รีวิวการสอบ TOEIC ครั้งแรกในชีวิต พร้อมเทคนิคละเอียดยิบสำหรับทั้งคนไม่เคยสอบ และเคยสอบแต่อยากเพิ่มคะแนน

สวัสดีครับ ผมไม่ค่อยได้เขียนกระทู้ในพันทิพเท่าไหร่นะครับ แต่เผอิญมีความจำเป็นต้องไปสอบ TOEIC
แล้วก็ได้กระทู้จากพันทิพหลายๆกระทู้ที่ช่วยเหลือไว้ เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์พร้อมเทคนิคบางอย่างให้ชาวพันทิพอ่านดูนะครับ
ซึ่งเนื้อหาหลักๆที่ผมจะเล่าคือ
1. ข้อระมัดระวังในการสมัครสอบ/เข้าห้องสอบ
2. เทคนิคการทำข้อสอบ
3. วิธีการอัพสกิลตัวเอง

การนัดวันสอบล่วงหน้า สามารถโทรไปสำรองที่นั่งทางโทรศัพท์ได้เลยนะครับ
ผมโทรไปวันอังคารที่แล้ว (3/6/2014) ขอจองวันจันทร์ที่ผ่านมา (9/6/2014)
เจ้าหน้าที่ก็จะขอชื่อนามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ และรหัสประจำตัวประชาชนเสร็จสรรพ พร้อมแจ้งค่าสอบ 1500 บาท
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้นำบัตรประจำตัวประชาชน หรือ ใบขับขี่ หรือ พาสปอร์ต อย่างใดอย่างหนึ่งมาแสดง ณ วันสอบ
ซึ่งตรงนี้ผมขอเตือนไว้ก่อนว่า ควรจะเตรียมไปมากกว่าหนึ่งอย่าง เพราะยกตัวอย่าง ผมเอาบัตรประชาชนไปใบเดียว แต่บัตรมันเก่า หน้าเหลืองไม่ชัด
เค้าทำหน้าไม่เชื่อใจ คิดว่าผมมาสอบแทนคนอื่นรึเปล่า ซักว่ามีบัตรใบอื่นมั้ย บัตรประกันสุขภาพ บัตรบริจาคอวัยวะ ถามละเอียดมาก
สุดท้ายเค้าให้นำพาสปอร์ตมารับด้วยตัวเองเท่านั้นในวันรุ่งขึ้น (ปรกติสามารถส่งไปรษณีย์ไปที่บ้าน หรือให้คนอื่นมารับแทนได้)
เพราะฉะนั้นเตรียมไปเผื่อครับ จะได้ไม่พลอยอารมณ์เสียก่อนเข้าห้องสอบ และถ้าไม่สะดวกรับเองแน่ๆ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา

พอผมสำรองที่นั่งเสร็จปุ๊ป ก็เห่อรีบวิ่งไปซื้อหนังสือ TOEIC ที่ศูนย์หนังสือจุฬา 800 กว่าบาท ของ Barrons
ดีใจว่าถูกมาก ดูที่ Asia Books ตั้งพันกว่าบาท ดีใจมาก รีบซื้อ ปรากฎกลับมาถึงบ้านเปิดเนต มีให้โหลดออนไลน์ตรึม! ทุกสำนักพิมพ์

ทีนี้มาดูถึงตอนเตรียมตัวกันนะครับ ขอทวนคร่าวๆว่าในข้อสอบมีอะไรบ้าง สำหรัลบคนไม่ทราบ
1 LISTENING (45 นาที)
ข้อ 1-10 รูปภาพ ในข้อสอบเห็นแค่รูป เทปจะพูดประโยค a b c d และให้เราเลือกข้อที่ถูกที่สุด
ข้อ 11-40 ไม่มีโจทย์ไม่มีคำตอบในข้อสอบ เทปจะพูดคำถามสั้นๆ และคำตอบ a b c (สามชอยส์เท่านั้น)
ข้อ 41-70 Conversations ในข้อสอบมีคำถามคำตอบ a b c d มาให้เรียบร้อย โดยอิงจากเทปที่เป็นบทสนทนาระหว่างคนสองคน
โดยหนึ่งบทสนทนาใช้กับโจทย์สามข้อ
ข้อ 71-100 Talks ในข้อสอบมีคำถามคำตอบ a b c d มาให้เรียบร้อย โดยอิงจากเทปที่เป็นบทพูดคนเดียว
โดยหนึ่งบทสนทนาใช้กับโจทย์สามข้อ
2 READING (75 นาที)
ข้อ 101 - 140 โจทย์จะให้มาหนึ่งประโยคสั้นแล้วมี ช่องว่างไว้ ให้เราเลือกเติมคำที่ถูกที่สุดจากชอยส์ a b c d
ข้อ 141 - 152 โจทย์จะให้บทความในเชิงการทำงาน หนึ่งโจทย์จะมีช่องว่างไว้ 3 ข้อ เพื่อให้เราเลือกเติมคำที่ถูกที่สุดจากชอยส์ a b c d
ข้อ 153 - 180 COMPREHENSION หรือความเข้าใจเนื้อหาและคำศัพท์ มีโจทย์เป็นบทความในเชิงการทำงาน
และให้เราตอบคำถามประมาณ 3-4 ข้อ จากชอยส์ a b c d
ข้อ 181 - 200 COMPREHENSION PART 2 ความจริงในโจทย์มันคือพาร์ทเดียวกับพาร์ทก่อนหน้านี้แหละครับ เป็นความเข้าใจเนื้อหา/คำศัพท์
แต่หินกว่าตรงที่มีบทความ 2 บท เช่น บทความนึงเป็น ประกาศรับสมัครงานของบริษัท อีกบทความเป็น จดหมายสมัครงานของบุคคล
เราต้องเอาเนื้อหานั้นมาตอบคำถามประมาณ 3-4 ข้อ จากชอยส์  a b c d

