การเป็นพ่อแม่ถือเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่มีความท้าทายมากอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะคุณแม่ทั้งหลาย หากคุณแม่ได้เป็นแม่ม่ายที่จะต้องเลี้ยงดูลูกตัวเองโดยที่ไม่มีพ่อเลย ก็ถือเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสมากเหมือนกัน ทั้งเจอกับความเงียบเหงา ความโศกเศร้าเสียใจบ้าง แต่เราก็สามารถบริหารจัดการเรื่องพวกนี้ได้ ลองมาดู 10 อันดับกัน
10.ขอคำแนะนำจากผู้ให้คำปรึกษา
การที่เราไม่มีความสุขและเศร้าเสียใจนั้น มันไม่ดีต่อตัวเราในระยะยาว เราและลูกของเราจะต้องเดินหน้าใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันต่อไป ซึ่งเราขอความช่วยเหลือจากผู้ให้คำปรึกษาของเราก็ได้ โดยพวกเขาจะชี้แนะแนวทางให้พวกเราสามารถปรับอารมณ์และก็รักษาสถานะทางการเงินของเราให้มีความมั่งคงปลอดภัยได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางศาสนาหรือการปรับตัวเข้ากับสังคมเองก็ดี ที่ผู้ให้คำปรึกษาจะเยียวยาจิตใจส่วนนี้ได้
9.อย่าพยายามตัวเองให้อยู่ตามลำพัง
พวกเรายังจดจำช่วงเวลาที่ดีกับครอบครัวในอดีตมาก่อนใช่ไหมล่ะ ตอนนี้ถึงเวลาที่เราจะต้องแชร์มุมมองความเห็นเกี่ยวกับความโศกเศร้ากันบ้างแล้ว เพราะนี่ถือเป็นวิถีทางครอบครัวที่จะต้องทำ เราอย่าไปลังเลหากขอความช่วยเหลือจากใครสักคนหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงแรกๆเองพวกเราก็คงจะรู้สึกช็อคอยู่บ้างเมื่อตัวเองเป็นม่ายใหม่ๆ
8.จะต้องรู้ว่าการเป็นแม่ม่ายนั้นเป็นอย่างไร
ไม่มีใครสถานการณ์แบบนี้ได้ดีไปกว่าผู้หญิงที่ต้องเลี้ยงดูลูกของตัวเองอยู่คนเดียว เราจะต้องเข้าใจว่าการเป็นแม่ม่ายนั้นจะต้องเรียนรู้อะไรบ้างและพยายามเรียนรู้จากประสบการณ์ที่อยู่รอบตัวเรา อย่าพยายามไปสนใจเรื่องการแต่งงานใหม่หรือหาคู่ครองคนใหม่มากเกินไป เพราะว่าชีวิตของเรายังไงไม่ได้มีแค่เรื่องพวกนี้หรอก เรายังต้องเจออุปสรรคต่างๆอีกมาก รวมไปถึงลูกของเราด้วยที่ต้องพยายามช่วยฝ่าฟันไปด้วยกัน
7.ปรับอารมณ์ตัวเองให้ดีๆ
ธรรมชาติของผู้หญิงที่เป็นม่ายนั้นจะต้องมีความรู้สึกที่โกรธเกรี้ยวที่สูญเสียคนที่เรารักไปสักคนหนึ่ง มีความสับสนกับการใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังและมีความกดดันเข้ามาในชีวิต โดยเราจะต้องรู้ว่าจะต้องรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างไร อย่าไปเพิกเฉยกับวิกฤตพวกนี้เป็นอันขาด จะส่งผลต่ออารมณ์ทั้งตัวเราและลูกของเราด้วย เราจะต้องปรับอารมณ์ตัวเองโดยคิดว่านี่คือบททดสอบของเราและก็พยายามตรวจสอบอารมณ์ตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
6.อย่าทำลายกำลังใจลูกของเราให้หมดไป
