[CR] Part 4 รีวิวทริปแบคเป้ ศรีลังกา ผู้หญิงบินเดี่ยว 1 อาทิตย์เบาๆ 7 เมือง (คุ้มมากๆ) เอลล่า-แทนกอลล์-โคลัมโบ-เนกอมโบ

สำหรับคนที่พลาดนะคะ อยากให้อ่านตั้งแต่ตอนแรกๆ

ตอนที่ 1  http://ppantip.com/topic/32326381 กทม-โคลัมโบ-แคนดี้

ตอนนี้ ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/32326744  แคนดี้-นูวาร่า

ตอนนี้ ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/32327438 นูวาร่า - เอลล่า

และตอนนี้ตอนสุดท้ายค่ะ  เอลล่า-แทนกอลล์-โคลัมโบ-เนกอมโบ

ลืมโพสอาหารที่กินเมื่อคืน หิวมาก สูญเสียพลังงานเยอะ เลยสั่งโรตีกับแกงปลามา รดชาดก็โอเคค่ะ เผ็ดนิดๆ




มุมมองจากร้านอาหาร ตรงข้ามเป็น รร.ที่พักค่ะ แต่คนไปกินเยอะมาก เราไม่ได้ใช้บริการเพราะว่าราคาแพงเลยเลือกร้านอื่น

จุดมุ่งหมายปลายทางของวันนี้คือเริ่มเดินทางจากเอลล่า ไป แทนกอลล์ โดยรสบัสราคาประหยัด ซึ่งมีรถทุกๆชั่วโมง เราเลยขอนอนตื่นสายนิดๆ เพราะร่างกายเมื่อยล้าจากปีนเขา ลงเขาเมื่อคืน ประมาณ 9 โมง ออกมาหาข้าวเช้ากิน กลับไปเก็บกระเป๋าไปรอที่ป้ายรถเมล์

นี่คือจุดรอรถเมล์ค่ะ ไม่ไกลมากจากที่พักประมาณ 300 เมตร


เอลล่าเป็นเมืองเล็กๆค่ะ แนะนำวันเดียวพอแล้ว นอกจากใครอยากไปปีนเขา Adam's peakคงต้องค้างอีกคืน เพราะไกลและเหนื่อยมาก

นี่คือบรรยากาศบนรถเมล์ไปแทนกอลล์ แต่ๆๆ ไม่ได้ขึ้นได้เลยนะคะ เราขึ้นตอน 11.15 บางคันก็ไม่ใช่ ไม่ไป ต้องอาศัยถามว่า ไปแทนกอลล์ไหม แต่หน้ารถจะเขียนว่า มาตาร่า ค่ะ ต้องระวัง ราคาเบาๆค่ะ 42 รูปี (ถูกมากๆ)

สภาพรถข้างใน


คือเรารู้ตัวเองก่อนว่าเป็นคนเมารถง่าย เลยกินยาดักเอาไว้ เพราะเส้นทางนี่แบบรถฉิ่งฉาบทัวร์ ขึ้นเขา ลงเขา คดเคี้ยว เลี้ยวลด เอนไป เอนมา ทำเอามึนค่ะ เลยหลับตาๆๆ อย่างเดียว ไม่ได้ถ่ายข้างทางมา กลัวจะอ้วก

เอาล่ะค่ะ ประมาณ 3 ชม.ครี่ง สำหรับการเดินทางจาก เอลล่า-แทนกอลล์ รถบัสมาจอดที่ขนส่งเมือง Hambantota ก่อน แล้วต่อที่เมือง แทนกอลล์

ได้กลิ่นน้ำทะเลลอยมาแล้ว แสดงว่าเราอยู่ใกล้ชายฝั่งมหาสมุทรอินเดียแล้ว



พอมาถึงท่ารถเมือง แทนกอลล์ เล่นเอา งง งง พักใหญ่ กางแผนที่มาดูกัน จะเอายังไงดี เราจะไปดู Blowhole กันยังไง ต่างคนต่างไม่รุ เลยถามคนแถวนั้น เค้าก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้กัน เลย โชว์รูป เค้าก็อ๋อๆ พี่ตุ๊กๆเลยอาสาพาไป  Blowhole  แล้วจะไปส่งหาเกสเฮ้าส์ถูกๆที่ มาตาร่า ในราคา 700 รูปี เค้าบอกว่าหรือเราจะนั่งรถเมล์ก็ได้นะจะได้ประหยัดไม่เสียเงินมาก แต่เราคิดว่า หาร2 คนละ 350 รูปีเอง แลกกับความสบาย กระเป๋าเราก็ใหญ่ เลยตกลงให้ตุ๊กๆพาไป



