ตัดมาเฉพาะข่าวที่เกี่ยวกับกระทู้นะครับ  ฉบับเต็ม+รูปขายไอโฟนตามไปที่ลิงก์ได้ครับ
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000078481&Html=1&
ตำรวจเปิดภาพวงจรปิด"ไอ้เกม" นำไอโฟน 5 เหยื่อสาวไปขาย


ตำรวจควบคุมตัวเพื่อน “ไอ้เกม” ผู้ต้องหาข่มขืน “น้องแก้ม” บนรถไฟสอบเครียด เผยไอ้หื่นวางแผนก่อเหตุระหว่างทางบนรถไฟ เล็งน้องแก้มตั้งแต่ขึ้นรถไฟ ปัดไม่มีส่วนรู้เห็น แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ด้านเพื่อนอีกรายโผล่มอบหลักฐาน “แท็บเล็ต” น้องแก้มให้ตำรวจอ้างไอ้หื่นนำมาฝากไว้แต่ไม่มีส่วนรู้เห็น ล่าสุดตำรวจเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะ “ไอ้เกม”นำไอโฟน 5 ไปขายที่ศรีย่าน

เมื่อวันที่ (10 ก.ค.) ที่ สน.นพวงษ์ นายสุวัฒน์ แสงขาว บิดาของ นายวันชัย แสงขาว ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนน้องแก้มได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประเทือง สุภารัตน์ พงส.ผนพ.สภ.สามกระทาย จ.ประขวบคีรีขันธ์ ในฐานะชุดพนักงานสอบสวน เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม          
      
       นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวอีกว่า ทางพ่อและแม่ เล่าว่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อเกิดเหตุ นายวันชัยได้มีพาผู้หญิงเข้าบ้านกว่าสิบสองคนไม่ซ้ำหน้ากัน รวมทั้งนายวันชัยมีพฤติกรรมเก็บตัวเงียบหมกมุ่นชอบดูหนังลามก
      
       จากนั้นเมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ได้นำตัวนายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ของพนักงานที่อยู่บนรถไฟขบวน 174 ในวันเกิดเหตุ มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมรวมทั้งนำหลักฐานที่ค้นได้ที่บ้านพักของนายวันชัย อาทิ รองเท้า เสื้อผ้าของใช้ส่วนตัว มาส่งมอบให้กับทางพนักงานสอบสวน
      
       เบื้องต้นนายสมชาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้กินเบียร์กับพนักงานที่อยู่บนรถไฟขบวนดังกล่าวร่วมกัน โดยหนึ่งในนั้นมีนายวันชัยร่วมด้วย ซึ่งนายวันชัยได้เล่าให้ฟังว่าได้แอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่บนรถไฟโบกีที่ 3 เตียงที่ 28 และได้แอบมองมาตั้งแต่ขึ้นขบวนจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และได้วางแผนว่าจะไปข่มขืน จากนั้นนายวันชัยก็ได้เดินไปที่โบกีที่ 3 ก่อนจะหายไป หลังจากนั้นไม่นาน นายวันชัยก็ได้เดินกลับมาหาตน ตนก็เลยถามว่าเด็กซึ่งคือน้องแก้มได้หายไปไหน นายเกมก็ได้ตอบไปว่าได้โยนน้องแก้มทิ้งไประหว่างสถานีวังก์พงกับเขาเต่าแล้ว จากนั้นตนก็ได้สังเกตเห็นว่านายวันชัยมีโทรศัพท์ไอโฟน ก็ได้ถามว่าของใคร นายวันชัย บอกเพียงว่าเก็บมาได้ และเมื่อถึงกรุงเทพฯก็จะนำไปขายเอาเงินมาแบ่งให้ตน  จนกระทั่งถึงกรุงเทพฯนายวันชัยก็ได้นำโทรศัพท์ไปขาย แต่ก็ไม่ได้นำเงินให้ตน
      
       วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. กล่าวเพิ่มเติมคดีของ “แก้ม” ว่า ขณะนี้ได้วัตถุพยานสำคัญเพิ่มเติม คือ แท็บเล็ต ของ “น้องแก้ม” โดยเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. นายวันชัย โทรศัพท์หานายมาร์ค บอกว่าจะมาหา เช้าวันรุ่งขึ้นนายวันชัย มาหานายมาร์คที่บ้าน ย่านซอยระนอง และถือแท็บเล็ตกับไอโฟน 5 มาด้วย แล้วบอกว่าทะเลาะกับแฟน ไม่อยากให้แฟนรู้ว่าซื้อแท็บเล็ตใหม่ จึงขอฝากไว้ ส่วนนายวันชัยเก็บไอโฟนไว้ที่ตัว ซึ่งนายมาร์คไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ที่นายวันชัย ก่อเหตุฆ่าข่มขืน “น้องแก้ม”      
            
       ส่วนเพื่อนอีก 3 คน ที่นั่งกินเบียร์ด้วยกัน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งหมดมาสอบสวน แต่ยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี รวมถึงนายมาร์ค ที่นำแท็บเล็ตมาคืน ได้มีการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยอ้างว่า ทราบข่าว จึงเกิดความกลัว แล้วไปปรึกษาลุงที่รู้จักกับตำรวจ และนำแท็บเล็ตไปคืนตำรวจรถไฟนพวงศ์
      
      ************************************************************************************


ส่วนเพื่อนอีก 3 คน ที่นั่งกินเบียร์ด้วยกัน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งหมดมาสอบสวน แต่ยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี
^
^
ตำรวจไทยมันบ้าหรือเพี้ยนเนี่ย???????????????????????

เพราะถ้าเป็นตะวันตก
1. การที่นายวันชัยมาบอกนายสมชายว่าจะข่มขืนผู้หญิง แล้วเพื่อนๆที่นั่งกินเหล้าด้วยกันไม่ห้ามปราม
2. พอข่มขืนเสร็จยังมาบอกเพื่อนๆอีกว่า "โยนน้องแก้มทิ้งแล้ว" เพื่อนๆมันยังเฉย...ไม่แจ้งความ
3. นายเกมยังเอาขโมยของใช้ผู้ตายมา แล้วเพื่อนๆที่นั่งกินเหล้าด้วยกันยังร่วมพูดคุยว่าจะขายเอาเงินมาแบ่งกัน


ทั้ง 3 เหตุการณ์นี้มันคือการ "สมรู้ร่วมคิด" หรือ "ส่งเสริมให้กระทำผิด" แล้วนะครับ!!!
ตำรวจจะปล่อยให้พวกเลวชาตินี้ไปทำไมเพียงเพราะไม่มี"ส่วนรู้เห็น"???

นี่มันรู้เห็นเต็มๆเลยนะ!!

ตกลงผมว่ากฎหมายบ้านเราไม่อ่อนหรอก แต่ตำรวจบ้านเรามันไม่ได้เรื่อง