ชีวิตของเราก็เจอทั้งการสูญเสียจนทำให้เราขาดความอดทนขึ้นมาก็ได้ แต่เราอย่านำเรื่องของเราไปใส่ในตัวลูกของเราเป็นอันขาดทั้งการตัดพ้อ ใส่อารมณ์ การไม่ยอมให้ความช่วยเหลือ จนทำให้ลูกของเราโกรธและสับสนกับชีวิตตัวเองขึ้นมา เราจะต้องหาทางระบายเรื่องนี้ที่อื่น เช่นเพื่อนฝูงของเรา กลุ่มนักบำบัดที่คอยช่วยเหลือเยียวยาให้กับเรา
5.ให้คำปรึกษากับลูกของเรา
บางครั้งเมื่อเราได้สูญเสียสมาชิกในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นการหย่าร้าง การเสียชีวิต ก็เริ่มทำให้เรามีความกดดันเข้ามาในชีวิตมากขึ้นแล้ว นี่ถือเป็นสถานการณ์ที่มีความสำคัญมากในชีวิต เราอย่าไปตัดสินใจชะตาชีวิตตัวเองคนเดียว แต่ควรที่จะพูดคุยกับลูกของเรา ขอความเห็นกับลูกของเรา เพราะว่าจะทำให้เราเข้าใจอารมณ์ต่อตัวเองและก็ลูกของเราด้วย เราอย่าปล่อยให้อารมณ์มากดดันทั้ง 2 ฝ่ายเป็นอันขาด
4.อบรมเลี้ยงดูลูกของเราให้ดีๆ
แน่นอนว่าคุณแม่ทุกๆคนไม่ว่าจะเป็นแม่ม่ายหรือไม่เป็นก็ตาม โดยเฉพาะแม่ม่ายทุกๆคนจะต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นเป็นพิเศษจากการที่พ่อของเธอได้เป็นฝ่ายทอดทิ้งหรือจากไปอย่างกะทันหัน เราก็ต้องพยายามทำตัวเปรียบเสมือนเป็นคุณพ่อในเวลาเดียวกันด้วย หากว่าลูกของเราชอบไปไหนมาไหนกับพ่อของเรา เราก็ต้องทำแบบเดียวกับที่พ่อของเขาเคยทำด้วยเช่นกัน
3.เช็คสถานะทางการเงินของตัวเอง
สถานะทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับแม่ม่าย หากทางสามีได้เสียชีวิตหรือหย่าร้าง ก็จะมีค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งที่ช่วยดูแลทั้งเราและลูกของเรา การที่เราเช็คสถานะทางการเงินช่วยให้เรารู้ว่า จะต้องบริหารจัดการกับชีวิตตัวเองยังไงบ้าง หากเราบริหารจัดการได้ ค่าใช้จ่ายต่างๆก็จะเพียงพอต่อการเลี้ยงดูตัวเองและลูกของเรา ซึ่งจะดีหากเราอธิบายให้ลูกของเราถึงสถานการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปและทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถปรับปรุงแก้ไขให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น
2.ตั้งใจให้ความรู้กับลูกของเรา
การเป็นแม่เลี้ยงลูกด้วยตัวเองคนเดียวนั้น จะต้องมีความรับผิดชอบในการให้ความรู้กับลูกๆของเราและแนะแนวทางในการประกอบอาชีพให้กับลูกของเราในอนาคตข้างหน้า ดังนั้นเราอย่าเพิกเฉยหากเห็นลูกของเรากำลังทำการบ้านอยู่ จะต้องเข้าไปช่วยเหลือลูกทันที หากเรารู้สึกมีความเครียดในการรับมือการให้ความรู้กับลูกของเรา ก็ต้องหาใครสักคนหนึ่งช่วยเหลือเรื่องนี้
1.ให้เวลากับตัวเองให้มากๆ
