ในช่วงใกล้ปิดงบการเงินของบริษัทจดทะเบียน เรามักได้ยินคำว่า Window Dressing กันบ่อย ๆ รู้ไหมครับว่ามันคืออะไร
Window Dressing คือ การแต่งบัญชีงบการเงินของบริษัท มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริษัทผลประกอบการดูดี
มีงบการเงินดูสวย ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงใกล้ปิดงบการเงินของบริษัท (คือช่วงไตรมาสและปลายปี)
เนื่องจากบริษัทจะต้องทำรายงานงบการเงินเสนอตลาดหลักทรัพย์ และเมื่อมีผลประกอบการดี ก็มีผลต่อราคาหุ้นของบริษัทสูงขึ้น
ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น เช่น เมื่อถึงช่วงใกล้ปิดงบการเงิน บริษัทก็จะพยายามนำรายได้รับล่วงหน้า ใส่เข้ามาในงบการเงิน
เพื่อให้บริษัทดูดีมีกำไร เมื่อรายงานงบการเงินออกสู่สายตามหาชน ทั้งนักวิเคราะห์และนักลงทุนเห็นว่าบริษัทมีผลประกอบการดี
ก็วิเคราะห์ไปว่าอนาคตบริษัทนี้ต้องดีแน่ นักลงทุนก็แห่เข้ามาลงทุน ทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น ทุกอย่างดูสวยงามไปหมด แต่หลังจาก
ที่บริษัทออกงบเสร็จเรียบร้อย ไตรมาสถัดไปบริษัทก็ออกเครดิตโน้ตลดรายได้ ราคาหุ้นเริ่มตก นักลงทุนก็ค้างกันอยู่บนดอยเป็นทิวแถว
ดังนั้น ก่อนจะลงทุน นักลงทุนต้องวิเคราะห์หรือตั้งข้อสังเกตให้ดีว่าผลประกอบการ/กำไรของบริษัทที่เพิ่มขึ้นนั้นเกิดจากอะไรกันแน่
เช่น หากลงทุนในบริษัทที่เป็นธุรกิจโรงแรม รายได้ของบริษัทควรจะเพิ่มขึ้นในช่วง High Season เช่น เทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่
แต่หากพบว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วง Low Season แบบนี้ก็น่าจะเข้าข่ายว่าบริษัทมีการทำ Window Dressing แล้วล่ะครับ
มาทำความรู้จักกับ Window Dressing กันครับ
Window Dressing คือ การแต่งบัญชีงบการเงินของบริษัท มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริษัทผลประกอบการดูดี
มีงบการเงินดูสวย ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงใกล้ปิดงบการเงินของบริษัท (คือช่วงไตรมาสและปลายปี)
เนื่องจากบริษัทจะต้องทำรายงานงบการเงินเสนอตลาดหลักทรัพย์ และเมื่อมีผลประกอบการดี ก็มีผลต่อราคาหุ้นของบริษัทสูงขึ้น
ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น เช่น เมื่อถึงช่วงใกล้ปิดงบการเงิน บริษัทก็จะพยายามนำรายได้รับล่วงหน้า ใส่เข้ามาในงบการเงิน
เพื่อให้บริษัทดูดีมีกำไร เมื่อรายงานงบการเงินออกสู่สายตามหาชน ทั้งนักวิเคราะห์และนักลงทุนเห็นว่าบริษัทมีผลประกอบการดี
ก็วิเคราะห์ไปว่าอนาคตบริษัทนี้ต้องดีแน่ นักลงทุนก็แห่เข้ามาลงทุน ทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น ทุกอย่างดูสวยงามไปหมด แต่หลังจาก
ที่บริษัทออกงบเสร็จเรียบร้อย ไตรมาสถัดไปบริษัทก็ออกเครดิตโน้ตลดรายได้ ราคาหุ้นเริ่มตก นักลงทุนก็ค้างกันอยู่บนดอยเป็นทิวแถว
ดังนั้น ก่อนจะลงทุน นักลงทุนต้องวิเคราะห์หรือตั้งข้อสังเกตให้ดีว่าผลประกอบการ/กำไรของบริษัทที่เพิ่มขึ้นนั้นเกิดจากอะไรกันแน่
เช่น หากลงทุนในบริษัทที่เป็นธุรกิจโรงแรม รายได้ของบริษัทควรจะเพิ่มขึ้นในช่วง High Season เช่น เทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่
แต่หากพบว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วง Low Season แบบนี้ก็น่าจะเข้าข่ายว่าบริษัทมีการทำ Window Dressing แล้วล่ะครับ