ระหว่างทางผ่านชายหาดชื่อ อะไรจำไม่ได้ แต่ถ่ายรูปมา


คือพี่ตุ๊กๆ แกพรีเซ้นส์มากว่าสวยเหลือเกิน ต้องลงไปดูให้ได้ สรุปพอไปถึง ถามว่าสวยไหม ก็ธรรมดา ไม่ถึงกับตื่นตาตื่นใจอะไร ตามรูปค่ะฃ


แล้วก็ไป Blowhole กันต่อเลย ขับมาไกล พอสมควรค่ะ ยังคุยกับฝรั่งที่มาด้วยกันว่า ดีแล้วล่ะที่เราเลือกตุ๊กๆ เพราะถ้ามารถเมล์ก็จอดแค่ปากซอย แล้วยังต้องแบกกระเป๋าขึ้นไปดู Blowhole อีก ตายแน่

ทางขึ้น Blowhole ค่ะ


เดินขึ้นไปประมาณ 300 เมตรได้ จะเจอด่านเก็บค่าเข้า ต่างชาติ 250 รูปีแน่ะ จะไม่เสียก็กระไรอยู่ ไหนๆก็มาถึงละ




จ่ายตังเสร็จก็ยังไม่ถึงนะคะ ต้องเดินไปต่ออีกนิดหน่อย

และเราก็ถึงแล้วค่ะ สิ่งที่รอคอย Blowhole หน้าตามันเป็นยังนี้นี่เองนะ


มันเกิดจาก หินข้างใต้เป็นโพลง เวลาคลื่นซัดมา แรงดันน้ำก็จะอัดให้พุ่งออกมาเหมือนน้ำพุ


เราเดินออกไปข้างๆ ออกนอกรั้วที่เค้ากั้นไว้ มองย้อนกลับไปที่ Blowhole  สวยมากค่ะ มุมมองอีกฟาก


เสร็จแล้วตั้งใจว่าคืนนี้จะไปพักที่ มาตาร่า เพราะตอนเช้าอยากไปดู ชาวประมงตกปลาบนไม้ พี่ตุ๊กๆบอกว่า นี่ๆ ไปที่เมือง Mirissa เลย ยูรู้จักไหม เค้าดังมากเลยนะ ใกล้ชาวประมงด้วย หาที่พักแถวนั้นเยอะแยะ ตื่นเช้ามา ยูๆ ใกล้มา ออกมาชายฝั่ง รร. ถึงเลย เรา 2 คน เชื่อค่ะ พี่แกก็มาส่งที่สถานีรถบัส มาตาร่า

เราเห็นวัดนี้ด้านหน้าสถานีรถบัส เลยถ่ายไว้ แต่ไม่ได้เข้าไปข้างใน


การเดินทางหลายวิธีมากกว่าจะถึง Mirissa เราก็ไปถามคนเค้าว่า Mirissa ไปรถสายอะไร เค้าบอก 350 เนี่ย ขึ้นเลยๆ พอไปถึง 350 พนักงานบอกไม่ๆ เราไม่ไป Mirissa คันหลังนู่น เราเลย เออๆ เดินไปขึ้นคันหลัง ค่ารถ 24 รูปีค่ะ นั่งมาสักพัก พนักงานบอกถึงแล้ว แล้วก็จอดให้เราลงตรงนี้อ่ะค่ะ


สรุปป้ายที่ลงคือเมือง Mirissa แล้ว เลยเดินหาที่พัก เราเข้าใจว่าใกล้ทะเล แพงแน่เลย เข้าไป 1000 รูปี (คิดในใจว่า หาาา ถูกกว่าที่อื่นอีก ห้องก็ดูดี คืนนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมา เนื่องจากลืมและเหนื่อยมาก เลยนอนพักแปป ล้างหน้าล้างตา ก่อนออกไปหาอะไรกิน)

ประมาณ 6 โมงเย็น ร้านอาหารไม่ค่อยเปิดแล้วค่ะ เลยมาเจอร้านนี้


สั่งอย่างอื่นก็ไม่ได้ บอกว่าขายกลางวันเท่านั้น สรุปไฟล์บังคับให้กินข้าวผัดไก่ เลือกไม่ได้ ของหวานสั่งโรตีช๊อคโกแลตมาลองว่าจะเหมือนเมืองไทยไหม เหมือนกันค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปมา สรุปคืนนั้นกินเสร็จ นอนเอาแรงเพราะคิดว่าจะตื่นแต่เช้าเพื่อไปดูชาวประมงซึ่งเค้าจะออกมาให้เราเห็นแค่ 7.30-9.30 เท่านั้น

