พูดไปใครจะเชื่อ!! ทำงานมา 10 ปี มีเงินเก็บไม่ถึง 100,000 บาท

ผมเรียนจบปริญญาตรี ตอนอายุ 24 ปี (ผมจบช้ากว่าเพื่อน 2 ปี เพราะมีเรียนซ้ำ 2-3 วิชาที่ติด F)

เรียนจบก็ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนมาตลอด 10 ปี

ปัจจุบัน อายุ 34 ปี  ก็ยังเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่

เวลานัดมิตติ้งเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียน หรือไปเจอญาติ ๆ ก็ชอบทักผมว่า  "ทำงานมานาน มีเงินเก็บเป็นล้าน เป็นเสี่ยแล้วสิ"

ผมก็ได้ยิ้มเจื่อน ๆ ไม่กล้าบอกความจริง

นัดมิตติ้งกับเพื่อน ๆ เห็นเพื่อนแต่ละคนแต่งตัวหรู ๆ ขับรถแพง ๆ มีแฟนสวย-หล่อ  ดูแล้วชีวิตสมบูรณ์ชะมัด

ผมไม่เคยถามเพื่อนเหมือนกันว่า พวกมันมีเงินเก็บกันเท่าไหร่แล้ว แต่คิดว่าน่าจะมีเงินเก็บเกินแสน จนถึงหลักล้านกันแล้วมั้ง (ดูจากการแต่งตัว, หน้าที่การงาน, รถที่ขับ)

ผมมาย้อนดูตัวเอง แมร่งตูทำงานมา 10 ปี  มีเงินเก็บไม่ถึงแสน   ล่าสุดแม่ก็ถามผมว่า เอ็งทำงานมาตั้งนานแล้วเนี่ย มีเงินเก็บเท่าไหร่แล้ว?

ผมก็บอกไปตรง ๆ ว่าตอนนี้มีเก็บประมาณ 40,000 บาท  (แม่ก็เงียบ ไม่ได้พูดอะไรต่อ)


ก่อนมาตั้งกระทู้นี้ ก็ลองสำรวจเงินออมของตัวเองที่เก็บหอมรอบริบมาได้ทั้งหมด

อยู่ในบัญชี TMB ME  18,000 บาท

อยู่ในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ TMBPIPF 13,000 บาท (เพิ่งซื้อเอาไว้เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมานี่เอง)

อยู่ในพอร์ตโปรแกรมออมหุ้น 10,000 บาท  ผมซื้อหุ้นไว้ 2 ตัวคือ AOT, MAJOR (DCA ทุกเดือน ตัวละ 1,000 บาท)  ซึ้อมาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2017

รวมแล้ว ตอนนี้ผมมีเงินเก็บออมอยู่ทั้งหมด 41,000 บาท (ตีเป็นเลขกลม ๆ)


พอมานึกย้อนดูว่า 10 ปีที่ผ่านมาเราเอาเงินไปทำอะไรมาบ้าง
- ติดหนี้บัตรเครดิต  เพราะเอาเงินไปเที่ยวโคโยตี้ แล้วก็เลี้ยงหญิง (สมัยผมมีบัตรเครดิต ผมก็กลายเป็นพวก "สายเปย์ พ่อบุญทุ่ม")

ตอนที่เป็นที่บัตรเครดิต ก็ยังอุตส่าห์แบ่งเงินไปลงทุนซื้อหุ้น โชคดีที่ว่าตลาดหุ้นมันเป็นขาขึ้น เลยขายหมดพอร์ต+เงินเก็บตัวเองอีก ปิดยอดบัตรเครดิตรอบแรกไปได้

หลังจากเป็นไทรอบแรกแล้ว แทนที่ผมจะเก็บเงิน  เพื่อนดันชวนไปเที่ยวโคโยตี้อีก  ตอนนั้นก็สัญญากับตัวเองว่า แค่เที่ยวสนุก ๆ ไม่เรียกเด็ก

