“ขาชอป” เตรียมเฮ “ศุลกากร” เล็งปรับมูลค่านำเข้าสินค้าจากต่างประเทศหิ้วขึ้นเครื่องใส่กระเป๋าเดินทาง 80,000-100,000 บาท เพราะเห็นว่าประกาศฉบับปัจจุบันใช้มานานแล้ว ขณะที่เศรษฐกิจดีขึ้นคนไทยมีกำลังซื้อสินค้าบางส่วน เพื่อใช้เองหรือฝากญาติ และเพื่อให้สอดคล้องต่อประกาศการถือครองเงินสด
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า การตรวจสอบการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศและให้ผ่านช่องแดงเพื่อสำแดงสินค้านำเข้านั้น จะต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจมากขึ้น โดยอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดเพื่อปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกผู้เดินทางไปต่างประเทศ หากนำสินค้าเข้ามาเพื่อฝากญาติ ใช้เองปริมาณที่เหมาะสมคงไม่ต้องตรวจ แต่หากเป็นการนำเข้าเชิงพาณิชย์คงต้องเข้มงวดมากขึ้น เพราะสามารถติดตามได้จากแหล่งขายสินค้าตามอินเทอร์เน็ต หรือแหล่งจำหน่ายเมื่อมีการเดินทางเข้าออกเป็นประจำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายกฎหมายกรมศุลกากรได้หารือเกี่ยวกับการอนุญาตนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเมื่อวานนี้ เพื่อแก้ไขประกาศกรมศุลกากรให้สอดคล้องต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน หลังจากบังคับใช้มาหลายสิบปีแล้ว ด้วยการอนุญาตให้นำสินค้าจากต่างประเทศผ่านเข้าออกผ่านสนามบิน หรือด่านชายแดนจากเดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 10,000 บาท เพิ่มเป็น 80,000-100,000 บาทต่อครั้ง เพราะเห็นว่าประกาศดังกล่าวใช้มานาน แต่ต้องพิจารณาหลายด้านประกอบกัน เพราะขณะนี้เศรษฐกิจดีขึ้นคนไทยมีกำลังซื้อสินค้าบางส่วน เพื่อใช้เอง หรือฝากญาติ เพื่อให้สอดคล้องต่อประกาศการถือครองเงินสดจาก 500,000 บาท เพิ่มเป็น 2 ล้านบาท ในการนำเข้าออกผ่านชายแดน หากได้ข้อสรุปจะออกประกาศกรมศุลกากรเพื่อบังคับใช้
แต่อีกด้านหนึ่งต้องเข้มงวดสำหรับผู้นำเข้ามาเพื่อค้าขายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี เพราะหากเดินทางไปต่างประเทศเพียง 1-2 ครั้ง และซื้อสินค้าเข้ามาใช้สอยคงจะไม่สุ่มตรวจ แต่หากปรากฏว่ามีการเดินทางเป็นประจำ 3-4 ครั้งต่อเดือน เพื่อนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายต้องให้สำแดงเพื่อเสียอากรนำเข้าร้อยละ 30 ของมูลค่าสินค้า การตรวจจะครอบคลุมไปถึงลูกเรือสายการบิน ทุกอาชีพที่ผ่านเข้าออก
ขณะที่ นายสมชัย ยังได้กล่าวเพิ่มเติมในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า การแก้ปัญหาสลากฯ ในช่วงสั้นขณะนี้ยังคงปล่อยให้ผู้ค้าจำหน่ายสลากฯ ราคาเหมาะสมตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่ยังมีสลากใกล้ครบกำหนดสัญญาอีกจำนวนหนึ่ง จึงเตรียมนำมาจัดสรรให้แก่รายย่อยเพิ่ม ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาเฟส 2 ทั้งเรื่องโควตา การหาผลิตภัณฑ์แบบใหม่ และเรื่องต่างๆ ต้องเร่งจัดสรรหาผู้อำนวยการ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จากนั้นจะเริ่มประชุมบอร์ดสลากเพื่อพิจารณามาตรการต่างๆ
ที่มา:
