อยู่ในอียิปต์ โดยไม่มีเครื่องปรับอากาศ จะยากลำบากมาก. จะเห็นคนอียิปต์ขึ้นไปนอนบนหลังคาบ้านบ่อยครั้งเพื่อที่จะรับประโยชน์จากลมเย็นๆ
.........................................................................................
สมัยนี้มีส้วมชักโครกและบริการเก็บขยะที่ทันสมัยมาก สะดวกสบายทันสมัยสุดๆ . คุณเคยคิดไหมว่าสถานที่ ที่มีคนอยู่อย่างแออัด จะทำกันอย่างไร ก่อนที่จะมีความสะดวกสบายแบบปัจจุบัน เมื่อคนเอาแต่โยนขยะให้พ้นประตูบ้านของตน. ถนนในหมู่บ้านของคนอียิปต์โบราณแคบมาก ถ้าคุณกางแขนของคุณออกไป, ปลายนิ้วของคุณจะแตะอาคารที่อยู่ตรงกันข้าม.
ดังนั้น จะใช้เวลาไม่นานสำหรับถนนที่มีสภาพเหมือนซอยแคบนี้ ที่จะเป็นแหล่งสะสมขยะที่ไม่ถูกอนามัยนี้. ลอกนึกถึงกลิ่นเหม็นของผักที่กำลังเน่าที่อยู่บนซากศพของคนหรือสัตว์ในเมืองอียิปต์ที่อากาศร้อน, ดังนั้น จึงอย่าแปลกใจที่ทุกคนพยายามเผาเครื่องหอมที่บ้านของพวกเขา, ที่ดีขึ้นไปหน่อยคือดมกลิ่นของกำยานและยางไม้หอม ไม่ต้องดมสตูที่คนนำมาเทกองส่งกลิ่นฉุนๆ บนถนนสกปรก.
พื้นดิน,ที่พอได้รับแสงอาทิตย์ร้อนจัด,จะแข็งพอๆกับพื้นถนนที่ราดซีเมนต์. คนก่ออิฐจะนำดินโคลนจากแม่น้ำไนล์ใส่ตะกร้าหนัง ไปยังสถานที่ก่อสร้างผสมกับฟางและกรวด, จากนั้นเทลงในแบบพิมพ์ไม้. อิฐจะแห้งเร็วภายใต้ดวงอาทิตย์ของคนอียิปต์. ต่างกับหินในสุสานและวิหาร, บ้านที่ทำด้วยอิฐดิน มิได้หมายความว่าจะคงทนปกป้องเจ้าของบ้านได้ตลอดเวลา. ถ้าคนสร้างบ้านต้องการสร้างบ้านหลังใหม่บนบ้านหลังหนึ่ง ที่พังไปแล้ว, เขาก็เพียงแต่หาน้ำมารดเศษดินเหนียว. ดินเหนียวมีระดับของความเหนียวที่ยึดเกาะ เท่ากับขนมพุดดิ้ง จะแข็งเมื่อได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์, ทำให้มีความแข็งแรงใช้ก่อสร้าง. แต่พอโดนน้ำก็ยุ่ย.
บ้านและส่วนที่ต่อเติมไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม. เมืองส่วนใหญ่ขยายตัวโดยไม่มีการวางแผนแต่อย่างใดและขยายออกไปเป็นที่อยู่อาศัยที่ยุ่งเหยิงแออัด. แม้แต่เมืองที่มีการวางแผนก่อนสร้าง เช่น Deir el-Medina ,ที่อยู่ ข้ามแม่น้ำไนล์ ถัดจากเมืองThebe เมืองนี้ใช้เป็นที่อยู่ของช่างก่อสร้างและครอบครัวของช่างก่อสร้าง ในช่วงศต.ที่ ๑๓ ก่อนคศ, พอเวลาผ่านไป เมืองเริ่มไม่เป็นระเบียบ. พอมีบ้านสักหลัง เมื่อสมาชิกครอบครัวเพิ่มขึ้น พวกเขาจะอัดอยู่กันในบ้านนั้น เท่าที่จะทำได้และแบ่งสรรปันส่วนบริเวณภายในให้เหมาะสมกับความต้องการส่วนตัว.
การจัดสรรบริเวณภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นคนจน คนรวยจะเหมือนกัน- ที่จริง, ไม่เพียงคนจนและคนรวย ที่เหมือนกัน, คนตายและคนเป็นก็เหมือนกันด้วย, รวมไปถึงการจัดสรรแบ่งส่วนในบริเวณวิหารและหลุมฝังศพด้วย.ถ้าคุณมีโอกาสไปเยี่ยมชมบ้านของคนงานทั่วไปสักหลัง, คุณต้องดึงม่านผ้าเนื้อหยาบแบนๆ ที่ปิดทางเข้าประตูก่อน, ซึ่งปิดไว้เพื่อกันฝุ่นและแมลงวัน. และเข้าสู่โถงบริเวณทางเข้า. คุณอาจพบกับแกะและลาก่อน, ที่จะหยุดเคี้ยวเอื้องตุ่ยๆ เพื่อดูคุณตอนผ่านเข้าไป หรือมิฉะนั้น ตัวหมัดที่ตัวคุณจะถือโอกาสนี้ กระโดดจากตัวของคุณไปที่สัตว์.
ในสถานที่ที่อากาศร้อน,เห็บเหาในสภาพแวดล้อมบริเวณทะเลทราย เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นความจริงของชีวิต. แม้คนอียิปต์จะโกนขนตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อไม่ให้เห็บ เหา ใช้เป็นที่หลบซ่อน. พวกมันสร้างปัญหาอยู่เสมอ.เวลานอนก็ยากลำบาก ที่จะไม่ให้มีเห็บคอยกัด.
หุบเขา Deir-el-Medina เป็นที่อยู่ของศิลปิน,อาลักษณ์ ,และนักตัดหิน,และช่างฝีมืออื่น ขณะที่พวกเขาสร้างหลุมฝังศพในหุบเขากษัตริย์
...................................................................................................
มีคำแนะนำ ใน Ebers Papyrus ที่บอกใบ้ ไม่ต้องเกาเวลาคัน หรือถ้าต้องเกาก็เกาในระดับต่ำสุดและบอกวิธีการขับไล่ไม่ให้แมลงเข้ามารบกวน.
"วิธีขับไล่เห็บในบ้าน : ให้พ่นน้ำไปให้ทั่วๆบ้าน. เพื่อไม่ไห้หนูเข้ามา: เลี้ยงแมวไว้ในบ้าน เพื่อไล่หนู. เพื่อป้องกันงูออกมาจากรู... นำหัวหอมหนึ่งมัดวางที่ปากรูและงูจะไม่ออกมา...”
หมู่บ้าน Deir el-Medina เป็นสถานที่ คนก่อสร้างหลุมฝังศพได้รับค่าจ้างงาม ทำเงินดีมาก. บ้านหลายหลังมีประตูไม้จริงๆ กรอบประตูแกะสลักจากหินปูน, ส่วนใหญ่จารึกชื่อของเจ้าของบ้าน. คนอาศัยจะทาสีประตูของพวกเขาเป็นสีแดงเพื่อขับไล่ปีศาจชั่วร้าย. พอพ้นทางเข้าบ้าน คุณจะพบกับห้องรับแขก. คนอียิปต์มีเฟอร์นิเจอร์น้อยมาก. คุณอาจต้องนั่งบนเสื่อหรืออาจจะเป็นเก้าอี้เล็กๆ มีขาไม่มีพนักพิง. บ้านคนรวยมากๆ จะมีพนักพิง. เจ้าของบ้าน จะวางรูปเคารพไว้ในช่องเว้าของผนัง, นอกจากนั้นจะเป็นของกระจุกกระจิกที่ครอบครัวชอบสะสม.
ที่ Deir el-Medina บ้านหลังหนึ่ง, เจ้าของบ้านต้องจากบ้านไปสักระยะหนึ่ง เขาเป็นห่วงของมีค่า ที่บ้าน, จึงทำรายการสิ่งของ ไว้อย่างรอบคอบ และหาคนนั่งเฝ้าสิ่งของ เวลาที่เจ้าของบ้านไม่อยู่บ้าน. จดหมายหลายฉบับทำให้เรารู้ว่าบ้านที่ Deir el-Medina มีสิ่งของอะไรบ้าง.
