อุทาหรณ์ ไม้เสียบลูกชิ้น

พอดีวันนี้ทะเลาะกับแฟน แค่เรื่องการทิ้ง ไม้เสียบลูกชิ้น และผมก็โกรธจริง ๆ จัง ๆ ด้วยและไม่เข้าใจว่าทำไมแฟนตัวเองมักง่ายจัง เหตุการณจากวันนี้มันเลยทำให้นึกถึงเหตุการณ์ เหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือเหตุผล......

ตอนเด็กเคยใช้ชีวิตอยู่กับยาย ยายเคยสอนเสมอว่า กินลูกชิ้นเสร็จ ให้หักปลายไว้แล้วไปทิ้งขยะ เดี๋ยวคนอื่นมาเหยียบ เขาจะต้องมาเจ็บตัวเพราะเรา ตอนนั้นเราไม่เข้าใจหรอก จนกระทั่ง มาโดนกับตัวเอง ตอนนั้นจำได้ขึ้นใจถึงทุกวันนี้ เดินเหยีบไม้เสียลูกชิ้น ไม้เสียบตรงส้นเท้าลึกประมาณ 2 ซม. ด้วยความที่เป็นเด็ก ไม่กล้าบอกยาย จะดึงก็ดึงไม่ได้เพราะมันเจ็บมาก ได้แต่หักให้มันคาอยู่แบบนั้นแล้วเดินกลับบ้าน พอตกกลางคืน ปวดแผลมาก ร้องโอดโอย จนตากับยายสงสัยเลยไปดูตรงที่เราปวด ตากับยายตกใจมากไม่รู้ทำไงเลยพยายามดึงออก แต่ก็ไม่สามารถดึงออกได้ เพราะเราได้หักจนกุดไปแล้ว จนต้องพาไปหาหมอ หมอทำการเอาไม้ที่เสียบออกให้ ....

.....แลดูเหมือนกับว่า หาหมอแล้วปลอดภัยแล้ว แต่....มันไม่ใช่แบบนั้น หมอให้ยามาล้างแผลที่บ้าน เพราะต่างจังหวัด โรงพยาบาล อนามัยมันไกลมาก ตากับยายเราก็ล้างให้นะ ล้างทุกวัน แต่มันก็ไม่ได้เพียงพอให้แผลมันหายขาด เพราะไม้เสียบลูกชิ้น มันเต็มไปด้วยเชื้อโรค ผ่านไป ประมาณ 1 สัปดาห์ แผลมันก็ไม่ยอมตกเป็นสะเก็ด แต่กลับมีหนอง และเขียวคล้ำ จนต้องไปหาหมอ ตอนนั้นจำไม่ได้แล้วว่าหมอทำอะไรกับเรา ที่รู้ก็คือ มันเจ็บมากที่หมอทำ เจ็บจนแทบจะขาดใจ ......ตั้งแต่นั้นมา เราจึงได้ตระหนักถึงอันตราย ที่มันจะเกิดขึ้นกับใครไม่รู้ เพียงเพราะเราทิ้ง "แค่ไม้ลูกชิ้น" ถ้าเราทิ้งไป เราไม่โดน แต่ถ้าวันนึง คนอื่นมาโดนหล่ะ มันจะเดือดร้อนเขาไหม เขาต้องมาเจ็บตัวเพราะเราไหม ถ้าคนไม่โดน เกิดเป็นสัตว์มาโดน หมามาโดน แมวมาโดน ใครจะพามันไปรักษา เพราะฉนั้นการจะทำอะไร อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง ให้คิดถึงคนอื่นด้วย  คงไม่ยากไปใช่ไหม ที่ไม้ลูกชิ้น จะทิ้งลงถังขยะ และคงไม่ยากใช่ไหมที่ขยะในมือท่าน จะทิ้งลงถังขยะ

ขอบคุณครับสำหรับคนที่อ่าน หวังว่ามันจะเตือนสติท่านไม่มากก็น้อย ยิ้ม

ปล.อาจพิมพ์ตกหล่นไปบ้างนะครับ โปรดขออภัยเพราะพิมพ์ในมือถือครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่