🔨มาลาริน/ประชาชนทราบไว้ค่ะ..ท่าน สุภา ปิยะจิตติ เคยถูกเด้งเพราะเรื่องจำนำข้าว นางสาวยิ่งลักษณ์ร้องเรียนไม่ให้ไต่สวนคดี

ปลัดคลัง เด้ง สุภา ปิยะจิตติ ห้ามยุ่งปิดบัญชีจำนำข้าว ยัน ไร้ใบสั่งการเมือง


ปลัดคลัง แจง เหตุปลด สุภา ปิยะจิตติ ไม่ให้ยุ่งปิดบัญชีจำนำข้าว เพราะอยากดูบัญชีเอง เผย คุยกันแล้ว ย้ำ ไม่มีใบสั่งทางการเมือง

          เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2556 นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการสั่งย้าย นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ออกจากการดูแลการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ว่า เพราะตนต้องการดึงเรื่องนี้มาดูแลเอง เนื่องจากตนเป็นนักบัญชี และเป็นบอร์ดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาตั้งแต่ปี 2548 จึงเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี

          ทั้งนี้ นายรังสรรค์ ระบุด้วยว่า ก่อนจะมีคำสั่งดังกล่าวได้คุยกับนางสาวสุภาก่อนแล้ว และยืนยันว่าไม่ได้มีใบสั่งทางการเมือง แต่ตนต้องการปิดบัญชีเอง เพราะที่ผ่านมาหลายฝ่ายเข้าใจไม่ตรงกัน รวมทั้งเรื่องตัวเลขที่ออกมาแตกต่างกันด้วย ดังนั้น ตนจึงอยากไปดูเอง อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นว่าต้องขายข้าวให้หมดสต็อกก่อนจึงจะปิดบัญชีได้ เพราะสามารถนำข้าวลงบัญชีไว้ได้ และปิดบัญชีได้ในทุกปี อย่าตีขาดทุนทันที

https://hilight.kapook.com/view/92445
สุภา ปิยะจิตติ'ชื่อที่แสลงใจ 'ยิ่งลักษณ์'


ในจังหวะเร่งของคณะกรรมการป.ป.ช.ที่นำโดย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ในฐานะประธาน กำลังเร่งเคลียร์คดีให้ได้ตามเป้า หลายเรื่อง เลยได้เห็นความคืบหน้าแบบผิดหูผิดตา ผลออกมามีทั้งถูกใจและไม่ถูกใจสังคม 

ล่าสุด คณะกรรมการป.ป.ช.มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามที่ถูกร้องเรียนว่ามีพฤติการณ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น กรณีมีหน้าที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบในการกักเก็บ ควบคุมระบายหรือบริหารจัดการน้ำ เป็นเหตุให้เกิดมหาอุทกภัย ในปี 2554 

โดยป.ป.ช.มีหนังสือแจ้งให้นางสาวยิ่งลักษณ์ทราบ เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า คนที่จะมานั่งเป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ เรื่องนี้ คือ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. 

ร้อนถึงเจ้าตัว น.ส ยิ่งลักษณ์ จะอยู่เฉยได้อย่างไร ดังนั้นเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา จึงส่งนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจเข้ายื่นหนังสือถึงประธานป.ป.ช. เพื่อคัดค้านการแต่งตั้ง น.ส.สุภา ในกรณีถูกกล่าวหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเป็น 1 ใน 6 คดี ที่ น.ส สุภา นั่งหัวโต๊ะไต่สวนข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับนางสาวยิ่งลักษณ์ 

สิ่งที่น่าสนใจ คือ นายนรวิชญ์ บอกว่า การยื่นคัดค้านครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 8 แล้ว โดย 7 ครั้ง ก่อนหน้านี้เป็นการยื่นตามระบบของป.ป.ช. แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆโดยการยื่นครั้งนี้ล่าสุด ทีมทนายได้นำประเด็นรายละเอียดการเบิกความของนางสาวสุภาในฐานะพยานโจทก์ ในคดีโครงการรับจำนำข้าวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มายื่นเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาคัดค้านนางสาวสุภาเป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนฯด้วย 

