แปลบทสัมภาษณ์ของ มิยาวากิ ซากุระ HKT48 ที่ให้สัมภาษณ์กับ Asahi Shimbun ลงตีพิมพ์วันที่ (13/06/2014)

แปลบทสัมภาษณ์ของ มิยาวากิ ซากุระ HKT48 ที่ให้สัมภาษณ์กับ Asahi Shimbun
ลงตีพิมพ์วันที่ (13/06/2014)

PS: บทความนี้ยาวมากกกกกกนะ แต่ก็อยากให้อ่านกัน เพราะเป็นบทความที่แสดงให้เห็นถึงความคิดที่ดีๆของเด็กคนหนึ่งที่ชื่อ ซากุระ

------------------------------

(AKB48 ปรัชญาในการใช้ชีวิต) มิยาวากิ ซากุระ ชั้นยังอยากที่จะเป็นหมอ และ นักเขียน


ในงานเลือกตั้ง ชั้นได้อันดับที่ 11 และทำตามเป้าหมายที่ชั้นวางไว้ได้สำเร็จในการเข้าไปสู่เซ็มบัตสึ

ช่วงเวลาที่ชั้นกังวลเป็นอย่างมาก ก็คือ ช่วงระหว่างการประกาศอันดับที่ 32 - 17 ชั้นเอาแต่คิดว่า [ได้โปรดอย่าเพิ่งเรียกชื่อของชั้นเลย! ] ตอนที่ประกาศอันดับที่ 17 เสร็จแล้ว น้ำตาของชั้นมันก็เอ่อล้นออกมา มือของชั้นสั่นไปหมด หัวใจของชั้นเต้นรัวและแรง แต่ชื่อของเมมเบอร์จากทีมอื่นก็ยังคงถูกเรียกต่อไป และ เพื่อนร่วมทีม และ รุ่นน้องที่อยู่ข้างกายของชั้น ณ ตอนนั้น ก็กล่าวกับชั้นด้วยความยินดีว่า [ซากุระซัง นี่มันสุดยอดไปเลยย!]

ชั้นประหลาดใจมากๆ เพราะชั้นคิดว่า ตัวชันเองก็คงจะเข้าไปอยู่ในเซ็มบัตสึได้อย่างฉิวเฉียด คงจะอันดับที่ 16 แต่เมื่อถึงอันดับที่ 15 , อันดับที่ 14 ชื่อของชั้นก็ยังไม่ถูกเรียก ชั้นคิดกับตัวเองว่า [เอ๊...] หรือชั้นจะพลาดในการติดอันดับ หรือ ชั้นอาจจะไปได้ไกลกว่านี้กันแน่นะ ชั้นกังวลมากๆเลย ความรู้สึกของชั้นมันทะยานขึ้นไปถึงขั้นสูงสุดตั้งแต่อันดับที่ 16 แล้ว แต่ชั้นก็รู้สึกสงบใจได้ตอนที่อันดับที่ 11 ประกาศออกมา

ชั้นไม่ได้เตรียม speech มาเลย ชั้นยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงเมื่อขึ้นไปอยู่บนเวที แต่พอชั้นไปยืนอยู่ต่อหน้าไมโครโฟนแล้ว คำพูดที่มีมันก็พรั่งพรูออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ชั้นคิดว่าชั้นสามารถถ่ายทอดความรู้สึกที่อยากจะขอบคุณไปให้ถึงแฟนๆของชั้นได้ เมื่อตอนช่วงฤดูใบไม้ร่วงเมื่อปีที่แล้วตอนที่ชั้นได้ตัดผมสั้น แฟนๆได้บอกกับชั้นว่า [ทรงผมใหม่ทำให้เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะ] ซึ่งทำให้ชั้นมั่นใจมากขึ้น แล้วในช่วงงานจับมือที่จัดขึ้นก่อนหน้างานเลือกตั้ง พวกแฟนๆก็บอกกับชั้น ว่า [เชื่อมั่นในตัวพวกเรานะ ยังไงเธอก็ติดเซ็มบัตสึแน่นอน] คำพูดเหล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับตัวชั้น

ตัวชั้นเองเปรียบเสมือนดวงจันทร์ แฟนๆทุกคนก็เปรียบดั่งดวงตะวัน ซึ่งตัวชั้นจะเปล่งประกายได้ก็เพราะแสงอันอบอุ่นจากแฟนๆทุกคนที่ส่องมายังชั้น ชั้นไม่ได้ยืนอยู่บนเวทีเพียงลำพัง แต่เป็นเพราะว่าการสนับสนุนจากแฟนๆทุกคน , ฝ่ายจัดหาเสื้อผ้า , สตาฟฟ์ทุกๆคน , เหล่าสมาชิก และทุกๆคนที่อยู่รอบข้างชั้นที่ทำให้ชั้นยังคงเป็นตัวชั้นต่อไปได้

