จีนแอบไปตีท้ายครัวเมกาแล้ว ปธน.จีนไป 'อเมริกาใต้' หลังบ้าน US ดันตั้ง 'ธ.บริกส์' เพื่อคาน 'เวิลด์แบงก์'

กระทู้คำถาม
เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ออกเดินทางจากกรุงปักกิ่งในวันอาทิตย์ (13 ก.ค.) เพื่อเยือน 4 ชาติในอเมริกาใต้ ด้วยจุดประสงค์สร้างสัมพันธ์กับภูมิภาคที่อุดมด้วยแหล่งน้ำมันและถูกมองว่าเป็นสนามหลังบ้านของสหรัฐฯ โดยในระหว่างทริปนี้ ผู้นำแดนมังกรยังจะเข้าร่วมประชุมซัมมิตของกลุ่ม “บริกส์” และผลักดันโครงการความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะการจัดตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาและการจัดการทุนสำรองฉุกเฉิน ซึ่งมุ่งให้เป็นทางเลือก แทนกลไกที่ตะวันตกครอบงำอย่างธนาคารโลก
       
       สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานว่า สีออกเดินทางจากปักกิ่งตั้งแต่ตอนเช้าวันอาทิตย์ (13) พร้อมกับ มนตรีแห่งรัฐ หยาง เจียฉือ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบระดับสูงของปักกิ่งในด้านกิจการระหว่างประเทศ
       
       ระหว่างการเดินทางครั้งนี้ ผู้นำแดนมังกรจะเยือนบราซิล, เวเนซุเอลา ชาติซัปพลายเออร์น้ำมันรายสำคัญ, คิวบา พันธมิตรการเมืองยาวนาน, และอาร์เจนตินา ประเทศผู้จัดส่งถั่วเหลืองให้แก่จีน
           
       การเยือนละตินอเมริกาอย่างเป็นทางการครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ของสีนับจากรับตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว มีขึ้นขณะที่การค้าของจีนกับภูมิภาคนี้เพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของดินแดนหลังม่านไม้ไผ่ และขณะที่ปักกิ่งยังคงมองหาแหล่งป้อนพลังงานเพื่อส่งเสริมการเติบโตของประเทศ
           
       การสั่งซื้อสินค้าโภคภัณฑ์จำนวนมหาศาล และการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมของจีนให้แก่ละตินอเมริกา ได้สนับสนุนส่งเสริมให้การค้าสองทางมีมูลค่าสูงถึง 261,600 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา
           
       ระหว่างทางก่อนเข้าสู่อเมริกาใต้ สีจะแวะที่เกาะโรดส์ และหารือกับนายกรัฐมนตรีแอนโทนิส ซามาราส ของกรีซ จากนั้นจึงต่อไปยังบราซิลเ พื่อเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำของกลุ่ม “บริกส์” หรือชาติเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่รายใหญ่ทั้ง 5 อันได้แก่ บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน, และแอฟริกาใต้ โดยที่ผู้นำจีนจะได้พบกับนายกรัฐมนตรีใหม่ของอินเดีย นเรนทรา โมดี แบบตัวต่อตัวเป็นครั้งแรก
           
       สถานีทีวีของรัฐบาลจีนรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า ระหว่างการประชุมบริกส์ สีจะสนับสนุนโครงการความร่วมมือของบริกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาและการจัดการทุนสำรองฉุกเฉินของกลุ่มประเทศนี้
       
       ทั้งนี้ เป็นที่คาดว่า การประชุมคราวนี้จะนำไปสู่ข้อตกลงจัดตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาของบริกส์ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่หารือกันมายาวนานและมีจุดประสงค์เพื่อเป็นทางเลือกแทนสถาบันที่ครอบงำโดยตะวันตกเฉกเช่น ธนาคารโลก

ปธน.จีนไป 'อเมริกาใต้' หลังบ้าน US ดันตั้ง 'ธ.บริกส์' เพื่อคาน 'เวิลด์แบงก์'
นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย หนึ่งในผู้นำซึ่งกำลังเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมซัมมิตของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ “BRICS”

       เจ้าหน้าที่จีนเผยว่า นครเซี่ยงไฮ้ ของแดนมังกร กำลังแข่งขันเพื่อช่วงชิงการเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งใหม่นี้
           
       นอกจากนั้น สื่อของทางการปักกิ่งยังรายงานว่า สำหรับกองทุนสำรองฉุกเฉินที่เสนอจัดตั้งขึ้นด้วยนั้น จะให้บริการสำหรับชาติสมาชิกในกรณีที่เกิดวิกฤตการเงิน ขณะที่นักวิชาการจีนคนหนึ่งเผยว่า แรกเริ่มนั้นกองทุนนี้จะจัดเก็บเป็นเงินสกุลดอลลาร์ก่อนเปลี่ยนเป็นสกุลเงินของชาติสมาชิกบริกส์ในอนาคต
           
       ภายหลังการประชุมระหว่างผู้นำของบริกส์กับผู้นำอเมริกาใต้ ที่กรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิลในวันพุธ (16) แล้ว สียังจะเปิดเวทีประชุมจีน-ละตินอเมริกา ขึ้นมา ซึ่งตอกย้ำความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นของปักกิ่ง ต่อภูมิภาคนี้ที่เคยผูกโยงพึ่งพาทางเศรษฐกิจกับอเมริกามายาวนาน
       
       ก่อนหน้านี้ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จีนก็ได้ส่งตัวแทนไปยังโบลิเวีย เพื่อร่วมประชุมซัมมิตของ “กลุ่มจี77” ซึ่งก็คือประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย ถึงแม้แดนมังกรเองไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกด้วยก็ตาม และนี่จึงถูกมองว่าเป็นสัญญาณอีกประการหนึ่งของการที่จีนกำลังขยายสายสัมพันธ์ในภูมิภาคอเมริกาใต้
           
       สำหรับชาติอื่นๆ ที่ สี มีกำหนดการไปเยือนในทริปนี้ ในส่วนของเวเนซุเอลา ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่ส่งออกน้ำมันดิบให้แก่จีนเฉลี่ย 626,000 บาร์เรลต่อวัน (บีพีดี) นั้น ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร กล่าวเมื่อเดือนเมษายนภายหลังหารือกับหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ว่าทั้งสองประเทศมีเป้าหมายเพิ่มการซื้อขายน้ำมันเป็น 1 ล้านบีพีดีในอนาคต
           
       ขณะเดียวกัน จีนก็เป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจอันดับ 2 ของคิวบา รองจากเวเนซุเอลา และเป็นแหล่งระดมทุนสำคัญสำหรับประเทศคอมมิวนิสต์เพียงหนึ่งเดียวในทวีปอเมริกาแห่งนี้
           
       จีนยังมีแผนเพิ่มการลงทุนในบราซิลเช่นกัน โดยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว กิจการร่วมค้านานาชาติที่มีบริษัทจีนร่วมด้วย เป็นผู้ชนะได้รับสิทธิ์ในการพัฒนาแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในแดนแซมบ้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่