เมื่อวานนี้ตอนแรกตั้งใจว่าจะตั้งกระทู้ปรึกษาว่าจะเลิกกับแฟนดีไหม เพราะเราจิตตกมากๆ
เกริ่นก่อน เรากับแฟนทำธุรกิจร่วมกันมาหลายปีแล้ว แต่เพิ่งออกมาทำเต็มตัวกันก็เพิ่งปีนี้
แล้วก็ประกอบกับวางแผนจะแต่งงานกันตุลาคมนี้ พอมันมีมรสุมชีวิตเข้ามา เราก็เลยแอบคิดว่า
เลิกดีไหมหว่า? ถ้าเลิกมันก็ต้องตอนนี้แหละ ถ้าแต่งไปแล้วมันจะเลิกกันยากนะ
แล้วถ้าเราทนเขาไม่ได้ล่ะ ถ้าวันนึงเราหมดรักกันล่ะ บลาๆๆๆ ก็ว่ากันไป
แล้วช่วงนี้เราก็คิดเรื่องนี้หนักมากๆ คิดซ้ำๆ วนไปวนมาอยู่เรื่อยๆ
เพราะธุรกิจมันตกต่ำ แล้วแบบมันไม่มียอดเลย
ตัวเรามันก็คนมองโลกในแง่ดี สร้างกำลังใจให้ตัวเองกับแฟนเสมอๆ
เพราะเรามองแล้วว่าธุรกิจเราช่วงนี้มันเป็นช่วงไม่ค่อยมียอดพอดี
ก็เป็นมาทุกปีแหละ แค่ต่างกันตรงที่ ปีก่อนๆมีเงินเดือน ปีนี้ไม่มี
แต่แฟนเราไม่ไง จิตตกมาก คร่ำครวญทุกวัน แบบเรากำลังจะอดตายบ้างล่ะ เราจะไม่มีเงินใช้บ้างล่ะ
เรากำลังจะเจ๊งบ้างล่ะ ต้องกลับไปสมัครงานใหม่บ้างล่ะ
แรกๆที่เราฟังเราก็ให้กำลังใจเขานะ จนต่อมาเราก็เริ่มปล่อยวาง
ต่อมาเริ่มกลายเป็นความรำคาญ แล้วก็ถึงขั้นแค่ได้ยินก็หงุดหงิด
จนพัฒนามาเป็น แค่ได้ฟังก็จิตตก แอบร้องไห้ตอนกลางคืน หมดกำลังใจไปเลยทีเดียว
แล้วคือแฟนเราพูดทุกวัน พอเขาบ่นก็ไม่ทำอะไร แบบเครียดอ่ะ ฉันปวดหัว คิดอะไรไม่ออก
ในสายตาเรามันมองเป็นเรื่องที่งี่เง่ามากๆ ก็รู้ว่าถ้าเครียดแล้วจะทำงานไม่ได้ แล้วจะไปเครียดทำไม
เอาเวลาที่บ่น ที่คร่ำครวญมาก้มหน้าก้มตาทำงานดีกว่าไหม? จิตตกแล้วมันได้เงินเหรอ ถ้ามันได้ฉันจะนั่งหมดกำลังใจมันทั้งวันเลย
แล้วเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เราทะเลาะกันบ่อยมาก คุยกันบ่อยมาก ถามว่าบ่อยขนาดไหน ก็แค่ทุกวัน อยู่ที่ว่าวันละกี่ครั้ง
จนเราถึงกับเก็บมาคิดหลายๆครั้งว่า จะทิ้งเขาไปดีไหม เพราะเราเบื่อ เรารำคาญ
เธอไม่อยากเดินทางนี้ เธอหมดกำลังใจ งั้นฉันเดินต่อไปคนเดียวก็ได้
