วันที่ 10 มิ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)จ.นนทบุรี นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบโครงการรับจำข้าว เดินทางมายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป.ป.ช.ขอให้ป.ป.ช.ไต่สวนพยานหลักฐานใน 3 ประเด็น และขอให้ไต่สวนพยานเพิ่มเติม 8 ปาก
โดยนายนรวิชญ์กล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ให้มายื่นคำร้องต่อป.ป.ช.เพื่อให้ไต่สวนพยานหลักฐาน 3 ประเด็นจนสิ้นกระแสความก่อนจะสรุปสำนวนได้แก่1.การไต่สวนเรื่องสต็อกข้าว 2.97 ล้านตันในโครงการรับจำนำข้าว ที่ยังมีข้อโต้แย้งระหว่างคณะอนุ กรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ของน.ส.สุภา ปิยะจิตติ อดีตรองปลัดกระทรวงการคลังกับองค์การคลังสินค้า(อคส.)และองค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร(อตก.) เพื่อยืนยันว่า ข้าว 2.97 ล้านตันไม่ได้หายจากสต็อก
2.การคิดการเสื่อมสภาพข้าวในสต็อกของรัฐบาลที่ยังมีความเห็นแตกต่างกันระหว่างคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
นายนรวิชญ์กล่าวว่า 3.การคำนวณความเสียหายในโครงการจำนำข้าวที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีใช้หลักเกณฑ์การประมาณผลการขาดทุนในการปิดบัญชีโครงการฯไม่ถูกต้อง จนเกิดความแตกต่างเรื่องการประมาณการขาดทุนถึง 172,933 ล้านบาท ซึ่งทั้งสามประเด็นเป็นสาระสำคัญ และยังไม่มีการไต่สวนให้สิ้นกระแสความ จึงอยากให้ป.ป.ช.ไต่สวนให้สิ้นกระแสความก่อน เพื่อพิสูจน์ว่า ข้อกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ทุจริตและเพิกเฉยต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในโครงการรับจำนำข้าวนั้น ไม่เป็นความจริง
นายนรวิชญ์กล่าวว่า นอกจากนี้ขอให้ป.ป.ช.ไต่สวนพยานเพิ่มเติมอีก 8 ปาก เพื่อมาให้ข้อมูลในสามประเด็นดังกล่าว ได้แก่ 1.นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผอ.องค์การคลังสินค้า2.นายประกอบ รัตนภักดี หัวหน้ากองธุรกิจข้าว ในฐานะทำการแทนผอ.องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อตก.)3.นายสมชัย สัจจพงษ์ ผอ.สำนักเศรษฐกิจการคลัง 4.นายพชร อนันตศิลป์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาการเงินนอกงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และรองประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว 5.นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหารบริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด 6.นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี7.นายถวิล พึ่งมา ประธานคณะทำงานพิจารณากำหนดกรอบคุณภาพและกลไกราคาตามสภาพข้าวสารในสต็อกรัฐบาล8.นายพิชัย ชุณหวชิร นักบัญชีอิสระ
นายนรวิชญ์กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังขอความเป็นธรรมต่อป.ป.ช.ด้วยว่า การจะกล่าวหาบุคคลใดทางคดีอาญาต้องคำนึงว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาพิเศษในการกระทำผิดทางอาญาหรือไม่ เพราะการกระทำที่ผ่านมาในโครงการจำนำข้าว เป็นการทำตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ถือเป็นการกระทำเชิงบริหาร ไม่ถือว่ามีเจตนาพิเศษในการทำผิดทางอาญา หากไปยุติโครงการจำนำข้าวตามข้อเสนอของป.ป.ช.จะเป็นการทำผิดต่อกฎหมายเสียเอง โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนวันว่า โครงการรับจำนำข้าวมีเจตนาดี มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนาไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ และไม่ได้มีส่วนร่วมหรือสมยอมในการทุจริต จึงขอความเป็นธรรมต่อป.ป.ช.ด้วย
http://www.posttoday.com/การเมือง/299803/ปูดิ้นขอปปช-เพิ่มพยาน8ปาก-สอบ3ปมจำนำข้าว
ทนายยิ่งลักษณ์ยื่น ป.ป.ช. ขอเพิ่มพยาน 8 ปาก จี้สอบ 3 ประเด็นข้าว / โพสต์ทูเดย์
