เห็นมี คคห. มากมาย บอกประมาณว่า ข้าวล้นตลาด และก็โยนความผิดรัฐบาลที่แล้ว-ที่ทำให้ราคาขายตก
ผมเลยไปลองอ่านข้อมูลดู เห็นว่าไม่น่าจะจริงทั้งหมด
ตามข้อมูลดังนี้
3. สถานการณ์สต็อกข้าวของโลก
ปีการผลิต 2556/57 ปริมาณผลผลิตข้าวรวมทั่วโลกมีจำนวน 476.089 ล้านตันข้าวสาร ในขณะที่ปริมาณการบริโภคและใช้ประโยชน์จากข้าวมีจำนวน 474.978 ล้านตันข้าวสาร ดังนั้นปริมาณผลผลิตรวมที่ได้รับสูงกว่าปริมาณการบริโภคและใช้ประโยชน์ มีผลทำให้ปริมาณสต็อกข้าวของโลกเพิ่มขึ้น 1.111 ล้านตันข้าวสาร จากเมื่อสิ้นปีการผลิต 2555/56 (ที่ระดับ 110.139 ล้านตันข้าวสาร) เพิ่มขึ้นเป็น 111.250 ล้านตันข้าวสาร หรือทั่วโลกมีปริมาณสต็อกข้าวรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.01
ปีการผลิต 2557/58 กระทรวงเกษตร สหรัฐอเมริกา ได้พยากรณ์ ณ เดือนพฤษภาคม 2557 ว่าปริมาณผลผลิตข้าวสารรวมทั่วโลก จะมีจำนวน 480.719 ล้านตันข้าวสาร และคาดว่าปริมาณการบริโภคและใช้ประโยชน์จากข้าว จะมีจำนวน 482.197 ล้านตันข้าวสาร ซึ่งปริมาณผลผลิตรวมที่คาดว่าจะได้รับปีนี้มีปริมาณน้อยกว่าปริมาณการบริโภคและใช้ประโยชน์ จำนวน 1.478 ล้านตันข้าวสาร จึงสรุปในเบื้องต้นได้ว่า ปริมาณสต็อกข้าวของโลก (Carryover Stock) ในปี 2557/58 จะมีปริมาณลดลง (จากระดับที่ 111.250 ล้านตันข้าวสาร) คงเหลือเป็น 109.772 ล้านตันข้าวสาร หรือลดลงร้อยละ 1.33
ดังนั้น อัตราการสำรองข้าวสารเพื่อการบริโภคของโลก (The Global Stocks to Use Ratio) ของปี 2557/58 จะอยู่ที่ระดับร้อยละ 22.76 (เท่ากับ 109.772 หารด้วย 482.197 คูณด้วย 100) หรือ อาจสรุปได้ว่าทั่วโลกจะมีข้าวสารสำรองเพื่อการบริโภค
เป็นเวลาประมาณ 83 วัน (เท่ากับ 22.76 หารด้วย 100 คูณด้วย 365)
สำหรับประเทศไทย ปริมาณการส่งออกข้าวลดลง ทำให้มีสต็อกข้าวเพิ่มขึ้นส่งผลให้อัตราการสำรองข้าวสารเพื่อการบริโภคของปี 2557/58 อยู่ที่ระดับร้อยละ 125.76 (เท่ากับ 13.708 หารด้วย 10.900 คูณด้วย 100) หรือมีปริมาณข้าวสารสำรองเพื่อการบริโภคภายในประเทศ
ประมาณ 459 วัน (125.76 หารด้วย 100 คูณด้วย 365)
แหล่งที่มาข้อมูล
http://www.ricethailand.go.th/home/images/rice_situation/56-57/may_14.pdf
หรือ คนที่เปิด PDF ไม่ได้
https://docs.google.com/viewer?url=http://www.ricethailand.go.th/home/images/rice_situation/56-57/may_14.pdf
นอกจากนี้ ข้อมูลในเอกสารนี้ มีอะไรอื่นๆที่น่าสนใจ ให้อ่านกันแบบไม่ยาวมาก