ชั้ันรู้ดีว่าชั้นได้ประกาศออกไปว่า [คู่แข่งของชั้นก็คือซัชชี่ (ซาชิฮาร่า ริโนะ) ] แต่สมาชิกคนอื่นๆและตัวชั้นเองนั้น เราได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากซัชชี่จริงๆ มีบางเวลาที่ชั้นรู้สึกว่า ตัวเองคงก้าวไปข้างหน้ามากกว่านี้ไม่ได้แล้วเหมือนมีอุปสรรคอยู่เบื้องหน้าของชั้น ต่อให้ชั้นทำอย่างเต็มที่ในฐานะของรุ่นที่ 1 ของ HKT48 แต่สิ่งที่ออกมามันก็ไม่น่าประทับใจนัก แต่ตัวซัชชี่เองก็เคยมีประสบการณ์ที่คล้ายคลึงแบบนี้มาก่อน และเธอสอนให้ชั้นรู้ถึงวิธีก้าวข้ามผ่านอุปสรรคนั้นๆ

อย่างเช่น เธอแสดงให้ชั้นเห็นว่า ชั้นต้องเปลี่ยนแปลงการแสดงสีหน้าท่าทางของชั้นในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน หรือ เปลี่ยนแนวทางในการแสดง ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ชั้นไม่อาจจะตระหนักถึงได้ด้วยตัวเอง

ชั้นจะเติบโตขึ้นได้อย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อ ผู้ชี้แนะของชั้น ซัชชี่ ได้กล่าวกับชั้นว่า [ ซากุระ เธอคือคู่แข่งของชั้น] และในช่วงเวลานั้น ชั้นเชื่อมั่นว่า พลังของสมาชิกทุกๆคนใน HKT48 จะทำให้กลุ่มของพวกเราเป็นไอดอล กรุ๊ปที่แข็งแกร่งที่สุด

งานเลือกตั้งครั้งนี้เป็นงานเลือกตั้งครั้งที่ 3 ของชั้น เมื่อปีที่แล้วชั้นได้อันดับที่ 26 และ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ชั้นได้อันดับที่ 47 และชั้นก็เป็นเพียงคนเดียวที่ติดอันดับเลือกตั้งในปีนั้น ซึ่งเป็นอะไรที่ชั้นประหลาดใจเป้นอย่างมากเพราะชั้นเพิ่งจะเดบิวท์เข้ามาได้เพียงแค่ครึ่งปีเท่านั้น แต่แฟนๆของชั้นก็พูดกับชั้นว่า [เธอเขียนได้ดีเลยนะ] และ [ชั้นกลายมาเป็นแฟนของเธอหลังจากที่ได้อ่านบล๊อกของเธอนะ] ชั้นคิดว่าพวกเค้าพูดถึงบล๊อกที่ชั้นได้เขียนหลังจากที่ได้ไปเยี่ยมผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางญี่ปุ่นภาคตะวันออกเมื่อปี 2011 ซึ่งอาจารย์อากิโมโตะ ยาสุชิ ได้เผยแพร่บล๊อกของชั้น และบอกกับทุกคนว่า [ควรจะต้องอ่าน]

แล้วก็เป็นเพราะว่าการเขียนของชั้น เลยทำให้ชั้นมีโอกาสได้พบเจอกับแฟนๆเพิ่มมากขึ้น

ชั้นคิดว่าชั้นเริ่มชอบการเขียนเพราะว่าชั้นรักในการอ่าน เมื่อตอนที่ชั้นยังเด็ก ชั้นไม่ได้ดูทีวี หรือ การ์ตูน ชั้นเอาแต่อ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว

จุดเริ่มต้นของการเป็นคนรักในการอ่าน ตัวชั้นนั้นอยากที่จะอ่านหนังสือหลายๆเล่มที่มีอยู่ในชั้นวางหนังสือที่อยู่ในห้องของคุณพ่อ แต่หนังสือเหล่านั้นมันยากเกินไปสำหรับชั้นที่จะเข้าใจ ชั้นก็เลยอ่านหนังสือสำหรับเด็กในยามที่ชั้นแช่ตัวในอ่างอาบน้ำทุกๆวันจนมันกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน หนังสือเล่มแรกที่ชั้นยืมมาจากคุณพ่อก็คือเรื่อง [Golden Slumbers (ゴールデンスランバー)] ซึ่งแต่งโดย คุณ โคทาโร่ อิซากะ และนั่นก็ทำให้ชั้นหลงใหลและชื่นชอบในนิยายแนวลึกลับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ในยามที่ได้อ่านหนังสือ ตัวชั้นเองก็จะรู้สึกเหมือนกับว่าได้กลายมาเป็นตัวเอกของเรื่องที่ชั้นกำลังอ่านนั้นๆ แล้วชั้นก็จะรู้สึกได้ว่าในยามที่กำลังอ่านหนังสือนั้นทุกสรรพสิ่งจะเงียบเสียงลง และหลังจากที่ชั้นอ่านหนังสือจบแล้วชั้นก็จะยังตงเหม่อลอย เรื่องราวที่อ่านก็จะยังคงโลดแล่นอยู่ภายในหัวของชั้น

