สหรัฐประกาศ บัญชีค้ามนุษย์ ไทย'แย่ลง'ติดกลุ่มล้มเหลวในการแก้ปัญหา

กระทู้ข่าว
มหามิตร “มะกัน” ถีบไทย ลดระดับเรื่องค้ามนุษย์เทียบชั้น “เกาหลีเหนือ-ซีเรีย” ชี้มีเหยื่อนับแสนจากเพื่อนบ้านถูกหลอกมาใช้แรงงานและค้าบริการทางเพศ พ่วงซัดทหารโยงใยโรฮิงญา “มาเลเซีย-เวเนซุเอลา” ก็ถูกหั่นอันดับด้วย กต.นัดแถลงโต้ทันควัน “มาร์ค” ชี้จะทำให้สัมพันธ์มีรอยร้าวเพิ่มขึ้น
เมื่อวันศุกร์ เวลาประมาณ 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แถลงถึงรายงานการปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศต่างๆ ประจำปี พ.ศ.2557 ที่จัดทำโดยสำนักงานประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ โดยในส่วนของประเทศไทยนั้น  ได้มีการปรับลดระดับการค้ามนุษย์ จากระดับ 2.5 ที่อยู่มาอย่างยาวนานถึง 4 ปี ไปอยู่เทียร์ 3 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุด พร้อมกับประเทศมาเลเซีย แกมเบีย และเวเนซุเอลาด้วย ซึ่งในระดับเทียร์ 3 เดิมนั้น ก็มีประเทศเกาหลีเหนือ ซิมบับเว ซีเรีย และแอฟริกากลาง ที่ถูกจัดอันดับอยู่แล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไทยซึ่งเสนอรายงาน 78 หน้ากระดาษ ชี้แจงต่อรัฐบาลสหรัฐเมื่อเดือนเมษายน เคยแสดงความมั่นใจว่าอันดับของไทยจะดีขึ้น แต่การลดอันดับครั้งนี้ อาจทำให้บริษัทข้ามชาติบางแห่งพิจารณาทบทวนการเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานที่มาจากการค้ามนุษย์ เช่น อุตสาหกรรมประมง ที่เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำแก่ไทยซึ่งเป็นผู้ส่งออกกุ้งรายใหญ่ที่สุดในโลก
โดยกรณีของไทย รายงานกล่าวว่า เหยื่อการค้ามนุษย์ส่วนใหญ่ในจำนวนนับแสน เป็นแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านที่ถูกบังคับ ขู่เข็ญ หลอกลวงให้ใช้แรงงานหรือขายบริการทางเพศ และมีอีกจำนวนมากถูกส่งเข้าอุตสาหกรรมประมง, สิ่งทอ และงานรับใช้ตามบ้าน โดยรายงานยังอ้างรายงานข่าวของสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเอารัดเอาเปรียบชาวมุสลิมโรฮิงญาที่หลบหนีออกจากพม่าหลายแสนคนเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีพลเรือนและเจ้าหน้าที่กองทัพเรือไทยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ด้วย
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้ระบุว่า จะแถลงท่าทีของไทยเกี่ยวกับผลรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ในวันที่ 21 มิ.ย. เวลา 10.30 น.
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้หลังจากนางคริสตี้ เอ.เคนนี่ย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยเข้าพบว่า ยังไม่ทราบว่าผลจะเป็นอย่างไร หากถูกลดอันดับลง ก็จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้เกี่ยวข้องพยายามแก้ไขกันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ล่าสุดมีการนำเสนอรายงานเกี่ยวกับปัญหาการใช้แรงงานในภาคประมงในยุโรปด้วย ทำให้มีความยากลำบากมากขึ้น ส่วนกรณีนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวหรือไม่นั้น คงต้องถาม คสช.
       “คสช.ก็มีภาระหนัก เพราะเมื่อมีการนำเสนอข้อมูลออกไปในต่างประเทศ การจัดระเบียบจึงหนีไม่พ้น หากถูกลดอันดับ ก็จะถูกลงโทษหรือตอบโต้ในแง่การค้าการลงทุน และอาจจะไม่จำกัดอยู่แค่ที่สหรัฐ เนื่องจากมีข่าวว่ายุโรปก็นำเสนอในเรื่องนี้ด้วย” นายอภิสิทธิ์กล่าว และว่า ได้แสดงความห่วงใยและฝากท่านทูตไปว่า หากมีการลดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์อีก อาจยิ่งเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ความสัมพันธ์มากขึ้นนอกเหนือจากสถานการณ์ทางการเมือง