ฉันต้องการคนคอยให้กำลังใจฉัน สบตาฉัน โอบกอดฉัน บอกว่าฉันจะทำได้ ฉันจะไปได้ ชีวิตเราต้องดีขึ้นเหมือนกันนะ
ไม่ใช่มาคอยทำลายกำลังใจของฉันทุกวันแบบนี้
เมื่อวานเราก็คิด แต่เราก็ตัดสินใจที่จะไม่ไป มันไม่ใช่ความผิดของเขา เขาเป็นคนดี ไม่เจ้าชู้ ไม่เที่ยว ไม่กินเหล้า
ขยันทำมาหากิน งก ชอบหาเงิน เพราะเขาชอบหาเงิน เขาถึงจิตตกที่เขาหาเงินไม่ได้ และที่สำคัญคือฉันรักเขา
แต่....ความรักอย่างเดียวมันก็ไม่พอ เพราะรักเป็นสิ่งที่ไม่มั่นคง วันหนึ่งมันก็หมดไป คนเราอยู่ด้วยกันได้ เพราะเขามีความชอบที่มากพอต่างหาก
แล้วเราก็ไม่อยากทนคนจิตตกไปทั้งชีวิตด้วย เราจึงตัดสินใจที่จะสะกดจิตแฟนของเรา
การสะกดจิตที่เรากับแฟนคือสิ่งที่เรียกว่า การสะกดจิตสร้างทัศนคติบวก(มั้ง)
เราได้มาจากตอนไปฝึกอบรมขายตรง (คุณน่าจะลองไปเข้าประชุมดูบ้างนะ เพราะมันดีมาก
ถึงเราจะเลิกขายตรงไปแล้ว แต่เราก็ได้หลายอย่างมาจากที่ประชุมเยอะ สิ่งนี้ก็เหมือนกัน)
เริ่มจากรอแฟนหลับสนิท จากนั้นเข้าไปกระซิบที่หูด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า
"
ชื่อแฟน)ทำได้ ...3ครั้ง"
"ชีวิตเราจะต้องดีขึ้น ...3 ครั้ง"
"
ชื่อเรา)รัก(ชื่อแฟน)นะ"
นี่แหละ ทำซ้ำๆ ทุกๆวัน เขาจะเริ่มคล้อยตามจากจิตใต้สำนึก ว่าเขาจะทำได้ และเขาจะผ่านมันไปได้
สำหรับแฟนเราแค่ทดลองทำวันแรกก็เห็นผลเลย วันนี้เขายังไม่คร่ำครวญสักครั้ง แลดูมีกำลังใจทำงานมากๆ
เขาเริ่มมีความหวัง มีความมั่นใจในตัวเอง ว่าเขาทำสิ่งใดก็ได้ เขาจะทำมันได้ และชีวิตของเราต้องดีขึ้น
ถ้าใครกำลังมีปัญหาแนวนี้อยู่ ก็ลองเอาไปใช้ดูได้นะคะ
กฏข้อปฏิบัติมีไม่เยอะ
1. ทำทุกวัน ตอนเขาหลับ
2. พูดคำในเชิงบวก ห้ามมีคำในเชิงลบ เช่นไม่ อย่า บลาๆๆ
3. อย่าพูดเชิงลบใส่กัน พยายามพูดในเชิงบวกสม่ำเสมอ อย่างแฟนเราตอนนี้ถ้าเขาเริ่มคร่ำครวญ
เราก็จะเริ่มพูดเสียงดังๆว่า "สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เกิดเป็น....."