แต่ที่ไหนได้ ของมันเคย ๆ คนมันเคย ๆ เด็กหลายคนก็คุ้นหน้าคุ้นตา  อ่ะ จัดไปซักหน่อย คนละ 5-10 ดริ๊งค์

สรุป  กลับมาเป็นหนี้บัตรเครดิตอีกรอบ เพราะไปเที่ยวเปย์สาวโคโยตี้รอบสอง

เท่านั้นยังไม่พอ เงินเดือนได้รับการปรับเพิ่ม แต่ผมก็ยังหารายจ่ายเพิ่มด้วยการผ่อนรถยนต์

ช่วงนั้น ผมเลยต้องผ่อนทั้งบัตรเครดิต + ผ่อนทั้งรถยนต์  เป็นจำนวนเงินผ่อนขั้นต่ำแต่ละเดือนสูงถึง 50-60%  ของเงินเดือนที่ได้รับ

สุดท้าย ผมสู้ดอกเบี้ยบัตรเครดิตไม่ไหว ต้องยอมขายดาวน์รถ เอาเงินทั้งหมด+เงินเก็บตัวเองอีกหน่อย เอาไปปิดยอดบัตรเครดิต  เพื่อรีเซ็ตตัวเองเป็น 0  เริ่มต้นความเป็นไทอีกครั้ง


จากช่วงที่ เป็นไท รอบสอง  ผมก็ทำงานเก็บออมไปเรื่อย จนกระทั่งรู้สึกเบื่องานที่ตัวเองทำก็เลยลาออกจากงาน  พร้อมเงินเก็บประมาณ 60,000 บาท  

ช่วงนั้นตกงาน ผมอยู่ว่าง ๆ ก็ไม่ได้หาอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอัน (ลองหารายได้อื่น ๆ ก็มีเข้ามาประปรายเดือนละไม่กี่พันบาท)  อยู่ว่าง ๆ ก็ใช้เงินเก็บไปเรื่อย จนเงินเก็บร่อยหรอจนหมด

ก็ไปสมัครงานรอบใหม่ เป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนเดิม  ตอนนี้ทำงานประจำมาได้ 1 ปี  เงินเดือนน้อยกว่าบริษัทเก่า แต่ใกล้บ้านเดินทางสะดวก

ก็พยามเก็บออมไปเรื่อย ได้ประมาณ 41,000 บาท (แล้วผมก็เอาแบ่งไปกระจายลงทุนตามที่บอกไปข้างต้น)


มานั่งคิดกับตัวเอง เออ  ถ้าเราจะเก็บเงินจริงจัง  มันก็เก็บได้นี่หว่า  ถึงยอดที่เก็บมันจะไม่เยอะเท่าคนอื่น แต่มันก็เงินเราเองที่เก็บออมได้

ถ้า 10 ปีที่แล้ว  ผมตั้งใจเก็บออมแบบจริงจัง  ป่านนี้ ผมคงมีเงินเก็บเกิน 100,000 บาท ไปนานแล้ว

จริง ๆ แล้ว  เงิน 100,000 บาท  ในเวลา 10 ปี (120 เดือน)  แค่เก็บเดือนละ 850 บาท  ก็ได้แล้วนะครับ 102,000 บาท (นี่ไม่รวมดอกเบี้ยแบงค์นะ)

10 ปีที่ผ่านมา  แค่เก็บออมเดือนละ 850 บาท  ผมดันเก็บไม่ได้  นึกแล้วน่าเขกกะโหลกตัวเองจริง ๆ


แล้วเพื่อน ๆ ล่ะครับ  ที่ทำงานมาเกิน 10 ปี  มีเงินเก็บกันเท่าไหร่แล้ว เกินแสนกันบ้างหรือเปล่าครับ?

มีใครทำงานมานาน แล้วมีภาระค่าใช้จ่ายเยอะ หรือในอดีตเคยฟุ่มเฟือย จนปัจจุบันมีเงินเก็บออมไม่ถึง 100,000 เหมือนผมบ้างไหมครับ?  



ขอบคุณทุกคำตอบครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่