1. สถานการณ์การผลิตข้าวของโลก
2. สถานการณ์การบริโภคและใช้ประโยชน์จากข้าวของโลก
3. สถานการณ์สต็อกข้าวของโลก
4. สถานการณ์การค้าข้าวของโลก (มีบอกปริมาณและอันดับ ของ ผู้ส่งออกข้าว และนำเข้าข้าว)
5. บัญชีสมดุลข้าวของโลก
6. ราคาข้าวสารในตลาดโลก
7. สถานการณ์ข้าวของไทย
อันนี้มีย้อนหลังให้ด้วย เก็บลิ๊งไว้อ่านกันเล่นๆครับ
http://www.ricethailand.go.th/home/index.php?option=com_content&view=article&id=34
สรุป คคห. ส่วนตัว ผมว่า ข้าวยังเป็นที่ต้องการอยู่ ไม่ถึงกับล้นเหลือเฟือตามที่พูดๆกัน
การที่บางคนบอกให้ชาวนาไทยเลิกปลูกสะ และไปทำอย่างอื่น
นี่ผมคิดว่าจะทำให้คนไทยในอนาคต ขาดความมั่นคงทางอาหาร
และคงต้องซื้อข้าวประเทศอื่นมากิน ที่ผมว่าแต่ละบ้านก็คงจะต้องซื้อแพงกว่าที่เป็นอยู่
ส่วนเรื่องการทำให้ราคาตลาดโลก ขึ้นไปมากๆ เพื่อที่ชาวนาจะได้คุ้มค่าผลกำไร นั้น
ต้องอาศัยปัจจัยอื่นๆ เช่น
ความร่วมมือกันระหว่างประเทศ เพราะประเทศที่ส่งออกปริมาณมากอันดับต้นๆ นั่นผมว่าก็มีปัญหาเช่นเดียวกันกับไทย
และที่สำคัญที่สุด คือ
ความร่วมมือ จากพรรคการเมืองฝ่ายค้านในประเทศเดียวกันเอง
*อาจจะมีผิด-ถูก ช่วยเอาข้อมูลมาชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ
ข้าว ล้นตลาด จริงหรือ ?
ผมเลยไปลองอ่านข้อมูลดู เห็นว่าไม่น่าจะจริงทั้งหมด
ตามข้อมูลดังนี้
3. สถานการณ์สต็อกข้าวของโลก
ปีการผลิต 2556/57 ปริมาณผลผลิตข้าวรวมทั่วโลกมีจำนวน 476.089 ล้านตันข้าวสาร ในขณะที่ปริมาณการบริโภคและใช้ประโยชน์จากข้าวมีจำนวน 474.978 ล้านตันข้าวสาร ดังนั้นปริมาณผลผลิตรวมที่ได้รับสูงกว่าปริมาณการบริโภคและใช้ประโยชน์ มีผลทำให้ปริมาณสต็อกข้าวของโลกเพิ่มขึ้น 1.111 ล้านตันข้าวสาร จากเมื่อสิ้นปีการผลิต 2555/56 (ที่ระดับ 110.139 ล้านตันข้าวสาร) เพิ่มขึ้นเป็น 111.250 ล้านตันข้าวสาร หรือทั่วโลกมีปริมาณสต็อกข้าวรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.01
ปีการผลิต 2557/58 กระทรวงเกษตร สหรัฐอเมริกา ได้พยากรณ์ ณ เดือนพฤษภาคม 2557 ว่าปริมาณผลผลิตข้าวสารรวมทั่วโลก จะมีจำนวน 480.719 ล้านตันข้าวสาร และคาดว่าปริมาณการบริโภคและใช้ประโยชน์จากข้าว จะมีจำนวน 482.197 ล้านตันข้าวสาร ซึ่งปริมาณผลผลิตรวมที่คาดว่าจะได้รับปีนี้มีปริมาณน้อยกว่าปริมาณการบริโภคและใช้ประโยชน์ จำนวน 1.478 ล้านตันข้าวสาร จึงสรุปในเบื้องต้นได้ว่า ปริมาณสต็อกข้าวของโลก (Carryover Stock) ในปี 2557/58 จะมีปริมาณลดลง (จากระดับที่ 111.250 ล้านตันข้าวสาร) คงเหลือเป็น 109.772 ล้านตันข้าวสาร หรือลดลงร้อยละ 1.33
