หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 4
4. ระดับความต้องการความสำเร็จของผู้ทำธุรกิจ
ระดับความต้องการความสำเร็จของผู้ทำธุรกิจแต่ละคนมีมากน้อยแตกต่างกันไป บางคนมีเป้าหมายและความฝันที่ยิ่งใหญ่ "ต้องการบ้าน รถยนต์ ที่ดิน ตำแหน่งหน้าที่ หรืออื่นๆ อีกมากมาย" แต่สำหรับบางคนอาจจะต้องการรายได้เพียงแค่ 50,000 - 100,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น" แม่ทีม (upline) จะต้องเข้าใจความต้องการของลูกทีม (downline) ในเบื้องต้นก่อนว่า ลูกทีมมีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน และพยายามผลักดันให้ลูกทีมประสบความสำเร็จตรงจุดนั้นเสียก่อน ก่อนที่จะเริ่มฝันก้าวใหม่ต่อไป
เพราะนี้คือหลุมพรางที่สำคัญที่ทำให้แม่ทีม (upline) ต้องสูญเสียลูกทีม (downline) ดีๆ ไปหลายต่อครั้งหลังจากที่เริ่มสร้างเครือข่ายองค์กรผู้ทำธุรกิจของตัวเองขึ้นมา แม่ทีมที่ดีต้องเข้าใจความต้องการของลูกทีมว่า ลูกทีม เข้ามาทำธุรกิจนี้ เขาหวังอยากจะได้อะไรจากธุรกิจที่เขาได้อุตสาห์ลุงทุนลงแรงเข้ามาทำ
ซึ่งในระยะเริ่มแรกหากลูกทีมมีเป้าหมายหรือความฝันแค่ไหน ก็ควรทำให้ฝันของเขาเป็นจริงแค่นั้นก่อน ไม่ควรที่จะสร้างภาพฝันที่ทำให้ลูกทีมรู้สึกว่ากำลังทำในสิ่งที่เกินกำลัง เกินความต้องการของเขาตั้งแต่ทีแรก เพราะจะทำให้ลูกทีมเริ่มไม่อยากทำธุรกิจร่วมด้วย ยิ่งแม่ทีมกดดันลูกทีมมากเท่าไร โอกาสที่ลูกทีมจะเลิกทำธุรกิจยิ่งมีมากเท่านั้น แรกๆ ลูกทีมยังอาจจะยอมเชื่อฟังและทำตามที่แม่ทีมแนะนำ แต่เมื่อถึงจุดที่ลูกทีมรู้สึกว่าเริ่มทำไม่ไหว เริ่มไม่ชอบ เริ่มไม่มีความสุขกับการทำธุรกิจแล้ว เมื่อนั้นลูกทีมก็พร้อมที่จะโบยบินหนีหายไปจากแม่ทีมทันที
ในความจริงแม่ทีมไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อนที่จะสร้างฝันอันยิ่งใหญ่ให้ลูกทีมแต่อย่างใด แต่ควรจะทำให้เป้าหมายและความฝันของลูกทีมสำเร็จตามที่ลูกทีมต้องการเสียก่อน เมื่อลูกทีมได้ถึงฝั่งฝันของเขาแล้ว ก็ค่อยๆ เติมความฝันอันใหม่เข้าไปใหม่ จะทำให้ลูกทีมเข้าใจและมีแรงจูงใจในการทำธุรกิจมากขึ้น อีกทั้งผลลัพธ์ที่ผ่านมาย่อมทำให้ลูกทีมมีความเชื่อมั่นในตัวแม่ทีมว่าจะสามารถนำพาเขาไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ และลูกทีมจะมีความเต็มใจที่จะร่วมทำธุรกิจและทำฝันที่ยิ่งใหญ่ครั้งใหม่ต่อไปด้วยกัน
ผมมักพูดเสมอว่าผมชอบการสร้างเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคมากกว่าการสร้างเครือข่ายองค์กรผู้ทำธุรกิจก็จริง แต่โดยธรรมชาติของธุรกิจเครือข่ายแล้ว มักจะเกิดองค์กรธุรกิจ 2 องค์กรนี้ ควบคู่กันอยู่เสมออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั้นคือ
(1) เครือข่ายองค์กรผู้ทำธุรกิจ (คนที่ตั้งใจทำธุรกิจ)
(2) เครือข่ายองค์กรผู้บริโภค (คนที่ตั้งใจเป็นผู้บริโภคอย่างเดียวแต่ในบางครั้งก็แปรสภาพมาเป็นผู้ทำธุรกิจด้วยเมื่อถึงเวลาและจังหวะที่เหมาะสม)
ผมเชื่อว่าการสร้างเครือข่ายองค์กรผู้ทำธุรกิจ หากจะให้ประสบความสำเร็จและเกิดความยั่งยืน จะต้องเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและมีการเจริญเติบโตอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป ร่วมทั้งต้องเลือกเฟ้นสรรหาลูกทีมที่มองดูแล้วว่ามีศักยภาพ มีความคิดเห็น และเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกัน และค่อยๆ ทำการฝึกฝนให้ลูกทีมเข้าใจธรรรมชาติของธุรกิจเครือข่ายอย่างละเอียดทีละนิด จนลูกทีมเริ่มเข้าใจกระบวนการของธุรกิจเครือข่าย เริ่มมีทักษะในการขายสินค้า เข้าใจในตัวสินค้าของบริษัท มีทักษะในการเปิดใจผู้คนหรือผู้มุ่งหวังให้เข้ามาเลือกใช้สินค้า ตลอดจนคอยแนะนำจุดบกพร่องต่างๆ ของลูกทีม