[CR][SR] m.diary * กินเที่ยวช้อป Finland - Sweden - Lapland 12 วันเต็ม ! (day 2-4)

หัวใจหัวใจหัวใจหัวใจหัวใจหัวใจ

ติดตามวันอื่นๆได้จากลิ้งด้านล่างฮะ
m.diary * กินเที่ยวช้อป Finland - Sweden - Lapland 12 วันเต็ม ! (day 1)

หัวใจหัวใจหัวใจหัวใจหัวใจหัวใจ

จากกระทู้แรกพึ่งอัพเสร็จเมื่อกี้ก็จบวันแรกไปแล้ว
อาจจะมีคนสงสัยว่าทำไมไปหลายที่จัง แล้วมันไม่ดึกหรอ จริงๆก็กลับบ้านดึกอยู่นะฮ่าๆ แต่ว่าที่นี่ฟ้ามืดช้ามากกกกก
กว่าจะเริ่มมืดก็ปาเข้าไปเกือบ 5 ทุ่มแล้ว เรียกได้ว่าใช้ชีวิตแบบแทบลืมเวลาไปเลย ฮ่าๆๆๆ


มาเริ่มวันที่สองกันเลยดีกว่า

เอ้ะ ตัวอะไรขึ้นมาปลุก มาง้องแง้งอยู่แถวเตียงตั้งแต่เจ็ดแปดโมง(กลิ้งต่อสรุปตื่นสาย)
เดินวนไปวนมาก็โดดขึ้นมาจนได้.. โซฟาเบดเตี้ยไปหน่อย เหอะๆ
โฉมหน้าคนปลุก ทำหน้าเนียนเชียวนะโดดขึ้นเตียงมาเนี่ย


นานาเดินทาง
วันนี้ไม่ค่อยได้ไปไหน ตื่นสาย ง่วงนอนตั้งแต่ซาวน่าเสร็จเมื่อวาน 555 ยังปรับเวลาไม่ได้
แล้วอีกอย่างก็เป็นวันพักผ่อนก่อนวันงาน วันนี้ก็เลยได้แต่ไปใกล้ๆ เช่นพาหมาน้อยสองตัวไปเดินเป็นต้น 5555

อากาศเย็นแต่เช้า(เช้าไรได้ข่าวตื่น10โมง)
รับหน้าที่เป็นคนพาหมาน้อยไปเดิน แต่สองตัวนี้ฝึกมาแล้วว่าห้ามอึในบ้าน ก็เลยต้องพาออกไปเดินเช้าเย็น หรือมากกว่านั้น


ที่นี่ไม่เจอหมาจรจัดเลยแม้แต่ตัวเดียว มีก็แต่คนที่นี่พาออกมาเดินเล่นให้มันถ่ายอะไรก็ว่าไป
เวลาถ้าพามันออกมาด้วย สิ่งนึงที่ต้องพกติดกระเป๋าคือถุงเก็บอึ เพราะว่าถ้าเราปล่อยให้มันอึบนทางเท้าอาจจะโดนปรับได้(เดาอีกอะ)
แต่ทางเท้าเขาสะอาดจริงๆนะ ไม่มีอึเลย ยกเว้นบนหญ้าไรงี้ ไม่ค่อยมีคนมักง่ายนะ
ถุงเก็บอึก็ไม่รู้มีกี่แบบ แต่ที่พี่สาวให้พกมาเป็นม้วนๆ ลักษณะถุงเหมือนถุงใส่ผอนม.ในห้องน้ำ5555
เป็นม้วนมาแล้วก็ฉีกเอา สีเขียวๆ เวลาเก็บก็..ใส่มือ หยิบอึ ม้วนกลับด้าน ทิ้ง.. เห็นภาพมั้ยเนี่ย ==
สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปแหละ เห็นพี่ซื้อที่มินิมาร์ทมา
ปล.ยกเว้นมันจะท้องเสียจริงๆ ก็ไม่ต้องใจดีเก็บให้เขาก็ได้นะ หรือต้องเก็บอันนี้ก็ไม่รู้ -o-