ตื่นมา เช้าอีกวัน เจ้าของ รร. ถามมาจาก กรุงเทพ ใช่ไหม ขอ อีเมล์กับที่อยู่เราไว้ บอกว่าเค้าไป business trip ที่แบงคอค บ่อยๆ เลยให้ไว้ก่อนกลับ พร้อมถามว่าไหนชาวประมง แกบอกไม่ได้อยู่ที่นี่ ต้องนั่งรถเมล์ไป Ahungama เราสองคนมองหน้ากัน หา ไหน ตุ๊กๆบอกเมืองนี้ เห็นเลย เค้าบอกไม่ไกลๆ นั่งสาย 350 จากหน้า รร. เลย ประมาณ 25 กม. ไปลง Ahungama นะ เราก็ say bye ก่อนจากไป

ขึ้นรถเมล์บอกไป Ahungama กระเป๋ารถบอก ถึงแล้วๆ ลงไป ไหน ชาวประมงของฉันน พี่ตุ๊กๆ แถวนั้นบอกอ๋อ ต้องต่อรถไปอีก 300 เมตร ไปม่ะ 100 รูปี เราแบบ กว่าจะได้ดูทำไมมันยากเย็นขนาดนี้ เลยเอาวะ 100 รูปีก็ 100รูปี พอไปถึง เห็นแล้วค่ะ ชาวประมงนั่งตกปลาบนไม้
อ่ะๆ แต่เดี๋ยวก่อน กว่าจะได้ถ่ายได้ ไม่ได้ง่ายนะคะ ตาลุงแถวนั้น นั่งเฝ้าด้านหน้าอยู่ มากันไว้บอก ถ่ายไม่ได้นะ นี่มันครอบครัวฉัน จ่ายมา 300 รูปี เราเลยบอกไปว่า no I will not pay 300 RP , I just wanna take photo of strickfisherman and look around.  ไม่ได้เลยค่ะ ฮีไม่ยอม จะเอา 300 รูปีให้ได้ สุดท้ายเราบอก ไม่ถ่ายและ ดูเฉยๆ แต่เรามี เนี่ย 100 รูปี จะเอาไหม ไม่เอาจะกลับ เท่านั้นแหละ รีบเลย รับจากมือเราเอาเงินไปจูบใหญ่ แล้วเราก็ได้รูปมา





ส่วนตัวแล้วเรารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งธรรมชาติ ทำไมต้องมาหาเงินกับนักท่องเที่ยวอย่างนี้ด้วย มิสมควรอย่างยิ่ง

เสร็จแล้ววันนี้ตั้งใจจะไปเมือง กอลล์ต่อเลย นิดนึงค่ะ จากเอลล่าไปกอลล์นั้น มีแต่รถเมล์นะคะ รถไฟไม่มี เพราะฉะนั้น ทางเลือกเดียวคือ รถเมล์ แบบ ไม่มีแอร์ซะด้วย

สรุปกว่าจะได้ดูชาวประมงต้องผ่าน Hambantota Tangalle Matara Merissa Ahungama- Tuk Tuk - pay money ลำบากแสนเข็นเหลือเกิน

พอจะรอรถเมล์ อีตุ๊กๆบอก ต้องนั่งตุ๊กๆ กลับไปที่เดิมนะ รถเมล์ไม่จอดที่นี่ เราก็หาา ไม่จอดกลับไปอีก 100 รูปี อะไรวะ เอาเงินทุกอย่างเลย สุดท้ายก็ต้องนั่งกลับไป ได้ขึ้นรถเมล์ไปกอลล์และ 2 ชม. อึดอัดมากก คนส่วนมากเค้าก็ใช้รถเมล์กันเพราะง่าย สะดวก และที่สำคัญมันถูก

พอไปถึงสถานีรถบัสเมืองกอลล์ คนมารุม แนะนำทัวร์กันเต็มไปหมด จนเราแบบ no no we wanna walk and look around พูดแบบนี้อยู่หลายรอบมากกว่าจะเลิกรุมกัน

หอบกระเป๋าที่สายขาดไปข้างนึงขึ้นไปที่ ชาวเมือง กอลล์ เค้าเรียกว่า Fort หรือ ป้อมปราการ เมืองสมัยก่อน เป็นอย่างนี้ค่ะ คนไม่ค่อยเยอะเท่าไร เลยขอขึ้นมาดูวิว นั่งพักแปป