ดังนั้น อัตราการสำรองข้าวสารเพื่อการบริโภคของโลก (The Global Stocks to Use Ratio) ของปี 2557/58 จะอยู่ที่ระดับร้อยละ 22.76 (เท่ากับ 109.772 หารด้วย 482.197 คูณด้วย 100) หรือ อาจสรุปได้ว่าทั่วโลกจะมีข้าวสารสำรองเพื่อการบริโภค เป็นเวลาประมาณ 83 วัน (เท่ากับ 22.76 หารด้วย 100 คูณด้วย 365)
สำหรับประเทศไทย ปริมาณการส่งออกข้าวลดลง ทำให้มีสต็อกข้าวเพิ่มขึ้นส่งผลให้อัตราการสำรองข้าวสารเพื่อการบริโภคของปี 2557/58 อยู่ที่ระดับร้อยละ 125.76 (เท่ากับ 13.708 หารด้วย 10.900 คูณด้วย 100) หรือมีปริมาณข้าวสารสำรองเพื่อการบริโภคภายในประเทศ ประมาณ 459 วัน (125.76 หารด้วย 100 คูณด้วย 365)
แหล่งที่มาข้อมูล
http://www.ricethailand.go.th/home/images/rice_situation/56-57/may_14.pdf
หรือ คนที่เปิด PDF ไม่ได้
https://docs.google.com/viewer?url=http://www.ricethailand.go.th/home/images/rice_situation/56-57/may_14.pdf
นอกจากนี้ ข้อมูลในเอกสารนี้ มีอะไรอื่นๆที่น่าสนใจ ให้อ่านกันแบบไม่ยาวมาก
1. สถานการณ์การผลิตข้าวของโลก
2. สถานการณ์การบริโภคและใช้ประโยชน์จากข้าวของโลก
3. สถานการณ์สต็อกข้าวของโลก
4. สถานการณ์การค้าข้าวของโลก (มีบอกปริมาณและอันดับ ของ ผู้ส่งออกข้าว และนำเข้าข้าว)
5. บัญชีสมดุลข้าวของโลก
6. ราคาข้าวสารในตลาดโลก
7. สถานการณ์ข้าวของไทย
อันนี้มีย้อนหลังให้ด้วย เก็บลิ๊งไว้อ่านกันเล่นๆครับ
http://www.ricethailand.go.th/home/index.php?option=com_content&view=article&id=34
สรุป คคห. ส่วนตัว ผมว่า ข้าวยังเป็นที่ต้องการอยู่ ไม่ถึงกับล้นเหลือเฟือตามที่พูดๆกัน
การที่บางคนบอกให้ชาวนาไทยเลิกปลูกสะ และไปทำอย่างอื่น
นี่ผมคิดว่าจะทำให้คนไทยในอนาคต ขาดความมั่นคงทางอาหาร
และคงต้องซื้อข้าวประเทศอื่นมากิน ที่ผมว่าแต่ละบ้านก็คงจะต้องซื้อแพงกว่าที่เป็นอยู่
ส่วนเรื่องการทำให้ราคาตลาดโลก ขึ้นไปมากๆ เพื่อที่ชาวนาจะได้คุ้มค่าผลกำไร นั้น
ต้องอาศัยปัจจัยอื่นๆ เช่น ความร่วมมือกันระหว่างประเทศ เพราะประเทศที่ส่งออกปริมาณมากอันดับต้นๆ นั่นผมว่าก็มีปัญหาเช่นเดียวกันกับไทย
และที่สำคัญที่สุด คือความร่วมมือ จากพรรคการเมืองฝ่ายค้านในประเทศเดียวกันเอง
*อาจจะมีผิด-ถูก ช่วยเอาข้อมูลมาชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