ตกบ่าย(วันที่29หรือ30เนี่ย ความจำสั้นไปหน่อยค่ะ)หน่อยก็เดินออกไปตลาด พ้อยคือ ซื้อแซลมอน!!
เอาละถึงเวลาเสียตังอีกครั้ง ออกไปกัน4คน พี่สาวขับ พ่อกับแม่ไปด้วย
ชื่อตลาดนั้น... จำไม่ได้ค่ะ 5555 รูปก็ไม่มี ได้แต่หาตัวอย่างมาให้จากปู่เกิ้ล(อีกครั้ง)
มันอยู่ในตัวเมือง ติดกับตรงที่เป็นท่าเรือ ตลาดสดบ้านเขาจะไม่ใช่หน้าตาแบบเรานะ
จะเป็นเหมือนบ้านอิฐสีน้ำตาลส้ม ขนาดไม่ใหญ่มาก และไม่ใช่พื้นแฉะๆแบบตลาดสดบ้านเราแน่นอน

ประเด็นมันอยู่ตรงที่ พอไปถึงจ่ายค่าที่จอดรถเรียบร้อย
พนักงานหน้าตลาดบอกว่าปรับปรุงอยู่
อ้าววววววววววววว ขำไปดิ จ่ายค่าที่จอดไปตั้ง1ชม. อมยิ้ม20 เฟลเลย มิชชั่นไม่สำมะเหร็จ

เลยมาเดินตรงซุ้มๆข้างนอก มันก็เป็นพื้นที่ตลาดเหมือนกัน คนก็เอาของมาวางขาย ผลไม้เชอร์รี่ สตอเบอรี่สดมาก อร่อยสุดๆ
ผักก็สด หัวบิ๊กๆทั้งนั้นแต่ราคา แพงกว่าในห้างอยู่พอสมควร เพราะมันสดไง เอามาปุ้ปก็วางขายวันนั้นเลยไม่มีการค้างใดๆ
รูปตัวอย่างตลาดข้างนอกที่บอก.. หน้าตาแบบนี้เด๊ะๆ (จะบอกว่าสถานที่ก็เดียวกันกับที่ไปเนี่ยแหละ 555)


แผนBคือ ไปอีกตลาดนึงซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมาก จอดรถ หยอดค่าจอดแล้วเอาใบมาเสียบหน้ารถเรียบร้อย มีเวลา1ชม.

อะเดินเข้าตลาด ดูดี๊ ดูดี แบบนี่ห้างขนาดย่อม(มาก)รึเปล่า เป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าให้เดินวนได้1รอบถ้วน
(รูปจากกูเกิ้ลเหมือนเดิม -"หลิ่วตา

หน้าตาตลาดที่ไปก็แบบนี้เด๊ะๆ จะแบ่งเป็นโซนของสดอยู่ด้านหน้า เข้าไปอีกก็มีพวกผักผลไม้(ราคาแพงกว่าในห้างเพราะสดกว่า) มีโซนที่เป็นเค้กและขนมปังด้วย แล้วก็ยังมีพวกเครื่องปรุงสมุนไพรอยู่หลายร้านทีเดียว แอบมีร้านกาแฟให้นั่งด้วย1ร้าน

จากนั้นเราก็จัดการเล็งแซลมอนตัวเบ้งของวันนี้ โดนไปทั้งหมด2กิโลครึ่งได้ 62ยูโร.. เนื้อหวาน ฉ่ำสุดๆ ลายสวยได้อีก (ลืมถ่ายอีกแล้ว ร้องไห้)
ลองคิดเป็นเงินไทยถือว่าไม่แพงนะ ลองคิดดูเวลาเราไปกินตามร้านอาหารญี่ปุ่น ซาชิมิงี้จานนึงล่อไปกี่ร้อย ได้แค่กี่ชิ้นเอง
อ้อ แต่คนที่นี่เขาไม่ค่อยกินสดแบบซาชิมิกันหรอก 555 ส่วนใหญ่จะกินรวมควันไรงี้มากกว่า แต่บ้านนี้แหวกตลอด
จัดชิ้นหนาสุดไปเลย เลือกตรงท้อง หางไม่เอา แล้วก็บอกพ่อค้าว่าเอาหนังออกด้วยถ้าไม่อยากมานั่งแล่เอง พ่อค้าที่ตลาดจะแล่โปรกว่าในห้างมาก
พ่อค้าขายแซลมอนนี่ใจดีฝุดๆ หน้าเข้มเชียวคิๆ ลดราคาให้อีกตะหาก เหลือ 60ยูโร ><!!!

