ปัญหาโลกแตกดีจริงๆนะครับ ชาวนาอยากให้รัฐแทรกแซงราคาข้าว ให้ได้ตันละ หมื่นกว่า
ในขณะที่ราคาตลาดโลกมัน แค่ 7พันกว่าบาท
ทั้งๆที่ชาวนาก็รู้ ว่าประเทศเสียหายไปแล้วขนาดไหนกับโครงการรับจำนำข้าว
ซึ่งถือเป็นโครงการ "ซุปเปอร์แทรกแซง" ด้วยซ้ำ
เพราะรัฐ ตั้งตนเป็นผู้ซื้อ ผู้ขายแต่เพียงผู้เดียว
มิหนำซ้ำ ยังตั้งราคารับจำนำไว้โดยใช้มาตรฐานราคาข้าวของดาวอังคาร
ใครๆ ก็รู้...เขารู้กันทั้งประเทศ
ชาวนาก็รู้
มีคนพวกเดียวที่ "แกล้ง" ไม่ยอมรับรู้...ใคร คิดเอาเอง
ไอ้ผมมันไม่ความรู้อะไรครับ
ก็เลยงง ว่า ถ้าเราอยู่ในระบบการค้าเสรีแล้ว
ทำไม...เราถึงไปบิดเบือนระบบการค้าเสรี และโครงสร้างทางการตลาด
ด้วยการเข้าไปแทรกแซง ในรูปแบบของการประกันราคา หรือการรับจำนำข้าว
อย่างนี้เรียก "เสรี" หรือ
ในเมื่อ ระบบการค้าเสรี มันก็คือ ระบบปลาใหญ่ กินปลาเล็ก
ระบบที่ผู้แข็งแรงกว่า ได้เปรียบผู้ด้อยกำลัง
เราเลือกเองที่จะเป็นอย่างนี้
หากผู้ด้อยกำลัง ต้องการจะอยู่รอดในสภาวะเช่นนี้
ผู้ด้อยกำลังต้อง "เปลี่ยนแปลง" ครับ
ก็ในเมื่อเราเลือกเองที่จะเป็นอย่างนี้ แล้วเราจะมาบ่นหา5อะไรกับความผันผวนล่ะครับ
ในเมื่อความผันผวนเป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของการค้าเสรี
ราคาต่างๆ มันขึ้นอยู่กับอุปสงค์ อุปทาน
เราก็ต้องยอมรับซิครับ
เราเห็นระบบการทำงานแบบนี้ได้ในธรรมชาติทั่วไป มันเป็นกลไกของธรรมชาติ
ในการค้า มันคือกลไกทางการตลาด
และในการดำรงชีวิตของคน มันก็เป็นแบบนั้น
ปลาเล็กไม่ออกไปหากิน ในทะเลเปิด กลัวถูกปลาใหญ่กินเป็นอาหาร ก็ต้องพัฒนาทักษะให้อยู่รอดด้วยการหากินที่แนวปะการัง
และมีพัฒนาทักษะในการอำพรางตัว เพื่อให้ชีวิตรอด
ชาวประมงไม่ออกเรือในเวลาที่มีคลื่นลมแรง ก็ต้องอยู่บนฝั่ง รอจนกว่าคลื่นลมสงบ
แล้วค่อยออกเรือไปหากิน
ทุกชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด
อยู่รอดในโลกที่มีแต่การเปลี่ยนแปลง
โลกมันไม่หยุดนิ่ง มันเป็นอนิจจัง มันไม่เที่ยง
ทุกท่านก็รู้นี่นาว่าภูมิอากาศ มันเปลี่ยนแปลงมาชาติกว่าๆแล้ว
มันไม่ได้เพิ่งเป็นอย่างนี้ ปีนี้
มันก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ท่านต้องทำความเข้าใจและยอมรับ
ไม่ใช่อ้าง
ทุกคนก็อยู่ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกันนี่แหละ ไม่เห็นต้องอ้างอะไรเลย
ทุกคนก็มีความเสียงแทรกอยู่ในการดำรงชีวิตทั้งนั้นแหละครับ
แต่ชาวนาไทยล่ะครับ
พอมีปัจจัยกระตุ้นจากภาคการเมือง ท่านก็เร่งปลูกข้าว
เอามือปลูกบ้าง เอาตรีนปลูกบ้าง ขอให้ได้ข้าวมาจำนำในราคาดาวอังคาร
คุณภาพเป็นไงก็ช่างแม่ม เพราะรัฐบาลรับจำนำ ทุกเมล็ด ราคาดาวอังคาร
และยืนยันว่า ท่านจะปลูกแต่ข้าวไปจนชั่วนาตาปี จะไม่ทำอะไรอื่นอีกแล้วนอกจากนี้ในชีวิต
ผมว่าแบบนี้มันไม่ถูก !
