สวัสดีครับ เนื่องจากผมเพิ่งได้มีโอกาสไปสอบ TOEIC มา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รอบบ่าย (14/6/57 13.00 น) แล้วตอนนี้คะแนนก็ออกแล้ว ผมจึงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ และแนะนำการเตรียมสอบให้ทุกคนฟังนะครับ
มาดูคะแนนของผมก่อนนะครับ
ครับ ผมได้คะแนนเต็ม^^
เรื่องที่ว่าผมเตรียมตัวยังไง อ่านหนังสืออะไรนี่จะขอยกไว้ในส่วนสุดท้ายนะครับ จากนี้ผมจะบอกเคล็ดลับสั้นๆในการทำข้อสอบให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
อ้อ แล้วผมก็เห็นกระทู้ข้างล่างก็เขียนเนื้อหาไว้ดีมากแล้ว (
http://ppantip.com/topic/32194045)
ดังนั้นผมจะขอเพิ่มเติมเฉพาะส่วนที่กระทู้นั้นไม่มี และเพิ่มเติมแบบย่อสั้นๆนะครับ
ช่วงก่อนสอบ (ข้อน่ารู้)
- หากจองรอบไหน เขาจะให้มาก่อนเวลาสอบ 1 ชั่วโมงนะครับ
- เข้าห้องสอบ 12.45 น สำหรับรอบบ่าย แต่ก่อนสอบจะมีแนะนำวิธีฝนคำตอบ และแนะนำลักษณะข้อสอง ซึ่งจะแนะนำเป็นภาษาไทยรองนึง แล้วก็อังกฤษอีกรอบ ใช้เวลาพอสมควรเลยครับ อย่างรอบผมสอบจริงก็ 13.28 น
- สำหรับคุณสุภาพสตรี แนะนำให้เข้าห้องน้ำก่อนขึ้นมาที่ชั้นสอบครับ ห้องน้ำดูเล็กมาก แล้วมีคนต่อคิวยาวตลอด
- ช่วงก่อนสอบผมเห็นหลายคนนั่งอ่านหนังสือติวเอาเป็นเอาตาย ไม่ต้องหรอกครับ นั่งพักดีกว่า ภาษาอังกฤษท่องเข้าไปไม่มีประโยชน์
- แต่!! อย่าทานกาแฟก่อนเข้านะครับ มันจะปวดฉี่มากกกกก
ช่วงสอบ
- part listening ข้อ 1-40 ตามกระทู้ก่อนเลยครับ
- ข้อ 41-100 ข้อสำคัญที่ผมจะแนะนำคือ อ่านโจทย์ก่อนที่บทสนทนาจะมาถึง เพราะบทสนทนานึงมันใช้ตอบถึง 3 คำถาม ถ้าฟังแล้วไปตอบจะมีแนวโน้มทำไม่ทันเยอะ ดังนั้นก่อนที่จะได้ยินเสียงพูด อ่านก่อนเลยครับ จับให้ได้ว่าเขาจะถามอะไรจะได้ฟังให้ตรง พอถึงส่วนที่ฟัง ถ้าระหว่างที่ฟังได้ยินคำตอบไหนที่ว่าใช่ชัวร์ก็กาคำตอบนั้นไปเลยครับ (กา อย่างเพิ่งฝนนะ)
พอพูดจบ ก็รีบฝนข้อที่เรากาไว้ครับ ข้อไหนที่ยังไม่ได้คำตอบก็รีบคิดให้เร็วที่สุด เพราะหลังอ่านโจทย์แล้ว เทปจะอ่านคำถามทั้ง 3 ข้อด้วย นี่เป็นช่วงเวลาไม่กี่วินาทีที่มีค่ามหาศาล เพราะถ้าฝนเสร็จก่อนพูดจบ เราจะมีเวลากวาดสายตาไปดู 3 ข้อถัดไปด้วย ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆครับ
- ที่สำคัญคือต้องมีสมาธิ และอย่างตระหนก ข้อไหวไม่ได้ก็ผ่านไปครับ
Part Reading
- ถึง part reading แล้วให้สูดหายใจลึกๆนะครับ เตรียมตัวให้ดี เพราะช่วงนี้ ต้องทำสปีดให้เร็วกว่านรก
เอาล่ะ เริ่ม!!