วันที่ 10 มิ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)จ.นนทบุรี นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบโครงการรับจำข้าว เดินทางมายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป.ป.ช.ขอให้ป.ป.ช.ไต่สวนพยานหลักฐานใน 3 ประเด็น และขอให้ไต่สวนพยานเพิ่มเติม 8 ปาก
โดยนายนรวิชญ์กล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ให้มายื่นคำร้องต่อป.ป.ช.เพื่อให้ไต่สวนพยานหลักฐาน 3 ประเด็นจนสิ้นกระแสความก่อนจะสรุปสำนวนได้แก่1.การไต่สวนเรื่องสต็อกข้าว 2.97 ล้านตันในโครงการรับจำนำข้าว ที่ยังมีข้อโต้แย้งระหว่างคณะอนุ กรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ของน.ส.สุภา ปิยะจิตติ อดีตรองปลัดกระทรวงการคลังกับองค์การคลังสินค้า(อคส.)และองค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร(อตก.) เพื่อยืนยันว่า ข้าว 2.97 ล้านตันไม่ได้หายจากสต็อก
2.การคิดการเสื่อมสภาพข้าวในสต็อกของรัฐบาลที่ยังมีความเห็นแตกต่างกันระหว่างคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
นายนรวิชญ์กล่าวว่า 3.การคำนวณความเสียหายในโครงการจำนำข้าวที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีใช้หลักเกณฑ์การประมาณผลการขาดทุนในการปิดบัญชีโครงการฯไม่ถูกต้อง จนเกิดความแตกต่างเรื่องการประมาณการขาดทุนถึง 172,933 ล้านบาท ซึ่งทั้งสามประเด็นเป็นสาระสำคัญ และยังไม่มีการไต่สวนให้สิ้นกระแสความ จึงอยากให้ป.ป.ช.ไต่สวนให้สิ้นกระแสความก่อน เพื่อพิสูจน์ว่า ข้อกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ทุจริตและเพิกเฉยต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในโครงการรับจำนำข้าวนั้น ไม่เป็นความจริง
นายนรวิชญ์กล่าวว่า นอกจากนี้ขอให้ป.ป.ช.ไต่สวนพยานเพิ่มเติมอีก 8 ปาก เพื่อมาให้ข้อมูลในสามประเด็นดังกล่าว ได้แก่ 1.นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผอ.องค์การคลังสินค้า2.นายประกอบ รัตนภักดี หัวหน้ากองธุรกิจข้าว ในฐานะทำการแทนผอ.องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อตก.)3.นายสมชัย สัจจพงษ์ ผอ.สำนักเศรษฐกิจการคลัง 4.นายพชร อนันตศิลป์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาการเงินนอกงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และรองประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว 5.นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหารบริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด 6.นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี7.นายถวิล พึ่งมา ประธานคณะทำงานพิจารณากำหนดกรอบคุณภาพและกลไกราคาตามสภาพข้าวสารในสต็อกรัฐบาล8.นายพิชัย ชุณหวชิร นักบัญชีอิสระ
นายนรวิชญ์กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังขอความเป็นธรรมต่อป.ป.ช.ด้วยว่า การจะกล่าวหาบุคคลใดทางคดีอาญาต้องคำนึงว่า ผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาพิเศษในการกระทำผิดทางอาญาหรือไม่ เพราะการกระทำที่ผ่านมาในโครงการจำนำข้าว เป็นการทำตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ถือเป็นการกระทำเชิงบริหาร ไม่ถือว่ามีเจตนาพิเศษในการทำผิดทางอาญา หากไปยุติโครงการจำนำข้าวตามข้อเสนอของป.ป.ช.จะเป็นการทำผิดต่อกฎหมายเสียเอง โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนวันว่า โครงการรับจำนำข้าวมีเจตนาดี มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนาไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ และไม่ได้มีส่วนร่วมหรือสมยอมในการทุจริต จึงขอความเป็นธรรมต่อป.ป.ช.ด้วย
http://www.posttoday.com/การเมือง/299803/ปูดิ้นขอปปช-เพิ่มพยาน8ปาก-สอบ3ปมจำนำข้าว