แค่อยากจะแบ่งปันเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่เริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลย มาจากบ้านด้วยกระเป๋าใบเดียว วุฒิปวส. 1 ใบ และหนี้กู้เรียนเกือบ 40,000 บาทค่ะ
ผ่านมา 16 ปี ตอนนี้มีบ้าน 2 ชั้นบนเนื้อที่ 2 ไร่ 3 งาน (ยังผ่อนไม่หมดค่ะเหลือ 6แสนกว่าบาท ) ที่ดินอีก 1 แปลงเนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน รถเก๋งอีก 1 คัน ซื้อด้วยเงินสดเกือบ 700,000 ค่ะ
เริ่มรู้จักลงทุนในหุ้นเมื่อปลายปี 2551 ด้วยเงินลงทุนหลักแสนค่ะ ก่อนที่จะเริ่มเล่นหุ้น ก็มีอาชีพเสริมด้วยการขายของตลาดนัดตอนเย็นหลังเลิกงาน รายได้ตรงนี้ทำให้มีเงินเก็บจนสามารถซื้อที่ดินสำหรับปลูกบ้านได้ค่ะ เมื่อประมาณ 11 ปีที่แล้ว ได้ที่ดินแปลงนี้มาในราคา 650,000 สมัยนั้นเงินเดือนก็ไม่ได้เยอะนะคะ แต่รายได้จากการขายของดีค่ะ เฉลี่ยประมาณ 3-6 หมื่นบาท แต่เป็นคนประหยัด เก็บเงินเก่ง และรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้นับเงิน แล้วเอาไปฝากไว้ที่ธนาคาร แล้วชีวิตก็เปลี่ยนไป เมื่อพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง เขาแนะนำว่า จะขายของให้เหนื่อยทำไม ทำไมไม่ลองให้เงินมันทำงานแทนเราบ้างหล่ะ ประกอบกับตอนนั้น คนเริ่มหันมาค้าขายกันมากขึ้น ของเริ่มขายไม่ค่อยดี รายได้ตกเหลือกำไรไม่ถึง 20,000 บาท/เดือน และประกอบกับช่วงนั้นเงินเดือนก็เพิ่มมากขึ้นแล้ว เลยตัดสินใจเริ่มลงทุนในหุ้นอย่างจริงจัง
เริ่มซื้อหุ้นตัวแรก วันที่ 09/07/51 ตอนนั้น Set ยังไม่ถึง 500 จุดเลยค่ะ เริ่มซื้อตัวแรกก็ PTTEP ราคา 166 บาท ซื้อไม่นานหุ้นก็ลงมาเรื่อย ๆ จนเหลือราคาถูกสุดที่เคยซื้อก็คือ 90 บาท เพราะไม่เคยศึกษาเลยว่าต้องเข้ารับหุ้นที่ราคาเท่าไหร่ แต่รู้สึกว่าเริ่มเข้าตลาดเร็วไปไม่กี่เดือน ราคาก็ลงมาเรื่อย ๆเลย ซื้อหนัง ตีแตก ของ อ. นิเวศ มาก็อ่านไม่จบ แล้วซื้อหนังสือมาอีก 2-3 เล่ม ก็อ่านไปได้ครึ่งเล่มเหมือนเดิม ไม่เคยศึกษาทางเทคนิค ไม่รู้เรื่องการดูกราฟ สมัยก่อนไม่มีเน็ตใช้ด้วยค่ะ อยู่หอพัก อาศัยดูข้อมูลจากช่อง Money channel แล้วนั่งจดราคาหุ้นที่สนใจแต่ละตัว จดทุกวัน วันไหนว่าง นั่งเฝ้าแต่หน้าจอ Tv กับสมุดเล่มหนึ่ง ก็ซื้อ ๆ ขาย ๆ มาเรื่อย ๆ แต่แปลกที่ตอนสมัยนั้นกล้าเล่น Dat Trade คงเป็นเพราะความไม่รู้ เลยไม่กลัวอะไรเลย ได้กำไรวันละ พันกว่าบาท ไปจนถึง สอง สามพันบาท ส่วนหุ้นก็ฟังจากนักวิเคราะห์ในช่องMoney channel บอกหุ้นเด่นวันละตัวทุกวันเลย ก็ดูว่าวันไหนตลาดบรรยากาศดี ๆ ก็จะซื้อเช้า แล้วตั้งขายเลย แต่ถ้าขายไม่ได้ก็จะซื้อเข้า Port ไว้ แล้วรอเวลาที่มันขึ้นค่อยขาย อันนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเงินเย็นจริง ๆ เท่านั้น ห้ามไปกู้เงินมาเล่นนะเดี๋ยวจะเครียดจนทนไม่ไหว ตั้งแต่เล่นหุ้นมามีหุ้นบ้านปูตัวเดี๋ยวที่ขายขาดทุน เพราะไม่มีเงินมาเติม วันที่ 26/06/2552 ขาดทุน 2127 บาท แล้วหลังจากนั้นก็ระมัดระวังการเล่นแบบ Day trade มากขึ้น