มีใครหน้าไหนมาสั่งท่านว่าต้องปลูกแต่ข้าว
ในหลวงยังทรงไม่แนะนำให้เกษตรกรปลูกพืชเชิงเดี่ยวเลย
พระองค์แนะนำการทำเกษตรแบบผสมผสาน
ฉะนั้น การที่ชาวนาออกมาบอกว่า รัฐบาลต้องแทรกแซงราคาข้าว ให้ชาวนา
โดยให้รัฐจ่ายส่วนต่าง ตันละ 2-3 พันบาทต่อตัน
ผมว่าไม่แฟร์
ไม่แฟร์ต่อคนส่วนที่เหลือของประเทศ
เพราะมันเป็นเงินภาษีของคนทั้งประเทศ !
แล้วหากชาวนาอ้างว่า หากรัฐไม่แทรกแซง ชาวนาขู่จะเลิกปลูกข้าวล่ะ
เชิญตามสบายเลยครับ
ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ... นี่แหละ คือ การดิ้นรนตามธรรมชาติของสรรพสิ่ง อย่างที่มันควรจะเป็น
นี่แหละ คือการปรับตัว ที่เรา-ท่าน ต้องเรียนรู้ และยอมรับ
ท่านจะได้หลุดจากพันธนาการนี้เสียที
ทุกวันนี้ ข้าวสะสมในโกดังมี เกือบ 20 ล้านตัน
ยังไม่รู้จะเอาไปถมทะเลที่ไหนเลย เพื่อให้กลไกทางการตลาดมัน "หมุน" ได้อย่างอิสระ เสรี น่ะ
ขออภัยที่ต้องพูดตรงๆ ท่านชาวนาที่เคารพครับ
ทั้งท่าน-ทั้งกระผมต่างเป็นส่วนประกอบของสังคมเดียวกัน
ผมชื่นชมท่าน ที่ท่านได้กรุณาปลูกข้าว เลี้ยงคนไทยมาชั่วนาตาปี
เลี้ยงผมมาตั้งกะเด็กจนแก่
ผมขอบคุณ
แต่นั่นมันไม่ใช่เรื่องของการที่ผมต้องมาสำนึกในบุญคุณครับ
เราต่างคน ต่างทำมาหากิน
ท่านก็ไม่ได้ปลูกข้าวฟรีๆ พอๆกับที่ผมไม่ได้ทำงาน5นี่ฟรีๆ
เราต่างเป็นเฟืองของสังคมที่จะขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า
ไม่มีเรื่องบุญคุณอะไรทั้งนั้นครับ...ไม่มี
ทุกสาขาอาชีพ ต่างมีความสำคัญทั้งสิ้น...ตำรวจ ทหาร หมอ ครู พยาบาล คนขับรถเมล์ ข้าราชการ
ฉะนั้น กรุณาอย่าขู่ว่าจะเลิกปลูกข้าว
อย่าเข้าใจผิด
สำหรับผม มันไม่ใช่คำขู่
มันกลับเป็นโอกาสที่ดีของท่าน หากท่านจะลองไปทำอื่นบ้าง ให้ท่านได้ดำรงชีวิตต่อไปได้
ในระบอบการค้าเสรี ที่ความแปรปรวน เป็นแค่เรื่องธรรมดา
การต้องดิ้นรน เพื่อความอยู่รอด เป็นธรรมชาติของมนุษย์
ทุกคน ต้องดิ้นรนครับ ไม่มีข้อยกเว้น
ดูไป ดูมา กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ เชิญชวนให้จขกท. โดนรุมด่าเป็นอย่างยิ่ง
มันเชิญชวนให้คิดว่า จขกท. แม่มใจร้ายโพดๆ
ไม่หรอกครับ... ความจริง มันเจ็บปวดเสมอนั่นแหละ
เพื่อนสมาชิกท่านใดมีความเห็นเรื่องการแทรกแซง กลไกตลาดข้าว
ระบบการค้าเสรี ... มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร
ก็เชิญ วิเคราะห์วิจารณ์ได้อย่างอารยะครับ
ขอบคุณครับ
ปัญหาโลกแตกดีจริงๆ ชาวนาอยากให้รัฐแทรกแซงราคาข้าว ให้ได้ตันละ หมื่นกว่า
ในขณะที่ราคาตลาดโลกมัน แค่ 7พันกว่าบาท
ทั้งๆที่ชาวนาก็รู้ ว่าประเทศเสียหายไปแล้วขนาดไหนกับโครงการรับจำนำข้าว
