คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
นี่งัยล่ะในสายตาของเขา ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ก็เป็นเพียงภาระ ก็เป็นเพียงเศษธุลี หาได้มีค่ามีความหมายอันใด ไม่แปลกใจเลยที่เขาความเท่าเทียมจะไม่เคยมีอยู่ในหัวของพวกเขาเลย
ประชาชนเป็นภาระจริงหรือ คุณรู้จัก VAT 7% ไหม คุณคิดว่าประชาชนผู้มีรายได้น้อยไม่เคยเสียภาษี คุณคิดผิดน่ะครับ เขาเสียภาษีกันทุกคนนั้นแหละครับ เขาช่วยสร้างประเทศนี้มาเหมือนกับคุณๆนั่นแหละครับ แถมเขาได้ประโยชน์จากเงินภาษีที่เขาเสียไปน้อยกว่าพวกคุณอย่างมาก เช่น ผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่ไม่มีรถยนต์ขับ เขาก็ไม่ได้ใช้ถนนซึ่งสร้างจากงบประมาณแผ่นดิน เขาไม่ได้เป็นข้าราชการ เขาก็ไม่ได้เงินเดือนจากงบประมาณแผ่นดิน แต่คุณกินเงินเดือนจากงบประมาณแผ่นดินอยู่น่ะ
VAT 7% สร้างรายได้ให้รัฐแต่ล่ะปีรวม 7-8 แสนล้าน ในขณะที่ภาษีเงินได้ส่วนบุคคลที่ผู้มีรายได้สูงต้องเสียนี่ แต่ล่ะปีประมาณ 7-8 หมื่นล้าน ต่างกันสิบเท่าน่ะครับ อย่าเข้าใจผิดว่าบริษัทห้างร้านเป็นคนจ่าย VAT น่ะครับ ผู้ซื้อต้องจ่ายทั้งนั้น ไม่เชื่อก็ลองดูรายละเอียดในใบเสร็จสิครับ เขาแยกให้เห็นชัดเจนเลยว่าราคาสินค้าเท่าไหร่ VAT เท่าไหร่ รู้อย่างนี้แล้วอย่าเที่ยวไปตราหน้าใครน่ะครับว่าดีแต่แบมือรับ ไม่เคยเสียภาษี เพราะมันไม่จริงเลย
ประชาชนเป็นภาระจริงหรือ คุณรู้จัก VAT 7% ไหม คุณคิดว่าประชาชนผู้มีรายได้น้อยไม่เคยเสียภาษี คุณคิดผิดน่ะครับ เขาเสียภาษีกันทุกคนนั้นแหละครับ เขาช่วยสร้างประเทศนี้มาเหมือนกับคุณๆนั่นแหละครับ แถมเขาได้ประโยชน์จากเงินภาษีที่เขาเสียไปน้อยกว่าพวกคุณอย่างมาก เช่น ผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่ไม่มีรถยนต์ขับ เขาก็ไม่ได้ใช้ถนนซึ่งสร้างจากงบประมาณแผ่นดิน เขาไม่ได้เป็นข้าราชการ เขาก็ไม่ได้เงินเดือนจากงบประมาณแผ่นดิน แต่คุณกินเงินเดือนจากงบประมาณแผ่นดินอยู่น่ะ
VAT 7% สร้างรายได้ให้รัฐแต่ล่ะปีรวม 7-8 แสนล้าน ในขณะที่ภาษีเงินได้ส่วนบุคคลที่ผู้มีรายได้สูงต้องเสียนี่ แต่ล่ะปีประมาณ 7-8 หมื่นล้าน ต่างกันสิบเท่าน่ะครับ อย่าเข้าใจผิดว่าบริษัทห้างร้านเป็นคนจ่าย VAT น่ะครับ ผู้ซื้อต้องจ่ายทั้งนั้น ไม่เชื่อก็ลองดูรายละเอียดในใบเสร็จสิครับ เขาแยกให้เห็นชัดเจนเลยว่าราคาสินค้าเท่าไหร่ VAT เท่าไหร่ รู้อย่างนี้แล้วอย่าเที่ยวไปตราหน้าใครน่ะครับว่าดีแต่แบมือรับ ไม่เคยเสียภาษี เพราะมันไม่จริงเลย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการดีๆที่ทักษิณลงมือทำให้กับประชาชน และคนที่ได้ประโยชน์คือประชาชนรากหญ้า
