สมาธิช่วยให้ใจสงบง่าย ดับความโกรธความเร่าร้อนได้ดี
เวลาลูกโมโห ควรแนะให้ลูกหายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆ สัก ๔-๕ ครั้งเป็นอย่างน้อย
แต่สมาธิจะได้ผลดี ต้องฝึกเป็นประจำแม้ในยามปกติ
วิธีฝึกมีหลายอย่าง เช่น จดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออก หรือ เดินช้า ๆ ด้วยความสงบ
ถ้าพ่อแม่ทำร่วมกับลูกด้วย จะได้ผลมาก การทำเป็นกิจวัตรแม้เพียงวันละ ๕ นาที ช่วยพัฒนาจิตใจได้มาก
สำหรับเด็กเล็ก ๆ พ่อแม่อาจใช้เกมช่วยให้เด็กมีสมาธิได้ เช่น ให้เด็กเคลื่อนไหวช้า ๆ โดยเคลื่อนอวัยวะทีละส่วน เหมือนกับเป็นตุ๊กตาหุ่นยนต์
โดยมีกติกาให้เด็กสังเกตความรู้สึกทุกส่วนที่เคลื่อนไหว วิธีนี้จะทำให้เด็กสนุกกับการจดจ่อและและระลึกรู้ร่างกายของตนเอง
ความจริง การฝึกสมาธิสามารถทำได้กับกิจกรรมทุกอย่าง เช่น มีสมาธิกับการถูฟัน ล้างจาน หรือทำการบ้าน อ่านหนังสือ
นอกจากนั้น การสอนให้เด็กทำอะไรเป็นอย่าง ๆ ไม่ทำอะไรพร้อมกันหลายอย่างเวลาเดียวกัน เช่น กินข้าวไปด้วยอ่านหนังสือไปด้วย
จะช่วยฝึกจิตให้มีสมาธิ ไม่ฟุ้งซ่านง่าย
ก่อนนอนเป็นโอกาสดีอีกช่วงหนึ่งที่พ่อแม่สามารถฝึกลูก ๆ ให้มีสมาธิได้ โดย ชวนลูกให้สวดมนต์ไหว้พระอย่างง่าย ๆ
เช่น กล่าวนะโม ๓ จบ และกล่าวไตรสรณคมน์ (เริ่มต้นด้วยพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ) ๓ จบ
จากนั้นแนะนำให้ลูกกราบพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ๓ ครั้ง
อีก ๒ ครั้งกราบเพื่อระลึกถึงคุณของบิดามารดาและคุณของครูบาอาจารย์ทั้งหลาย
แล้วทำใจสงบสักพักก่อนจะเข้านอน
การแผ่เมตตาเป็นการฝึกจิตให้มีภูมิต้านทานความโกรธได้เป็นอย่างดี
ความโกรธนั้นยิ่งหมักหมมก็ยิ่งเผาลนใจให้รุ่มร้อน
พ่อแม่ควรสอนลูกแผ่เมตตาก่อนนอน เริ่มจากคนใกล้ตัวไปจนถึงคนที่มีเรื่องโกรธเคืองหรือผิดใจกัน
การให้อภัยเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ใจสงบเย็น
การสร้างเมตตาในใจ ยังทำได้ด้วยการหมั่นชื่นชมผู้คนและสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว
ไม่เฉพาะแต่พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ แต่รวมถึงคนรถ คนงานในบ้าน นักการที่โรงเรียน ฯลฯ
โดยตระหนักว่าคนเหล่านี้ทำให้ชีวิตของเราเป็นไปด้วยดี
ชื่นชมและขอบคุณแม้กระทั่งต้นไม้ ภูเขา ทะเล รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ เช่น ดินสอ กระเป๋า ผ้าห่ม รถยนต์ ฯลฯ
ช่วยให้จิตใจอ่อนโยนเกิดความรักความห่วงใยในธรรมชาติ ไม่ใช้สิ่งต่าง ๆ อย่างทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ
หากลูกยังเล็กอยู่ พ่อแม่ควรสอนให้หมั่นรดน้ำต้นไม้ หรือเลี้ยงสัตว์
พร้อมกันนั้นก็แนะให้ลูกน้อมใจแผ่เมตตาว่า ขอให้ต้นไม้และสัตว์เป็นสุข ๆ พ้นทุกข์ทั้งปวง
หากทำได้ทุกเช้าเย็นเด็กจะเปี่ยมด้วยเมตตา
การแผ่เมตตามีอานิสงส์มาก พระพุทธองค์ตรัสว่ามีผลมากกว่าการถวายอาหารแก่พระองค์หรือพระอรหันต์ถึงร้อยองค์ด้วยซ้ำ
เพราะเป็นการกระทำที่ส่งผลต่อจิตใจให้เป็นกุศลโดยตรง
พระไพศาล วิสาโล - Phra Paisal Visalo
https://th-th.facebook.com/visalo
✿ การสอนลูกให้ทำความดีเป็นบุญอยู่แล้วในตัว ถ้าลูกนำไปปฏิบัติ ก็เท่ากับว่าลูกได้ร่วมทำบุญด้วย
บุญที่ถูกต้องช่วยให้ชีวิตจิตใจเกิดความสะอาด สว่าง สงบ และเป็นสุขอย่างแท้จริง ไม่มีอะไรสำคัญสำหรับมนุษย์เท่ากับสิ่งนี้
พ่อแม่พร้อมให้อะไรมากมายแก่ลูก เช่น เงิน บ้าน ที่ดิน แต่สิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้คือ การสอนลูกให้รู้จักบุญและมีชีวิตที่เปี่ยมบุญ
มรดกใดเล่าจะสำคัญมากไปกว่านี้ ✿