ซึ่งถือเป็นโครงการ "ซุปเปอร์แทรกแซง" ด้วยซ้ำ
เพราะรัฐ ตั้งตนเป็นผู้ซื้อ ผู้ขายแต่เพียงผู้เดียว
มิหนำซ้ำ ยังตั้งราคารับจำนำไว้โดยใช้มาตรฐานราคาข้าวของดาวอังคาร
ใครๆ ก็รู้...เขารู้กันทั้งประเทศ
ชาวนาก็รู้
มีคนพวกเดียวที่ "แกล้ง" ไม่ยอมรับรู้...ใคร คิดเอาเอง
ไอ้ผมมันไม่ความรู้อะไรครับ
ก็เลยงง ว่า ถ้าเราอยู่ในระบบการค้าเสรีแล้ว
ทำไม...เราถึงไปบิดเบือนระบบการค้าเสรี และโครงสร้างทางการตลาด
ด้วยการเข้าไปแทรกแซง ในรูปแบบของการประกันราคา หรือการรับจำนำข้าว
อย่างนี้เรียก "เสรี" หรือ
ในเมื่อ ระบบการค้าเสรี มันก็คือ ระบบปลาใหญ่ กินปลาเล็ก
ระบบที่ผู้แข็งแรงกว่า ได้เปรียบผู้ด้อยกำลัง
เราเลือกเองที่จะเป็นอย่างนี้
หากผู้ด้อยกำลัง ต้องการจะอยู่รอดในสภาวะเช่นนี้
ผู้ด้อยกำลังต้อง "เปลี่ยนแปลง" ครับ
ก็ในเมื่อเราเลือกเองที่จะเป็นอย่างนี้ แล้วเราจะมาบ่นหา5อะไรกับความผันผวนล่ะครับ
ในเมื่อความผันผวนเป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของการค้าเสรี
ราคาต่างๆ มันขึ้นอยู่กับอุปสงค์ อุปทาน
เราก็ต้องยอมรับซิครับ
เราเห็นระบบการทำงานแบบนี้ได้ในธรรมชาติทั่วไป มันเป็นกลไกของธรรมชาติ
ในการค้า มันคือกลไกทางการตลาด
และในการดำรงชีวิตของคน มันก็เป็นแบบนั้น
ปลาเล็กไม่ออกไปหากิน ในทะเลเปิด กลัวถูกปลาใหญ่กินเป็นอาหาร ก็ต้องพัฒนาทักษะให้อยู่รอดด้วยการหากินที่แนวปะการัง
และมีพัฒนาทักษะในการอำพรางตัว เพื่อให้ชีวิตรอด
ชาวประมงไม่ออกเรือในเวลาที่มีคลื่นลมแรง ก็ต้องอยู่บนฝั่ง รอจนกว่าคลื่นลมสงบ
แล้วค่อยออกเรือไปหากิน
ทุกชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด
อยู่รอดในโลกที่มีแต่การเปลี่ยนแปลง
โลกมันไม่หยุดนิ่ง มันเป็นอนิจจัง มันไม่เที่ยง
ทุกท่านก็รู้นี่นาว่าภูมิอากาศ มันเปลี่ยนแปลงมาชาติกว่าๆแล้ว
มันไม่ได้เพิ่งเป็นอย่างนี้ ปีนี้
มันก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ท่านต้องทำความเข้าใจและยอมรับ
ไม่ใช่อ้าง
ทุกคนก็อยู่ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกันนี่แหละ ไม่เห็นต้องอ้างอะไรเลย
ทุกคนก็มีความเสียงแทรกอยู่ในการดำรงชีวิตทั้งนั้นแหละครับ
แต่ชาวนาไทยล่ะครับ
พอมีปัจจัยกระตุ้นจากภาคการเมือง ท่านก็เร่งปลูกข้าว
เอามือปลูกบ้าง เอาตรีนปลูกบ้าง ขอให้ได้ข้าวมาจำนำในราคาดาวอังคาร
คุณภาพเป็นไงก็ช่างแม่ม เพราะรัฐบาลรับจำนำ ทุกเมล็ด ราคาดาวอังคาร
และยืนยันว่า ท่านจะปลูกแต่ข้าวไปจนชั่วนาตาปี จะไม่ทำอะไรอื่นอีกแล้วนอกจากนี้ในชีวิต
ผมว่าแบบนี้มันไม่ถูก !
