ถอดรหัส'ทิพาภรณ์'ดัน'ไอคอนสยาม'เชื่อมโลก
โดย : สรัญญา จันทร์สว่าง
"ตึกที่ดีที่สุดในนิวยอร์ก ลอนดอน สิงคโปร์ ไทยก็ไม่น้อยหน้าใครในโลก"ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ แห่งไอคอนสยาม
“แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น” ยักษ์อสังหาริมทรัพย์ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับบน กิจการในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (เครือซีพี) ที่มี ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ บุตรสาวสุดท้องของ ธนินท์ เจียรวนนท์ หรือ“เจ้าสัวธนินท์” นั่งกุมบังเ
ยน กับภารกิจและความท้าทายครั้งใหญ่ในฐานะ “พันธมิตรร่วมทุน” ในอภิมหาโครงการเมือง “ไอคอนสยาม” ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่า 5 หมื่นล้านบาท
บนทำเลยุทธศาสตร์สำคัญของมหานครกรุงเทพฯ ขนาดใหญ่กว่า 50 ไร่ บนผืนดินที่งดงามและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีด้านหน้าทอดยาวเลียบริมน้ำกว่า 400 เมตร นับเป็นที่ดินผืนใหญ่ชิ้นสุดท้ายที่ตั้งอยู่ใจกลางแม่น้ำเจ้าพระยา
เป็นความท้าทายของ “ดีเวลอปเปอร์” มากกว่าการพัฒนาโครงการดีๆ 1 โปรเจคให้เกิดขึ้น
“ตอนได้เห็นที่ดิน 40 ไร่แปลงนี้ (ก่อนซื้อเพิ่มอีก 10 ไร่) คิดเลยว่าโลเคชั่นนี้เป็นแลนด์มาร์ค สามารถทำอะไรดีๆ ให้กับประเทศได้ เราอยู่ตรงโค้งน้ำที่เป็นท้องมังกร”
ทิพาภรณ์ รับหน้าที่ปลุกปั้นโครงการที่พักอาศัยริมน้ำมระดับซูเปอร์ลักชัวรี หนึ่งในองค์ประกอบหลักของอภิมหาโครงการเมืองแห่งนี้ บอกว่า แรงบันดาลใจที่เป็นโจทย์ตั้งของการพัฒนา “ไอคอนสยาม” กล่าวคือ จะส่งมอบคุณค่าจากโลเคชั่นนี้ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมอดีตกับอนาคตอีกเป็น 100 ปี ให้บอกเล่าเรื่องราวออกไปทั่วโลกได้อย่างไร
กรอบการพัฒนาจึงกลับมามองที่ “โลเคชั่น” จะทำอย่างไรให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองในน่านน้ำ ให้ชุมชนรอบข้างได้ประโยชน์
เชื่อมต่อชุมชนโลกแบบไร้รอยต่อ
ทิพาภรณ์ ฉายภาพเมกะเทรนด์ว่า ระยะทางระหว่างโลกสั้นลงเรื่อยๆ และเชื่อมต่อกันมากขึ้น ไอคอนสยาม จะเป็นจุดเชื่อมต่อชุมชนนานาชาติและศูนย์กลางธุรกิจ ระดับโลก
“ก่อนแต่งตัวให้ไอคอนสยาม ได้ศึกษาโครงการที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดในโลกว่าทำกันอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นตึกที่ดีที่สุดในนิวยอร์ก ลอนดอน สิงคโปร์ จะไม่แตกต่างกันอีกต่อไป ไทยจะไม่น้อยหน้าใครในโลก”
เทคโนโลยีการสื่อสารล้ำสมัยจะถูกนำมาใช้กับแมกโนเลีย วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ด้วยระบบไฟเบอร์ออพติคที่ให้ความเร็วสูงสุดแห่งแรกในประเทศไทย เรียกว่า FTTX (Fiber to Home) รองรับชุมชนนานาชาติที่กำลังขยายตัว ทำให้เชื่อมต่อชุมชนโลกและชุมชนแห่งอนาคตได้แบบไร้รอยต่อ