หนังสือ ช่วยทำให้ชั้นมีความคิดที่สร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้น หนังสือช่วยชั้นในเรื่องการแสดง และ ช่วยชั้นในเรื่องการเขียน ชั้นรู้สึกขอบคุณหนังสือเหล่านี้

จนถึงขณะนี้ ชั้นก็ยังรักในการไปที่ร้านหนังสือ ชั้นมักจะอ่านบรรทัดแรกๆของหนังสือเล่มนั้นเพื่อดูว่าเรื่องราวในหนังสือเล่มนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับชั้นหรือไม่ แล้วหลังจากนั้นถึงจะค่อยซื้อหนังสือเล่มนั้น มันเหมือนกันการลองชิมรสชาติอาหาร อันที่จริงแล้ว ชั้นมีความฝันว่า ในซักวันหนึ่งชั้นอยากที่จะเป็นนักเขียน และชั้นก็ยังคงไม่ล้มเลิกความตั้งใจในความฝันนั้น

การเป็นไอดอลนั้นเป็นสิ่งที่สนุก แล้วในเมื่อชั้นมาจากคาโกชิมะ หัวข้อที่พูดกันบ่อยๆในโรงเรียนของชั้นก็จะเกี่ยวกับ AKB48 คาชิวากิ ยูกิ-ซัง ชั้นมักจะดูการแสดงของ AKB48 เพื่อช่วยให้ชั้นมีสมาธิในการเรียนหนังสือ แล้วชั้นก็ยังอยากที่เป็นไอดอลที่สามารถช่วยสร้างกำลังใจให้กับผู้คน อยากให้พวกเค้ามองชั้นแล้วก็คิดว่า จะพยายามอย่างเต็มที่ แล้วชั้นก็ยังอยากที่จะเป็นนักแสดงที่สามารถเล่นได้หลากหลายบทบาทเหมือนคุณ อามามิ ยูกิ (天海祐希 - Amami Yuki)

ชั้นกระหายในการใช้ชีวิต ชั้นอยากที่จะเป็นนักแสดง นักเขียน และ ก็ยังอยากที่จะเป็นหมอ

ในบรรดาสาขาของอาชีพหมอที่มีอยู่หลากหลายนั้น ชั้นอยากที่จะเป็น สูติแพทย์ (หมอผู้ทำคลอด) เป็นเพราะว่า ชั้นไม่สามารถลืมความประทับใจที่เคยได้ดูในรายการทีวีที่ชั้นได้เห็นอาจารย์หมอได้ช่วยทำคลอดให้กับเด็กแรกเกิด และ ตัวชั้นเองก็อยากที่จะเป็นคนที่สามารถช่วยให้ชีวิตใหม่ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ แต่ชั้นก็ยังคิดว่า การเป็นไอดอล หรือ นักแสดง หรือ นักเขียน ก็ให้ความหวังและความกล้าหาญกับบุคคลทุกๆคนได้เช่นเดียวกัน

ชั้นมีความฝันที่หลากหลาย ถึงแม้ชั้นจะยังวิตกกังวลว่า [ชั้นไม่แน่ใจว่าชั้นจะบรรลุความฝันเหล่านั้นได้ทั้งหมด] แต่ในเมื่อคนเราเกิดมาก็ใช้ชีวิตเพียงแค่ครั้งเดียว ชั้นก็เลยคิดว่า ทำไมถึงไม่ลองทำดูซะก่อนล่ะ

------------------------------

PS: พยายามแปลอย่างสุดความสามารถเท่าที่มีแล้ว ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วย m(_ _)m


source: http://www.asahi.com/articles/ASG6C0GS9G6BUZVL004.html

(Note: การที่จะเข้าไปอ่านบทความแบบเต็มๆได้นั้น ต้องสมัครสมาชิกก่อนนะ)



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

รูปข้างล่างนี้

ข้อความที่น้องเขียนในกระดาษ คือ

"วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน พรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้"
-Miyawaki Sakura - HKT48.-

" Today is better than yesterday, tomorrow will be better than today "


---------------------------------------

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ในฐานะของแอดมินเพจซากุจัง (มิยาวากิ ซากุระ) เราขอลง link เพจซากุจังไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ อมยิ้ม17
https://www.facebook.com/pages/Miyawaki-Sakura-Thailand-Fanclub/301054919996261

ยินดีต้อนรับทุกๆคนนะคะ

ขอให้ซากุระจงเบ่งบานในใจของคุณทุกคนเลย~
ซากุระซาเกะ!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่