แฟนเราก็จะหันมาถามว่าเราทำอะไร
เราก็ตอบไปว่า "แผ่เมตตาให้เธอ เผื่อชีวิตเธอจะดีขึ้น"
แล้วจะเริ่มเห็นผล ซึ่งไม่ใช่กับคนรักเท่านั้น ลูกหลาน บลาๆๆทำได้หมด
เช่น ตัวอย่างที่เราได้ฟังมา
พี่คนนี้เขามีลูกชาย 2 คน ซึ่งพี่เขาเล่าให้ฟังว่าแต่ก่อนลูกเขาไม่ถูกกันเลย
พี่ชายอิจฉาน้อง ไม่รักน้องมากๆ ชอบแกล้งน้อง ทะเลาะกันบ่อยๆ
แม่เขาก็เลยเริ่มสะกดจิตลูกชาย ด้วยการกระซิบบอกเขาว่า
"เอรักน้อง ดูแลน้อง...3ครั้ง" ทุกวันเป็นประจำ
แล้วก็กระซิบบอกน้องว่า
"บีรักพี่ ดูแลพี่ ...3ครั้ง" ทุกวัน
ทุกวันนี้ลูกชายเขา 2 คนรักกันมาก ทำอะไรด้วยกันตลอด ดูแลกันตลอด
จนเราไม่อยากเชื่อว่า นี่เคยเกลียดกันด้วยเหรอ
ส่วนเรื่องการสะกดจิตแฟนเราก็มีแค่นี้แหละ แค่อยากแชร์ เผื่อมีใครกำลังมีปัญหาหนักใจแบบเรา
ฝากข้อคิดในการทำธุรกิจของเรานิดนึง
(ความพยายาม + เงินทุน + ประสบการณ์ +....) x ทัศนคติ
ไม่ว่าคุณจะมีต้นทุนชีวิตดีเท่าไหร่ มีประสบการณ์ทำธุรกิจมากเท่าไหร่ ความพยายามมากแค่ไหน ถ้าทัศนคติลบ ทุกอย่างลบหมด
หมั่นสร้างกำลังใจให้กันเสมอ เพื่อชีวิตรักที่ดีขึ้น
อธิบายแท็กนิดนึง (เห็นเขาชอบทำกัน)
ครอบครัว : เราว่านี่มันก็เรื่องของครอบครัวนะ
สุขภาพจิต : ตรงตัวเลย สะกดจิต
เจ้าของธุรกิจ : ก็ใช่แหละ เราเล่าถึงธุรกิจด้วยนี่?
เมื่อฉันแอบสะกดจิตแฟนตอนนอน (สีหน้าชั่วร้าย)
เกริ่นก่อน เรากับแฟนทำธุรกิจร่วมกันมาหลายปีแล้ว แต่เพิ่งออกมาทำเต็มตัวกันก็เพิ่งปีนี้
แล้วก็ประกอบกับวางแผนจะแต่งงานกันตุลาคมนี้ พอมันมีมรสุมชีวิตเข้ามา เราก็เลยแอบคิดว่า
เลิกดีไหมหว่า? ถ้าเลิกมันก็ต้องตอนนี้แหละ ถ้าแต่งไปแล้วมันจะเลิกกันยากนะ
แล้วถ้าเราทนเขาไม่ได้ล่ะ ถ้าวันนึงเราหมดรักกันล่ะ บลาๆๆๆ ก็ว่ากันไป
แล้วช่วงนี้เราก็คิดเรื่องนี้หนักมากๆ คิดซ้ำๆ วนไปวนมาอยู่เรื่อยๆ
เพราะธุรกิจมันตกต่ำ แล้วแบบมันไม่มียอดเลย
ตัวเรามันก็คนมองโลกในแง่ดี สร้างกำลังใจให้ตัวเองกับแฟนเสมอๆ
เพราะเรามองแล้วว่าธุรกิจเราช่วงนี้มันเป็นช่วงไม่ค่อยมียอดพอดี
ก็เป็นมาทุกปีแหละ แค่ต่างกันตรงที่ ปีก่อนๆมีเงินเดือน ปีนี้ไม่มี
แต่แฟนเราไม่ไง จิตตกมาก คร่ำครวญทุกวัน แบบเรากำลังจะอดตายบ้างล่ะ เราจะไม่มีเงินใช้บ้างล่ะ