มีใครหน้าไหนมาสั่งท่านว่าต้องปลูกแต่ข้าว
ในหลวงยังทรงไม่แนะนำให้เกษตรกรปลูกพืชเชิงเดี่ยวเลย
พระองค์แนะนำการทำเกษตรแบบผสมผสาน
ฉะนั้น การที่ชาวนาออกมาบอกว่า รัฐบาลต้องแทรกแซงราคาข้าว ให้ชาวนา
โดยให้รัฐจ่ายส่วนต่าง ตันละ 2-3 พันบาทต่อตัน
ผมว่าไม่แฟร์
ไม่แฟร์ต่อคนส่วนที่เหลือของประเทศ
เพราะมันเป็นเงินภาษีของคนทั้งประเทศ !
แล้วหากชาวนาอ้างว่า หากรัฐไม่แทรกแซง ชาวนาขู่จะเลิกปลูกข้าวล่ะ
เชิญตามสบายเลยครับ
ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ... นี่แหละ คือ การดิ้นรนตามธรรมชาติของสรรพสิ่ง อย่างที่มันควรจะเป็น
นี่แหละ คือการปรับตัว ที่เรา-ท่าน ต้องเรียนรู้ และยอมรับ
ท่านจะได้หลุดจากพันธนาการนี้เสียที
ทุกวันนี้ ข้าวสะสมในโกดังมี เกือบ 20 ล้านตัน
ยังไม่รู้จะเอาไปถมทะเลที่ไหนเลย เพื่อให้กลไกทางการตลาดมัน "หมุน" ได้อย่างอิสระ เสรี น่ะ
ขออภัยที่ต้องพูดตรงๆ ท่านชาวนาที่เคารพครับ
ทั้งท่าน-ทั้งกระผมต่างเป็นส่วนประกอบของสังคมเดียวกัน
ผมชื่นชมท่าน ที่ท่านได้กรุณาปลูกข้าว เลี้ยงคนไทยมาชั่วนาตาปี
เลี้ยงผมมาตั้งกะเด็กจนแก่
ผมขอบคุณ
แต่นั่นมันไม่ใช่เรื่องของการที่ผมต้องมาสำนึกในบุญคุณครับ
เราต่างคน ต่างทำมาหากิน
ท่านก็ไม่ได้ปลูกข้าวฟรีๆ พอๆกับที่ผมไม่ได้ทำงาน5นี่ฟรีๆ
เราต่างเป็นเฟืองของสังคมที่จะขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า
ไม่มีเรื่องบุญคุณอะไรทั้งนั้นครับ...ไม่มี
ทุกสาขาอาชีพ ต่างมีความสำคัญทั้งสิ้น...ตำรวจ ทหาร หมอ ครู พยาบาล คนขับรถเมล์ ข้าราชการ
ฉะนั้น กรุณาอย่าขู่ว่าจะเลิกปลูกข้าว
อย่าเข้าใจผิด
สำหรับผม มันไม่ใช่คำขู่
มันกลับเป็นโอกาสที่ดีของท่าน หากท่านจะลองไปทำอื่นบ้าง ให้ท่านได้ดำรงชีวิตต่อไปได้
ในระบอบการค้าเสรี ที่ความแปรปรวน เป็นแค่เรื่องธรรมดา
การต้องดิ้นรน เพื่อความอยู่รอด เป็นธรรมชาติของมนุษย์
ทุกคน ต้องดิ้นรนครับ ไม่มีข้อยกเว้น
ดูไป ดูมา กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ เชิญชวนให้จขกท. โดนรุมด่าเป็นอย่างยิ่ง
มันเชิญชวนให้คิดว่า จขกท. แม่มใจร้ายโพดๆ
ไม่หรอกครับ... ความจริง มันเจ็บปวดเสมอนั่นแหละ
เพื่อนสมาชิกท่านใดมีความเห็นเรื่องการแทรกแซง กลไกตลาดข้าว
ระบบการค้าเสรี ... มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร
ก็เชิญ วิเคราะห์วิจารณ์ได้อย่างอารยะครับ
ขอบคุณครับ