ปุจฉา - กราบนมัสการพระอาจารย์ไพศาล การทำดีต่อเพื่อนมนุษย์ ด้วยความปรารถนาดี มีข้อจำกัดในการกระทำหรือไม่เจ้าค่ะ
เราควรระวังหรือไม่ ว่าการทำดีอย่างมากๆ ของเราจะมีผลให้คนที่เราทำดีด้วยนั้น หลงและยึดติดในตัวเราจนเกิดผลร้ายทางจิตใจต่อเค้า
หรือ เราไม่จำเป็นต้องระวัง เพราะเราได้ทำดีต่อเค้าด้วยความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งเค้าก็ควรรับรู้และสำรวมใจที่จะไม่หลงและยึดติดในตัวเราเอง
กราบขอบพระคุณค่ะ
พระไพศาล วิสาโล วิสัชนา - การทำดีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยจิตเมตตานั้น ควรมีขอบเขต กล่าวคือ
หากช่วยแล้วก่อให้เกิดผลเสียแก่เขา เช่น ช่วยตัวเองไม่เป็น พึ่งคนอื่นอยู่ร่ำไป
หรือทำให้เขาไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี (เนื่องจากปกป้องเขาทั้ง ๆ ที่เขาทำผิด)
ก็ไม่ควรกระทำ เพราะจะกลายเป็นการทำร้ายเขา ในกรณีเช่นนี้ควรนิ่งเฉย
นี้คือเหตุผลที่ว่าทำไมพรหมวิหาร ๔ จึงเริ่มต้นที่เมตตา และลงท้ายที่อุเบกขา
อุเบกขายังมีความสำคัญตรงที่ ทำให้ใจไม่เป็นทุกข์ในกรณีที่ช่วยเขาแล้วไม่เกิดผลตามที่ต้องการ
หรือเป็นทุกข์เพราะไม่อยู่ในสถานะที่จะช่วยเขาได้ ทั้ง ๆ ที่ใจอยากช่วยเหลือเกิน
ทุกข์อีกประเภทหนึ่งที่มักเกิดแก่คนที่ชอบทำความดี ก็คือ เสียใจเมื่อพบว่าคนที่ตนช่วยเหลือนั้น
ไม่สำนึกในบุญคุณของตน หรือน้อยใจที่ไม่มีใครเห็นความดีของตนเลย
อาตมาจึงอยากแนะนำว่า เมื่อทำความดีแล้ว อย่าคาดหวังผล ทำเสร็จก็ปล่อยวาง
ผลจะเป็นอย่างไร ก็เป็นเรื่องของเหตุปัจจัย ถ้าจะคำนึง ก็ควรคำนึงในแง่ที่ว่า
มีข้อที่ควรปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ หรือจะทำให้ดีขึ้นกว่านั้นได้อย่างไร
https://www.facebook.com/visalo
การทำดีต่อเพื่อนมนุษย์ ควรมีขอบเขตไหม?
เราควรระวังหรือไม่ ว่าการทำดีอย่างมากๆ ของเราจะมีผลให้คนที่เราทำดีด้วยนั้น หลงและยึดติดในตัวเราจนเกิดผลร้ายทางจิตใจต่อเค้า
หรือ เราไม่จำเป็นต้องระวัง เพราะเราได้ทำดีต่อเค้าด้วยความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งเค้าก็ควรรับรู้และสำรวมใจที่จะไม่หลงและยึดติดในตัวเราเอง
กราบขอบพระคุณค่ะ
พระไพศาล วิสาโล วิสัชนา - การทำดีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยจิตเมตตานั้น ควรมีขอบเขต กล่าวคือ
หากช่วยแล้วก่อให้เกิดผลเสียแก่เขา เช่น ช่วยตัวเองไม่เป็น พึ่งคนอื่นอยู่ร่ำไป
หรือทำให้เขาไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี (เนื่องจากปกป้องเขาทั้ง ๆ ที่เขาทำผิด)
ก็ไม่ควรกระทำ เพราะจะกลายเป็นการทำร้ายเขา ในกรณีเช่นนี้ควรนิ่งเฉย
นี้คือเหตุผลที่ว่าทำไมพรหมวิหาร ๔ จึงเริ่มต้นที่เมตตา และลงท้ายที่อุเบกขา
อุเบกขายังมีความสำคัญตรงที่ ทำให้ใจไม่เป็นทุกข์ในกรณีที่ช่วยเขาแล้วไม่เกิดผลตามที่ต้องการ
หรือเป็นทุกข์เพราะไม่อยู่ในสถานะที่จะช่วยเขาได้ ทั้ง ๆ ที่ใจอยากช่วยเหลือเกิน
ทุกข์อีกประเภทหนึ่งที่มักเกิดแก่คนที่ชอบทำความดี ก็คือ เสียใจเมื่อพบว่าคนที่ตนช่วยเหลือนั้น
ไม่สำนึกในบุญคุณของตน หรือน้อยใจที่ไม่มีใครเห็นความดีของตนเลย
อาตมาจึงอยากแนะนำว่า เมื่อทำความดีแล้ว อย่าคาดหวังผล ทำเสร็จก็ปล่อยวาง
ผลจะเป็นอย่างไร ก็เป็นเรื่องของเหตุปัจจัย ถ้าจะคำนึง ก็ควรคำนึงในแง่ที่ว่า
มีข้อที่ควรปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ หรือจะทำให้ดีขึ้นกว่านั้นได้อย่างไร
https://www.facebook.com/visalo