คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 39
ย้อนอ่านเล่นๆเลยแวะมาเล่าด้วยคนค่ะ เผื่อเป็นข้อมูลได้
คุณพ่อคุณแม่ดิฉันทำธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าแถวมหาวิทยาลัย 109 ห้องค่ะ ห้องละ 4000 บาท/เดือน คนพัก 80%ต่อปี
และทำอีกธุรกิจคือ ค้าขาย เป็นขายส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปค่ะ มีอาคารพาณิชย์อีก 4 คูหาค่ะ อยู่กลางเมืองใหญ่ในภาคอิสาน
เงินเก็บที่มี ยากที่จะอธิบาย เพราะตอนนี้เป็นหนี้ธนาคารในประเภทธุรกิจขนาดใหญ่ จึงไม่ได้มีเงินเก็บเป็นก้อนเพราะส่วนใหญ่เป็นเงินหมุน
ในอนาคตดิฉันก็คิดว่า อาจจะเป็นหนี้เพิ่มขึ้นอีกไปเรื่อยๆ เพราะดิฉันเองก็อยากทำธุรกิจให้ได้อย่างพ่อแม่ ซึ่งพวกนี้พลาดทีเดียวก็จบได้
แม้ว่าจะไม่ใช่เด็กวัยรุ่นอย่างที่ จขกท. สงสัย แต่ก็เพิ่งจบมหาวิทยาลัย จึงพอจะเข้าข่ายเรื่องอายุ
แต่ในส่วนเรื่องการใช้จ่าย ไม่เข้าข่ายเลยค่ะ เพราะจะมีไลฟ์สไตล์ดังนี้
1. ในชีวิตที่เกิดมายังไม่เคยซื้อไอโฟนหรือสมาร์ทโฟนไฮเอ็น ตอนนี้ใช้ Lenevo A390 ที่พี่ชายเบื่อแล้วยกให้(พี่ชายซื้อLumiaมือสอง)
2. กางเกงยีนส์ยี่ห้อแม็กหรือลีหรือของทั่วไปในโรบินสัน เสื้อผ้าก็ทั่วๆไปที่มีขายตามห้างแหละ
3. กระเป๋าเดินซื้อตามตลาดและมักซื้อกระเป๋าผู้ชาย ไม่ใช่ของแบรนด์หรูนะ เป็นพวก Dapper ELLE
4. รองเท้าเน้นนุ่มเบาสบายใส่ตามกาลเทศะ
5. ไม่มีรถยนต์ขับเป็นของตัวเอง
ในขณะที่เพื่อนดิฉัน (หลายคนเลย) มักมีพ่อแม่ประกอบอาชีพข้าราชการ เช่น เป็นครู (แต่ลูกมักบอกว่าเป็นผอ.) หรือ
ทำงานรัฐวิสาหกิจ หรือพวกสาธรณสุข หรือทำงานธนาคาร ...ดิฉันก็สงสัยมากๆๆๆว่า พวกอาชีพเหล่านี้มีเงินมากแค่ไหน
เพราะลูกๆของเขา ซึ่งก็เพื่อนของดิฉันมักจะใช้ชีวิตมหาวิทยาลัยที่เป็นคอนเซ็ปคล้ายๆกัน ดังนี้
1. กางเกงยีนส์นู๊ดดี้ตัวละหมื่นและอีกหลายแบรนด์ทั้งหญิงและชาย ดิฉันไม่ค่อยรู้จักหรอก
2. กระเป๋าเนี่ย ถ้าถือ coach จะโดนดูถูกว่าเป็นพวกบ้านจนแต่อยากรวย พวกวัลนาบี ต้องถือพวกแบรนด์แอร์เมส หลุยส์ และอื่นๆ
3. รองเท้าผู้หญิง ยี่ห้อนึง อ่านยาก จำไม่ได้ล่ะ ชื่อประมาณ 4-5 พยางค์นี้ล่ะ ใส่แล้วบินได้ล่ะมั้ง รองเท้าแตะก็ต้องฟลิบฟลอบ ครอค
4. แว่นตาต้องเรแบนด์ และพร็อบอื่นๆอีกที่ดิฉันยากแก่การจดจำ พวกกระเป๋าตังค์ เคสมือถือยังสำคัญเลยค่ะ
5. ขับรถยนต์ ขั้นต่ำก็อีโคคาร์ วีออส ไปจนถึง มินิ บีเอ็ม
6. อยากไปเรียนต่อเมืองนอก เมื่อจบป.ตรี มักไปเรียนต่อ MBA หรือไม่ก็ออสเตรเลียปรับภาษา หากไปทำงานก็ไม่เกิน 1 ปีลาออกค่ะ