รายการสิ่งของที่ฉันทิ้งไว้ ตอนฉันไม่อยู่ในหมู่บ้าน มีดังนี้:
(มีภาษาอียิปต์หลายคำที่แปลเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ผู้เขียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก แปลความหมายเป็นภาษาอังกฤษต่อไม่ได้ จขกท. ก็แปลไม่ได้ จะใส่วงเล็บไว้ข้างหลัง)
-ข้าวบาร์เลย์สามกระสอบ
-ม้านั่ง ๒ ตัว
-ข้าวสาลี หนึ่งกระสอบครึ่ง
-หอม ๒๖ มัด
- ม้านั่งไม้ พับเก็บได้ ๒ ตัว
-เตียง ๒ เตียง
-กล่องsheqer (ผู้เขียนแปลไม่ได้ว่าคืออะไร)
-เกลือโซเดียม ๑๒ ก้อน
- ซุง ๒ ท่อน
-เก้าอี้ยาวสำหรับผู้ชาย ๒ ตัว
-ประตูหนึ่งบาน
-ม้านั่งพับได้ ๒ ตัว
-ไม้แปรรูปแล้ว ๒ sterti (ผู้เขียนแปลไม่ได้ว่าคืออะไร)
-กล่องpedes(ผู้เขียนแปลไม่ได้ ว่าคืออะไร) ๑ ชิ้น
- 2 hetep(ผู้เขียนแปลไม่ได้ ว่าคืออะไร) container
-กล่องtjay (ผู้เขียนแปลไม่ได้ว่าคืออะไร) ฝังเลี่ยม ๑ ใบ
-1small hetep(ผู้เขียนแปลไม่ได้ว่าคืออะไร)-container
-har(ผู้เขียนแปลไม่ได้ ว่าคืออะไร)
-ไห ๑ ใบ
-ครกบด ๒ ชิ้น
-๒ medjay (ผู้เขียนแปลไม่ได้ว่าคืออะไร)
-1 gatit(ผู้เขียนแปลไม่ได้ว่าคืออะไร)-box
...ขอให้พระเจ้าสถิตอยู่ในบ้านของฉัน เพื่อที่คุณจะได้ดูแลมันได้.
โลกอียิปต์โบราณ:เกาๆคันๆและสูดๆดมๆ(2)
อยู่ในอียิปต์ โดยไม่มีเครื่องปรับอากาศ จะยากลำบากมาก. จะเห็นคนอียิปต์ขึ้นไปนอนบนหลังคาบ้านบ่อยครั้งเพื่อที่จะรับประโยชน์จากลมเย็นๆ
.........................................................................................
สมัยนี้มีส้วมชักโครกและบริการเก็บขยะที่ทันสมัยมาก สะดวกสบายทันสมัยสุดๆ . คุณเคยคิดไหมว่าสถานที่ ที่มีคนอยู่อย่างแออัด จะทำกันอย่างไร ก่อนที่จะมีความสะดวกสบายแบบปัจจุบัน เมื่อคนเอาแต่โยนขยะให้พ้นประตูบ้านของตน. ถนนในหมู่บ้านของคนอียิปต์โบราณแคบมาก ถ้าคุณกางแขนของคุณออกไป, ปลายนิ้วของคุณจะแตะอาคารที่อยู่ตรงกันข้าม.
ดังนั้น จะใช้เวลาไม่นานสำหรับถนนที่มีสภาพเหมือนซอยแคบนี้ ที่จะเป็นแหล่งสะสมขยะที่ไม่ถูกอนามัยนี้. ลอกนึกถึงกลิ่นเหม็นของผักที่กำลังเน่าที่อยู่บนซากศพของคนหรือสัตว์ในเมืองอียิปต์ที่อากาศร้อน, ดังนั้น จึงอย่าแปลกใจที่ทุกคนพยายามเผาเครื่องหอมที่บ้านของพวกเขา, ที่ดีขึ้นไปหน่อยคือดมกลิ่นของกำยานและยางไม้หอม ไม่ต้องดมสตูที่คนนำมาเทกองส่งกลิ่นฉุนๆ บนถนนสกปรก.