ทิพาภรณ์ บอกว่าเคยถามซีอีโอระดับโลกหลายคนว่า ประเทศไหนในเอเชียที่น่าอยู่ที่สุด ส่วนใหญ่พุ่งเป้าหมาย “สิงคโปร์” ด้วยเหตุผลสิทธิประโยชน์ด้านภาษี ความสะอาด ปลอดภัย และการศึกษา
“หลังจากนี้ไทยจะเป็นประเทศน่าอยู่ที่สุด โลกจะเห็นเรามากขึ้นเรื่อยๆ ระบบต่างๆ ถูกพัฒนาในมาตรฐานใหม่ระดับสากล ท่ามกลางเสน่ห์ไทยหลากหลายทั้งวัฒนธรรม ประเพณี หรือร้านอาหารที่มีตั้งแต่ข้างทางและหรูสุดในโรงแรม”
เติมเต็ม-ต่อยอด
แนวทางพัฒนาไอคอนสยามต้องการ “เติมเต็ม” ในสิ่งที่ขาด เพื่อสามารถ “ต่อยอด” และขับเคลื่อนโครงการก้าวไปข้างหน้าอย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ การวางองค์ประกอบจึงสำคัญอย่างยิ่ง
ทำเลยุทธศาสตร์นี้เปรียบได้กับ “สายสร้อย” ที่ยังขาด “จี้เพชร” จึงเป็นคำตอบของการวางองค์ประกอบโครงการเฉพาะ “ค้าปลีกและที่พักอาศัย”
“ไม่ได้ทำโรงแรม เพราะไอคอนสยามจะเข้ามาเติมเต็มความงามบนคุ้งน้ำให้สมบูรณ์ ไม่ได้เข้ามาแข่งขันกับสิ่งที่มีอยู่ เน้นสร้างความแตกต่าง เปรียบสายสร้อยที่สวยงามก็เสริมให้ดีขึ้นไปอีกด้วยจี้เพชร”
สถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้าง ลวดลาย งานตกแต่งถูกแทนด้วยสัญลักษณ์ “ดอกบัว” เส้นสายเปรียบเสมือนสายน้ำ อร่ามด้วยการประดับประดาด้วยสีทองเป็นหลัก สะท้อนว่าแผ่นดินไทยคือแผ่นดินทอง หรือ สุวรรณภูมิ เพื่อเป็นโคมไฟส่องสว่างให้คนทั้งโลกมองกลับเข้ามาประเทศไทย
เรียกว่า ทุกองค์ประกอบล้วนมีที่มา แม้กระทั่ง “การวางผังโครงการ”
ไอคอนสยาม ใช้เวลาค่อนข้างมากในการวางผังโครงการ และทิศทางแต่ละอาคาร เพื่อให้ “ทุกห้อง” ได้สภาพแวดล้อมที่ดี ไม่บดบังวิวทิวทัศน์ เรียกว่า ครบทั้ง Function ฟังก์ชั่นและ Facilities ภายใต้หลักนวัตกรรมและความยั่งยืน ซึ่งการเลือกสถานที่ และการวางทิศทางที่ถูกต้อง คือ หัวใจของการทำ Sustainability นั่นเอง
ขณะที่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องอิงไปกับโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมต่างๆ โดยเฉพาะ “รถไฟฟ้า” คือ ความหวังของที่อยู่อาศัย เชื่อว่าอนาคตแนวโน้มที่อยู่อาศัยจะเปลี่ยนมาอยู่ริมแม่น้ำมากขึ้น “ไอคอนสยาม” จะปลุกการสัญจรทางน้ำกลับมาเป็นหนึ่งในทางเลือกของการเดินทาง
“การใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ คือ เทรนด์ใหม่ของโลก เราจะเซตเทรนด์ใหม่ของการใช้ชีวิตอยู่กับเมืองก็ได้ อยู่กับธรรมชาติก็ได้พร้อมๆ กัน”
โดยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ลักชัวรีคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในไทย แม้กระทั่งริมแม่น้ำเทมส์ ลอนดอน สะท้อนเทรนด์ความเคลื่อนไหวของที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่
ทิพาภรณ์ น้องเล็กตระกูลเจียรวนนท์ ในฐานะดูแลภาพรวม “ทำบ้านของทุกคน” ฉะนั้นก็อยากจะทำทุกโครงการที่พักอาศัยที่เรียกได้ว่า...ไม่ต่างจากทำให้ “พ่อแม่พี่น้องตัวเอง” เลยทีเดียว
