การพากย์หนังศิลปะแขนงหนึ่ง(ที่คนส่วนใหญ่อาจจะหยี๋) สืบเนื่องมาจาก Maleficent

ระบบเสียงพากย์ไทยและเสียงดังเดิ้มนั้นก็ไม่มีใครกล้าเถียงว่าเสียงพากย์ดีกว่า(ยกเว้นในหนังเกรดต่ำที่นักแสดงส่วนใหญ่เล่นห่วย)
เพราะเสียงดั้งเดิมจะให้ ความรู้สึกที่นักแสดงตั้งใจจะมอบมากกว่า ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะชอบเสียงดั้งเดิมแล้วหยี่ใส่เสียงพากย์
(บางครั้งเกิดเป็นการเหยียดเรื่องความรู้ทางภาษา)แต่ผมเป็นหนึ่งที่ยังชอบฟังเสียงพากย์ไทยอยู่จะมาเล่าให้ฟังว่าทำไม๊ทำไมฟังอยู่ได้

อย่างแรกผมเป็นผมชอบจดจำด้วยโสตประสาทสองอย่างคือเสียงและกลิ่น ในตอนเด็กๆผมยังจำได้ถืงเสียงพากย์ CVD อาจฟังดูเว่อร์
แต่ผมผูกพันธ์กับมัน เสียงหล่อของคุณโอ๊ต จักรกฤษณ์ หาญวิชัย และเสียงหวานๆของคุณกรณิการ์ ประภัสภักดี ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยผมก็ดีใจ หลังจากนั้นก็เริ่มจำเสียงของนักพากย์แล้วผมก็เริ่มสนใจการพากย์หนัง เริ่มรู้มีสึกคล้ายกับเวลาดูหนังอยากรู้ว่าตัวละครลักษณ์แบบนี้
ใครจะได้เป็นคนพากย์ ซึ่งเป็นความพอใจส่วนตัว แล้วอีกอยาก sense ของคำบางอย่างมันทางกันเช่นผมฟังคำว่า bit(h ถึงผมจะรู้
มันแปลว่าอะไรแต่ก็ไม่สะใจเท่าได้ยินความว่า E เวร (ฮ่าๆ) ยิ่งได้เห็นดาราต่างประเทศพูดภาษาไทยผมยิ่งชอบดู หัวเราะ

ล่าสุดไปดู Maleficent ที่หญิงเป็นคนพากย์ผมว่ามันไม่ใช่ การพากย์มันไม่เหมือนการแสดงเพราะมันไม่ใช่แค่การแสดงออก
ของอารมณ์เพียงอย่างเดียว การพากย์ต้องคำนึงถึงเสียงต้นฉบับ บางครั้งการแสดงออกทางเสียงไปจนสุดทางแบบนักแสดง
จึงไม่เหมาะกับการพากย์ หลังจากดูมาผมก็รู้สึกว่า การพากย์มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ การพากย์ควรใช้นักพากย์มากประสบการณ์จริงๆ
เพื่ออรรถรสที่ดีสำหรับคนชอบฟังพากย์ไทย ผมอยากให้คุณโศภิตา รังสิโยทัย มาพากย์เสียง Maleficent

อีกอย่าง เวลาผมไปดูหนังพากย์ไทยแล้วพนักงานขายตั๋วชอบมองเหยียดอยากให้เปลี่ยนทัศนคติด้วยครับ คนเราความชอบไม่เหมือนกัน
เหตุผลของผมก็มีอย่างที่ได้บอกเอาไว้ข้างต้นและผมก็ฟังเสียงดั้งเดิมทุกครั้งเพื่อดูความแตกต่าง ผมว่าการฟังพากย์ไทยไม่ได้บ่งบอก
เรื่องทักษะทางภาษาหรือรสนิยมที่แย่อะไร มันแค่บอกว่าเมื่อเรามีสิทธิเลือกเราจะเลือกแบบไหน ส่วนผมก็เลือกในสิ่งที่ตัวผมชอบ
ขอบคุณครับ ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่