เรากำลังจะเจ๊งบ้างล่ะ ต้องกลับไปสมัครงานใหม่บ้างล่ะ
แรกๆที่เราฟังเราก็ให้กำลังใจเขานะ จนต่อมาเราก็เริ่มปล่อยวาง
ต่อมาเริ่มกลายเป็นความรำคาญ แล้วก็ถึงขั้นแค่ได้ยินก็หงุดหงิด
จนพัฒนามาเป็น แค่ได้ฟังก็จิตตก แอบร้องไห้ตอนกลางคืน หมดกำลังใจไปเลยทีเดียว
แล้วคือแฟนเราพูดทุกวัน พอเขาบ่นก็ไม่ทำอะไร แบบเครียดอ่ะ ฉันปวดหัว คิดอะไรไม่ออก
ในสายตาเรามันมองเป็นเรื่องที่งี่เง่ามากๆ ก็รู้ว่าถ้าเครียดแล้วจะทำงานไม่ได้ แล้วจะไปเครียดทำไม
เอาเวลาที่บ่น ที่คร่ำครวญมาก้มหน้าก้มตาทำงานดีกว่าไหม? จิตตกแล้วมันได้เงินเหรอ ถ้ามันได้ฉันจะนั่งหมดกำลังใจมันทั้งวันเลย
แล้วเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เราทะเลาะกันบ่อยมาก คุยกันบ่อยมาก ถามว่าบ่อยขนาดไหน ก็แค่ทุกวัน อยู่ที่ว่าวันละกี่ครั้ง
จนเราถึงกับเก็บมาคิดหลายๆครั้งว่า จะทิ้งเขาไปดีไหม เพราะเราเบื่อ เรารำคาญ
เธอไม่อยากเดินทางนี้ เธอหมดกำลังใจ งั้นฉันเดินต่อไปคนเดียวก็ได้
ฉันต้องการคนคอยให้กำลังใจฉัน สบตาฉัน โอบกอดฉัน บอกว่าฉันจะทำได้ ฉันจะไปได้ ชีวิตเราต้องดีขึ้นเหมือนกันนะ
ไม่ใช่มาคอยทำลายกำลังใจของฉันทุกวันแบบนี้
เมื่อวานเราก็คิด แต่เราก็ตัดสินใจที่จะไม่ไป มันไม่ใช่ความผิดของเขา เขาเป็นคนดี ไม่เจ้าชู้ ไม่เที่ยว ไม่กินเหล้า
ขยันทำมาหากิน งก ชอบหาเงิน เพราะเขาชอบหาเงิน เขาถึงจิตตกที่เขาหาเงินไม่ได้ และที่สำคัญคือฉันรักเขา
แต่....ความรักอย่างเดียวมันก็ไม่พอ เพราะรักเป็นสิ่งที่ไม่มั่นคง วันหนึ่งมันก็หมดไป คนเราอยู่ด้วยกันได้ เพราะเขามีความชอบที่มากพอต่างหาก
แล้วเราก็ไม่อยากทนคนจิตตกไปทั้งชีวิตด้วย เราจึงตัดสินใจที่จะสะกดจิตแฟนของเรา
การสะกดจิตที่เรากับแฟนคือสิ่งที่เรียกว่า การสะกดจิตสร้างทัศนคติบวก(มั้ง)
เราได้มาจากตอนไปฝึกอบรมขายตรง (คุณน่าจะลองไปเข้าประชุมดูบ้างนะ เพราะมันดีมาก
ถึงเราจะเลิกขายตรงไปแล้ว แต่เราก็ได้หลายอย่างมาจากที่ประชุมเยอะ สิ่งนี้ก็เหมือนกัน)
เริ่มจากรอแฟนหลับสนิท จากนั้นเข้าไปกระซิบที่หูด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า