"ในสมัยที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี น.ส.สุภา เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาและเป็นประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ก็มีเหตุให้ข้อมูลการปิดบัญชีหลุดออกไปถึงมือนักการเมืองฝ่ายค้านในขณะนั้น นอกจากนี้ น.ส.สุภาและนายวิชา ยังเคยไปเป็นพยานเบิกความในฐานะพยานฝ่ายโจทก์ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งถือเป็นคู่ขัดแย้งอย่างชัดเจน น.ส. ยิ่งลักษณ์ จึงเห็นว่าจากข้อเท็จจริงดังกล่าว หากปล่อยให้นางสาวสุภา เป็นประธาน อนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง และนายวิชาที่พ้นตำแหน่ง กรรมการ ป.ป.ช. ไปแล้วกลับมาเป็นอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงอีก จะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการไต่ส่วนข้อเท็จจริง ทั้งๆ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีทั้งหมดถึง 9 ท่าน แต่เหตุใด ถึงให้นางสาวสุภาเป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ถึง6คดี " นายนรวิชญ์ กล่าว 

จากนี้ คงต้องติดตามต่อไปว่า ประธานป.ป.ช.เมื่อพิจารณาคำร้องคัดค้านของนางสาวยิ่งลักษณ์ แล้ว จะดำเนินการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลโดยให้กรรมการป.ป.ช.รายอื่นมาเป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนฯแทนนางสาวสุภา หรือไม่ 

ถ้าหากคำขอคัดค้านรับฟังไม่ขึ้น กระบวนการทำงานของ ป.ป.ช.ก็จะเดินหน้าต่อไปทันที โดยขั้นตอนหลังจากนั้นป.ป.ช.จะได้ไต่สวนพยานหลักฐาน ทั้งในส่วนรายละเอียดเอกสารพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวผู้ร้องเรื่องดังกล่าวมายังป.ป.ช. 

หากพบว่า คำร้องมีมูล ป.ป.ช.จะแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลที่เกี่ยวข้องก่อน ถึงขั้นตอนให้ผู้ถูกกล่าวหา เข้ามาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา หากบุคคลดังกล่าวมีข้อมูลสามารถหักล้างพยานหลักฐานของป.ป.ช.ที่ได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ เมื่อคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ สรุปเรื่องแล้วชงเข้าที่ประชุมป.ป.ช.ชุดใหญ่ เรื่องก็อาจถูกตีตกก็ได้ 

อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ถูกกล่าวหาไม่สามารถ แก้ข้อกล่าวหาได้ ก็มีโอกาสสูงที่ที่ประชุมป.ป.ช.ชุดใหญ่ จะพิจารณาชี้มูลความผิดหรืออาจมีความเห็นแย้งกับสำนวนของคณะอนุกรรมการไต่สวนฯที่เสนอเข้ามา 
โดยตีกลับสำนวนให้ไปไต่สวนในประเด็นที่ยังไม่สมบูรณ์ได้เช่นเดียวกัน 

ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจ ถ้ามีคนจำนวนไม่น้อย รวมถึงตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะมองว่า น.ส. สุภา ถือเป็นของแสลงสำหรับตน

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/719615

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
อีกฝ่ายพยายามเลือกคนตัดสิน  ใครที่ตัวเองคิดว่าจะตัดสินไม่เข้าทางตัวเอง ก็ร้องเรียนไม่เอามาเป็นกรรมการ

พอมาเรื่องนาฬิกาก็เงียบสนิท ทั้งๆที่ท่านสุภา  ปิยะจิตติมาเป็นกรรมการ

ลุงป้อมก็ไม่เคยร้องเรียนว่าไม่เอาใครเป็นกรรมการ ท่านไม่เลือกคนตัดสินท่าน

แบบนี้เรียกว่าลุงป้อม ยอมรับกระบวนการยุติธรรมมากกว่าคนฝ่ายเสื้อแดงเสียอีกค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่