- ขอเกริ่นก่อนนะครับว่าช่วงนี้เราต้องเน้นความเร็วมาก ข้อสอบ 100 ข้อ เวลา 75 นาที แสดงว่าเราต้องทำให้เร็วกว่านาทีละข้อ ทำได้มั้ย? ได้ครับ แต่ยาก ขนาดผมเร่งความเร็วสุดๆแล้วยังเสร็จก่อนเวลาแค่ 10 นาที แล้วกวาดสายตาไปรอบๆดูแนวโน้มหลายคนน่าจะเสร็จไม่ทันแน่ๆ ดังนั้นผมจะแนะนำวิธีการเร่งความเร็วครับ
(ขออนุญาตยืมบางส่วนจากกระทู้ก่อนหน้านะครับ)
- ช่วงแรก ข้อ 101 - 140 โจทย์จะให้มาหนึ่งประโยคสั้นแล้วมี ช่องว่างไว้ ให้เราเลือกเติมคำที่ถูกที่สุดจากชอยส์ a b c d นี่เป็นช่วงสำคัญที่ต้องเก็บครับ อาศัยความคุ้น เลือกตอบให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ข้อไหนไม่ชัวร์ ติคที่น่าใช่ที่สุดสองข้อ แล้วข้ามไปเลยครับ เก็บไว้ทำที่หลัง เพราะพาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่เน่งได้ที่สุดแล้ว ช่วงเวลาใกล้หมดให้มาทำส่วนนี้จะดีกว่าไปอ่านบทความยาวๆเยอะครับ ถ้าทำส่วนนี้เร็ว เวลาที่เหลือจะเยอะมาก อย่างตอนผมทำพาร์ทนี้ใช้เวลาน่าจะราวๆ 10 นาที เหลือเวลา 65 นาที ทำ 60 ข้อ โอกาสทำเสร็จเพิ่มขึ้นมหาศาลครับ
- ข้อ 141 - 152 โจทย์จะให้บทความในเชิงการทำงาน หนึ่งโจทย์จะมีช่องว่างไว้ 3 ข้อ เพื่อให้เราเลือกเติมคำที่ถูกที่สุดจากชอยส์ a b c d ส่วนนี้แนะนำให้อ่านรูปประโยคดีๆครับ แยกให้ออกว่าจุดที่เติมเป็ฯส่วนไหนของประโยค ต้องใช้ adj n verb adverb มี s หรือไม่ ความจริงส่วนนี้ก็ไม่ต่างกับพาร์ทแรกเท่าไหร่ ใช้เทคนิคเดียวกันเร่งได้เลยครับ
- ข้อ 153 - 180 COMPREHENSION หรือความเข้าใจเนื้อหาและคำศัพท์ มีโจทย์เป็นบทความในเชิงการทำงาน
และให้เราตอบคำถามประมาณ 3-4 ข้อ จากชอยส์ a b c d
ข้อ 181 - 200 COMPREHENSION PART 2 ความจริงในโจทย์มันคือพาร์ทเดียวกับพาร์ทก่อนหน้านี้แหละครับ เป็นความเข้าใจเนื้อหา/คำศัพท์
แต่หินกว่าตรงที่มีบทความ 2 บท เช่น บทความนึงเป็น ประกาศรับสมัครงานของบริษัท อีกบทความเป็น จดหมายสมัครงานของบุคคล
เราต้องเอาเนื้อหานั้นมาตอบคำถามประมาณ 3-4 ข้อ จากชอยส์ a b c d
ส่วนนี้เป็นทักษะการอ่านในการทำงานล้วนๆครับ ผมจะแนะนำดังนี
- อ่านโจทย์คำถามก่อนอ่านบทความครับ เราจะได้พอมีความรู้ว่าต้องหาอะไรไปตอบบ้าง
- ไม่ควรเว้นข้อครับ ทำให้เสร็จทีละบทความไปเลย เพราะการอ่านบทครับใหม่กินเวลามาก
- เพราะเป็นจดหมายในการทำงาน คำถามจึงอาจมีคำตอบได้ทุกที่นะครับ อย่างเช่นข้อหนึ่งเป็นอีเมลล์เรื่องการจองโรงแรมกับเที่ยวบิน ถามว่าผู้ที่ส่งอีเมลล์มาเป็นใคร ตรงนี้ไม่ได้บอกตรงๆ แต่ช่องแอดเดรสอีเมลล์ผู้ส่งเขียนว่า @traveltips ประมาณนี้ ก็มั่นใจได้ว่าตอบ ผู้จัดเที่ยวบิน/ทัวร์นะครับ