จำไว้ว่าการเป็นแม่ม่ายไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ ที่มีความรับผิดชอบสูงกว่า มีความแข็งแกร่ง เราก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สูญเสียคู่ครองไป เราจึงต้องให้เวลากับตัวเองมากขึ้นเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะยังไงเราก็อย่าเพิกเฉยสิ่งที่เราได้ปรารถนาเอาไว้ลึกๆ จะต้องให้โอกาสตัวเองทำตามสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝันต่อไป เพื่อชีวิตที่ดีกว่าในวันข้างหน้า ก้าวข้ามฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆออกไปให้ได้
ผู้เขียน Mr.lawrence10
(เรื่องน่ารู้) 10 อันดับแนวทางเยียวยาจิตใจสำหรับผู้หญิงที่เป็นแม่ม่าย
การที่เราไม่มีความสุขและเศร้าเสียใจนั้น มันไม่ดีต่อตัวเราในระยะยาว เราและลูกของเราจะต้องเดินหน้าใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันต่อไป ซึ่งเราขอความช่วยเหลือจากผู้ให้คำปรึกษาของเราก็ได้ โดยพวกเขาจะชี้แนะแนวทางให้พวกเราสามารถปรับอารมณ์และก็รักษาสถานะทางการเงินของเราให้มีความมั่งคงปลอดภัยได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางศาสนาหรือการปรับตัวเข้ากับสังคมเองก็ดี ที่ผู้ให้คำปรึกษาจะเยียวยาจิตใจส่วนนี้ได้
พวกเรายังจดจำช่วงเวลาที่ดีกับครอบครัวในอดีตมาก่อนใช่ไหมล่ะ ตอนนี้ถึงเวลาที่เราจะต้องแชร์มุมมองความเห็นเกี่ยวกับความโศกเศร้ากันบ้างแล้ว เพราะนี่ถือเป็นวิถีทางครอบครัวที่จะต้องทำ เราอย่าไปลังเลหากขอความช่วยเหลือจากใครสักคนหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงแรกๆเองพวกเราก็คงจะรู้สึกช็อคอยู่บ้างเมื่อตัวเองเป็นม่ายใหม่ๆ
ไม่มีใครสถานการณ์แบบนี้ได้ดีไปกว่าผู้หญิงที่ต้องเลี้ยงดูลูกของตัวเองอยู่คนเดียว เราจะต้องเข้าใจว่าการเป็นแม่ม่ายนั้นจะต้องเรียนรู้อะไรบ้างและพยายามเรียนรู้จากประสบการณ์ที่อยู่รอบตัวเรา อย่าพยายามไปสนใจเรื่องการแต่งงานใหม่หรือหาคู่ครองคนใหม่มากเกินไป เพราะว่าชีวิตของเรายังไงไม่ได้มีแค่เรื่องพวกนี้หรอก เรายังต้องเจออุปสรรคต่างๆอีกมาก รวมไปถึงลูกของเราด้วยที่ต้องพยายามช่วยฝ่าฟันไปด้วยกัน
ธรรมชาติของผู้หญิงที่เป็นม่ายนั้นจะต้องมีความรู้สึกที่โกรธเกรี้ยวที่สูญเสียคนที่เรารักไปสักคนหนึ่ง มีความสับสนกับการใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังและมีความกดดันเข้ามาในชีวิต โดยเราจะต้องรู้ว่าจะต้องรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างไร อย่าไปเพิกเฉยกับวิกฤตพวกนี้เป็นอันขาด จะส่งผลต่ออารมณ์ทั้งตัวเราและลูกของเราด้วย เราจะต้องปรับอารมณ์ตัวเองโดยคิดว่านี่คือบททดสอบของเราและก็พยายามตรวจสอบอารมณ์ตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
ชีวิตของเราก็เจอทั้งการสูญเสียจนทำให้เราขาดความอดทนขึ้นมาก็ได้ แต่เราอย่านำเรื่องของเราไปใส่ในตัวลูกของเราเป็นอันขาดทั้งการตัดพ้อ ใส่อารมณ์ การไม่ยอมให้ความช่วยเหลือ จนทำให้ลูกของเราโกรธและสับสนกับชีวิตตัวเองขึ้นมา เราจะต้องหาทางระบายเรื่องนี้ที่อื่น เช่นเพื่อนฝูงของเรา กลุ่มนักบำบัดที่คอยช่วยเหลือเยียวยาให้กับเรา
