ในศาสนาพุทธ ธรรมระดับต่ำสุดที่คนเราเริ่มบรรลุได้คือ โสดาปัตติผล ซึ่งเงื่อนไขของการบรรลุธรรมนี้จะต้องละสังโยชน์ 3 ให้ได้ คือ
1.สักกายทิฏฐิ คือ ความเห็นเป็นเหตุถือตัวตน เช่นเห็นว่ากายนี้ใจนี้เป็นตัวตนของเรา
- พวกที่อัตตาสูง น้ำเต็มแก้ว อีโก้สูง ยังไม่ผ่านข้อ 1
2.วิจิกิจฉา คือ ความลังเลสงสัย เช่นสังสัยในข้อปฏิบัติของตนว่าถูกต้องหรือไม่ สงสัยในพระรัตนตรัยหรือในอริยสัจ ๔ ว่ามีจริงหรือไม่
- พวกที่ไม่เอาพระพุทธเจ้า ไม่ศรัทธาในพระพุทธเจ้า หรือ ไม่เอาพระรัตนตรัย(พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์) ให้ครบ 3 ประการ ยังไม่ผ่านข้อ 2
3.สีลัพพตปรามาส คือ ความเชื่อถือยึดมั่นว่าความศักดิ์สิทธิ์มีได้ด้วยศีลและพรตอย่างนั้นอย่างนี้ ข้อนี้ขยายความได้ว่ารักษาศีลแต่เพียงทางกาย ทางวาจา แต่ใจยังไม่เป็นศีล หรืออย่างน้อยก็ยังไม่เป็นศีลตลอดเวลา
- พูดง่ายๆ ต้องมีศีล 5 ในใจ ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
คนที่เอาแต่ธรรมะ แต่ไม่สนใจ พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ คนเหล่านี้คือคนที่หลงพุทธ พวกไม่รู้จริง ดีแต่เอาตำรามาอ้างแบบไม่รู้จริง
คนพวกนี้ต่อให้นั่งสมาธิ 100 ปี ก็เสียเวลาเปล่า บรรลุธรรมอะไรก็ไม่ได้
คนที่ไม่เอาพระรัตนตรัย จะบรรลุธรรมใดๆไม่ได้
1.สักกายทิฏฐิ คือ ความเห็นเป็นเหตุถือตัวตน เช่นเห็นว่ากายนี้ใจนี้เป็นตัวตนของเรา
- พวกที่อัตตาสูง น้ำเต็มแก้ว อีโก้สูง ยังไม่ผ่านข้อ 1
2.วิจิกิจฉา คือ ความลังเลสงสัย เช่นสังสัยในข้อปฏิบัติของตนว่าถูกต้องหรือไม่ สงสัยในพระรัตนตรัยหรือในอริยสัจ ๔ ว่ามีจริงหรือไม่
- พวกที่ไม่เอาพระพุทธเจ้า ไม่ศรัทธาในพระพุทธเจ้า หรือ ไม่เอาพระรัตนตรัย(พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์) ให้ครบ 3 ประการ ยังไม่ผ่านข้อ 2
3.สีลัพพตปรามาส คือ ความเชื่อถือยึดมั่นว่าความศักดิ์สิทธิ์มีได้ด้วยศีลและพรตอย่างนั้นอย่างนี้ ข้อนี้ขยายความได้ว่ารักษาศีลแต่เพียงทางกาย ทางวาจา แต่ใจยังไม่เป็นศีล หรืออย่างน้อยก็ยังไม่เป็นศีลตลอดเวลา
- พูดง่ายๆ ต้องมีศีล 5 ในใจ ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
คนที่เอาแต่ธรรมะ แต่ไม่สนใจ พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ คนเหล่านี้คือคนที่หลงพุทธ พวกไม่รู้จริง ดีแต่เอาตำรามาอ้างแบบไม่รู้จริง
คนพวกนี้ต่อให้นั่งสมาธิ 100 ปี ก็เสียเวลาเปล่า บรรลุธรรมอะไรก็ไม่ได้