เพื่อให้ลูกทีมสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาสร้างเครือข่ายองค์กรผู้ทำธุรกิจของตัวเองขึ้นมาอย่างเป็นระบบได้ สิ่งเหล่านี้ผมเชื่อว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เครือข่ายองค์กรทั้ง 2 รูปแบบ เกิดขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติและอยู่อย่างยั่งยืน ผมเชื่อว่าทีมงานที่อยู่มีจำนวนน้อย และค่อยๆ ทะยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างเป็นระบบ ย่อมจะมีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และจะประสบความสำเร็จมากกว่าการที่มีทีมงานมากๆ แต่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายดีพอจนไม่สามารถดูแลองค์กรของตัวเองที่เกิดขึ้นมาได้
ในสายตาผมธุรกิจที่เจริญเติบโตและมีความก้าวหน้าที่ดี ควรจะมีพัฒนาการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังคำคมที่ว่า "กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว" ทุกอย่างควรที่ขั้นมีตอนที่ถูกต้อง เป็นไปอย่างมีระบบ ผมมักจะกังวลทุกครั้งเมื่อพบว่าธุรกิจใดมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วที่ผิดปกติ หากมองในแง่ดีแสดงว่าผู้บริหารมีความเก่งกาจมีประสิทธิภาพ แต่หากมองในแง่ร้ายผู้บริหารกำลังหมกเม็ดสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นภายในองค์กรอยู่หรือเปล่า ซึ่งทุกอย่างคงต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เท่านั้น
http://ppantip.com/topic/32227419 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 1
http://ppantip.com/topic/32231812 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 2
http://ppantip.com/topic/32244405 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 3
http://ppantip.com/topic/32258326 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 6 (ตอนจบ)
หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 4
4. ระดับความต้องการความสำเร็จของผู้ทำธุรกิจ
ระดับความต้องการความสำเร็จของผู้ทำธุรกิจแต่ละคนมีมากน้อยแตกต่างกันไป บางคนมีเป้าหมายและความฝันที่ยิ่งใหญ่ "ต้องการบ้าน รถยนต์ ที่ดิน ตำแหน่งหน้าที่ หรืออื่นๆ อีกมากมาย" แต่สำหรับบางคนอาจจะต้องการรายได้เพียงแค่ 50,000 - 100,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น" แม่ทีม (upline) จะต้องเข้าใจความต้องการของลูกทีม (downline) ในเบื้องต้นก่อนว่า ลูกทีมมีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน และพยายามผลักดันให้ลูกทีมประสบความสำเร็จตรงจุดนั้นเสียก่อน ก่อนที่จะเริ่มฝันก้าวใหม่ต่อไป
เพราะนี้คือหลุมพรางที่สำคัญที่ทำให้แม่ทีม (upline) ต้องสูญเสียลูกทีม (downline) ดีๆ ไปหลายต่อครั้งหลังจากที่เริ่มสร้างเครือข่ายองค์กรผู้ทำธุรกิจของตัวเองขึ้นมา แม่ทีมที่ดีต้องเข้าใจความต้องการของลูกทีมว่า ลูกทีม เข้ามาทำธุรกิจนี้ เขาหวังอยากจะได้อะไรจากธุรกิจที่เขาได้อุตสาห์ลุงทุนลงแรงเข้ามาทำ
ซึ่งในระยะเริ่มแรกหากลูกทีมมีเป้าหมายหรือความฝันแค่ไหน ก็ควรทำให้ฝันของเขาเป็นจริงแค่นั้นก่อน ไม่ควรที่จะสร้างภาพฝันที่ทำให้ลูกทีมรู้สึกว่ากำลังทำในสิ่งที่เกินกำลัง เกินความต้องการของเขาตั้งแต่ทีแรก เพราะจะทำให้ลูกทีมเริ่มไม่อยากทำธุรกิจร่วมด้วย ยิ่งแม่ทีมกดดันลูกทีมมากเท่าไร โอกาสที่ลูกทีมจะเลิกทำธุรกิจยิ่งมีมากเท่านั้น แรกๆ ลูกทีมยังอาจจะยอมเชื่อฟังและทำตามที่แม่ทีมแนะนำ แต่เมื่อถึงจุดที่ลูกทีมรู้สึกว่าเริ่มทำไม่ไหว เริ่มไม่ชอบ เริ่มไม่มีความสุขกับการทำธุรกิจแล้ว เมื่อนั้นลูกทีมก็พร้อมที่จะโบยบินหนีหายไปจากแม่ทีมทันที