ถอดรหัส'ทิพาภรณ์'ดัน'ไอคอนสยาม'เชื่อมโลก
โดย : สรัญญา จันทร์สว่าง
"ตึกที่ดีที่สุดในนิวยอร์ก ลอนดอน สิงคโปร์ ไทยก็ไม่น้อยหน้าใครในโลก"ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ แห่งไอคอนสยาม
“แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น” ยักษ์อสังหาริมทรัพย์ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับบน กิจการในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (เครือซีพี) ที่มี ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ บุตรสาวสุดท้องของ ธนินท์ เจียรวนนท์ หรือ“เจ้าสัวธนินท์” นั่งกุมบังเ
บนทำเลยุทธศาสตร์สำคัญของมหานครกรุงเทพฯ ขนาดใหญ่กว่า 50 ไร่ บนผืนดินที่งดงามและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีด้านหน้าทอดยาวเลียบริมน้ำกว่า 400 เมตร นับเป็นที่ดินผืนใหญ่ชิ้นสุดท้ายที่ตั้งอยู่ใจกลางแม่น้ำเจ้าพระยา
เป็นความท้าทายของ “ดีเวลอปเปอร์” มากกว่าการพัฒนาโครงการดีๆ 1 โปรเจคให้เกิดขึ้น
“ตอนได้เห็นที่ดิน 40 ไร่แปลงนี้ (ก่อนซื้อเพิ่มอีก 10 ไร่) คิดเลยว่าโลเคชั่นนี้เป็นแลนด์มาร์ค สามารถทำอะไรดีๆ ให้กับประเทศได้ เราอยู่ตรงโค้งน้ำที่เป็นท้องมังกร”
ทิพาภรณ์ รับหน้าที่ปลุกปั้นโครงการที่พักอาศัยริมน้ำมระดับซูเปอร์ลักชัวรี หนึ่งในองค์ประกอบหลักของอภิมหาโครงการเมืองแห่งนี้ บอกว่า แรงบันดาลใจที่เป็นโจทย์ตั้งของการพัฒนา “ไอคอนสยาม” กล่าวคือ จะส่งมอบคุณค่าจากโลเคชั่นนี้ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมอดีตกับอนาคตอีกเป็น 100 ปี ให้บอกเล่าเรื่องราวออกไปทั่วโลกได้อย่างไร
กรอบการพัฒนาจึงกลับมามองที่ “โลเคชั่น” จะทำอย่างไรให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองในน่านน้ำ ให้ชุมชนรอบข้างได้ประโยชน์
เชื่อมต่อชุมชนโลกแบบไร้รอยต่อ
ทิพาภรณ์ ฉายภาพเมกะเทรนด์ว่า ระยะทางระหว่างโลกสั้นลงเรื่อยๆ และเชื่อมต่อกันมากขึ้น ไอคอนสยาม จะเป็นจุดเชื่อมต่อชุมชนนานาชาติและศูนย์กลางธุรกิจ ระดับโลก
“ก่อนแต่งตัวให้ไอคอนสยาม ได้ศึกษาโครงการที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดในโลกว่าทำกันอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นตึกที่ดีที่สุดในนิวยอร์ก ลอนดอน สิงคโปร์ จะไม่แตกต่างกันอีกต่อไป ไทยจะไม่น้อยหน้าใครในโลก”
เทคโนโลยีการสื่อสารล้ำสมัยจะถูกนำมาใช้กับแมกโนเลีย วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ด้วยระบบไฟเบอร์ออพติคที่ให้ความเร็วสูงสุดแห่งแรกในประเทศไทย เรียกว่า FTTX (Fiber to Home) รองรับชุมชนนานาชาติที่กำลังขยายตัว ทำให้เชื่อมต่อชุมชนโลกและชุมชนแห่งอนาคตได้แบบไร้รอยต่อ
