สวัสดีค่ะ เราเป็นนักศึกษาปี2ของมหาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง
ซึ่งมหาลัยนี้ปรับหลักสูตรเพื่อรับอาเซียนตอนเราเข้าปี1พอดี ทำให้เทอมเรียนแตกเป็น เทอม1 เทอม2 เทอม3 แล้วยังมีเทอมS อะไรของเขาอีก ทำให้วันหยุดและปิดเทอมแทบจะไม่มี
นอกจากนั้นทางบ้านของเรายังคัดค้านการเรียนในมหาลัยเอกชนนี้ แต่เราอยากที่จะเรียนที่นี่มาก ก็เลยตกลงกับทางบ้านไว้ว่าจะช่วยทำงานจ่ายค่าเทอมด้วย  พยายามทำเกรดเฉลี่ยของตัวเองให้ดีด้วย ตอนนี้ก็อยู่ที่3.5ขึ้นไป เรากับทางบ้านก็โอเคกับมันนะ

ถึงอย่างนั้น มันก็ทำให้เราเหนื่อยมากค่ะ เหนื่อยตัวแทบขาด แถมยังรู้สึกเครียดพอสมควร เพราะนอกจากต้องเทียวไปกลับบ้าน-มหาลัย(เพราะทางบ้านไม่ให้อยู่หอ)แล้ว ยังต้องคอยทบทวนบทเรียน ทำงานไปด้วยอีก กลับบ้านไปแทบจะน็อคคารั้วบ้านเลยทีเดียว

แค่นั้นไม่พอไม่พอ ผลจากการเลิกเรียนก็กลับบ้านเลย เงินเที่ยวกับเพื่อนๆก็ไม่ค่อยมีอีก รวมกับมนุษย์สัมพันธ์ทื่อๆของเรา มันก็ทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนหรือคนสนิทมาก เวลาทำงานกลุ่มกล้ำกลืนอีกนิดหน่อยแหละ รู้สึกตัวเองเป็นส่วนเกินเบาๆ

ถึงอย่างงั้นตอนแรกเราก็คิดว่าไม่เป็นไรค่ะ เพราะก็ยังมีหลายๆคนที่เข้าใจและคอยช่วยเหลืออยู่

จนกระทั่งสัปดาห์นี้ เป็นวันสอบ ซึ่งเทอมนี้ก็จัดหนักสุดๆเพราะเรียนเดือนเดียวก็สอบกลางภาคเลย
แถมวันอาทิตย์ยังตรงกับวันสอบเพิ่มอีก
วันพุธ อาจารย์ที่สอนอยู่ประจำคณะเรา เดินเข้ามาพูดกับเราว่า ถ้าไม่เข้าร่วมกิจกรรมทางมหาลัย จะตัดคะแนนเรา ก่อนขึ้นปี3 ...
ซึ่งไอ้กิจกรรมนั้นน่ะ ก็ดันตรงกับวันหยุดอันแสนน้อยนิดของเราพอดีด้วย เฮ้อ...! ค่ารถก็ไม่ใช่เล่นๆเลยนะ!
ไม่รู้เขาขู่ขำๆหรือว่าอะไร แต่มันทำให้เราอึดอัดใจมากๆเลยค่ะ
โดยส่วนตัวยอมรับค่ะว่าเข้ากับคนอื่นไม่ค่อยเก่ง สำหรับเราที่ไม่ชอบกิจกรรม(งบก็ไม่ค่อยมี) เลยรู้สึกว่ามันเป็นภาระสุดๆ

ทุกมหาลัยเป็นอย่างงี้หรือเปล่าคะ? ที่อาจารย์ต้องคอยจ้ำจี้จ้ำไช(แกมบังคับ)ให้นักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมอย่างงี้ตลอด
กิจกรรมมหาลัยเนี่ย มันสำคัญขนาดนั้นเลย? มันช่วยอะไรในชีวิตเราบ้างคะ อยากรู้จริงๆค่ะ

ขอบคุณค่ะ