และนี่คือเหตุผลที่พรรคการเมืองฝ่ายทักษิณได้รับเลือกตั้งเสมอมาเพราะว่าโครงการดีๆได้ซื้อใจประชาชนไปแล้ว
ผิดกับพรรคการเมืองบางพรรคและกลุ่มคนบางกลุ่มที่เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน จ้องจะหาประโยชน์ใส่แต่พวกตัวเอง
ทั้งที่ไม่ค่อยจะสร้างประโยชน์กับประชาชนแต่กลับมักจะสร้างกติกาที่เอื้อผลประโยชน์ใส่ตัวถึงต้องทำร้ายประชาชน
โดยที่ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จะมีแค่คนจำนวนน้อย ที่มีฐานะทางสังคมและความเป็นอยู่ดีกว่าประชาชนทั่วไปอยู่แล้ว
ซึ่งมักเป็นพวกมีการศึกษาสูงมีอิทธิพลในกลุ่มหรือมีหน้ามีตาในสังคม และชอบดูถูกคนที่ยากไร้หรือคนที่ต่ำกว่าตัว
นี่แหละคือระบบเก่าๆของประเทศไทยที่ไม่ยอมล้มหายตายจากไปไหน ยังคอยถ่วงความเจริญให้กับประเทศอยู่ต่อไป
และนี่คือเหตุผลที่พรรคการเมืองฝ่ายทักษิณได้รับเลือกตั้งเสมอมาเพราะว่าโครงการดีๆได้ซื้อใจประชาชนไปแล้ว
ผิดกับพรรคการเมืองบางพรรคและกลุ่มคนบางกลุ่มที่เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน จ้องจะหาประโยชน์ใส่แต่พวกตัวเอง
ทั้งที่ไม่ค่อยจะสร้างประโยชน์กับประชาชนแต่กลับมักจะสร้างกติกาที่เอื้อผลประโยชน์ใส่ตัวถึงต้องทำร้ายประชาชน
โดยที่ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จะมีแค่คนจำนวนน้อย ที่มีฐานะทางสังคมและความเป็นอยู่ดีกว่าประชาชนทั่วไปอยู่แล้ว
ซึ่งมักเป็นพวกมีการศึกษาสูงมีอิทธิพลในกลุ่มหรือมีหน้ามีตาในสังคม และชอบดูถูกคนที่ยากไร้หรือคนที่ต่ำกว่าตัว
นี่แหละคือระบบเก่าๆของประเทศไทยที่ไม่ยอมล้มหายตายจากไปไหน ยังคอยถ่วงความเจริญให้กับประเทศอยู่ต่อไป
ความคิดเห็นที่ 1
...เราว่างานนี้มันมาแน่ จ่าย 30 - 50 % งานนี้รากหญ้าอ่วม
ปกติแทบไม่มีจะกินอยู่แล้ว ต่อไปนี้เตียมขายไร่ขายนามารักษากันแน่ๆ
ไอ้พวกสลิ่มที่บอกว่าเคยได้ฟรีจนเคยตัว
จิตเมตตาพวกเอ็งมีบ้างมั้ย คนรวยพูดอะไรก็ได้ แต่คนจนนี่ดิ
สาธุใครที่คิดรังแกคนจน ขอให้มันจนในชาตินี้แหล๊ะ
ให้ลูกหลานมันจนด้วย มันจะได้ลิ้มรสชาติของความจนว่ามันน่าหดหู่แค่ไหน
เมื่อไม่สบายแล้วไม่มีเงินไปหาหมอ ...
...เราว่างานนี้มันมาแน่ จ่าย 30 - 50 % งานนี้รากหญ้าอ่วม
ปกติแทบไม่มีจะกินอยู่แล้ว ต่อไปนี้เตียมขายไร่ขายนามารักษากันแน่ๆ
ไอ้พวกสลิ่มที่บอกว่าเคยได้ฟรีจนเคยตัว
จิตเมตตาพวกเอ็งมีบ้างมั้ย คนรวยพูดอะไรก็ได้ แต่คนจนนี่ดิ
สาธุใครที่คิดรังแกคนจน ขอให้มันจนในชาตินี้แหล๊ะ
ให้ลูกหลานมันจนด้วย มันจะได้ลิ้มรสชาติของความจนว่ามันน่าหดหู่แค่ไหน
เมื่อไม่สบายแล้วไม่มีเงินไปหาหมอ ...