พื้นดิน,ที่พอได้รับแสงอาทิตย์ร้อนจัด,จะแข็งพอๆกับพื้นถนนที่ราดซีเมนต์. คนก่ออิฐจะนำดินโคลนจากแม่น้ำไนล์ใส่ตะกร้าหนัง ไปยังสถานที่ก่อสร้างผสมกับฟางและกรวด, จากนั้นเทลงในแบบพิมพ์ไม้. อิฐจะแห้งเร็วภายใต้ดวงอาทิตย์ของคนอียิปต์. ต่างกับหินในสุสานและวิหาร, บ้านที่ทำด้วยอิฐดิน มิได้หมายความว่าจะคงทนปกป้องเจ้าของบ้านได้ตลอดเวลา. ถ้าคนสร้างบ้านต้องการสร้างบ้านหลังใหม่บนบ้านหลังหนึ่ง ที่พังไปแล้ว, เขาก็เพียงแต่หาน้ำมารดเศษดินเหนียว. ดินเหนียวมีระดับของความเหนียวที่ยึดเกาะ เท่ากับขนมพุดดิ้ง จะแข็งเมื่อได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์, ทำให้มีความแข็งแรงใช้ก่อสร้าง. แต่พอโดนน้ำก็ยุ่ย.
บ้านและส่วนที่ต่อเติมไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม. เมืองส่วนใหญ่ขยายตัวโดยไม่มีการวางแผนแต่อย่างใดและขยายออกไปเป็นที่อยู่อาศัยที่ยุ่งเหยิงแออัด. แม้แต่เมืองที่มีการวางแผนก่อนสร้าง เช่น Deir el-Medina ,ที่อยู่ ข้ามแม่น้ำไนล์ ถัดจากเมืองThebe เมืองนี้ใช้เป็นที่อยู่ของช่างก่อสร้างและครอบครัวของช่างก่อสร้าง ในช่วงศต.ที่ ๑๓ ก่อนคศ, พอเวลาผ่านไป เมืองเริ่มไม่เป็นระเบียบ. พอมีบ้านสักหลัง เมื่อสมาชิกครอบครัวเพิ่มขึ้น พวกเขาจะอัดอยู่กันในบ้านนั้น เท่าที่จะทำได้และแบ่งสรรปันส่วนบริเวณภายในให้เหมาะสมกับความต้องการส่วนตัว.
การจัดสรรบริเวณภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นคนจน คนรวยจะเหมือนกัน- ที่จริง, ไม่เพียงคนจนและคนรวย ที่เหมือนกัน, คนตายและคนเป็นก็เหมือนกันด้วย, รวมไปถึงการจัดสรรแบ่งส่วนในบริเวณวิหารและหลุมฝังศพด้วย.ถ้าคุณมีโอกาสไปเยี่ยมชมบ้านของคนงานทั่วไปสักหลัง, คุณต้องดึงม่านผ้าเนื้อหยาบแบนๆ ที่ปิดทางเข้าประตูก่อน, ซึ่งปิดไว้เพื่อกันฝุ่นและแมลงวัน. และเข้าสู่โถงบริเวณทางเข้า. คุณอาจพบกับแกะและลาก่อน, ที่จะหยุดเคี้ยวเอื้องตุ่ยๆ เพื่อดูคุณตอนผ่านเข้าไป หรือมิฉะนั้น ตัวหมัดที่ตัวคุณจะถือโอกาสนี้ กระโดดจากตัวของคุณไปที่สัตว์.
ในสถานที่ที่อากาศร้อน,เห็บเหาในสภาพแวดล้อมบริเวณทะเลทราย เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นความจริงของชีวิต. แม้คนอียิปต์จะโกนขนตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อไม่ให้เห็บ เหา ใช้เป็นที่หลบซ่อน. พวกมันสร้างปัญหาอยู่เสมอ.เวลานอนก็ยากลำบาก ที่จะไม่ให้มีเห็บคอยกัด.
หุบเขา Deir-el-Medina เป็นที่อยู่ของศิลปิน,อาลักษณ์ ,และนักตัดหิน,และช่างฝีมืออื่น ขณะที่พวกเขาสร้างหลุมฝังศพในหุบเขากษัตริย์
...................................................................................................
มีคำแนะนำ ใน Ebers Papyrus ที่บอกใบ้ ไม่ต้องเกาเวลาคัน หรือถ้าต้องเกาก็เกาในระดับต่ำสุดและบอกวิธีการขับไล่ไม่ให้แมลงเข้ามารบกวน.