จากนั้นก็เดินเข้ามาข้างในอีกนิดเพื่อดูโซนเนื้อหมูต่างๆ
จัดกระดูกหมูมาอีกสองแถว ถ้าอยากได้เป็นชิ้นเล็กสี่เหลี่ยมแบบบ้านเรางี้ต้องบอกเขาให้ตัดครึ่งด้วยนะ เขามีเครื่องตัดกระดูกโดยเฉพาะ
แล้วก็ได้หมูสับมาอีกนิดหน่อย หมูสามชั้นโลหรือครึ่งโลจำไม่ได้ ค่าเสียหาย ลืมไปแล้วเพราะพ่อจ่าย 555

เสร็จจากตลาด ก็ยังพอมีเวลาเหลือ.. เอาให้คุ้มกับค่าที่จอดรถ อิอิ
เลยไปมาร์เก็ตเล็กๆใกล้ตลาด หยิบขนมนมเนยที่จะกักตุน(?)เอาไว้กินตอนอยู่บ้านกันไปอีกหลายสิบยู จากนั้นก็กลับบ้าน
เหลือเวลา10นาทีก่อนจะมีใบสั่งปรับ ฮ่าๆๆๆ ทันเวลาพอดี กลับบ้านได้!

มีรูปอาหารจากแซลมอนนิดหน่อยค่ะ แต่รู้สึกไม่ใช่มื้อนี้เพราะในรูปบอกวันที่31 ฮ่าๆ แทนกันพอถูไถนะๆ
กระเพราแซลมอน แหม่..

ตอนแรกพยายามกลับรูปแล้ว แต่พังกว่าเดิม เอียงคอดูไปก่อนละกันนะคะ แหะๆ

*พอกลับมาบ้าน แม่บอกเนี่ยพ่อค้าร้านขายหมูนี่หล่อกว่าณเดชอีก ป๊าเริ่มเบ๊ปาก 55555 ขำขุ่นแม่
บอก ทำไมไม่ถ่ายรูปมา เอ้า..โยนมาให้หนูรับซะงั้น แต่หน้าตาดีจริง ผิวดี หน้าคมทั้งพี่ทั้งน้อง โอโหเลิกขายหมูมั้ยพี่..*


อันนี้วันที่30ของจริงละค่ะ
วันนี้คุณว่าที่เจ้าสาวต้องไปเอาของที่ไปรษณีย์และไปซื้อของเพิ่มที่จะไว้จัดสถานที่พรุ่งนี้ (จะถึงวันงานแล้ววววว *O*)
นางบอกใครจะไปด้วย แน่นอน เราอาสาอย่างรวดเร็วเพราะอยากเข้าเมือง คิคิ
เดินไปขึ้นแทรมสถานีเดิมที่ใกล้อพาร์ทเม้น ขึ้นหมายเลข2 พอถึงจุดหมายก็ลงตามๆพี่สาวไป
แวะร้านแรกคือร้านขายของทำงานประดิษฐ์ พวกกระดาษสา ริบบิ้นบลาๆ เยอะมาก พี่สาวบอกว่าร้านนี้ใหญ่สุดละแต่ราคาไม่ค่อยน่ารักตามของเท่าไหร่

อยู่ในร้านมันอึดอัดคอมาก(ดันเผื่อหนาวเลยใส่ผ้าพันคอหนาๆมา)
ก็เลยออกมายืนรอนอกร้าน ..ค่อยยังชั่ว..


