เด็กๆ ...พลังชีวิตขาขึ้น พร้อมกับ ความไม่เดียงสา
การเติบโต เป็นเรื่องระหว่างทาง ของการค้นหาและการค้น
บ่อยครั้ง ....คนเราได้สัมผัสกับคุณค่า ก็ต่อเมื่อได้สูญเสียรูปธรรมที่รองรับคุณค่านั้นไป เสียแล้ว
ความอาลัย อาวรณ์ จึงเป็นเสียงเพรียกกู่ก้อง สิ่งที่ไม่อาจหวลกลับคืน
ชีวิตจึงบทเรียนให้ตกผลึก และแปรรูปเป็นพลังเพื่ออนาคต
อนาคตจึงมิใช่สิ่งที่คนเราย่ำรอยเท้าเดิม แต่คือความแตกต่าง จึงจักสมเหตุสมผล
เพราะ ชีวิตเป็นดุจสายน้ำไหล ที่ไม่ใช่สายน้ำเดิมในความแน่นิ่งที่เคลื่อนไหว
มันสมควรเป็นสิ่งใหม่อย่างที่เป็น และควรเห็นมัน จึงจักเป็นความเริงร่าและท้าทาย
และความซ้ำซากจำเจ...อาจเป็นแค่แนวโน้มของความป่วยไข้ ที่ไปสร้างการตรึงแน่น ฝืนวันและคืน
ความป่วยไข้ในระดับเล็กๆ อาจสร้างความรำคาญ
แต่ความไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ ไม่เปิดหูเปิดตาทำความรู้ ความเข้าใจต่อปัญหาใกล้ตัว คือ ความประมาท
และนี่จะไปโทษใครไม่ได้ เมื่อผลร้ายสะสมตัวกลายเป็นปัญหาใหญ่โตของความป่วยไข้เรื้อรัง หรือรุนแรง
ผู้คนส่วนใหญ่หลงไปในวิถีการบริโภคที่ล้นเกิน แล้วเข้าใจว่า ดี หรือเป็นกำไรชีวิต
พวกเขาจะต้องชดใช้ผลของความเข้าใจผิด หรือหลงผิดนี้ ด้วย ผลความขยันจากการงาน เพื่อแลกกับสุขภาพกลับคืน
ดังนั้น การมีมาก การล้นเกิน จึงเป็นขโมย ที่ผู้สะสมจะต้องใช้คืนจากการฉกฉวยจากคนอื่น หรือธรรมชาติ
และ ชีวิตที่สุขสบายเกินไป อย่างหลงผิด จึงย้อนแย้งกับ ความแข็งแรง หรือการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
เด็กๆ คือ ความไม่รู้ และการเติบโต เพื่อ การค้นหาอันยาวไกล
ผู้ใหญ่ คือ บทเรียน และเสียงกู่ร้องอย่างแผ่วเบาในท่ามกลางยุคสมัยของความเร่งและหยาบ
รุ่นสู่รุ่นของผู้คน
การเติบโต เป็นเรื่องระหว่างทาง ของการค้นหาและการค้น
บ่อยครั้ง ....คนเราได้สัมผัสกับคุณค่า ก็ต่อเมื่อได้สูญเสียรูปธรรมที่รองรับคุณค่านั้นไป เสียแล้ว
ความอาลัย อาวรณ์ จึงเป็นเสียงเพรียกกู่ก้อง สิ่งที่ไม่อาจหวลกลับคืน
ชีวิตจึงบทเรียนให้ตกผลึก และแปรรูปเป็นพลังเพื่ออนาคต
อนาคตจึงมิใช่สิ่งที่คนเราย่ำรอยเท้าเดิม แต่คือความแตกต่าง จึงจักสมเหตุสมผล
เพราะ ชีวิตเป็นดุจสายน้ำไหล ที่ไม่ใช่สายน้ำเดิมในความแน่นิ่งที่เคลื่อนไหว
มันสมควรเป็นสิ่งใหม่อย่างที่เป็น และควรเห็นมัน จึงจักเป็นความเริงร่าและท้าทาย
และความซ้ำซากจำเจ...อาจเป็นแค่แนวโน้มของความป่วยไข้ ที่ไปสร้างการตรึงแน่น ฝืนวันและคืน
ความป่วยไข้ในระดับเล็กๆ อาจสร้างความรำคาญ
แต่ความไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ ไม่เปิดหูเปิดตาทำความรู้ ความเข้าใจต่อปัญหาใกล้ตัว คือ ความประมาท
และนี่จะไปโทษใครไม่ได้ เมื่อผลร้ายสะสมตัวกลายเป็นปัญหาใหญ่โตของความป่วยไข้เรื้อรัง หรือรุนแรง
ผู้คนส่วนใหญ่หลงไปในวิถีการบริโภคที่ล้นเกิน แล้วเข้าใจว่า ดี หรือเป็นกำไรชีวิต
พวกเขาจะต้องชดใช้ผลของความเข้าใจผิด หรือหลงผิดนี้ ด้วย ผลความขยันจากการงาน เพื่อแลกกับสุขภาพกลับคืน
ดังนั้น การมีมาก การล้นเกิน จึงเป็นขโมย ที่ผู้สะสมจะต้องใช้คืนจากการฉกฉวยจากคนอื่น หรือธรรมชาติ
และ ชีวิตที่สุขสบายเกินไป อย่างหลงผิด จึงย้อนแย้งกับ ความแข็งแรง หรือการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
เด็กๆ คือ ความไม่รู้ และการเติบโต เพื่อ การค้นหาอันยาวไกล
ผู้ใหญ่ คือ บทเรียน และเสียงกู่ร้องอย่างแผ่วเบาในท่ามกลางยุคสมัยของความเร่งและหยาบ