ภาพนี้พอขึ้นมาทิ้งกระเป๋าลงทันที ปวดไหล่มาก






นั่งพักรับลมชายหาดดูวิวเพลินๆ


รับลมพอประมาณเลยเดินเล่นใน Fort ที่พัก ร้านอาหารที่นี่แพงมาก แต่สถาปัตยกรรมสวยค่ะ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะมัวแต่หอบกระเป๋า ปวดไหล่มาก หิวด้วย เลยคุยกันว่า ไปกินแถวสถานีรถไฟเถอะ สถานีรถไฟกับรถบัสอยู่ใกล้กันค่ะ ตอนแรกตั้งใจจะนั่งรถไฟ พอไปถามตารางเวลา ต้องคอยอีก 2 ชม. เราเดินกลับไปขึ้นรถเมล์ highwayมีแอร์ดีกว่าเพื่อไปโคลัมโบ

ได้ขึ้นรถแล้ว คราวนี้นั่งสบายๆ ในราคา 290 รูปี ราคาพอรับได้ค่ะ ตอนนั้นเหนื่อยมาก อะไรก็ได้ ใช้เวลาเกือบ 4 ชม. นั่งจนก้นแข็งเลย พอมาถึง โคลัมโบ โอ้ เริ่มวุ่ยวายอีกและ เลยแบบ คืนนี้ไม่นอนโคลัมโบนะ นั่งไป เนกอมโบ อีก 1 ชม. รถเมล์ highway เหมือนเดิม 120 รูปี

คืนนี้พัก hostel ค่ะ ราคา 1040 รูปี เหมือน หอรวม สะอาดค่ะ เป็นเตียง 2 ชั้น 4เตียง ห้องน้ำรวม

เช้ามา ออกมาเดินเล่นชายหาดค่ะ ชายหาดแถวนี้ไม่ได้สวยเหมือนภาคใต้ที่บ้านเรา ธรรมดาๆ เหมือนพัทยา นั่งไปดูพระอาทิตย์ตกดิน ก็จะมีคนมาขายของที่ระลึก นั่งเล่าประวัติตัวเองบ้าง มีลูกกี่คน ไม่มีเงินค่านมเลี้ยงลูก ไม่ได้ต้องการเงินเลยนะ ขอแค่ยูเดินไปซุปเปอร์มาร์เก็ต ซื้อนมมา มามุขเดียวกันหมด น่ารำคาญสุดๆ

ชายหาดเนกอมโบค่ะ


ตอนเย็น นั่งรถเมล์ไปตลาดในตัวเมือง 30 รูปีเอง เพราะแถวนี้แค่ข้าวผัดเนี่ย ราคานักท่องเที่ยวแล้วแพงมาก
ตัวเมืองเนกอมโบค่ะ


กลับมาเจอฝรั่งชาวอังกฤษมาเที่ยวคนเดียว พักร้อน 6 สัปดาห์ที่ศรีลังกา นั่งคุยกัน นานมาก พี่แกนั่งกินเบียร์อย่างเดียว มาชิวจริงๆ เราเลยให้แผนที่เราไปมามันดูง่ายกว่า เพราะแกเพิ่งมาถึง ไม่ได้ศึกษามาว่าจะเดินทางยังไง ขอบคุณเราใหญ่

ส่วนมากจะถามเราว่ามาจาก จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงค์โปร์ เหรอ ไม่มีไทยแลนด์เลย (หรือหน้าตาเราไม่เหมือนคนไทย) มีหลายคนบอกว่าหรือยูมาจาก state เค้าบอกสำเนียงไปทางนั้น แอบดีใจ ไม่เสียดายที่ร่ำเรียนมา 555

ตอนเย็นเจ้าของ โฮสเทล์ ทำอาหารให้กิน เป็นแกงกะหรี่ไก่+โรตีค่ะ 300 รูปี แต่อร่อยค่ะ อาหารบ้าน ทำกินเอง หน้าต่ออย่างที่เห็น พี่แกฉีกโรตีให้เลย บอกต้องกินอย่างนี้นะ ถึงจะอร่อย


เช้าอีกวันก็ไม่ได้ทำไรค่ะ รีแล็กซ์ในเมือง เดินเล่น รอบๆ นั่งมองชายหาดไป แค่นี้ก็ชิวและมีความสุขแล้วค่ะ


สรุปทริปนี้ 7 วัน รวมคาตั๋วเครื่องบินด้วย หมดไปประมาณ 20000 บาทไทย สำหรับเรา เราว่า โอเคค่ะ ไม่แพง ไม่ถูก ส่วน สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวศรีลังกา ไปเถอะค่ะ อย่ากลัวที่จะออกมาเผชิญโลกข้างนอก มีอะไรอีกมากมายให้เราค้นหา ประเทศแต่ละภาคแต่ละเมือง ภูมิประเทศจะแตกต่างกัน ส่วนตัวเรา เราพอใจกับทริปนี้ค่ะ เจอเพื่อนใหม่จากประเทศอื่นๆด้วย
ชื่อสินค้า:   ศรีลังกา, Sri Lanka
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่