เห็นรูปรถในภาพด้านบนแล้วนึกขึ้นได้อีกเรื่อง คือเรื่องรถที่นี่น่ะแหละ
ส่วนใหญ่จะเห็นvolvo folks และอื่นๆ รถญี่ปุ่นน้อยมาก (อ่าวก็นี่มันฝั่งไหนยะ) จอดตามริมถนนเต็มไปหมด
รถหรูๆนี่เห็นวิ่งกันให้ว่อน และไม่ใช่เมืองไทย เพราะงั้น จอดข้างทางไม่โดนขโมยหรือถอดล้อแน่นอน 5555

พอพี่สาวจัดการซื้อของเสร็จก็เดินต่อไปที่ไปรษณีย์ค่ะ
ไม่ได้ไกลกันมาก เดินชิวๆ คนที่นี่ชอบเดินนะเพราะมันถึงกันอะ คนอายุเยอะๆยังใส่ส้นสูงเดินปร๋ออยู่เลย

หลังจากเอาของในไปรษณีย์เสร็จ เราก็เจอเป้าหมาย /ห้ะ
จริงๆแค่เจอsupermarket มันอยู่ในตึกเดียวกัน ซึ่งมีไปรษณีย์อยู่ด้านใน
อยากซื้อขนม(ยังไม่พอ?)กับไอศกรีมก็เข้าไปเดินดูซักหน่อย เห็นพี่บอกว่ามันพึ่งเปิด ของนี่ดูเต็ม เรียงสวยงามน่าซื้อเชียว พี่บอกเพราะยังใหม่ไง..
แอบมีsecurityหุ่นบึ้กยืนอยู่สามสี่หน่อแหนะ หน้าตานี่ไปเป็นนายแบบได้เลยนะพี่นะ

เจอของเด็ดมากมายแถวตู้ไอศกรีม!!
เช่น..

เห็นแมกนั่มแบบถ้วยแว๊บๆมะ

และเราก็หาาา กันน จนเจอออ เม่าโศก

แมกนั่มเรียงรายหลากหลายรส แต่ไม่ได้หยิบมาหมดหรอกนะ (ใครกินไหว)
จัดben&jerry'sมาสองป๋องเล็ก ยังคงวอแวกับยี่ห้อนี้ และแมกนั่มรส White Chocolate & Strawberry ของพี่สาว *_*

เจอไอศกรีมยี่ห้อ Angry Birds ด้วย แอบขำ พอมาเป็นโลโก้ของกินแล้วตลก(คนเดียว)
และอีก1ยี่ห้อแนะนำที่ลองขากลับมาแล้วคือ Geisha เห็นกล่องช้อกโกแลตหลายรูปแบบรวมทั้งไอศกรีมยี่ห้อนี้ก็มี อร่อยใช้ได้ไม่หวานแสบคออย่างที่คิด

.....สาระเบาๆ.....
Angry Birds หรือเจ้านกโกรธที่เป็นที่ยอดฮิต ดังไปทั่วโลกเพราะเกมในโทรศัพท์นั้น มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศFinlandนะคะ
ตามduty freeหรือในห้างก็จะมีสินค้าเกี่ยวกับเจ้านกโกรธให้เลือกซื้อเต็มไปหมด ส่วนรายละเอียดของประวัตินั้นต้องพึ่งปู่เกิ้ลแล้วละค่ะ
พี่สาวบอกว่า พอไอ้ตัวนี่ดังปุ้ป ของนี่เกลื่อนเมือง /ฮา

เสร็จจากช้อปปิ้งเล็กๆน้อยๆก็เดินกลับค่ะ!! บอกเลยว่ามันจะไม่เมื่อยขาขนาดนี้ถ้าทางมันไม่ลาดชัน รู้สึกเหมือนเดินขึ้นเขาตลอดเวลา
เดินกลับมันจากในตัวเมืองจนถึงบ้านเนี่ยแหละ น่าจะโลกว่าสองโลได้ ..ฟิตไปอีก

พอตกเย็นก็ต้องไปจัดแต่งสถานที่ค่ะ (ยังวันที่30อยู่นะ)
ในตึกมีพวกsport club ,kids zone,ที่เรียนพิเศษต่างๆ วิวจากห้องที่จองไว้เห็นทะเลด้วย งามมมม