✿~ ฝึกใจให้สงบเบาสบาย ~✿
เวลาลูกโมโห ควรแนะให้ลูกหายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆ สัก ๔-๕ ครั้งเป็นอย่างน้อย
แต่สมาธิจะได้ผลดี ต้องฝึกเป็นประจำแม้ในยามปกติ
วิธีฝึกมีหลายอย่าง เช่น จดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออก หรือ เดินช้า ๆ ด้วยความสงบ
ถ้าพ่อแม่ทำร่วมกับลูกด้วย จะได้ผลมาก การทำเป็นกิจวัตรแม้เพียงวันละ ๕ นาที ช่วยพัฒนาจิตใจได้มาก
สำหรับเด็กเล็ก ๆ พ่อแม่อาจใช้เกมช่วยให้เด็กมีสมาธิได้ เช่น ให้เด็กเคลื่อนไหวช้า ๆ โดยเคลื่อนอวัยวะทีละส่วน เหมือนกับเป็นตุ๊กตาหุ่นยนต์
โดยมีกติกาให้เด็กสังเกตความรู้สึกทุกส่วนที่เคลื่อนไหว วิธีนี้จะทำให้เด็กสนุกกับการจดจ่อและและระลึกรู้ร่างกายของตนเอง
ความจริง การฝึกสมาธิสามารถทำได้กับกิจกรรมทุกอย่าง เช่น มีสมาธิกับการถูฟัน ล้างจาน หรือทำการบ้าน อ่านหนังสือ
นอกจากนั้น การสอนให้เด็กทำอะไรเป็นอย่าง ๆ ไม่ทำอะไรพร้อมกันหลายอย่างเวลาเดียวกัน เช่น กินข้าวไปด้วยอ่านหนังสือไปด้วย
จะช่วยฝึกจิตให้มีสมาธิ ไม่ฟุ้งซ่านง่าย
ก่อนนอนเป็นโอกาสดีอีกช่วงหนึ่งที่พ่อแม่สามารถฝึกลูก ๆ ให้มีสมาธิได้ โดย ชวนลูกให้สวดมนต์ไหว้พระอย่างง่าย ๆ
เช่น กล่าวนะโม ๓ จบ และกล่าวไตรสรณคมน์ (เริ่มต้นด้วยพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ) ๓ จบ
จากนั้นแนะนำให้ลูกกราบพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ๓ ครั้ง
อีก ๒ ครั้งกราบเพื่อระลึกถึงคุณของบิดามารดาและคุณของครูบาอาจารย์ทั้งหลาย
แล้วทำใจสงบสักพักก่อนจะเข้านอน
การแผ่เมตตาเป็นการฝึกจิตให้มีภูมิต้านทานความโกรธได้เป็นอย่างดี
ความโกรธนั้นยิ่งหมักหมมก็ยิ่งเผาลนใจให้รุ่มร้อน
พ่อแม่ควรสอนลูกแผ่เมตตาก่อนนอน เริ่มจากคนใกล้ตัวไปจนถึงคนที่มีเรื่องโกรธเคืองหรือผิดใจกัน
การให้อภัยเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ใจสงบเย็น
การสร้างเมตตาในใจ ยังทำได้ด้วยการหมั่นชื่นชมผู้คนและสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว
ไม่เฉพาะแต่พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ แต่รวมถึงคนรถ คนงานในบ้าน นักการที่โรงเรียน ฯลฯ
โดยตระหนักว่าคนเหล่านี้ทำให้ชีวิตของเราเป็นไปด้วยดี
ชื่นชมและขอบคุณแม้กระทั่งต้นไม้ ภูเขา ทะเล รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ เช่น ดินสอ กระเป๋า ผ้าห่ม รถยนต์ ฯลฯ
ช่วยให้จิตใจอ่อนโยนเกิดความรักความห่วงใยในธรรมชาติ ไม่ใช้สิ่งต่าง ๆ อย่างทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ
หากลูกยังเล็กอยู่ พ่อแม่ควรสอนให้หมั่นรดน้ำต้นไม้ หรือเลี้ยงสัตว์
พร้อมกันนั้นก็แนะให้ลูกน้อมใจแผ่เมตตาว่า ขอให้ต้นไม้และสัตว์เป็นสุข ๆ พ้นทุกข์ทั้งปวง
หากทำได้ทุกเช้าเย็นเด็กจะเปี่ยมด้วยเมตตา
การแผ่เมตตามีอานิสงส์มาก พระพุทธองค์ตรัสว่ามีผลมากกว่าการถวายอาหารแก่พระองค์หรือพระอรหันต์ถึงร้อยองค์ด้วยซ้ำ
เพราะเป็นการกระทำที่ส่งผลต่อจิตใจให้เป็นกุศลโดยตรง
พระไพศาล วิสาโล - Phra Paisal Visalo
https://th-th.facebook.com/visalo
✿ การสอนลูกให้ทำความดีเป็นบุญอยู่แล้วในตัว ถ้าลูกนำไปปฏิบัติ ก็เท่ากับว่าลูกได้ร่วมทำบุญด้วย
บุญที่ถูกต้องช่วยให้ชีวิตจิตใจเกิดความสะอาด สว่าง สงบ และเป็นสุขอย่างแท้จริง ไม่มีอะไรสำคัญสำหรับมนุษย์เท่ากับสิ่งนี้
พ่อแม่พร้อมให้อะไรมากมายแก่ลูก เช่น เงิน บ้าน ที่ดิน แต่สิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้คือ การสอนลูกให้รู้จักบุญและมีชีวิตที่เปี่ยมบุญ
มรดกใดเล่าจะสำคัญมากไปกว่านี้ ✿