สิ่งที่ต้องแก้ไม่ใช่กฎหมายแต่เป็นกระบวนการทางกฎหมายต่างหาก

กระทู้สนทนา
จากที่ผมตั้งกระทู้ไปเมื่อวานและโดนสวดมาพอสมควร
ขอพูด ณ ตรงนี้เลยนะครับ ผม ไม่ เคย เห็น ด้วย กับ การ ข่ม ขืน ผู้ อื่น

เริ่มแรกคือการแก้กฎหมาย เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการแก้กฎหมาย
จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อไปอีกมาก ไม่ใช่แค่แก้แล้วจบ แล้วจบกัน
- การแก้กฎหมายตามแต่อารมณ์ของสังคม เป็นการทำลายสมดุลความรับผิดของบทบัญญัติ
   ของกฎหมายในความผิดฐานอื่นๆให้เสียไป

- การแก้ให้ข่มขืนธรรมดามีโทษประหารชีวิตซึ่งเป็นโทษที่เท่ากันกับการข่มขืนแล้วฆ่าเพื่ออำพรางคดี
   อาจทำให้คนร้ายตัดสินใจฆ่าเหยื่อทิ้งเพื่อปกปิดความผิดของตัวเองแทนที่จะข่มขืนแต่เพียงอย่างเดียว

- การแก้ให้ข่มขืนธรรมดามีโทษประหารชีวิตอาจทำให้เกิดการแบลคเม
อันนี้ต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับ ความผิดที่มีโทษถึงประหารชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นความผิดต่อชีวิต
เช่นฆ่าคนตายโดยเจตนา เผาบ้าน เป็นต้น คือเป็นความผิดที่สามารถเห็นได้ชัดๆครับว่ามันเกิดขึ้นจริง
ตายจริง บ้านใหม้จริง มันยากต่อการหลอกลวง แต่กลับกันความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราการตรวจพิสูจน์
จำเป็นต้องใข้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ซึ่งประเทศไทยยังมีข้อบกพร่องอยู่มาก
   เช่น ฝ่ายหญิงอยากให้ฝ่ายชายตาย เลยไปอ่อยให้ผู้ชายมีอะไรด้วย แล้วก็ไปแจ้งความว่าโดนข่มขืนทำให้ฝ่ายชายโดนจับได้รับโทษประหารขีวิต
   เช่น ฝ่ายหญิงไปอ่อยให้ผู้ชายมีอะไรด้วยแล้วขู่ว่าถ้าไม่ให้เงินจะไปแจ้งความว่าโดนข่มขืน
เรื่องนี้สิ่งที่สำคัญคือชั้นสืบสวน และชั้นพิจารณาคดี หากพลาดไปอาจทำให้คนที่ไม่ผิดตายกันง่ายๆ

- ต่อมาคือการแก้ให้มีโทษตัดอวัยวะเพศชาย
เรื่องนี้ขอพูดรวมกับกรณีประหารชีวิตเลยนะครับ ต้องยอมรับครับว่ากระบวนการในชั้นสืบสวนของประเทศไทย
ยังอ่อนด้อยมาก กระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ก็ยังมีความผิดพลาดให้เห็นอยู่มาก สิ่งที่จะสื่อคือการจับแพะครับ
สมมุติคนที่จับมาได้เป็นแพะแล้วไปตัดอวัยวะเพศของเค้าไปแล้ว แล้วจะชดเชยให้เค้ายังไง หรือ
ไปประหารเค้าแล้วจะชดเชยให้ญาติพี่น้องเค้ายังไง

เรื่องที่สองคือ ไม่ได้บอกว่าให้ปล่อยให้อยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไร แต่สิ่งที่ควรจะแก้ไขในปัจจุบันไม่ใช่กฎหมาย
แต่เป็นกระบวนการในชั้นสืบสวนและชั้นพิจารณาคดี
   เช่น กระบวนการทางนิติวิทย์ ไปปรับปรุงให้มีความแม่นยำ ถูกต้องให้มากกว่านี้ ไม่ใช่ 90% แต่ต้อง 100% ในทางกฎหมายก็มีคติครับว่า ปล่อยคนชั่ว 10 คนดีกว่าจับคนบริสุทธิ์เพียงคนเดียว
   เช่น กระบวนการในชั้นสืบสวน เจ้าพนักงาน ตำรวจนี่แหละครับ ตัวดีเลย ความผิดที่ส่งฟ้องสำคัญมากนะครับ ถ้าชั้นนี้ส่งฟ้องบิดนิดเดียว เละทั้งคดีครับ

เรื่องที่สามคือ จุดอ่อนที่สุดที่ทำให้คนไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายเพราะกระบวนการบรรเทาโทษครับ
รับสารภาพแล้วลดโทษ อันนี้ผมเห็นด้วยนะ
แต่วันเกิดในหลวงลด วันเกิดราชินีลด นิรโทษ ล้างมลทิล อภัยโทษพวกนี้ที่สมควรยกเลิกไม่ต้องมีการลดครับ
ติดเท่าไรเท่านั้น ทุกๆความผิด ไม่ใข่แค่ความผิดเกี่ยวกับเพศ เพื่อความเป็นธรรมกับเหยื่อกรณีอื่นๆ

เรื่องสุดท้ายคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการสื่อสารคือเหตุผล
การใช้อารมณ์ไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่เราไม่ควรปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล
จนทำให้มองข้ามสารที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการจะสื่อจริงๆ

ปล.ตอนนี้คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจการ ข่มขืนเฉยๆ กับ ข่มขืนและฆ่า ผิดๆ
ผมลองถามคนรอบข้างผมที่เห็นด้วยกับการ ข่มขืนแล้วประหาร
ยังไม่เข้าใจว่า ข่มขืน+ฆ่า มันประหารอยู่แล้ว พอไปบอกก็ไม่เชื่อ
หาว่าถ้ามันประหารอยู่แล้วจะรณรงค์กันทำไม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่