"วิธีขับไล่เห็บในบ้าน : ให้พ่นน้ำไปให้ทั่วๆบ้าน. เพื่อไม่ไห้หนูเข้ามา: เลี้ยงแมวไว้ในบ้าน เพื่อไล่หนู. เพื่อป้องกันงูออกมาจากรู... นำหัวหอมหนึ่งมัดวางที่ปากรูและงูจะไม่ออกมา...”
หมู่บ้าน Deir el-Medina เป็นสถานที่ คนก่อสร้างหลุมฝังศพได้รับค่าจ้างงาม ทำเงินดีมาก. บ้านหลายหลังมีประตูไม้จริงๆ กรอบประตูแกะสลักจากหินปูน, ส่วนใหญ่จารึกชื่อของเจ้าของบ้าน. คนอาศัยจะทาสีประตูของพวกเขาเป็นสีแดงเพื่อขับไล่ปีศาจชั่วร้าย. พอพ้นทางเข้าบ้าน คุณจะพบกับห้องรับแขก. คนอียิปต์มีเฟอร์นิเจอร์น้อยมาก. คุณอาจต้องนั่งบนเสื่อหรืออาจจะเป็นเก้าอี้เล็กๆ มีขาไม่มีพนักพิง. บ้านคนรวยมากๆ จะมีพนักพิง. เจ้าของบ้าน จะวางรูปเคารพไว้ในช่องเว้าของผนัง, นอกจากนั้นจะเป็นของกระจุกกระจิกที่ครอบครัวชอบสะสม.
ที่ Deir el-Medina บ้านหลังหนึ่ง, เจ้าของบ้านต้องจากบ้านไปสักระยะหนึ่ง เขาเป็นห่วงของมีค่า ที่บ้าน, จึงทำรายการสิ่งของ ไว้อย่างรอบคอบ และหาคนนั่งเฝ้าสิ่งของ เวลาที่เจ้าของบ้านไม่อยู่บ้าน. จดหมายหลายฉบับทำให้เรารู้ว่าบ้านที่ Deir el-Medina มีสิ่งของอะไรบ้าง.
รายการสิ่งของที่ฉันทิ้งไว้ ตอนฉันไม่อยู่ในหมู่บ้าน มีดังนี้:
(มีภาษาอียิปต์หลายคำที่แปลเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ผู้เขียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก แปลความหมายเป็นภาษาอังกฤษต่อไม่ได้ จขกท. ก็แปลไม่ได้ จะใส่วงเล็บไว้ข้างหลัง)
-ข้าวบาร์เลย์สามกระสอบ
-ม้านั่ง ๒ ตัว
-ข้าวสาลี หนึ่งกระสอบครึ่ง
-หอม ๒๖ มัด
- ม้านั่งไม้ พับเก็บได้ ๒ ตัว
-เตียง ๒ เตียง
-กล่องsheqer (ผู้เขียนแปลไม่ได้ว่าคืออะไร)
-เกลือโซเดียม ๑๒ ก้อน
- ซุง ๒ ท่อน
-เก้าอี้ยาวสำหรับผู้ชาย ๒ ตัว
-ประตูหนึ่งบาน
-ม้านั่งพับได้ ๒ ตัว
-ไม้แปรรูปแล้ว ๒ sterti (ผู้เขียนแปลไม่ได้ว่าคืออะไร)
-กล่องpedes(ผู้เขียนแปลไม่ได้ ว่าคืออะไร) ๑ ชิ้น
- 2 hetep(ผู้เขียนแปลไม่ได้ ว่าคืออะไร) container
-กล่องtjay (ผู้เขียนแปลไม่ได้ว่าคืออะไร) ฝังเลี่ยม ๑ ใบ
-1small hetep(ผู้เขียนแปลไม่ได้ว่าคืออะไร)-container
-har(ผู้เขียนแปลไม่ได้ ว่าคืออะไร)
-ไห ๑ ใบ
-ครกบด ๒ ชิ้น
-๒ medjay (ผู้เขียนแปลไม่ได้ว่าคืออะไร)
-1 gatit(ผู้เขียนแปลไม่ได้ว่าคืออะไร)-box
...ขอให้พระเจ้าสถิตอยู่ในบ้านของฉัน เพื่อที่คุณจะได้ดูแลมันได้.