บางครั้งเมื่อเราได้สูญเสียสมาชิกในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นการหย่าร้าง การเสียชีวิต ก็เริ่มทำให้เรามีความกดดันเข้ามาในชีวิตมากขึ้นแล้ว นี่ถือเป็นสถานการณ์ที่มีความสำคัญมากในชีวิต เราอย่าไปตัดสินใจชะตาชีวิตตัวเองคนเดียว แต่ควรที่จะพูดคุยกับลูกของเรา ขอความเห็นกับลูกของเรา เพราะว่าจะทำให้เราเข้าใจอารมณ์ต่อตัวเองและก็ลูกของเราด้วย เราอย่าปล่อยให้อารมณ์มากดดันทั้ง 2 ฝ่ายเป็นอันขาด
แน่นอนว่าคุณแม่ทุกๆคนไม่ว่าจะเป็นแม่ม่ายหรือไม่เป็นก็ตาม โดยเฉพาะแม่ม่ายทุกๆคนจะต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นเป็นพิเศษจากการที่พ่อของเธอได้เป็นฝ่ายทอดทิ้งหรือจากไปอย่างกะทันหัน เราก็ต้องพยายามทำตัวเปรียบเสมือนเป็นคุณพ่อในเวลาเดียวกันด้วย หากว่าลูกของเราชอบไปไหนมาไหนกับพ่อของเรา เราก็ต้องทำแบบเดียวกับที่พ่อของเขาเคยทำด้วยเช่นกัน
สถานะทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับแม่ม่าย หากทางสามีได้เสียชีวิตหรือหย่าร้าง ก็จะมีค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งที่ช่วยดูแลทั้งเราและลูกของเรา การที่เราเช็คสถานะทางการเงินช่วยให้เรารู้ว่า จะต้องบริหารจัดการกับชีวิตตัวเองยังไงบ้าง หากเราบริหารจัดการได้ ค่าใช้จ่ายต่างๆก็จะเพียงพอต่อการเลี้ยงดูตัวเองและลูกของเรา ซึ่งจะดีหากเราอธิบายให้ลูกของเราถึงสถานการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปและทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถปรับปรุงแก้ไขให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น
การเป็นแม่เลี้ยงลูกด้วยตัวเองคนเดียวนั้น จะต้องมีความรับผิดชอบในการให้ความรู้กับลูกๆของเราและแนะแนวทางในการประกอบอาชีพให้กับลูกของเราในอนาคตข้างหน้า ดังนั้นเราอย่าเพิกเฉยหากเห็นลูกของเรากำลังทำการบ้านอยู่ จะต้องเข้าไปช่วยเหลือลูกทันที หากเรารู้สึกมีความเครียดในการรับมือการให้ความรู้กับลูกของเรา ก็ต้องหาใครสักคนหนึ่งช่วยเหลือเรื่องนี้
จำไว้ว่าการเป็นแม่ม่ายไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ ที่มีความรับผิดชอบสูงกว่า มีความแข็งแกร่ง เราก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สูญเสียคู่ครองไป เราจึงต้องให้เวลากับตัวเองมากขึ้นเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะยังไงเราก็อย่าเพิกเฉยสิ่งที่เราได้ปรารถนาเอาไว้ลึกๆ จะต้องให้โอกาสตัวเองทำตามสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝันต่อไป เพื่อชีวิตที่ดีกว่าในวันข้างหน้า ก้าวข้ามฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆออกไปให้ได้
ผู้เขียน Mr.lawrence10