ทิพาภรณ์ บอกว่าเคยถามซีอีโอระดับโลกหลายคนว่า ประเทศไหนในเอเชียที่น่าอยู่ที่สุด ส่วนใหญ่พุ่งเป้าหมาย “สิงคโปร์” ด้วยเหตุผลสิทธิประโยชน์ด้านภาษี ความสะอาด ปลอดภัย และการศึกษา
“หลังจากนี้ไทยจะเป็นประเทศน่าอยู่ที่สุด โลกจะเห็นเรามากขึ้นเรื่อยๆ ระบบต่างๆ ถูกพัฒนาในมาตรฐานใหม่ระดับสากล ท่ามกลางเสน่ห์ไทยหลากหลายทั้งวัฒนธรรม ประเพณี หรือร้านอาหารที่มีตั้งแต่ข้างทางและหรูสุดในโรงแรม”
เติมเต็ม-ต่อยอด
แนวทางพัฒนาไอคอนสยามต้องการ “เติมเต็ม” ในสิ่งที่ขาด เพื่อสามารถ “ต่อยอด” และขับเคลื่อนโครงการก้าวไปข้างหน้าอย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ การวางองค์ประกอบจึงสำคัญอย่างยิ่ง
ทำเลยุทธศาสตร์นี้เปรียบได้กับ “สายสร้อย” ที่ยังขาด “จี้เพชร” จึงเป็นคำตอบของการวางองค์ประกอบโครงการเฉพาะ “ค้าปลีกและที่พักอาศัย”
“ไม่ได้ทำโรงแรม เพราะไอคอนสยามจะเข้ามาเติมเต็มความงามบนคุ้งน้ำให้สมบูรณ์ ไม่ได้เข้ามาแข่งขันกับสิ่งที่มีอยู่ เน้นสร้างความแตกต่าง เปรียบสายสร้อยที่สวยงามก็เสริมให้ดีขึ้นไปอีกด้วยจี้เพชร”
สถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้าง ลวดลาย งานตกแต่งถูกแทนด้วยสัญลักษณ์ “ดอกบัว” เส้นสายเปรียบเสมือนสายน้ำ อร่ามด้วยการประดับประดาด้วยสีทองเป็นหลัก สะท้อนว่าแผ่นดินไทยคือแผ่นดินทอง หรือ สุวรรณภูมิ เพื่อเป็นโคมไฟส่องสว่างให้คนทั้งโลกมองกลับเข้ามาประเทศไทย
เรียกว่า ทุกองค์ประกอบล้วนมีที่มา แม้กระทั่ง “การวางผังโครงการ”
ไอคอนสยาม ใช้เวลาค่อนข้างมากในการวางผังโครงการ และทิศทางแต่ละอาคาร เพื่อให้ “ทุกห้อง” ได้สภาพแวดล้อมที่ดี ไม่บดบังวิวทิวทัศน์ เรียกว่า ครบทั้ง Function ฟังก์ชั่นและ Facilities ภายใต้หลักนวัตกรรมและความยั่งยืน ซึ่งการเลือกสถานที่ และการวางทิศทางที่ถูกต้อง คือ หัวใจของการทำ Sustainability นั่นเอง
ขณะที่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องอิงไปกับโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมต่างๆ โดยเฉพาะ “รถไฟฟ้า” คือ ความหวังของที่อยู่อาศัย เชื่อว่าอนาคตแนวโน้มที่อยู่อาศัยจะเปลี่ยนมาอยู่ริมแม่น้ำมากขึ้น “ไอคอนสยาม” จะปลุกการสัญจรทางน้ำกลับมาเป็นหนึ่งในทางเลือกของการเดินทาง
“การใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ คือ เทรนด์ใหม่ของโลก เราจะเซตเทรนด์ใหม่ของการใช้ชีวิตอยู่กับเมืองก็ได้ อยู่กับธรรมชาติก็ได้พร้อมๆ กัน”
โดยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ลักชัวรีคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในไทย แม้กระทั่งริมแม่น้ำเทมส์ ลอนดอน สะท้อนเทรนด์ความเคลื่อนไหวของที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่
ทิพาภรณ์ น้องเล็กตระกูลเจียรวนนท์ ในฐานะดูแลภาพรวม “ทำบ้านของทุกคน” ฉะนั้นก็อยากจะทำทุกโครงการที่พักอาศัยที่เรียกได้ว่า...ไม่ต่างจากทำให้ “พ่อแม่พี่น้องตัวเอง” เลยทีเดียว