ผมพอรู้คร่าวๆเท่านี้ ผมก็ลงมือทำข้อสอบทันที โดยลองใช้สัญชาตญาณตัวเองดูว่าจะทำยังไงดี

อ่านมาถึงตรงนี้ อยากให้ทุกคนโดยเฉพาะคนที่ยังไม่เคยสอบ ลองลงมือทำข้อสอบโดยจับเวลาตามจริง (ฟัง 45 นาที และ อ่านอีก 75 นาที)
ถ้ายังไม่มีข้อสอบในมือ โหลดหาโจทย์บนอินเตอร์เนตได้เลยครับ (search คำว่า TOEIC PRACTICE TEST จะเห็นตรึมครับ)
ต้องเชื่อผมนะครับ อย่าเพิ่งอ่านต่อ และลงมือทำเดี๋ยวนี้ จะได้รู้ผลดิบตัวเองว่าทำออกมาแล้วเป็นยังไง ห้ามโกงนะ!

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -





มาถึงตรงนี้ แสดงว่าต้องทำข้อสอบเสร็จแล้วนะครับ

เป็นยังไงบ้างครับ ทำคะแนนออกมาได้เท่าไหร่บ้าง พิมแชร์ได้นะครับ
เหตุผลที่ผมให้ลองทำจริงเลย โดยเฉพาะคนที่ยังไม่เคยสอบนะครับ จะได้รู้ไปเลยว่าสกิลเราจริงๆอยู่ที่ประมาณไหน
ซึ่งถ้าได้น้อยกว่าที่ตัวเอง/บริษัทตั้งเป้าไว้อย่าเพิ่งกดดันจนเกินไปนะครับ ให้คิดซะว่าได้คะแนนน้อยวันนี้ ดีกว่าไม่ได้เริ่มเตรียมตัว แล้วไปทำข้อสอบไม่ได้

แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่าคะแนนมันไม่ได้เป็นตัววัดที่มาตรฐานหรือแม่นยำ 100%
เพราะข้อสอบเยอะๆจับเวลาแบบนี้ โอเค ว่ามันวัด Skill ภาษาเราได้ระดับนึง แต่มันวัด Skill การทำข้อสอบ และ สมาธิ เราด้วยอีกเช่นกัน
ซึ่งแน่นอนว่าเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่าเทคนิคตอนทำข้อสอบมันมีไรบ้าง และวิธีการเพิ่ม skill ภาษาของเรานั้นต้องทำยังไง ในเวลาถัดไป

ส่วนตัวผมทำ practice รอบแรกได้ 915 ครับ แต่ออกตัวก่อนนะครับว่าผมทำงานสถาบันสอนภาษาอังกฤษแห่งหนึ่ง เลยคาดหวังไว้กับตัวเองสูงกว่านั้น
และเพื่อนส่วนใหญ่เรียนอินเตอร์ หรือ อักษรฯ ในแวดวงนี้ได้กันเต็ม เกือบเต็มเยอะมาก แต่ตัวผมไม่ได้เรียนเอกภาษานะครับ อาศัยความชอบส่วนตัว

พอเห็นคะแนนตัวเองออกมารอบแรก เครียดหนักเลย "ทำไม กรูได้น้อยจัง" (อย่าเพิ่งหมั่นไส้นะครับ)
แต่ก็คิดว่าเอาวะ ครั้งแรกเว้ย อย่างน้อยก็พอจับทางได้แล้วว่าต้องทำข้อสอบยังไง หลังจากนั้นก็ลองทำใหม่
ช่วงเตรียมตัวผมงานยุ่งมาก เลยได้ทำข้อสอบไปประมาณ 4 ชุดในหนึ่งอาทิตย์ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกครั้งสุดท้ายจะได้ 970 (ผิดไป 4ข้อ)
ซึ่งการเพิ่มคะแนนของผมภายในอาทิตย์เนี่ย บอกได้เลยนะครับว่าไม่เกี่ยวกับ Skill ภาษา เป็นการจับทางข้อสอบเท่านั้น
ส่วนเรื่องการอัพสกิลภาษาเนี่ย ต้องมีเวลาให้ตัวเองอย่างน้อย 3-6 เดือนนะครับ ถึงจะเห็นผลที่ชัดเจน

และอีกสิ่งที่สำคัญมากคือ การรู้จัจุดอ่อนตัวเอง ครับ ในการฝึกแต่ละครั้ง ต้องดูให้ออกว่าเราไม่เก่งตรงไหน
แกรมมาร์ ฟังฝรั่งไม่รู้เรื่อง ไม่มีสมาธิ เรื่องตัวเลข คำศัพท์ พอรู้จุดอ่อนแล้วจะได้แก้ไขได้ทันท่วงทีนะครับ

เดี๋ยวผมมาต่อให้นะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่