแข็งออกมา ใช้คีมคีบน้ำแข็งใส่แก้วสองใบ รพีพัฒน์เทอาหารใส่จาน พรีมวางแก้วลงบนโต๊ะ หญิงสาวนั่งลงที่โซฟามุมหนึ่ง เว้นระยะห่างจากชายหนุ่มเล็กน้อย รพีพัฒน์วางจานสปาเก็ตตี้ตรงหน้าหญิงสาว พร้อมวางสลัดและไก่ทอดบนฝั่งของเธอ ชายหนุ่มเปิดขวดน้ำอัดลม รินน้ำใส่แก้วทั้งสองใบ พรีมใช้ส้อมม้วนสปาเก็ตตี้ สายตาหญิงสาวมองหน้าจอโทรทัศน์
“ไหนคุณว่าจะมาดูบอลไงคะ” น้ำเสียงหญิงสาวเหมือนคนหาเรื่อง
“เดี๋ยวบอลก็มาแล้วครับ” รพีพัฒน์ตอบเสียงเรียบ ชายหนุ่มกัดพิซซ่าคำโต ถ้าเขาไม่เคืองเธอคงลืมไปแล้วว่าวันนี้มีศึกวันแดงเดือด
พรีมนั่งทานอาหารไม่พูดไม่จา เพิ่งรู้ตัวว่าหิวมากก็ตอนตักอาหารเข้าปากนี่แหละ รพีพัฒน์นั่งมองเธอ ส่วนปากก็เคี้ยวอาหาร ชายหนุ่มคิดในใจว่า “สงสัยจะหิวจัด นั่งกินไม่พูดไม่จา” สายตาของชายหนุ่มหันกลับมาที่หน้าจอโทรทัศน์ บอลเริ่มถ่ายทอดสดแล้ว
เจ้าของบ้านทานสปาเก็ตตี้หมดแล้ว ก็ต่อด้วยสลัด ส่วนรพีพัฒน์ก็จัดการพิซซ่าคนเดียวทั้งถาด พรีมมองพิซซ่าที่ลดจำนวนลงเรื่อยๆ “กินเข้าไปได้ยังไงคนเดียวตั้งหกชิ้น” พรีมคิดพลางสั่นศีรษะ หญิงสาวมองจานอาหารตรงหน้าที่ว่างเปล่า นี่เธอทานสปาเก็ตตี้ สลัด และไก่ทอดคนเดียวหมดหรือนี่ พรีมเก็บจานเปล่าไปไว้ในอ่างล้างจาน รพีพัฒน์เก็บกล่องพิซซ่าและกล่องใส่อาหารลงในถุง เขาจะลุกไปช่วยเธอในครัวก็ถูกห้าม
“ฉันทำเองค่ะ คุณเป็น แขก” หญิงสาวเน้นคำหลังด้วยน้ำเสียง-ดัน ชายหนุ่มชำเลืองค้อนเธอ
หญิงสาวล้างจาน เช็ดโต๊ะ แล้วจึงเข้าห้องเพื่อไปอาบน้ำ แล้วจึงมานั่งทำงานต่อ จากมุมที่เธอนั่งมองเห็นหน้าจอโทรทัศน์ชัดเจน รพีพัฒน์ได้กลิ่นหอมเหมือนแอปเปิลลอยมาจึงหันไปมองด้านหลัง เห็นพรีมสวมหูฟังสายตาจับจ้องคอมพิวเตอร์ตรงหน้า
“คุณถอดหูฟังออกเถอะครับ ผมเอาหูฟังมาด้วย” รพีพัฒน์พูดเสียงดังกว่าปกติเล็กน้อย
“คะ” พรีมดึงหูฟังออก
“คุณไม่ต้องใส่หรอก ผมเอาหูฟังมาด้วย” พูดจบก็ชูหูฟังสีเหลืองสดให้เธอเห็น
พรีมพยักหน้ารับรู้ รพีพัฒน์เสียบหูฟังเข้ากับเต้าเสียบ หญิงสาวนั่งอ่านบทความกฎหมายของต่างประเทศ พอรู้สึกอยากพักสายตาก็หยิบหนังสือมาอ่าน เธอรู้สึกคอแห้งจึงเดินเข้าครัว รินน้ำผลไม้ใส่แก้วสองใบ รพีพัฒน์พูดขอบคุณโดยไม่มีเสียงตอนเธอวางน้ำผลไม้ลงบนโต๊ะกาแฟ
พรีมนั่งเล่นเกม เธอนั่งหาวสองสามครั้งก็ฟุบหลับลงบนโต๊ะ รพีพัฒน์ดูฟุตบอลจบก็ปิดโทรทัศน์ เขาถอดหูฟังออก ชายหนุ่มรู้สึกปวดหูเล็กน้อย หันไปเห็นเจ้าของบ้านฟุบหลับบนโต๊ะก็อมยิ้ม ตอนแรกเขาคิดจะปลุกเธอ แล้วก็เปลี่ยนใจ มือชายหนุ่มเผลอไปโดนเม้าส์ ภาพหน้าจอปรากฏเป็นเกมทำฟาร์ม ฟาร์มในเกมของหญิงสาวอุดมสมบูรณ์
“ทำไร่ทำสวนเลี้ยงสัตว์ในเกมมันจะสนุกเหมือนของจริงได้ยังไง สักวันผมจะพาคุณไปสัมผัสของจริง” ชายหนุ่มปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ค่อยๆ ประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืน แล้วจึงอุ้มเธอเข้าไปในห้องนอน
“เพิ่งดื่มน้ำผลไม้แล้วก็หลับเลย ตื่นมาต้องเจ็บคอแน่ๆ” พูดจบเขาก็เข้าครัวเปิดตู้เย็น รินน้ำใส่แก้ว ชายหนุ่มมองหาหลอด เขาเห็นมันวางอยู่บนตู้เย็นในขวดโหลปิดสนิท จึงหยิบหลอดมาใส่แก้ว
เขาประคองศีรษะของเธอขึ้นมา ยื่นแก้วให้หลอดพอดีกับปาก พลางกระซิบข้างหูว่า
“ดื่มน้ำก่อน แล้วค่อยนอน” พรีมทำตามอย่างว่าง่าย พอเธอดื่มจนพอแล้ว เขาจึงค่อยๆ วางศีรษะของเธอลงบนหมอนอย่างนุ่มนวล
รพีพัฒน์ห่มผ้าให้พรีม ปิดไฟในห้อง แล้วกลับเข้าห้องของตัวเอง
***********************************************
หนามหัวใจ โดย กัณฐมาศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้