อีกข้อ ลูกค้าส่งจดหมายมาหาร้านทางอินเตอร์เน็ตที่มี 4 สาขา ข้อสอบถามว่าลูกค้าน่าจะซื้อสินค้าจากสาขาไหน? ถ้าอ่านบทสนทนาไม่มีทางรู้ แต่ถ้าดูมีแอดเดรสเมลล์ก็จะมีคำตอบครับ นี่เป็นจุดเล็กๆที่อาจพลาดไปได้
- สุดท้าย ก่อนเวลาหมด ต่อให้มั่ว ก็ควรมั่วให้เสร็จก่อนหมดเวลาซักสองนาที แล้วเช็คว่าข้อเลื่อนมั้ยนะครับ ถ้าเราทำแล้วมีข้ามนี่โอกาสเลื่อนสูงเลย
ส่วนเรื่องการเตรียมตัว สารภาพว่าผมไม่ได้เตรียม อ่านหนังสืออะไรเป็นพิเศษเลยนะครับ แต่อาศัยประสบการณ์ และความเคยชินกับภาษาอังกฤษ อย่างเวลาดูหนังผมก็จะดูซาวน์แทร็ค ถ้าดูที่บ้านก็อาจไม่เปิดซับ ส่วนเวลาเล่นเน็ต บางครั้งผมก็จะเล่นเว็บต่างชาติ ดูข่าวบอลก็เปิด goal.com ข่าวก็ cnn bbc เกมก็ pcgamer อะไรพวกนี้แหละครับ คือเรื่องพวกนี้มันเป็น skill ที่ติดตัวเราระดับหนึ่ง ไม่เหมือนสอบ TOEFL ที่จะ specific กว่า ส่วนถามผมว่าต้องเปิดดิก ท่องศัพท์มั้ย ผมว่าจำเป็นแค่ช่วงแรก ถ้าเรามีศัพท์มากพอแล้ว ถึงจุดนึงต่อให้เจอศัพท์ที่ไม่รู้จัก แต่เราก็สามารถอาศัยรูปประโยคเดาได้ว่าคำนั้นแปลว่าอะไรน่ะครับ
ภาษาอังกฤษต้องใช้เวลากับมันนะครับ ทำเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา แล้วเราก็จะไม่เห็นเป็นเรื่องยาก หวังว่าแนวทางนิดๆของผมจะเป็นประโยชน์ให้ผู้ที่จะสอบ หรือเคยสอบแล้วแต่หวังอัพคะแนนไม่มากก็น้อยนะครับ^^
(แนะนำ) แนวทางการสอบ TOEIC ให้ได้คะแนนสูงสุด
มาดูคะแนนของผมก่อนนะครับ
ครับ ผมได้คะแนนเต็ม^^
เรื่องที่ว่าผมเตรียมตัวยังไง อ่านหนังสืออะไรนี่จะขอยกไว้ในส่วนสุดท้ายนะครับ จากนี้ผมจะบอกเคล็ดลับสั้นๆในการทำข้อสอบให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
อ้อ แล้วผมก็เห็นกระทู้ข้างล่างก็เขียนเนื้อหาไว้ดีมากแล้ว (http://ppantip.com/topic/32194045)
ดังนั้นผมจะขอเพิ่มเติมเฉพาะส่วนที่กระทู้นั้นไม่มี และเพิ่มเติมแบบย่อสั้นๆนะครับ
ช่วงก่อนสอบ (ข้อน่ารู้)
- หากจองรอบไหน เขาจะให้มาก่อนเวลาสอบ 1 ชั่วโมงนะครับ
- เข้าห้องสอบ 12.45 น สำหรับรอบบ่าย แต่ก่อนสอบจะมีแนะนำวิธีฝนคำตอบ และแนะนำลักษณะข้อสอง ซึ่งจะแนะนำเป็นภาษาไทยรองนึง แล้วก็อังกฤษอีกรอบ ใช้เวลาพอสมควรเลยครับ อย่างรอบผมสอบจริงก็ 13.28 น
- สำหรับคุณสุภาพสตรี แนะนำให้เข้าห้องน้ำก่อนขึ้นมาที่ชั้นสอบครับ ห้องน้ำดูเล็กมาก แล้วมีคนต่อคิวยาวตลอด
- ช่วงก่อนสอบผมเห็นหลายคนนั่งอ่านหนังสือติวเอาเป็นเอาตาย ไม่ต้องหรอกครับ นั่งพักดีกว่า ภาษาอังกฤษท่องเข้าไปไม่มีประโยชน์