ขนของจากบ้านมาช่วยกันตกแต่ง


ภายในห้อง


งานที่พี่สาวจัดก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเพราะไม่ได้เชิญคนนอก มีแต่ครอบครัวฝ่ายชายและหญิงและเพื่อนที่รู้จักสนิทสนมกันเท่านั้น
ช่วงบ่ายก็เป็นงานที่โบสถ์ พอตกเย็นๆค่ำๆก็เป็นงานที่ตึกที่บอกไปข้างต้น

คนที่นี่ประเพณีเขาจะไม่เหมือนกัน เวลามีงานเวดดิ้งหรือปาร์ตี้คนที่นี่จะดื่มหนักมาก+ปาร์ตี้ถึงรุ่งสาง
และไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมายเท่าบ้านเราค่ะ จัดแบบเล็กๆ ไม่ใช่โรงแรมหรูหราอะไร เรือนหอก็บ้านนี่แหละค่ะ(คืนวันเข้าหอเลยต้องไปนอนอีกบ้าน >w<)

อีกซักมุม..

อีกอย่างคือ กล่องใส่ซองกับเขียนอวยพรนั้น ใครจะใส่ก็ใส่ เขียนก็เขียนตรงนั้นเลย แล้วก็วางของชำร่วยไว้ที่โต๊ะ

สังเกตุจากของตกแต่ง คงรู้กันใช่ไหมคะว่าธีมงานคือสีอะไร...!!!

ถูกต้องค่าา สีฟ้าน้ำทะเลนั่นเองง แปะๆๆ (ถามเองตอบเอง ==)
เล่นสียากเลยเอาซะลำบากกับการหาชุด สรุปต้องไปเร่งตัดก่อนบินไม่กี่อาทิตย์ เป๋าแบนกันไป
เม่าตกอับ

ชี้อัลไล

ภาพตอนกำลังวุ่นวายกับการรีบแต่ง เพราะเขาให้เวลาแค่2ชม. เพราะคนถือกุญแจปิดประตูต้องกลับตามเวลา
สุดท้ายมันไม่ทันจริงๆ เขาก็เห็นว่าไม่ทันเลยหยวนๆให้กุญแจเรามาปิดเอง แถมบอกที่เปิดปิดไฟให้เสร็จสรรพ ใจดี๊ใจดี *^*


ดอกไม้และแจกันสามคู่แบกมาจากไทยเพราะงานนี้โดยเฉพาะ เพราะที่นั่นดอกไม้สดและปลอมแพงเข้าขั้น(พี่บอก)
ก็เลยต้องยอมเสียค่าextra bagเพิ่มหนึ่งใบ โดยซื้อเพิ่มผ่านwebsiteของfinnairก่อนบินคืนนั้นเลย -_- (รีบๆตลอดบ้านนี้)
โดนไป50ยูโร หรือสองพันกว่าบาท แต่ถ้าไปซื้อเพิ่มที่สนามบินก็เสียมากกว่า รู้สึกจะ65 หรือ75ยูโร
ก็เท่ากับเราสามารถแบกไปได้อีกหนึ่งกระเป๋าหรือกล่องใหญ่หนักสุดไม่เกิน23kg.เหมือนกระเป๋าโหลดลงเครื่อง
เล่นเอาซะลุ้นหัวใจจะวายว่ามันจะแตกไหม เขียนบอกมันไว้ทุกด้านว่าของแตก แถมวาดรูปแก้วแตกอีกตะหาก สุดท้ายก็รอดมาหวุดหวิด /ปาดเหงื่อ

ปิดท้ายด้วยภาพนี้
กลัวคนไม่รู้ว่าเราเป็นคนทำ เลยต้องสร้างหลักฐานซักแชะสองแชะ
ไม่กลัวความสูงเลยรับหน้าที่ปีนขึ้นปีนลงอย่างกับลิง



วันพรุ่งนี้(31/6/14)ก็เป็นวันงานแล้ว จะทำการประมวลภาพส่วนหนึ่งแบบรวมๆมาให้ดูละกันนะคะเพราะกดชัตเตอร์รัวมาก 5555


ต่อคอมเม้นหน้านะก๊าบบ
ชื่อสินค้า:   FINLAND
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่