ในความจริงแม่ทีมไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อนที่จะสร้างฝันอันยิ่งใหญ่ให้ลูกทีมแต่อย่างใด แต่ควรจะทำให้เป้าหมายและความฝันของลูกทีมสำเร็จตามที่ลูกทีมต้องการเสียก่อน เมื่อลูกทีมได้ถึงฝั่งฝันของเขาแล้ว ก็ค่อยๆ เติมความฝันอันใหม่เข้าไปใหม่ จะทำให้ลูกทีมเข้าใจและมีแรงจูงใจในการทำธุรกิจมากขึ้น อีกทั้งผลลัพธ์ที่ผ่านมาย่อมทำให้ลูกทีมมีความเชื่อมั่นในตัวแม่ทีมว่าจะสามารถนำพาเขาไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ และลูกทีมจะมีความเต็มใจที่จะร่วมทำธุรกิจและทำฝันที่ยิ่งใหญ่ครั้งใหม่ต่อไปด้วยกัน
ผมมักพูดเสมอว่าผมชอบการสร้างเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคมากกว่าการสร้างเครือข่ายองค์กรผู้ทำธุรกิจก็จริง แต่โดยธรรมชาติของธุรกิจเครือข่ายแล้ว มักจะเกิดองค์กรธุรกิจ 2 องค์กรนี้ ควบคู่กันอยู่เสมออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั้นคือ
(1) เครือข่ายองค์กรผู้ทำธุรกิจ (คนที่ตั้งใจทำธุรกิจ)
(2) เครือข่ายองค์กรผู้บริโภค (คนที่ตั้งใจเป็นผู้บริโภคอย่างเดียวแต่ในบางครั้งก็แปรสภาพมาเป็นผู้ทำธุรกิจด้วยเมื่อถึงเวลาและจังหวะที่เหมาะสม)
ผมเชื่อว่าการสร้างเครือข่ายองค์กรผู้ทำธุรกิจ หากจะให้ประสบความสำเร็จและเกิดความยั่งยืน จะต้องเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและมีการเจริญเติบโตอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป ร่วมทั้งต้องเลือกเฟ้นสรรหาลูกทีมที่มองดูแล้วว่ามีศักยภาพ มีความคิดเห็น และเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกัน และค่อยๆ ทำการฝึกฝนให้ลูกทีมเข้าใจธรรรมชาติของธุรกิจเครือข่ายอย่างละเอียดทีละนิด จนลูกทีมเริ่มเข้าใจกระบวนการของธุรกิจเครือข่าย เริ่มมีทักษะในการขายสินค้า เข้าใจในตัวสินค้าของบริษัท มีทักษะในการเปิดใจผู้คนหรือผู้มุ่งหวังให้เข้ามาเลือกใช้สินค้า ตลอดจนคอยแนะนำจุดบกพร่องต่างๆ ของลูกทีม เพื่อให้ลูกทีมสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาสร้างเครือข่ายองค์กรผู้ทำธุรกิจของตัวเองขึ้นมาอย่างเป็นระบบได้ สิ่งเหล่านี้ผมเชื่อว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เครือข่ายองค์กรทั้ง 2 รูปแบบ เกิดขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติและอยู่อย่างยั่งยืน ผมเชื่อว่าทีมงานที่อยู่มีจำนวนน้อย และค่อยๆ ทะยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างเป็นระบบ ย่อมจะมีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และจะประสบความสำเร็จมากกว่าการที่มีทีมงานมากๆ แต่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายดีพอจนไม่สามารถดูแลองค์กรของตัวเองที่เกิดขึ้นมาได้
ในสายตาผมธุรกิจที่เจริญเติบโตและมีความก้าวหน้าที่ดี ควรจะมีพัฒนาการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังคำคมที่ว่า "กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว" ทุกอย่างควรที่ขั้นมีตอนที่ถูกต้อง เป็นไปอย่างมีระบบ ผมมักจะกังวลทุกครั้งเมื่อพบว่าธุรกิจใดมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วที่ผิดปกติ หากมองในแง่ดีแสดงว่าผู้บริหารมีความเก่งกาจมีประสิทธิภาพ แต่หากมองในแง่ร้ายผู้บริหารกำลังหมกเม็ดสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นภายในองค์กรอยู่หรือเปล่า ซึ่งทุกอย่างคงต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เท่านั้น
http://ppantip.com/topic/32227419 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 1
http://ppantip.com/topic/32231812 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 2
http://ppantip.com/topic/32244405 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 3
http://ppantip.com/topic/32258326 หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 6 (ตอนจบ)