http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9570000075070
มาลุ้นกันว่าจะปรับจริงมั้ย เพื่อนๆคิดว่ายังไงคะ
“ขาชอป” เตรียมเฮ “ศุลกากร” เล็งปรับมูลค่านำเข้าสินค้าหิ้วขึ้นเครื่องเพิ่มเป็น 80,000-100,000 บาท
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า การตรวจสอบการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศและให้ผ่านช่องแดงเพื่อสำแดงสินค้านำเข้านั้น จะต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจมากขึ้น โดยอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดเพื่อปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกผู้เดินทางไปต่างประเทศ หากนำสินค้าเข้ามาเพื่อฝากญาติ ใช้เองปริมาณที่เหมาะสมคงไม่ต้องตรวจ แต่หากเป็นการนำเข้าเชิงพาณิชย์คงต้องเข้มงวดมากขึ้น เพราะสามารถติดตามได้จากแหล่งขายสินค้าตามอินเทอร์เน็ต หรือแหล่งจำหน่ายเมื่อมีการเดินทางเข้าออกเป็นประจำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายกฎหมายกรมศุลกากรได้หารือเกี่ยวกับการอนุญาตนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเมื่อวานนี้ เพื่อแก้ไขประกาศกรมศุลกากรให้สอดคล้องต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน หลังจากบังคับใช้มาหลายสิบปีแล้ว ด้วยการอนุญาตให้นำสินค้าจากต่างประเทศผ่านเข้าออกผ่านสนามบิน หรือด่านชายแดนจากเดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 10,000 บาท เพิ่มเป็น 80,000-100,000 บาทต่อครั้ง เพราะเห็นว่าประกาศดังกล่าวใช้มานาน แต่ต้องพิจารณาหลายด้านประกอบกัน เพราะขณะนี้เศรษฐกิจดีขึ้นคนไทยมีกำลังซื้อสินค้าบางส่วน เพื่อใช้เอง หรือฝากญาติ เพื่อให้สอดคล้องต่อประกาศการถือครองเงินสดจาก 500,000 บาท เพิ่มเป็น 2 ล้านบาท ในการนำเข้าออกผ่านชายแดน หากได้ข้อสรุปจะออกประกาศกรมศุลกากรเพื่อบังคับใช้
แต่อีกด้านหนึ่งต้องเข้มงวดสำหรับผู้นำเข้ามาเพื่อค้าขายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี เพราะหากเดินทางไปต่างประเทศเพียง 1-2 ครั้ง และซื้อสินค้าเข้ามาใช้สอยคงจะไม่สุ่มตรวจ แต่หากปรากฏว่ามีการเดินทางเป็นประจำ 3-4 ครั้งต่อเดือน เพื่อนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายต้องให้สำแดงเพื่อเสียอากรนำเข้าร้อยละ 30 ของมูลค่าสินค้า การตรวจจะครอบคลุมไปถึงลูกเรือสายการบิน ทุกอาชีพที่ผ่านเข้าออก
ขณะที่ นายสมชัย ยังได้กล่าวเพิ่มเติมในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า การแก้ปัญหาสลากฯ ในช่วงสั้นขณะนี้ยังคงปล่อยให้ผู้ค้าจำหน่ายสลากฯ ราคาเหมาะสมตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่ยังมีสลากใกล้ครบกำหนดสัญญาอีกจำนวนหนึ่ง จึงเตรียมนำมาจัดสรรให้แก่รายย่อยเพิ่ม ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาเฟส 2 ทั้งเรื่องโควตา การหาผลิตภัณฑ์แบบใหม่ และเรื่องต่างๆ ต้องเร่งจัดสรรหาผู้อำนวยการ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จากนั้นจะเริ่มประชุมบอร์ดสลากเพื่อพิจารณามาตรการต่างๆ
ที่มา: http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9570000075070
มาลุ้นกันว่าจะปรับจริงมั้ย เพื่อนๆคิดว่ายังไงคะ