ขณะเดียวกัน ม.ล.ปุณฑริก สมิติ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ได้เป็นประธานประชุมหารือแนวทางและแผนการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าที่ถูกระบุอยู่ในบัญชีรายชื่อสินค้าที่ถูกกระทรวงแรงงานสหรัฐกล่าวหาว่าผลิตโดยใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ โดยมีตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชน เข้าร่วมประชุมหารือ โดยเบื้องต้นหากสหรัฐลดอันดับไทย กระทรวงที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนจะออกแถลงการณ์ชี้แจง รวมทั้งจะดึงองค์กรพัฒนาเอกชนมาร่วมทำงานตรวจสอบและชี้แจงกับสื่อต่างประเทศ
สำหรับสินค้าไทยที่ถูกระบุมี 5 รายการ คือ ปลา-ผลิตจากแรงงานภาคบังคับ กุ้ง, เครื่องนุ่งห่ม-ผลิตจากแรงงานเด็กและแรงงานบังคับ อ้อย, สื่อลามก-ผลิตจากแรงงานเด็ก
นายทรงศักดิ์ สายเชื้อ อธิบดีกรมอเมริกาเหนือและแปซิฟิกใต้ กล่าวว่า สหรัฐจะประเมินสถานการณ์การค้ามนุษย์ของรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกกว่า 186 ประเทศ และจัดระดับ ซึ่งไทยถูกจัดให้อยู่ในระดับ 2.5 ที่ยังทำไม่ได้ตามมาตรฐานขั้นต่ำมา 4 ปีติดต่อกัน ทำให้ปีนี้ไทยอาจถูกยกระดับขึ้น หรือไม่ก็ถูกลดระดับลงโดยอัตโนมัติ
นายทรงศักดิ์กล่าวว่า หากไทยถูกลดระดับลงอยู่ระดับ 3 จะมีการระงับการช่วยเหลือบางด้าน อาทิ อาจไม่ให้งบประมาณสนับสนุนแก่ลูกจ้างของรัฐบาลในการเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและวัฒนธรรม รวมทั้งสหรัฐอาจคัดค้านความช่วยเหลือที่รัฐบาลประเทศดังกล่าวอาจได้รับจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ อาทิ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) นอกจากนี้อาจมีผลกระทบทางอ้อมได้ เช่น อาจถูกขยายผลโดยองค์กรเอกชน (เอ็นจีโอ) ที่จับตามองไทย และสื่อต่างประเทศอาจนำไปขยายผลได้ว่า ไทยยังมีปัญหาการค้ามนุษย์ เพื่อกดดันต่อผู้บริโภคและผู้ซื้อต่อไป ซึ่งถือเป็นผลด้านจิตวิทยาต่อตลาด โดยเฉพาะสินค้าประมงในอเมริกาและยุโรป แต่จะไม่มีมาตรการกีดกันทางการค้าอย่างที่หลายฝ่ายกังวล
“ไม่ว่าผลจะออกมาอยู่ในระดับใด ไทยจะมุ่งแก้ไขปัญหาตามแผนงานที่วางไว้ในอนาคต โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะเป็นแม่งานเดินหน้าแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างเข้มข้นต่อไป นอกจากนี้ จะมียุทธศาสตร์ด้านการสื่อสารกับสื่อต่างประเทศที่ยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน ให้เข้าใจแผนการดำเนินการและการแก้ไขปัญหาของไทยมากขึ้น” นายทรงศักดิ์กล่าว
   ส่วนนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็ง ยอมรับว่า หากสหรัฐปรับลดอันดับไทยจะมีผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาพลักษณ์ของสินค้าที่จะไม่สามารถทำการค้ากับหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐได้ จึงต้องมีการชี้แจงให้ผู้ซื้อสินค้าเข้าใจ ทุกฝ่ายต้องทำงานให้เข้มข้นมากขึ้น ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร และเชื่อว่าการที่ คสช.ตั้งคณะกรรมการนโยบายจัดการปัญหาต่างด้าวเพื่อแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวและค้ามนุษย์จะช่วยการทำงานทั้งสองเรื่องมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น.

http://www.thaipost.net/news/210614/92039

จริงแล้วไทยเราถูกจัดอันดับให้มีปัญหาเรื่องนี้มานานแล้วจะโทษ คสช ที่พึ่งเข้ามาได้เดือนเดียวก็คงไม่ได้แต่ก็เป็นปัญหาของท่านที่จะต้องแก้ไขแล้วล่ะตอนนี้ก็ต้องดูว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป

เม่าอ่านหนังสือพิมพ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่