"ชื่อแฟน)ทำได้ ...3ครั้ง"
"ชีวิตเราจะต้องดีขึ้น ...3 ครั้ง"
"ชื่อเรา)รัก(ชื่อแฟน)นะ"
นี่แหละ ทำซ้ำๆ ทุกๆวัน เขาจะเริ่มคล้อยตามจากจิตใต้สำนึก ว่าเขาจะทำได้ และเขาจะผ่านมันไปได้
สำหรับแฟนเราแค่ทดลองทำวันแรกก็เห็นผลเลย วันนี้เขายังไม่คร่ำครวญสักครั้ง แลดูมีกำลังใจทำงานมากๆ
เขาเริ่มมีความหวัง มีความมั่นใจในตัวเอง ว่าเขาทำสิ่งใดก็ได้ เขาจะทำมันได้ และชีวิตของเราต้องดีขึ้น
ถ้าใครกำลังมีปัญหาแนวนี้อยู่ ก็ลองเอาไปใช้ดูได้นะคะ
กฏข้อปฏิบัติมีไม่เยอะ
1. ทำทุกวัน ตอนเขาหลับ
2. พูดคำในเชิงบวก ห้ามมีคำในเชิงลบ เช่นไม่ อย่า บลาๆๆ
3. อย่าพูดเชิงลบใส่กัน พยายามพูดในเชิงบวกสม่ำเสมอ อย่างแฟนเราตอนนี้ถ้าเขาเริ่มคร่ำครวญ
เราก็จะเริ่มพูดเสียงดังๆว่า "สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เกิดเป็น....."
แฟนเราก็จะหันมาถามว่าเราทำอะไร
เราก็ตอบไปว่า "แผ่เมตตาให้เธอ เผื่อชีวิตเธอจะดีขึ้น"
แล้วจะเริ่มเห็นผล ซึ่งไม่ใช่กับคนรักเท่านั้น ลูกหลาน บลาๆๆทำได้หมด
เช่น ตัวอย่างที่เราได้ฟังมา
พี่คนนี้เขามีลูกชาย 2 คน ซึ่งพี่เขาเล่าให้ฟังว่าแต่ก่อนลูกเขาไม่ถูกกันเลย
พี่ชายอิจฉาน้อง ไม่รักน้องมากๆ ชอบแกล้งน้อง ทะเลาะกันบ่อยๆ
แม่เขาก็เลยเริ่มสะกดจิตลูกชาย ด้วยการกระซิบบอกเขาว่า
"เอรักน้อง ดูแลน้อง...3ครั้ง" ทุกวันเป็นประจำ
แล้วก็กระซิบบอกน้องว่า
"บีรักพี่ ดูแลพี่ ...3ครั้ง" ทุกวัน
ทุกวันนี้ลูกชายเขา 2 คนรักกันมาก ทำอะไรด้วยกันตลอด ดูแลกันตลอด
จนเราไม่อยากเชื่อว่า นี่เคยเกลียดกันด้วยเหรอ
ส่วนเรื่องการสะกดจิตแฟนเราก็มีแค่นี้แหละ แค่อยากแชร์ เผื่อมีใครกำลังมีปัญหาหนักใจแบบเรา
ฝากข้อคิดในการทำธุรกิจของเรานิดนึง
(ความพยายาม + เงินทุน + ประสบการณ์ +....) x ทัศนคติ
ไม่ว่าคุณจะมีต้นทุนชีวิตดีเท่าไหร่ มีประสบการณ์ทำธุรกิจมากเท่าไหร่ ความพยายามมากแค่ไหน ถ้าทัศนคติลบ ทุกอย่างลบหมด
หมั่นสร้างกำลังใจให้กันเสมอ เพื่อชีวิตรักที่ดีขึ้น
อธิบายแท็กนิดนึง (เห็นเขาชอบทำกัน)
ครอบครัว : เราว่านี่มันก็เรื่องของครอบครัวนะ
สุขภาพจิต : ตรงตัวเลย สะกดจิต
เจ้าของธุรกิจ : ก็ใช่แหละ เราเล่าถึงธุรกิจด้วยนี่?