แชร์ ประสบการณ์ ลงทุนในหุ้น 6 ปี มีเงินล้านแล้วค่ะ
ผ่านมา 16 ปี ตอนนี้มีบ้าน 2 ชั้นบนเนื้อที่ 2 ไร่ 3 งาน (ยังผ่อนไม่หมดค่ะเหลือ 6แสนกว่าบาท ) ที่ดินอีก 1 แปลงเนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน รถเก๋งอีก 1 คัน ซื้อด้วยเงินสดเกือบ 700,000 ค่ะ
เริ่มรู้จักลงทุนในหุ้นเมื่อปลายปี 2551 ด้วยเงินลงทุนหลักแสนค่ะ ก่อนที่จะเริ่มเล่นหุ้น ก็มีอาชีพเสริมด้วยการขายของตลาดนัดตอนเย็นหลังเลิกงาน รายได้ตรงนี้ทำให้มีเงินเก็บจนสามารถซื้อที่ดินสำหรับปลูกบ้านได้ค่ะ เมื่อประมาณ 11 ปีที่แล้ว ได้ที่ดินแปลงนี้มาในราคา 650,000 สมัยนั้นเงินเดือนก็ไม่ได้เยอะนะคะ แต่รายได้จากการขายของดีค่ะ เฉลี่ยประมาณ 3-6 หมื่นบาท แต่เป็นคนประหยัด เก็บเงินเก่ง และรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้นับเงิน แล้วเอาไปฝากไว้ที่ธนาคาร แล้วชีวิตก็เปลี่ยนไป เมื่อพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง เขาแนะนำว่า จะขายของให้เหนื่อยทำไม ทำไมไม่ลองให้เงินมันทำงานแทนเราบ้างหล่ะ ประกอบกับตอนนั้น คนเริ่มหันมาค้าขายกันมากขึ้น ของเริ่มขายไม่ค่อยดี รายได้ตกเหลือกำไรไม่ถึง 20,000 บาท/เดือน และประกอบกับช่วงนั้นเงินเดือนก็เพิ่มมากขึ้นแล้ว เลยตัดสินใจเริ่มลงทุนในหุ้นอย่างจริงจัง
เริ่มซื้อหุ้นตัวแรก วันที่ 09/07/51 ตอนนั้น Set ยังไม่ถึง 500 จุดเลยค่ะ เริ่มซื้อตัวแรกก็ PTTEP ราคา 166 บาท ซื้อไม่นานหุ้นก็ลงมาเรื่อย ๆ จนเหลือราคาถูกสุดที่เคยซื้อก็คือ 90 บาท เพราะไม่เคยศึกษาเลยว่าต้องเข้ารับหุ้นที่ราคาเท่าไหร่ แต่รู้สึกว่าเริ่มเข้าตลาดเร็วไปไม่กี่เดือน ราคาก็ลงมาเรื่อย ๆเลย ซื้อหนัง ตีแตก ของ อ. นิเวศ มาก็อ่านไม่จบ แล้วซื้อหนังสือมาอีก 2-3 เล่ม ก็อ่านไปได้ครึ่งเล่มเหมือนเดิม ไม่เคยศึกษาทางเทคนิค ไม่รู้เรื่องการดูกราฟ สมัยก่อนไม่มีเน็ตใช้ด้วยค่ะ อยู่หอพัก อาศัยดูข้อมูลจากช่อง Money channel แล้วนั่งจดราคาหุ้นที่สนใจแต่ละตัว จดทุกวัน วันไหนว่าง นั่งเฝ้าแต่หน้าจอ Tv กับสมุดเล่มหนึ่ง ก็ซื้อ ๆ ขาย ๆ มาเรื่อย ๆ แต่แปลกที่ตอนสมัยนั้นกล้าเล่น Dat Trade คงเป็นเพราะความไม่รู้ เลยไม่กลัวอะไรเลย ได้กำไรวันละ พันกว่าบาท ไปจนถึง สอง สามพันบาท ส่วนหุ้นก็ฟังจากนักวิเคราะห์ในช่องMoney channel บอกหุ้นเด่นวันละตัวทุกวันเลย ก็ดูว่าวันไหนตลาดบรรยากาศดี ๆ ก็จะซื้อเช้า แล้วตั้งขายเลย แต่ถ้าขายไม่ได้ก็จะซื้อเข้า Port ไว้ แล้วรอเวลาที่มันขึ้นค่อยขาย อันนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเงินเย็นจริง ๆ เท่านั้น ห้ามไปกู้เงินมาเล่นนะเดี๋ยวจะเครียดจนทนไม่ไหว ตั้งแต่เล่นหุ้นมามีหุ้นบ้านปูตัวเดี๋ยวที่ขายขาดทุน เพราะไม่มีเงินมาเติม วันที่ 26/06/2552 ขาดทุน 2127 บาท แล้วหลังจากนั้นก็ระมัดระวังการเล่นแบบ Day trade มากขึ้น