7. ถ้าเป็นผู้หญิง มักจู่ๆก็จะอยากเป็นแอร์ ถ้าเป็นผู้ชายก็จะไปลองสอบนักบิน
8. (ข้อนี้ คหสต.) มักไม่ประสบความสำเร็จด้านความรัก คบใครไม่นาน บางทีคบเพื่อเงิน คบเพื่อหลอกฟัน และมักเป็นโสดไปจน30+
ดิฉันจึงสรุปได้ว่า เด็กวัยรุ่นบางคนที่ทำตัวรวยน่ะค่ะ คุณไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทำยังไงถึงจะได้ใช้เงินแบบเค้า
หรือทำอย่างไรจะได้มีเงินแบบพ่อแม่เค้าให้ลูกคุณได้ใช้บ้าง ดิฉันว่าชีวิตคนพวกนี้น่าสงสารนะ
ยึดติดกับคุณค่าของวัตถุ อาจจะเป็นปมด้อยในชีวิต เพราะชีวิตจริงเค้าไม่มีเงินไงคะ แต่ก็ทำตัวเหมือนว่ามี
เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ ให้คนอื่นอิจฉา แต่ตัวเองยอมที่จะอดหลายๆอย่าง(เช่นอาหารที่มีประโยชน์หรือการลงทุนทางความรู้และจิตใจ)
เพื่อที่จะได้ไปเติมเต็มในสิ่งของภายนอกแทน แต่อย่างว่า ความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน
ตราบใดที่เค้าไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อนมันก็ใช่ ...........................(เช่น มายืมเงินดิฉัน เหอะๆๆ)
แต่ทำไมเกียรติและศักดิ์ศรีในตัวเองกลับไม่มี เช่น กล้าไปยืมเงินคนอื่น กล้าเป็นหนี้(หนี้เสีย) กล้าสิ่งที่ไม่ควรกล้าแต่อายสิ่งที่ไม่ควรอาย
ปล. เด็กที่รวยจริงๆก็มี เช่น ดิฉันมีรุ่นน้องผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งตัวธรรมดา เด็กเนิร์ด กินข้าวข้างทาง ไม่ซื้อหนังสือบางเล่มแต่ยืมเพื่อนถ่ายเอกสาร ซื้อเค้กวันเกิดให้เพื่อนก็แชร์กันปกติ คือทำตัวเรียบๆปกตินี่แหละค่ะ แต่พ่อเป็นเข้าของโรงน้ำตาลขนาดใหญ่ (เงินหมุนหลายร้อยล้าน) ขับรถเบนซ์เปิดประทุนมาเรียนค่ะ แต่ชอบพูดเล่นๆกับเพื่อนว่า ไม่มีเงินเติมน้ำมัน ว่าจะเอาไปติดแก๊สล่ะ...... สรุปคือ คนรวยจริง แต่ก็ไม่อวดค่ะ ใช้ชีวิตแฮปปี้มีเพื่อนปกติค่ะ
คุณพ่อคุณแม่ดิฉันทำธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าแถวมหาวิทยาลัย 109 ห้องค่ะ ห้องละ 4000 บาท/เดือน คนพัก 80%ต่อปี
และทำอีกธุรกิจคือ ค้าขาย เป็นขายส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปค่ะ มีอาคารพาณิชย์อีก 4 คูหาค่ะ อยู่กลางเมืองใหญ่ในภาคอิสาน
เงินเก็บที่มี ยากที่จะอธิบาย เพราะตอนนี้เป็นหนี้ธนาคารในประเภทธุรกิจขนาดใหญ่ จึงไม่ได้มีเงินเก็บเป็นก้อนเพราะส่วนใหญ่เป็นเงินหมุน
ในอนาคตดิฉันก็คิดว่า อาจจะเป็นหนี้เพิ่มขึ้นอีกไปเรื่อยๆ เพราะดิฉันเองก็อยากทำธุรกิจให้ได้อย่างพ่อแม่ ซึ่งพวกนี้พลาดทีเดียวก็จบได้
แม้ว่าจะไม่ใช่เด็กวัยรุ่นอย่างที่ จขกท. สงสัย แต่ก็เพิ่งจบมหาวิทยาลัย จึงพอจะเข้าข่ายเรื่องอายุ