- แต่!! อย่าทานกาแฟก่อนเข้านะครับ มันจะปวดฉี่มากกกกก
ช่วงสอบ
- part listening ข้อ 1-40 ตามกระทู้ก่อนเลยครับ
- ข้อ 41-100 ข้อสำคัญที่ผมจะแนะนำคือ อ่านโจทย์ก่อนที่บทสนทนาจะมาถึง เพราะบทสนทนานึงมันใช้ตอบถึง 3 คำถาม ถ้าฟังแล้วไปตอบจะมีแนวโน้มทำไม่ทันเยอะ ดังนั้นก่อนที่จะได้ยินเสียงพูด อ่านก่อนเลยครับ จับให้ได้ว่าเขาจะถามอะไรจะได้ฟังให้ตรง พอถึงส่วนที่ฟัง ถ้าระหว่างที่ฟังได้ยินคำตอบไหนที่ว่าใช่ชัวร์ก็กาคำตอบนั้นไปเลยครับ (กา อย่างเพิ่งฝนนะ)
พอพูดจบ ก็รีบฝนข้อที่เรากาไว้ครับ ข้อไหนที่ยังไม่ได้คำตอบก็รีบคิดให้เร็วที่สุด เพราะหลังอ่านโจทย์แล้ว เทปจะอ่านคำถามทั้ง 3 ข้อด้วย นี่เป็นช่วงเวลาไม่กี่วินาทีที่มีค่ามหาศาล เพราะถ้าฝนเสร็จก่อนพูดจบ เราจะมีเวลากวาดสายตาไปดู 3 ข้อถัดไปด้วย ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆครับ
- ที่สำคัญคือต้องมีสมาธิ และอย่างตระหนก ข้อไหวไม่ได้ก็ผ่านไปครับ
Part Reading
- ถึง part reading แล้วให้สูดหายใจลึกๆนะครับ เตรียมตัวให้ดี เพราะช่วงนี้ ต้องทำสปีดให้เร็วกว่านรก
เอาล่ะ เริ่ม!!
- ขอเกริ่นก่อนนะครับว่าช่วงนี้เราต้องเน้นความเร็วมาก ข้อสอบ 100 ข้อ เวลา 75 นาที แสดงว่าเราต้องทำให้เร็วกว่านาทีละข้อ ทำได้มั้ย? ได้ครับ แต่ยาก ขนาดผมเร่งความเร็วสุดๆแล้วยังเสร็จก่อนเวลาแค่ 10 นาที แล้วกวาดสายตาไปรอบๆดูแนวโน้มหลายคนน่าจะเสร็จไม่ทันแน่ๆ ดังนั้นผมจะแนะนำวิธีการเร่งความเร็วครับ
(ขออนุญาตยืมบางส่วนจากกระทู้ก่อนหน้านะครับ)
- ช่วงแรก ข้อ 101 - 140 โจทย์จะให้มาหนึ่งประโยคสั้นแล้วมี ช่องว่างไว้ ให้เราเลือกเติมคำที่ถูกที่สุดจากชอยส์ a b c d นี่เป็นช่วงสำคัญที่ต้องเก็บครับ อาศัยความคุ้น เลือกตอบให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ข้อไหนไม่ชัวร์ ติคที่น่าใช่ที่สุดสองข้อ แล้วข้ามไปเลยครับ เก็บไว้ทำที่หลัง เพราะพาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่เน่งได้ที่สุดแล้ว ช่วงเวลาใกล้หมดให้มาทำส่วนนี้จะดีกว่าไปอ่านบทความยาวๆเยอะครับ ถ้าทำส่วนนี้เร็ว เวลาที่เหลือจะเยอะมาก อย่างตอนผมทำพาร์ทนี้ใช้เวลาน่าจะราวๆ 10 นาที เหลือเวลา 65 นาที ทำ 60 ข้อ โอกาสทำเสร็จเพิ่มขึ้นมหาศาลครับ
- ข้อ 141 - 152 โจทย์จะให้บทความในเชิงการทำงาน หนึ่งโจทย์จะมีช่องว่างไว้ 3 ข้อ เพื่อให้เราเลือกเติมคำที่ถูกที่สุดจากชอยส์ a b c d ส่วนนี้แนะนำให้อ่านรูปประโยคดีๆครับ แยกให้ออกว่าจุดที่เติมเป็ฯส่วนไหนของประโยค ต้องใช้ adj n verb adverb มี s หรือไม่ ความจริงส่วนนี้ก็ไม่ต่างกับพาร์ทแรกเท่าไหร่ ใช้เทคนิคเดียวกันเร่งได้เลยครับ