ความคิดเห็นที่ 3
อยากจะกด like สัก ร้อยสักพันครั้ง เห็นมั๊ยหากปกครองโดย ปชต. จะมีคนมีมันสมอง สร้างสรรค์
และมองมุมกว้างได้มากที่สุด
เผด็จการก็จะได้ คห. แบบปลัดฯ นั่นแหละ ไม่เคยเห็นหัวคนรากหญ้าคนจน ที่ต้องขายไร่ขายนามารักษา
ตัวกันเลย ข้าราชการทำงานเช้าชามเย็นชาม สวัสดิการเพียบ ............ใจกว้างจริงงดของ สธ. เลย
และมองมุมกว้างได้มากที่สุด
เผด็จการก็จะได้ คห. แบบปลัดฯ นั่นแหละ ไม่เคยเห็นหัวคนรากหญ้าคนจน ที่ต้องขายไร่ขายนามารักษา
ตัวกันเลย ข้าราชการทำงานเช้าชามเย็นชาม สวัสดิการเพียบ ............ใจกว้างจริงงดของ สธ. เลย
ความคิดเห็นที่ 6
ข้าราชการและครอบครัว เพียง 5 ล้านคน ใช้เงินงบ
ประมาณมากกว่า 60,000 ล้านบาทประมาณ 12,000 กว่า
บาทต่อคนต่อปี และเมื่อเทียบกับ
กองทุนประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ดูแลประชากร 48 ล้านคน ด้วย
เงินงบประมาณ 109,718,581,300 บาท แค่ 2,755.60 ต่อคนต่อปีเท่านั้นเอง
เห็นกันชัดเจนขนาดนี้แล้ว ยังจะหน้าด้านบอกว่า 30 บาทจะสร้างปัญหาให้อีกมั้ย
ประมาณมากกว่า 60,000 ล้านบาทประมาณ 12,000 กว่า
บาทต่อคนต่อปี และเมื่อเทียบกับ
กองทุนประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ดูแลประชากร 48 ล้านคน ด้วย
เงินงบประมาณ 109,718,581,300 บาท แค่ 2,755.60 ต่อคนต่อปีเท่านั้นเอง
เห็นกันชัดเจนขนาดนี้แล้ว ยังจะหน้าด้านบอกว่า 30 บาทจะสร้างปัญหาให้อีกมั้ย
แสดงความคิดเห็น
เมื่อข้าราชการสธ.เห็นว่าดีก็ขอสนับสนุนให้ทดลองทำกับระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการก่อน (สะอึกเลยหล่ะสิทีนี้)
นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย ในฐานะตัวแทนกลุ่ม
คนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า ตามที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะร่วม
กับประชาคมสาธารณสุข แถลงข่าวการปฏิรูประบบการเงินการคลังของกระทรวงสาธารณสุข ในวันที่15 กรกฎาคมนั้น
งานวิจัยพบว่า คนในระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการใช้บริการผู้ป่วยนอกและผู้ป่วย
มากกว่าคนระบบประกันสังคมและระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยที่ กองทุนสวัสดิการ
รักษาพยาบาลข้าราชการมีสมาชิกที่เป็นข้าราชการและครอบครัว เพียง 5 ล้านคน ใช้เงินงบ
ประมาณมากกว่า 60,000 ล้านบาท ถือเป็นค่าใช้จ่ายต่อหัวสูงมาก คือ ประมาณ 12,000 กว่า
บาทต่อหัวต่อปี เมื่อเทียบกับกองทุนประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ดูแลประชากร 48 ล้านคน ด้วย
เงินงบประมาณ 109,718,581,300 บาท หรือ 2,755.60 ต่อคนต่อปีเท่านั้น ดังนั้นหากเริ่ม
ทดลองกับระบบสวัสดิการข้าราชการจะให้ภาพที่ชัดเจนที่สุด
"เมื่อข้าราชการสธ.บางส่วนเห็นว่าการร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล (co-pay) เป็นเรื่องต้องทำเพื่อไม่ให้เกิด
การใช้บริการอย่างพร่ำเพรื่อและไม่ให้เป็นภาระงบประมาณแผ่นดินมากเกินไป ระบบต้องล้มเพราะค่าใช้จ่าย
กลุ่มคนรักหลักประกันก็ขอสนับสนุนให้ทดลองทำกับระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการก่อน จนกว่า
จะมีหลักฐานเชิงประจักษ์อย่างน้อย 5 ปีว่าสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ไม่ทำให้ข้าราชการใช้บริการอย่าง
พร่ำเพรื่ออีกต่อไปแล้ว จึงกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้งกับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ" นายอภิวัฒน์กล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1405350277