แต่ในส่วนเรื่องการใช้จ่าย ไม่เข้าข่ายเลยค่ะ เพราะจะมีไลฟ์สไตล์ดังนี้
1. ในชีวิตที่เกิดมายังไม่เคยซื้อไอโฟนหรือสมาร์ทโฟนไฮเอ็น ตอนนี้ใช้ Lenevo A390 ที่พี่ชายเบื่อแล้วยกให้(พี่ชายซื้อLumiaมือสอง)
2. กางเกงยีนส์ยี่ห้อแม็กหรือลีหรือของทั่วไปในโรบินสัน เสื้อผ้าก็ทั่วๆไปที่มีขายตามห้างแหละ
3. กระเป๋าเดินซื้อตามตลาดและมักซื้อกระเป๋าผู้ชาย ไม่ใช่ของแบรนด์หรูนะ เป็นพวก Dapper ELLE
4. รองเท้าเน้นนุ่มเบาสบายใส่ตามกาลเทศะ
5. ไม่มีรถยนต์ขับเป็นของตัวเอง
ในขณะที่เพื่อนดิฉัน (หลายคนเลย) มักมีพ่อแม่ประกอบอาชีพข้าราชการ เช่น เป็นครู (แต่ลูกมักบอกว่าเป็นผอ.) หรือ
ทำงานรัฐวิสาหกิจ หรือพวกสาธรณสุข หรือทำงานธนาคาร ...ดิฉันก็สงสัยมากๆๆๆว่า พวกอาชีพเหล่านี้มีเงินมากแค่ไหน
เพราะลูกๆของเขา ซึ่งก็เพื่อนของดิฉันมักจะใช้ชีวิตมหาวิทยาลัยที่เป็นคอนเซ็ปคล้ายๆกัน ดังนี้
1. กางเกงยีนส์นู๊ดดี้ตัวละหมื่นและอีกหลายแบรนด์ทั้งหญิงและชาย ดิฉันไม่ค่อยรู้จักหรอก
2. กระเป๋าเนี่ย ถ้าถือ coach จะโดนดูถูกว่าเป็นพวกบ้านจนแต่อยากรวย พวกวัลนาบี ต้องถือพวกแบรนด์แอร์เมส หลุยส์ และอื่นๆ
3. รองเท้าผู้หญิง ยี่ห้อนึง อ่านยาก จำไม่ได้ล่ะ ชื่อประมาณ 4-5 พยางค์นี้ล่ะ ใส่แล้วบินได้ล่ะมั้ง รองเท้าแตะก็ต้องฟลิบฟลอบ ครอค
4. แว่นตาต้องเรแบนด์ และพร็อบอื่นๆอีกที่ดิฉันยากแก่การจดจำ พวกกระเป๋าตังค์ เคสมือถือยังสำคัญเลยค่ะ
5. ขับรถยนต์ ขั้นต่ำก็อีโคคาร์ วีออส ไปจนถึง มินิ บีเอ็ม
6. อยากไปเรียนต่อเมืองนอก เมื่อจบป.ตรี มักไปเรียนต่อ MBA หรือไม่ก็ออสเตรเลียปรับภาษา หากไปทำงานก็ไม่เกิน 1 ปีลาออกค่ะ
7. ถ้าเป็นผู้หญิง มักจู่ๆก็จะอยากเป็นแอร์ ถ้าเป็นผู้ชายก็จะไปลองสอบนักบิน
8. (ข้อนี้ คหสต.) มักไม่ประสบความสำเร็จด้านความรัก คบใครไม่นาน บางทีคบเพื่อเงิน คบเพื่อหลอกฟัน และมักเป็นโสดไปจน30+
ดิฉันจึงสรุปได้ว่า เด็กวัยรุ่นบางคนที่ทำตัวรวยน่ะค่ะ คุณไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทำยังไงถึงจะได้ใช้เงินแบบเค้า
หรือทำอย่างไรจะได้มีเงินแบบพ่อแม่เค้าให้ลูกคุณได้ใช้บ้าง ดิฉันว่าชีวิตคนพวกนี้น่าสงสารนะ
ยึดติดกับคุณค่าของวัตถุ อาจจะเป็นปมด้อยในชีวิต เพราะชีวิตจริงเค้าไม่มีเงินไงคะ แต่ก็ทำตัวเหมือนว่ามี
เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ ให้คนอื่นอิจฉา แต่ตัวเองยอมที่จะอดหลายๆอย่าง(เช่นอาหารที่มีประโยชน์หรือการลงทุนทางความรู้และจิตใจ)
เพื่อที่จะได้ไปเติมเต็มในสิ่งของภายนอกแทน แต่อย่างว่า ความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน
ตราบใดที่เค้าไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อนมันก็ใช่ ...........................(เช่น มายืมเงินดิฉัน เหอะๆๆ)
แต่ทำไมเกียรติและศักดิ์ศรีในตัวเองกลับไม่มี เช่น กล้าไปยืมเงินคนอื่น กล้าเป็นหนี้(หนี้เสีย) กล้าสิ่งที่ไม่ควรกล้าแต่อายสิ่งที่ไม่ควรอาย
ปล. เด็กที่รวยจริงๆก็มี เช่น ดิฉันมีรุ่นน้องผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งตัวธรรมดา เด็กเนิร์ด กินข้าวข้างทาง ไม่ซื้อหนังสือบางเล่มแต่ยืมเพื่อนถ่ายเอกสาร ซื้อเค้กวันเกิดให้เพื่อนก็แชร์กันปกติ คือทำตัวเรียบๆปกตินี่แหละค่ะ แต่พ่อเป็นเข้าของโรงน้ำตาลขนาดใหญ่ (เงินหมุนหลายร้อยล้าน) ขับรถเบนซ์เปิดประทุนมาเรียนค่ะ แต่ชอบพูดเล่นๆกับเพื่อนว่า ไม่มีเงินเติมน้ำมัน ว่าจะเอาไปติดแก๊สล่ะ...... สรุปคือ คนรวยจริง แต่ก็ไม่อวดค่ะ ใช้ชีวิตแฮปปี้มีเพื่อนปกติค่ะ
แสดงความคิดเห็น
แปลกใจมั้ยทำไมเด็กสมัยนี้ใช้เงินมากและทำไมมีจำนวนเยอะขึ้น ครอบครัวเค้าต้องได้รายได้เท่าไหร่ทำงานอะไรกันบ้าง ??
คือเหตุการณ์นี้เป็นปริศนาที่อัดอั้นตันใจผมมานานแล้ว เนื่องจากช่วงสมัย 2-3 ปีมานี้ผมรู้สึกว่าวัยรุ่นสมัยนี้ใช้เงินกันเปลืองอย่างมากมาย แถมยังมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆด้วย (หรือผมคิดไปคนเดียว)
คือตัวอย่างที่ผมเห็นคือ เด็กสมัยนี้เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็ราคาแพงมากๆ บางคนใส่กางเกงตัวล่ะ 6-7 พัน หรือ หมื่นเลยก็มี แถมบางคนยังมีของแบบนั้นหลายชิ้นอีกต่างหาก ไหนจะกระเป๋า มือถืออะไรมากมายที่บางคนเปลี่ยนทุกปีทุกเดือนซึ่งผมต้องบอกว่าเปลี่ยนทุกปีทุกเดือนจริงๆ เพราะผมเห็นในเฟสบุค โซเซี่ยลต่างๆ มักอัพรูปว่าซื้อของมาใหม่ เสียตังอีกแล้ว ไส้แห้งอีกแล้วบราๆๆ แต่อ้าวเห้ยวันต่อมาอัพรูปเชกอินได้เที่ยวร้านเหล้า ไปกินบุฟเฟ่มื้อล่ะหลายร้อยเนี่ยนะ แล้วผมก็ต้องได้อึ้งอีกเนื่องจากหลังจากนั้นไม่นานไม่ถึงอาทิตย์คนพวกนั้นก็ได้ซื้อของมาใหม่อีกแล้วเป็นแบบนี้เป็นประจำ ราคาก็ไม่ใช่ถูกเลยๆ หลักหลายพัน แถมยังไม่พอเด็กสมัยนี้ยังมีรถยนต์ขับกันเป็นว่าเล่น บางคน ม ต้นก็ขับมาโรงเรียนไปเที่ยวไปไหนมาไหนแล้วมีทั้งอีโคคาร์หรือรถราคาหลักล้านกันเลยทีเดียว ผมอดสงสัยไม่ได้จริงว่าพ่อแม่พวกเขาทำงานอะไรกัน ถึงได้หาค่าใช้จ่ายมาให้ลูกตนเองได้ขนาดนี้บางครอบครัวมีลูกหลายคนด้วยซะอีก
ช่วยกันตอบได้มั้ยครับ เพื่อที่ผมจะได้หายสงสัยแล้ว ผมจะได้นำความรู้มาใช้เป็นแนวทางความสำเร็จในอนาคตด้วย ขอบคุณครับ