- ข้อ 153 - 180 COMPREHENSION หรือความเข้าใจเนื้อหาและคำศัพท์ มีโจทย์เป็นบทความในเชิงการทำงาน
และให้เราตอบคำถามประมาณ 3-4 ข้อ จากชอยส์ a b c d
ข้อ 181 - 200 COMPREHENSION PART 2 ความจริงในโจทย์มันคือพาร์ทเดียวกับพาร์ทก่อนหน้านี้แหละครับ เป็นความเข้าใจเนื้อหา/คำศัพท์
แต่หินกว่าตรงที่มีบทความ 2 บท เช่น บทความนึงเป็น ประกาศรับสมัครงานของบริษัท อีกบทความเป็น จดหมายสมัครงานของบุคคล
เราต้องเอาเนื้อหานั้นมาตอบคำถามประมาณ 3-4 ข้อ จากชอยส์ a b c d
ส่วนนี้เป็นทักษะการอ่านในการทำงานล้วนๆครับ ผมจะแนะนำดังนี
- อ่านโจทย์คำถามก่อนอ่านบทความครับ เราจะได้พอมีความรู้ว่าต้องหาอะไรไปตอบบ้าง
- ไม่ควรเว้นข้อครับ ทำให้เสร็จทีละบทความไปเลย เพราะการอ่านบทครับใหม่กินเวลามาก
- เพราะเป็นจดหมายในการทำงาน คำถามจึงอาจมีคำตอบได้ทุกที่นะครับ อย่างเช่นข้อหนึ่งเป็นอีเมลล์เรื่องการจองโรงแรมกับเที่ยวบิน ถามว่าผู้ที่ส่งอีเมลล์มาเป็นใคร ตรงนี้ไม่ได้บอกตรงๆ แต่ช่องแอดเดรสอีเมลล์ผู้ส่งเขียนว่า @traveltips ประมาณนี้ ก็มั่นใจได้ว่าตอบ ผู้จัดเที่ยวบิน/ทัวร์นะครับ
อีกข้อ ลูกค้าส่งจดหมายมาหาร้านทางอินเตอร์เน็ตที่มี 4 สาขา ข้อสอบถามว่าลูกค้าน่าจะซื้อสินค้าจากสาขาไหน? ถ้าอ่านบทสนทนาไม่มีทางรู้ แต่ถ้าดูมีแอดเดรสเมลล์ก็จะมีคำตอบครับ นี่เป็นจุดเล็กๆที่อาจพลาดไปได้
- สุดท้าย ก่อนเวลาหมด ต่อให้มั่ว ก็ควรมั่วให้เสร็จก่อนหมดเวลาซักสองนาที แล้วเช็คว่าข้อเลื่อนมั้ยนะครับ ถ้าเราทำแล้วมีข้ามนี่โอกาสเลื่อนสูงเลย
ส่วนเรื่องการเตรียมตัว สารภาพว่าผมไม่ได้เตรียม อ่านหนังสืออะไรเป็นพิเศษเลยนะครับ แต่อาศัยประสบการณ์ และความเคยชินกับภาษาอังกฤษ อย่างเวลาดูหนังผมก็จะดูซาวน์แทร็ค ถ้าดูที่บ้านก็อาจไม่เปิดซับ ส่วนเวลาเล่นเน็ต บางครั้งผมก็จะเล่นเว็บต่างชาติ ดูข่าวบอลก็เปิด goal.com ข่าวก็ cnn bbc เกมก็ pcgamer อะไรพวกนี้แหละครับ คือเรื่องพวกนี้มันเป็น skill ที่ติดตัวเราระดับหนึ่ง ไม่เหมือนสอบ TOEFL ที่จะ specific กว่า ส่วนถามผมว่าต้องเปิดดิก ท่องศัพท์มั้ย ผมว่าจำเป็นแค่ช่วงแรก ถ้าเรามีศัพท์มากพอแล้ว ถึงจุดนึงต่อให้เจอศัพท์ที่ไม่รู้จัก แต่เราก็สามารถอาศัยรูปประโยคเดาได้ว่าคำนั้นแปลว่าอะไรน่ะครับ
ภาษาอังกฤษต้องใช้เวลากับมันนะครับ ทำเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา แล้วเราก็จะไม่เห็นเป็นเรื่องยาก หวังว่าแนวทางนิดๆของผมจะเป็นประโยชน์ให้ผู้ที่จะสอบ หรือเคยสอบแล้วแต่หวังอัพคะแนนไม่มากก็น้อยนะครับ^^